แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวสังคม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวสังคม แสดงบทความทั้งหมด

07 กันยายน 2568

วิริยะประกันภัย คว้า 3 รางวัล “บริหารงานดีเด่น – ตัวแทนประกันวินาศภัยดีเด่น”

ภายในพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2568  

นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) รับรางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น ประจำปี 2567” ภายในพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2568 (Prime Minister’s Insurance Awards 2025) ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมกันนี้ นางสาวกฤตกา ลุนสายยา ตัวแทนประกันวินาศภัย สังกัดสาขาอุดรราชธานี และนายพรชัย ละมูลพันธ์ ตัวแทนประกันวินาศภัย สังกัดสาขานครราชสีมา ยังได้เข้ารับรางวัล “ตัวแทนประกันวินาศภัยคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2567” โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล ณ ห้องบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เอวัน โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์



ทั้งนี้ รางวัล “บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น” และรางวัล “ตัวแทนประกันวินาศภัยคุณภาพดีเด่น” ถือเป็น 2 รางวัลอันทรงเกียรติ ที่สะท้อนความสำเร็จของวิริยะประกันภัย ในการดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับภัยความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พร้อมทั้งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนศักยภาพของตัวแทนประกันวินาศภัย ให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ เพื่อดูแลผู้บริโภคในทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต ด้วยแนวคิด “ใช้ทุกวิให้คุ้มค่า : ด้วยบริการที่เป็นเลิศครอบคลุมครบวงจร”

02 กันยายน 2568

คิกออฟการเฉลิมฉลอง 10 ปี กรอบการค้า ชิลี-ไทย จัดใหญ่ Chile-ASEAN Business Summit

กระทรวงการต่างประเทศชิลี โดย ProChile (กรมส่งเสริมการค้า การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน) เตรียมพร้อมจัดการประชุม Chile-ASEAN Business Summit 2025 ขึ้นในกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของความตกลงเขตการค้าเสรีชิลี–ไทย (Chile-Thai FTA)  โดยมี นางคลอเดีย ซานฮูเอซา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี นายอิกนาซิโอ เฟร์นันเดซ ProChile General Director และผู้บริหารระดับสูงเป็นตัวแทนภาครัฐ นำนักธุรกิจผู้ส่งออกจากประเทศชิลีมาพบปะคู่ค้าและคู่เจรจาในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10-12 กันยายน 2568  ณ โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี  สุขุมวิท

มร. ออสการ์ อาริอากาดา ผู้แทนการค้าชิลีประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า  Chile-ASEAN Business Summit 2025 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ในวันที่ 8 กันยายน และต่อเนื่องมาจัดที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 10-12 กันยายน ศกนี้ โดยเป็นการประชุมสุดยอดด้านธุรกิจ การค้า การลงทุนที่จัดขึ้นเป็นด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน

ในโอกาสนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงและผู้นำธุรกิจกว่า 20 บริษัทในอุตสาหกรรมอาหารทะเล เกษตรแปรรูป และธุรกิจบริการจะเดินทางมาพบปะและเจรจาการค้ากับนักธุรกิจและผู้นำเข้าจาก อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยมีผู้แทนการค้าชิลีจากทั่วภูมิภาคอาเซียนร่วมประชุม

มร. อาริอากาดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภูมิประเทศและภูมิอากาศที่มีความแตกต่าง อันประกอบด้วยทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุด เทือกเขาสูงจนถึงพื้นที่ชุ่มชื้นติดชายฝั่งทะเลไปเกือบถึงขั้วโลกใต้ ทำให้ชิลีมีความได้เปรียบด้านการผลิตสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง ProChile ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จะทำหน้าที่คัดสรรและประสานงานร่วมกับสำนักงานในต่างประเทศกว่า 56 แห่งทั่วโลก เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์เหล่านี้สู่ตลาดโลก โดยมุ่งเน้นคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน

ชิลีมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับ 35 ประเทศทั่วโลกอันครอบคลุมกว่า 80% ของ GDP โลก ผลิตภัณฑ์อาหารและผลไม้จากชิลีหลายชนิดติดอันดับโลก เช่น เชอร์รี พรุน และองุ่น สำหรับในประเทศไทยที่ FTA ชิลี–ไทยมีผลบังคับใช้มาแล้ว      กว่า 10 ปี ขณะนี้มีสินค้าอาหารทะเล ผลไม้ ธัญพืช และไวน์ เป็นหลัก  ผลไม้จากชิลีที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไทย 5 รายการ ได้แก่ องุ่น เชอร์รี บลูเบอร์รี กีวี และแอปเปิล ทั้งนี้ เป็นที่คาดหวังว่า ในอนาคต ชิลีจะสามารถเจรจาขยายความหลากหลายของสินค้าที่เข้าสู่ตลาดไทย อาทิ เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ ฯลฯ  นอกเหนือจากการส่งออกสินค้าเหล่านี้แล้ว ชิลียังมุ่งส่งเสริมความร่วมมือกับไทยและอาเซียนในภาคบริการอื่น ๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Services) อีกด้วย

ตลอด 3 วันของกิจกรรมในประเทศไทย Chile-ASEAN Business Summit 2025 จะมุ่งเน้นการส่งเสริมการส่งออกของชิลีสู่ตลาดไทยและอาเซียน ขยายการเข้าถึงตลาดให้กับบริษัทที่ดำเนินงานอยู่ในภูมิภาคนี้ ส่งเสริมการขยายธุรกิจระหว่างประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของชิลี  ตลอดจนเน้นย้ำบทบาทของชิลีในฐานะแพลตฟอร์มในการเข้าถึงละตินอเมริกา โดยการประชุมจะจัดขึ้น ณ Hyatt Regency BKK Sukhumvit ประกอบด้วยการจับคู่เจรจาทางธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกชิลีและผู้นำเข้าของอาเซียน  รวมถึงเวิร์กช็อปไวน์และการสาธิตการทำอาหารโดยเชฟชาวชิลี ก่อนการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้และวันชาติชิลีที่จะมาถึงในวันที่ 18 กันยายน ด้วยดินเนอร์จากวัตถุดิบชั้นเลิศของดินแดนแสนมหัศจรรย์ในละตินอเมริกาแห่งนี้

นอกจากนั้น ผู้ร่วมการประชุมจะได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมการตลาดกับแบรนด์ของสมาคมที่เกี่ยวข้องและผู้นำเข้าของไทย อาทิ The Mall, Central Food Wholesale ตลอดจนการ ดูงาน ณ คลังสินค้าศุลกากร ลาดกระบัง และ คลังสินค้าการบินไทย เป็นต้น

หนึ่งในวาระสำคัญของ ASEAN Business Meeting 2025 คือการคิกออฟการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของการตกลงการค้าเสรีชิลี-ไทย (FTA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นมา ทั้งสองประเทศมีความตกลงการค้า   เสรี (FTA) ที่ช่วยพัฒนาการค้าทวิภาคีให้เติบโตมากกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ในปี 2567 มูลค่าการส่งออกจากชิลีมายังไทยมีมูลค่าเกิน 680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้ว่าทองแดงและเยื่อกระดาษยังคงเป็นสินค้าส่งออกหลัก แต่การส่งออกสินค้าอาหาร เช่น แซลมอนและปลาเทราต์ เชอร์รีสด แป้งมันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช น้ำมันปลา หอยแมลงภู่ ปลาหมึกยักษ์ และสินค้าอื่น ๆ รวมถึงการส่งออกด้านบริการ ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้การส่งออกที่ไม่ใช่ทองแดงและลิเทียมมีมูลค่าเกิน 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เพิ่มขึ้น 7.8%

ประเทศไทยเป็นตลาดหลักของการส่งออกจากชิลีในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งรวมถึง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ลาว และเมียนมา การค้าระหว่างชิลีกับกลุ่มนี้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5.1% ตั้งแต่ปี 2561 โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 11% ต่อปีในช่วงเวลาดังกล่าว จนถึง 906 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้า 4.3%

 

