31 พฤษภาคม 2564

รู้ยัง? วันนี้โอเอซิสสปา เชียงใหม่ และภูเก็ต เปิดให้บริการแล้ว

รู้ยัง? วันนี้โอเอซิสสปา เชียงใหม่ และภูเก็ต เปิดให้บริการแล้ว หลังจากที่เมื่อยและรอมานาน
วันนี้เราเปิดให้บริการคุณลูกค้าแล้วนะคะ   จองกันเข้ามาเลยเราพร้อมมาก

.
อย่าพลาด นวดน้ำมันอโรม่าฟรี 1 ชั่วโมง เมื่อซื้อพร้อมกับชั่วโมงที่ 2 เพียง 699.- บาทเท่านั้น
คลิ๊กเลย de1.us/s699LiTh 

.
หากลูกค้าที่มี eGift ว้าวเชอร์ หรือ คูปองสปาที่หมดอายุหลังวันที่ 26 เมษายน 2564
ทางโอเอซิสสปาจะต่อวันหมดอายุให้อีก 60 วันค่ะ
สอบถามโทร ☎️ +6653920111 (เชียงใหม่) ☎️ +6676337777 (ภูเก็ต) หรือทักไลน์

28 พฤษภาคม 2564

หนีร้อนมานั่งชิลล์..@Ayutthaya Retreat : อยุธยา รีทรีต

วันเดียวเที่ยวที่ อยุธยา  อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวครั้งนี้ เริ่มจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดอยุธยาเมืองมรดกโลกที่ใคร หลายคนเคยไปเยือนมาแล้วหลายครั้ง พามาชมบรรยากาศของ อยุธยา รีทรีตเรือนไม้สักสวยงามในบรรยากาศย้อนยุครับลมชมวิว นั่งเล่นชิลได้ทั้งวัน 

อยุธยา รีทรีต บรรยากาศดีมาก ไม่เพียงแค่ด้านนอกนะ ด้านในก็บรรยากาศดี มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ  มา
ท่องเที่ยวช่วงนี้ สนุกแบบปลอดภัย ห่างไกลโควิด อย่างไรก็ตามปีนี้ กลางปี หรือเมื่อไหร่ก็ตาม เราก็ตั้งตารอการกลับมาเที่ยวได้อีกอีกครั้ง เพราะการท่องเที่ยวก็ยังเป็นสิ่งที่คนไทย และคนทั่วโลกรอคอย อยุธยา
รีทรีต ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดไชยวัฒนาราม เป็นทั้งโรงแรมและร้านอาหาร ริมทุ่งนาที่อยู่ห่างจากเกาะอยุธยาไปไม่ไกล โดนจะมีถนนตัดผ่านอยู่อีก 2 เส้น แนะนำเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงเวลากักตัวอยู่บ้านให้ท่องเที่ยว สนุกปลอดภัย ห่างไกลโควิด 




หนีร้อนมานั่งสบายๆ Ayutthaya Retreat : อยุธยา รีทรีต
ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น ในจังหวัดอยุธยา และรีสอร์ท เรือนไม้สัก สวยงาม ในบรรยากาศย้อนยุค กลางอยุธยา ภายในคราค่ำไปด้วยต้นไม้หลาก หลายพันธุ์ สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ อยุธยารีทรีต คาเฟ่ตกแต่งสไตล์ไทย ๆ ลักษณะเป็นบ้านทรงไทย ล้อมรอบบึงบัว โซนที่นั่งมีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหาร-เครื่องดื่ม-พักผ่อน-ถ่ายรูป เหมือนบ้านไม้สมัยก่อน มีทั้งห้องแอร์และไม่แอร์ มีที่จอดรถสะดวกสบายใครอยากพักกาย พักใจ อยากให้ลองแวะมาที่นี่









ลุงตุ้ย คุณทัศนะ จรัสศรี  คือ ผู้ริเริ่มที่ทำให้อาคารเรือนไทยไม้สักหลังเดิม และปรับปรุงโดยถูกแปลงโฉมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในรูปแบบของโรงแรมบ้านทรงไทยโบราณ สุดชีคที่แฝงด้วยความเป็นไทยที่ลุงตุ้ย ได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ ได้อย่างงดงาม จนทำให้ ณ.สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครหลายเรื่อง อาทิ ข้าบดินทร์ ขมิ้นกับปูน แรงชัง เขยใหญ่สะใภ้เล็ก หรืออื่นๆ อีกมากมาย  