29 สิงหาคม 2568

วราวุธ เปิดอบรม บุคลากร พม. ใช้เครื่อง AED ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หวัง นำไปประยุกต์ใช้ในหน้าที่-ช่วยเหลือผู้อื่น



เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมฝึกอบรม “การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ หรือเครื่อง AED (Automated External Defibrillator) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 93 พรรษา โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว คณะผู้บริหาร พม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยในงานมีการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ได้รับเกียรติจากพลอากาศเอกสุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ และคณะวิทยากรจาก ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ในหัวข้อการฝึกการช่วยเหลือภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น (Chocking) , การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) อีกทั้งมีการทดสอบและประเมินผลหลังการฝึกอบรม




นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือดในประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย สำหรับประเทศไทยมีข้อมูลจากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (Health Data Center) ปี 2568 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยสะสมด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 7.08 แสนราย และเสียชีวิต ด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 2.9 หมื่นราย โดยพบว่าอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน

ดังนั้นหากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะถ้าหัวใจขาดเลือดจนหัวใจหยุดทำงาน ผู้ป่วยจะหัวใจหยุดเต้นและหมดสติ หากผู้ป่วยหมดสติแล้ว ควรรีบทำการกดหน้าอกผู้ป่วย ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ AED และโทรเรียกรถพยาบาลที่สายด่วน 1669 ทันที สำหรับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพของทุกคนในทุกระดับ เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ ดังนั้นการมีความรู้และทักษะในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน และสามารถใช้เครื่อง AED ได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในเรื่องของการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตเบื้องต้น กิจกรรมนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับทั้งความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ตรงจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันหรือในหน้าที่ความรับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทีเส็บ เปิดตัว “UCCN Co-Creative City Model” ขับเคลื่อน Colour Economy ยกระดับเมืองสร้างสรรค์

ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (ที่ 3 จากซ้าย) เปิดตัว “UCCN Co-Creative City Model” โมเดลไมซ์ใหม่ที่ต่อยอดจาก Creative City Model สู่ Colour Economy เศรษฐกิจสร้างสรรค์แนวใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Creativity, Culture, Environmental และ Economic activities โดยทีเส็บจับมือกับพันธมิตร ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)  หรือ อพท. สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA และBritish Council ร่วมประกาศความร่วมมือยกระดับเมืองนำร่องของไทยสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก้ พร้อมชูไมซ์เป็นกลไกเชื่อม Demand และ Supply ของพื้นที่ เสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจและสร้างพลังให้ Brand Thailand ก้าวสู่เวทีโลก ณ SAMA Garden
ไบเทคบุรี กรุงเทพฯ


25 สิงหาคม 2568

ศูนย์เรียนรู้ ฯ จังหวัดลำพูน จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรมอาชีพ หลักสูตรฝึกทักษะอาชีพเสริมสวยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต


ศูนย์เรียนรู้ ฯ จังหวัดลำพูน จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรมอาชีพ หลักสูตรฝึกทักษะอาชีพเสริมสวยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต (Beauty for a Better Life) โดยความร่วมมือระหว่างกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กับบริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด “ส่งเสริมความเท่าเทียม สร้างพลัง และมอบโอกาสให้กับคนที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง” : สร้างสรรค์สังคมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น



วันที่ 25 สิงหาคม 2568 นางรชยา ฮั่นตระกูล ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ร่วมให้การต้อนรับท่านกุรุพิน สิงห์น้อย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสตรี กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เนื่องในโอกาสมาเป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรฯ พร้อมด้วย คุณอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) ร่วมงานพิธีมอบประกาศนียบัตรหลักสูตรฝึกทักษะอาชีพเสริมสวยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต (Beauty for a Better Life) โดยความร่วมมือระหว่างกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กับ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสตรีผู้ที่ขาดอาชีพ ขาดรายได้ กลุ่มเปราะบางหรือผู้ที่รับการช่วยเหลือจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือมีภูมิหลัง เป็นผู้ขาดโอกาสทางสังคม 