อยุธยา รีทรีต โรงแรมทรงไทย

อยุธยา รีทรีต โรงแรมทรงไทย สวยสบาย จนใครได้ไปพักสักครั้งต้องติดใจจนไม่อยากกลับ  พร้อมต้อนรับผู้รักความสงบงามของธรรมชาติ เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สูดอากาศสดชื่น ในรูปแบบเสมือนบ้านสวน ที่มีความอบอุ่น เงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน ก้าวเข้ามายังภายในบริเวณของโรงแรมแล้วจนอยากแต่งตัวในชุดไทยสวยเข้ากับบรรยากาศ  โรงแรมมีห้องพัก ที่ตกแต่งสวยงามที่พักออกแบบมาให้ใกล้ชิดธรรมชาติมีให้เลือก 3 รูปแบบ  คือ ห้องวิลลาไทยเดิม (TRADITIONAL THAI VILLA), ห้องดีลักซ์ (DELUXE) และห้องห้องซูพีเรีย บัลโคนี (SUPERIOR BALCONY) ทุกห้อง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เข้าไปภายในห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวีดาวเทียม สัญญาณ Internet Wifi ทุกห้อง ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ห้องกว้างขวาง สะอาด โทรทัศน์จอแบน, กระจก, และห้องน้ำที่แปลกตากว่าที่อื่น ๆ ผสมผสานความเป็นไทยกับตะวันตกได้อย่างลงตัวบรรยากาศโดยบรอบโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยช่วยให้ผ่อนคลาย วที่พักปลูกสร้างแบบใกล้ชิดธรรมชาติใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด







อยุธยา รีทรีต Ayutthaya Retreat
ที่อยู่ 5/4 หมู่ 4 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
พิกัดบริเวณ เลียบคลองชลประทานอยุธยา-บางบาลติดวัดป้อมใหญ่ เลยวัดท่าการ้อง 1 กิโลเมตร
อยุธยา รีทรีต คาเฟ่เรือนไทย : เปิดบริการเวลา 09.30-18.00 น. ร่วมกับการเว้นระยะห่างตามมาตรการ

พิกัด https://maps.app.goo.gl/SbwDaPhXsUCkgCUJ6

















คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ประกอบด้วย ธรรมยุตนิกาย มหานิกาย และอนัมนิกาย รวมไปถึงผู้มีจิตศรัทธา ร่วมมอบเงินสนับสนุนจังหวัด เพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาลสนามจังหวัดนครปฐมในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่หอสมุดวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พระเทพศาสนาภิบาล  เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ,พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ,องพจนกรโกศล เจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญารามบางม่วง ,รองเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าคณะตำบลทัพหลวง และพระเถรานุเถระในจังหวัดนครปฐม ร่วมมอบเงินจำนวน 1,594,944 บาท ให้กับนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในการสนับสนุนจังหวัดเพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาลในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19




สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีความรุนแรงและแพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมของประเทศ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากขึ้น ในส่วนจังหวัดนครปฐม มีผู้ติดเชื้อ 20-40 คนต่อวัน ทำให้เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 เพื่อรองรับผู้ป่วย ประกอบกับสถานพยาบาลขาดแคลนเครื่องมือทางการแพทย์ในการรองรับผู้ป่วย ทางคณะจังหวัดนครปฐมทั้งสองฝ่าย คณะสงฆ์อนัมนิกายและผู้มีจิตศรัทธา จึงได้ร่วมกันบริจาคเงิน จำนวน 1,594,944 บาท ให้จังหวัดในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อมอบให้โรงพยาบาลในจังหวัดนครปฐมต่อไป

ซึ่งในครั้งนี้มูลนิธิพระยูไลไภษัชย์สงเคราะห์ วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ได้มอบเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลสนามจำนวน 1 เครื่อง มูลค่า250,000บาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้นำไปช่วยผู้ป่วยโควิดที่มีอาการปอดอักเสบในภาวะขาดอากาศหายใจอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีก1กิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่จะช่วยกันเพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกัน

เปิดจุดชิลล์ ด้วยกระเบื้องสุดคูล ไอซ์แลนด์ซี่รีย์ จากคัมพานา

กระเบื้องคัมพานา ธรรมชาติที่สร้างบรรยากาศ ที่แสนพิเศษได้ไม่รู้จบ โดยบริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)ชวนเปิดมุมพิเศษ หรือปรับเปลี่ยนมุมว่างให้เป็นพื้นที่เพิ่มความสุข สุดชิลล์ ด้วยการสร้างสรรพื้นที่ใช้งานใหม่ภายในบ้าน กับกระเบื้องสุดคูล ที่แอบแฝงความหรูหรา ดูเบาสบายแบบเล็ก ๆ  ชุด ไอซ์แลนด์ซี่รีย์ (Iceland Serie)  งานดีไซน์ มีระดับ แต่ราคาสบายกระเป๋า ใหม่ล่าสุดจากคัมพานา ที่ถอดความงามของหินอ่อนสีขาว บริสุทธิ์ ให้อารมณ์ สงบนิ่ง พร้อมลื่นไหลไปกับลายริ้วสีเทาอ่อนเลียนแบบลายหินธรรมชาติที่ดูสมจริง ด้วยนวัตกรรมการพิมพ์ผิวหน้าระบบ Digital Printing และการทำดีไซน์แบบ Random ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ลายริ้วบนพื้นผิวกระเบื้อง ขนาด 60 x 60 cm ดูแตกต่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น  มีให้เลือกทั้งในแบบพื้นผิวมันเงา และพื้นผิวซาตินที่มีลักษณะกึ่งเงากึ่งด้าน ตามความนิยม  ให้พื้นที่เล็ก ๆ เป็นมุมพิเศษได้ไม่ยาก พร้อมเพิ่มความเก๋ด้วยโต๊ะข้างและกระถางต้นไม้จิ๋วตามเทรนด์นิยม และพลาดไม่ได้กับเก้าอี้อาร์มแชร์ตัวหนานุ่มมาเพิ่มความชิลล์ ให้การพักเบรค ไม่ธรรมดาอีกต่อไป     

สำหรับท่านที่สนใจค้นหารายละเอียดสินค้า หรือ เลือกชมลวดลายของกระเบื้องในคอลเลคชั่นต่างๆ ของ
คัมพานา เพิ่มเติมได้ที่ www.campanatiles.com  หรือ https://www.facebook.com/campanatiles 
หากต้องการสัมผัสพื้นผิวของสินค้าจริงสามารถเยี่ยมชมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายกระเบื้องคัมพานาทั่วประเทศ 

"รมช.ศึกษา" หนุน โครงการจัดการศึกษาเพื่อบุคคลออทิสติก/บุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายกมลรอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศธ ร่วมประชุมออนไลน์ โครงการเตรียมความพร้อมการจัดการศึกษานอกระบบตามอัธยาศัย สำหรับบุคคลออทิสติกและบุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ

โดยมีนายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ผู้แทนจากสำนักงาน กศน.ส่วนกลาง และ กศน.กทม. ให้การต้อนรับ ซึ่งมีผู้แทนสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิสติก และ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. ในจังหวัดนำร่องอีก 10  จังหวัด เข้าร่วมประชุมออนไลน์ ผ่านระบบ True Vroom ด้วย ณ ห้องประชุมมูลนิธิออทิสติกไทย เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร




นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ได้กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการว่า บุคคลออทิสติก และบุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ที่กระจายอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ไม่สามารถไปเรียนร่วมกับเด็กปกติในโรงเรียนได้ เพราะบุคคลกลุ่มนี้มีความสนใจและมีความอดทนในการเรียนที่แตกต่าง ต้องเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ หรือ Learning by Doing  และมีจินตนาการ. เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้มีที่เรียน และฝึกอาชีพ จึง ร่วมกับ สำนักงาน กศน. จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา 

โดยมีระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือน มิถุนายน 2564 - กันยายน 2565 โดยจะทำการทดลอง จัดการเรียนการสอนในระบบ Online นำร่อง ใน 11 จังหวัด 15 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ พิษณุโลก ตาก ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สงขลา สกลนคร อำนาจเจริญ นครราชสีมา กรุงเทพฯ (5 เขต) ปราจีนบุรี และชลบุรี  โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่จะเรียนรู้ร่วมกัน ประกอบไปด้วย 1.ผู้ทรงคุณวุฒิ และบุคลากร กศน.  2.บุคคลทั่วไป วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี  และ 3.บุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ 15 แห่ง 75 คน (พื้นที่ละ 5 คน) โดยใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับบุคคลออทิสติก พ.ศ. 2563 ซึ่งได้ทำการปรับแนวทางการสอนและการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ร่วมกับ กศน. 

อาทิ วิชาความรู้พื้นฐาน ทักษะการเรียนรู้ และการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ การดูแลและพัฒนาตนเอง การดำเนินชีวิตในชุมชนและสังคม  วิชาที่เกี่ยวกับศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีชุมชน  ศิลปะ ดนตรี กีฬา และนันทนาการ ซึ่งจะมีครูสอนคนพิการเป็นครูพี่เลี้ยงหรือครูประจำกลุ่ม โดยเน้นให้ครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วม  

และในขณะนี้ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น SPS ขึ้นมาเพื่อให้ครู กศน. ค้นหาเป้าหมาย บันทึกข้อมูลความต้องการของผู้เรียนที่ต้องการเติมเต็มเพื่อเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลในการศึกษาพัฒนาต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้จะทำให้คนพิการเข้าถึงการศึกษา การมีงานทำ และสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในชุมชนและสังคมได้ ยังมีสมาคมคนพิการอีกหลายสมาคมที่สนใจและต้องการนำโครงการนี้ไปต่อยอด ซึ่งจะนำไปปรึกษา นายวรัท พฤกษาทวีกุล  เลขาธิการ กศน. และทำรายงานเสนอ รมช.ศธ. ต่อไป







รมช.ศธ. กล่าวว่า  “ ในการเข้ามารับผิดชอบดูแลงานทางด้านการศึกษา มีความตั้งใจที่จะจัดการศึกษาให้ครอบคลุมและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่เคยคิดว่าคนพิการเป็นภาระของสังคม ทุกชีวิตมีคุณค่า มีความหมาย มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าๆกัน และมีความสำคัญต่อประเทศชาติ แต่ในการทำงานนี้จะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัย ความร่วมมือร่วมใจกับภาคีเครือข่าย ต้องมีผู้รู้จากหลายหน่วยงาน เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างรอบด้าน และครอบคลุม ดิฉันพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เราจะรักกัน และไม่ทอดทิ้งกันตลอดไป “ 

ปรานี บุญยรัตน์ : ข่าว / ภาพ

26 พฤษภาคม 2564

นศ.ครู รุ่น 59 มีเฮ รมช.กนกวรรณช่วยเร่งรัดคุรุสภา “ขึ้นทะเบียนสถานะใบอนุญาตฯ” ด่วนที่สุด เพื่อให้ทันสมัครสอบครูผู้ช่วย สพฐ. ต้นมิยนี้

 

(26 พฤษภาคม 2564) นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงกรณีที่มีกลุ่มนักศึกษา ที่เข้าเรียนหลักสูตรครูในปี 2559 เรียกร้องผ่านเพจเฟซบุ๊ก “พี่โอ๊ะ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์-เพจ” มาเป็นจำนวนมากว่า ต้องการให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ผ่านช่องทางออนไลน์ KSP BUNDIT (https://www.ksp.or.th/ksp2018/uni-bundit/) ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อให้ทันต่อการสมัครสอบครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในช่วงวันที่ 4-10 มิถุนายน 2564 ที่จะถึงนี้ นั้น 

เมื่อครูโอ๊ะได้รับทราบความทุกข์ร้อนของกลุ่มนักศึกษา รุ่น 59 ก็ได้ประสานสอบถามเรื่องนี้ไปยังคุรุสภาโดยตรง ซึ่งทางคุรุสภายืนยันที่จะดำเนินการให้เป็นกรณีเร่งด่วน โดยนักศึกษาที่ได้รับการอนุมัติจบการศึกษา จะต้องยื่นเอกสารผ่านระบบ e-Service ช่องทาง KSP BUNDIT โดยด่วน เพื่อให้คุรุสภามีเวลาที่จะตรวจสอบเพื่อขึ้นทะเบียนได้เร็วขึ้น และที่ผ่านมา คุรุสภาได้ดำเนินการขึ้นสถานะใบอนุญาตฯ แก่กลุ่มนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่คุรุสภารับรอง และมหาวิทยาลัยอนุมัติการจบศึกษา รวมทั้งได้ยื่นเอกสารผ่านระบบ e-Service ถูกต้อง ครบถ้วน และชำระค่าธรรมเนียมแล้ว ในรอบเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2564 รวม 15,877 ราย 