นางรชยา ฮั่นตระกูล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวรายงานว่า ได้ดำเนินงานการจัดหลักสูตรฝึกอบรมอาชีพฯ ดังกล่าว จำนวน 6 รุ่น รวมทั้งสิ้น 109 ราย หลังจากการฝึกอาชีพได้มีการติดตามผลการมีงานทำ พบว่า มีผู้สำเร็จการฝึกอาชีพ เป็นเจ้าของกิจการ จำนวน 48 ราย ประกอบอาชีพผู้ช่วยช่างผม จำนวน 33 ราย และนำไปใช้กับบุคคลในครอบครัว 8 ราย รวมเป็น 89 ราย คิดเป็นร้อยละ 91.01 ของผู้สำเร็จการฝึกอบรมอาชีพที่ได้รับการติดตาม และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตาม 20 ราย



ในการนี้ท่านกุรุพิน สิงห์น้อย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสตรี เป็นประธานมอบประกาศนียบัตร และกล่าวแสดงความยินดี กล่าวขอบคุณบริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด และคุณอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวแสดงความยินดี ให้แก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรฝึกอบรมอาชีพหลักสูตรดังกล่าว (จำนวน 6 รุ่น) มีจำนวนทั้งสิ้น 109 ราย พร้อมด้วยคุณสิตานัน สิทธิกิจ ผู้จัดการแผนกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) กองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ ผู้อำนวยการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ ฯ หัวหน้าหน่วยงานทีมพม.หนึ่งเดียว จังหวัดลำพูน หัวหน้ากลุ่ม/ฝ่าย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีดังกล่าว และจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “สายใยศิษย์ - ครู สู่ความสำเร็จในอาชีพ” ณ ห้องประชุมราตรี 






ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้พาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสตรี ผู้แทนกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ลงพื้นที่เพื่อติดตามและให้กำลังใจกับผู้สำเร็จการฝึกอบรมอาชีพ ได้แก่ “ร้านบิวบาร์เบอร์” ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ของคุณณัททยารัตน์ ศิริสกุลไพร จบหลักสูตรตัดผมชาย-ทำสีผมเบื้องต้น รุ่นที่ 3 และหลักสูตรฝึกทักษะอาชีพเสริมสวยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ รุ่นที่ 7 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในเขตพื้นที่จังหวัดลำพูน

“วราวุธ” ชื่นชม 88 อพมส. ดีเด่น - พม. มอบเข็มเชิดชูเกียรติ หลัง อุทิศตนช่วยเหลือผู้สูงอายุ ฝ่าวิกฤตประชากร

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานพิธีเชิดชูเกียรติอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ (อพมส.) ดีเด่น ประจำปี 2568 โดยมอบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ เสื้อกั๊กปฏิบัติงาน และอาร์มสัญลักษณ์ อพมส. รวมทั้งมอบเข็มเชิดชูเกียรติ จำนวน 88 คน ซึ่งมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ  คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพมหานคร



นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตโครงสร้างประชากรจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากรที่ไม่สมดุล ซึ่งเป็นมิติหนึ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชากรและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ขณะนี้ ประเทศไทยได้เปลี่ยนจากสังคมเยาว์วัย เป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ มีสัดส่วนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว สวนทางกับอัตราการเกิดใหม่ของประชากรวัยเด็ก ประชากรวัยแรงงานมีจำนวนลดลง และอัตราการเกิดน้อยกว่าการตาย เนื่องจากภาวะเจริญพันธุ์ลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นปัจจัยทำให้สังคมไทยเป็นสังคมสูงวัยรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2567 ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ มีจำนวนผู้สูงอายุมากถึง 13.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20.83 ของประชากรทั้งหมด และคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2568 จะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด โดยจะมีจำนวนประชากรสูงอายุ คิดเป็นร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งส่งผลกระทบต่ออนาคตของประเทศในการเผชิญกับปัญหาภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบในการดูแลผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ทั้งปัญหาด้านสุขภาพ สังคม เศษฐกิจ และสภาพแวดล้อม นับเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อการผลักดันและขับเคลื่อนบทบาทภารกิจของกระทรวง พม. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากวิกฤตโครงสร้างประชากร 


เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเป็นการสร้างสังคมคุณภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและความเสียสละของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ หรือ อพมส. นับว่ามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการชี้เป้า เฝ้าระวัง และเตือนภัยผู้สูงอายุ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือดูแลและประสานส่งต่อผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาทางสังคม และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการ สิทธิสวัสดิการของรัฐอย่างทั่วถึง ต้องขอแสดงความชื่นชมอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ ที่ได้เสียสละแรงกายและแรงใจในการทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ถือเป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อส่วนรวม มุ่งมั่นตั้งใจอำนวยประโยชน์สุขต่อผู้สูงอายุมาโดยตลอด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปฏิบัติงานเพื่อสังคมของทุกคนจะเป็นแรงผลักดันและเป็นแบบอย่างที่น่าภาคภูมิใจ ให้ทุกภาคส่วนของสังคมเข้ามาเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5x5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #อพมส #ผู้สูงอายุ #อพม #อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

19 สิงหาคม 2568

พม. ร่วมกับเครือข่ายจัดงาน Senior Star Thailand 2025 เสริมพลัง – สร้างต้นแบบผู้สูงอายุยุคใหม่

 


วันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานงานแถลงข่าวการจัดงาน Senior Star Thailand 2025 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้แสดงออกถึงพลัง ความสามารถและประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า สร้างทัศนคติที่ดีด้านผู้สูงอายุให้สังคมไทยได้รับรู้ สร้างต้นแบบผู้สูงอายุที่มีทักษะ ในการดูแลตนเองอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ พร้อมทั้งตอกย้ำภาพลักษณ์ของ “ผู้สูงอายุไทยรุ่นใหม่” ที่มีพลัง  มีสุขภาวะ และมีคุณค่าในทุกช่วงวัย โดยมีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการสวัสดิการและสังคม นายกองตรี ดร. สุธน จิตร์มั่น ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีเนียร์สตาร์ อินเตอร์เนชั่นนอล จำกัด คุณปิยาภาณ์  แสนโกศิก กรรมการบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด นางพรนิภา มาสิลีรังสีและนางวาสนา ทองจันทร์ รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นางสาวกอบกุล กวั่งซ้วน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผู้สูงอายุ ผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้เเทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประธานมูลนิธิสิริวัฒนาเชสเชียร์ในพระบรมราชูปถัมภ์  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม และคณะอนุกรรมาธิการสวัสดิการสังคม ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ชมรมและโรงเรียนผู้สูงอายุ และ influencer ณ ห้องออดิทอเรี่ยม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร  




นายธนสุนทร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยสังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ โดยมีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 13.826 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 21.31 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด ในปี พ.ศ. 2576 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นประเด็นท้าทายต่อการพัฒนาสังคมอย่างยิ่ง โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ กำหนดแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานในด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ซึ่งมีเป้าหมาย 




เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรไทยที่ก้าวเข้า
สู่ “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็น “สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด” (Super-Aged Society) ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งนับเป็นความท้าทายสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ดังนั้น การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโอกาสในการแสดงศักยภาพ และมีบทบาทในสังคมอย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง “สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ” กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้กำหนด นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ ที่มุ่งเน้น “การสร้างพลังผู้สูงอายุ มีหลักประกันชีวิต มีคุณค่า มีศักดิ์ศรี” โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมสวัสดิการและคุ้มครองสิทธิให้กับผู้สูงอายุให้ได้รับอย่างเท่าเทียม การส่งเสริมการมีงานทำและรายได้อย่างเหมาะสม การพัฒนาระบบการดูแลระยะยาว (Long-Term Care) การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพในทุกมิติสำหรับผู้สูงอายุเพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้แสดงศักยภาพ ความสามารถ และแบ่งปันประสบการณ์ รวมถึงการขับเคลื่อนการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนทุกช่วงวัยในเรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัย 