ดังนั้น ขอให้กลุ่มนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่คุรุสภารับรอง และมหาวิทยาลัยอนุมัติการจบการศึกษาเรียบร้อยแล้ว หรือมหาวิทยาลัยยังไม่ได้อนุมัติการจบการศึกษา หรือเพิ่งจะอนุมัติการจบการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ เร่งดำเนินการยื่นเอกสารผ่านระบบ e-Service ช่องทาง KSP BUNDIT เข้ามาโดยเร็ว เพื่อจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบและขึ้นสถานะใบอนุญาตฯ ให้ทันกับความต้องการสมัครสอบครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ซึ่งปกติแล้วคุรุสภาจะใช้เวลาตรวจสอบกรณีเร่งด่วนเป็นเวลาไม่เกิน 10 วัน

ส่วนกลุ่มนักศึกษา รุ่น 59 ที่มหาวิทยาลัยรับเกินแผนที่เสนอขออนุมัติจากคุรุสภา จำนวนกว่า 822 รายนั้น ขณะนี้สำนักมาตรฐานวิชาชีพกำลังเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาในเร็ว ๆ นี้ (วันที่ 31 พฤษภาคม 2564) และเมื่อคณะกรรมการคุรุสภามีมติอนุมัติรับรอง ก็จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป ซึ่งนักศึกษาก็ต้องยื่นเอกสารผ่านระบบ e-Service ช่องทาง KSP BUNDIT และชำระค่าธรรมเนียมใน 3 ช่องทาง คือ ไปรษณีย์ เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย และร้านสะดวกซื้อ 7-11 ให้เรียบร้อยเช่นกัน 

“ครูโอ๊ะ ได้ประสานกับทางคุรุสภา เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานขึ้นสถานะใบอนุญาตฯ ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ต่อการสมัครสอบเข้ารับราชการครู และเพื่อความมั่นคงก้าวหน้าในอาชีพครู เพราะโดยปกติสำนักทะเบียนและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะใช้เวลาดำเนินการรองรับไม่เกิน 30 วันทำการ ตามที่ระบุไว้ในคู่มือประชาชน เมื่อคุรุสภายืนยันที่จะเร่งรัดการทำงานให้เช่นนี้ จึงขอให้นักศึกษาเร่งดำเนินการตามขั้นตอนที่คุรุสภากำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วนด้วย เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง และครูโอ๊ะขออวยพรให้ทุกคนสมหวังดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ” รมช.ศธ.กล่าว

25 พฤษภาคม 2564

ดีเดย์ 24 พ.ค. สจล. รับลูก อว.เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สจล.

สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ นศ.-บุคลากร ตั้งเป้าฉีดวัคซีนครอบคลุมทั้งสถาบัน เตรียมพร้อมเปิดเรียนปกติโดยเร็ว

กรุงเทพฯ 25 พฤษภาคม 2564 –  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
ขานรับนโยบายกระทรวงการอุดมฯ จัดตั้ง “ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สจล.” รุดเสริมภูมิคุ้มกันหมู่นักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้สามารถเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติได้โดยเร็ว ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมนักศึกษาและบุคลากร สจล. ที่มีกว่า 3 หมื่นราย ก่อนขยายผลการฉีดวัคซีนไปยังกลุ่มบุคคลที่ทำงานเพื่อสาธารณะ ดีเดย์! เปิดให้บริการวัคซีนวันแรก 24 พฤษภาคมนี้ สำหรับนักศึกษาและบุคลากร สจล. พร้อมย้ำการฉีดวัคซีนโควิดเท่ากับการยับยั้งการแพร่เชื้อระหว่างบุคคล ช่วยลดความรุนแรงของอาการแทรกซ้อน ลดโอกาสที่จะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ กิจกรรมการเปิด “ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สจล.” จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุญนาค) สจล.

ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)

ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า สจล. ขานรับนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดตั้ง “ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19สจล.” จุดกระจายวัคซีนนอกโรงพยาบาลเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกับจำนวนนักศึกษาและบุคลากรที่มีกว่า 30,000 ราย เพื่อให้สถาบันสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติโดยเร็ว และเมื่อฉีดวัคซีนได้ครบจำนวนตามเป้าหมาย จะดำเนินการให้กลุ่มบุคคลที่ทำงานเพื่อสาธารณะ ซึ่งมีความเสี่ยงจากการทำงานร่วมกับบุคคลอื่นจำนวนมาก ลงทะเบียนเข้ารับสิทธิ์การฉีดวัคซีนเป็นลำดับต่อไป ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะจัดส่งวัคซีนให้สถาบันได้วันละ 1,000 โดส โดยที่บุคลากรทางการแพทย์ จากคลินิกเวชกรรม คณะแพทยศาสตร์ สจล. รวมถึงโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (KMCH) จะเป็นผู้ดำเนินการให้ชาว สจล.ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดอย่างทั่วถึง





ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า สจล. ขานรับนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดตั้ง “ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19สจล.” จุดกระจายวัคซีนนอกโรงพยาบาลเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกับจำนวนนักศึกษาและบุคลากรที่มีกว่า 30,000 ราย เพื่อให้สถาบันสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติโดยเร็ว และเมื่อฉีดวัคซีนได้ครบจำนวนตามเป้าหมาย จะดำเนินการให้กลุ่มบุคคลที่ทำงานเพื่อสาธารณะ ซึ่งมีความเสี่ยงจากการทำงานร่วมกับบุคคลอื่นจำนวนมาก ลงทะเบียนเข้ารับสิทธิ์การฉีดวัคซีนเป็นลำดับต่อไป ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะจัดส่งวัคซีนให้สถาบันได้วันละ 1,000 โดส โดยที่บุคลากรทางการแพทย์ จากคลินิกเวชกรรม คณะแพทยศาสตร์ สจล. รวมถึงโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (KMCH) จะเป็นผู้ดำเนินการให้ชาว สจล. ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดอย่างทั่วถึง



สำหรับศูนย์ดังกล่าว พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อขอรับวัคซีนอย่างเป็นทางการวันแรก สำหรับนักศึกษาและบุคลากร สจล. ผ่านทาง https://co-vaccine.kmitl.ac.th ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
ตามปริมาณวัคซีนที่ได้รับโดยพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 15.00 น. ณ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์  (วร บุญนาค) สจล.

รศ. นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองอธิการบดีฝ่ายการแพทย์และเทคโนโลยีสุขภาพ
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.
)

รศ. นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองอธิการบดีฝ่ายการแพทย์และเทคโนโลยีสุขภาพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (KMCH) กล่าวเสริมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อป้องกันตนจากเชื้อดังกล่าว นอกเหนือจากสวมแมสก์ ล้างมือ และเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) แล้ว สิ่งที่ไม่ควรหลีกเลี่ยง คือ การฉีดวัคซีนโควิด เพื่อสกัดกั้นการแพร่กระจายเชื้อระหว่างบุคคลพร้อมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ อีกทั้งเชื้อโรคยังมีความอันตรายหรือเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าการฉีดวัคซีน เพราะที่ผ่านมา ในทางการแพทย์ยังไม่พบจำนวนผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน หากแต่พบเฉพาะผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ ในสัดส่วน 2:100 ราย กล่าวคือ ในจำนวนผู้ติดเชื้อ 100 รายจะพบผู้เสียชีวิต 2 ราย อย่างไรก็ดี ภายหลังการฉีดวัคซีนหากได้รับเชื้อ วัคซีนดังกล่าวจะช่วยลดความรุนแรงของอาการแทรกซ้อน ลดโอกาสที่จะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล รวมถึงลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตได้




ทั้งนี้ กิจกรรมการเปิด “ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สจล.” จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุญนาค) สจล. สอบถามข้อมูลการลงทะเบียนขอรับวัคซีนได้ที่ ไลน์ไอดี @KMITLHospital (จิตอาสาหาคำตอบ) และ http://www.facebook.com/kmitlofficial หรือติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ สจล. ผ่าน www.kmitl.ac.th

สอบข้อมูลการลงทะเบียนขอรับวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 สจล. ได้ที่ไลน์ไอดี @KMITLHospital (จิตอาสาหาคำตอบ) และ http://www.facebook.com/kmitlofficial หรือติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ สจล. ผ่าน www.kmitl.ac.th

#KMITL #สจล #KMITLGOFIGHTCOVID19 #COVID19
#ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด #วัคซีนโควิด #JCCOTH