นายธนสุนทร กล่าวต่อไปว่า การจัดงาน Senior Star Thailand 2025 เป็นความร่วมมือร่วมกับบริษัท ซีเนียร์สตาร์ อินเตอร์เนชั่นนอล จำกัด และบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด ร่วมจัดงานแถลงข่าวการจัดงาน Senior Star Thailand 2025 โดยการจัดงานในวันนี้มิได้เป็นเพียงเวทีแห่งความบันเทิงเท่านั้น หากแต่ยังเป็นพื้นที่อันทรงเกียรติที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้แสดงออกถึงพลัง ความสามารถ และประสบการณ์อันทรงคุณค่า เพื่อส่งเสริมทัศนคติที่ดีของสังคมไทยต่อผู้สูงอายุ ตอกย้ำภาพลักษณ์ของ “ผู้สูงอายุไทยรุ่นใหม่” ให้เป็น
ที่ประจักษ์ว่า เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยพลังสุขภาวะและคุณค่าในทุกช่วงวัย ในนามกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมแรง ร่วมใจ ผลักดันให้กิจกรรม Senior Star Thailand 2025 อย่างสมบูรณ์และงดงามในวันนี้อีกครั้ง ผมมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า Senior Star Thailand 2025 จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ช่วยจุดประกายให้สังคมไทยเห็นคุณค่าและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุอย่างแท้จริง

15 สิงหาคม 2568

พม. ร่วมกับเครือข่าย มอบถุงกำลังใจ – ส่งต่อความห่วงใยให้ผู้สูงวัย 100 ปี ทั่วประเทศ

 พม. ร่วมกับเครือข่าย มอบถุงกำลังใจ – ส่งต่อความห่วงใยให้ผู้สูงวัย 100 ปี ทั่วประเทศ


 วันที่ 13 สิงหาคม 2568  นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานงานแถลงข่าว “กิจกรรมส่งต่อกำลังใจ ผู้สูงวัย 100 ปี”เพื่อเชิดชูเกียรติและให้กำลังใจแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 100 ปีขึ้นไป ซึ่งนับเป็นแบบอย่างของการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ และเป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นหลัง โดยมี นางพรนิภา มาสิลีรังสี นางวาสนา ทองจันทร์ รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นางสาวกอบกุล กวั่งซ้วน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผู้สูงอายุ บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิ Five for All บริษัท บลูซี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด แบรนด์ ดีนี่ ดีลักซ์ (D-nee Deluxe) ภายใต้บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) แบรนด์ CeraVe ภายใต้บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผลิตภัณฑ์ GoodAge บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์ สุภาพโอสถ บริษัทโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ทเวนตี้โฟร์ไนน์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว บริษัท เคเอส โกลเด้น จำกัด สมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย ตรากิเลน ผลิตภัณฑ์เซียงเพียว บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด Ageing Thailand บริษัท สยามนกไทย54 จำกัด บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด แบรนด์ KA ภายใต้บริษัท ปวีณ์มล จำกัด ผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมประชาบดี ชั้น 19 โซนเอ อาคารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.



นายธนสุนทร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยสังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ โดยมีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 13.826 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 21.31 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด ในปี พ.ศ. 2576 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นประเด็นท้าทายต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศส่งผล กระทบกับแรงงาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจระบบบำเหน็จบำนาญความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณ ตลอดจน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ กระทรวง พม. ร่วมมือกับทุกฝ่ายในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน 5 x 5 :ฝ่าวิกฤตประชากร โดยมีเป้าหมายหลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกช่วงวัย เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ด้วยการ “สร้างพลังผู้สูงอายุ” มองเห็นคุณค่าของความสูงอายุและเปลี่ยนให้เป็นโอกาส เพราะผู้สูงอายุเป็นผู้เชี่ยวชาญชีวิต เป็นผู้มากประสบการณ์ ไม่ใช่ผู้รอรับการสงเคราะห์แต่ยังสามารถเป็นพลังของสังคม เป็นส่วนสำคัญของทางออกของการแก้ปัญหาวิกฤตทางประชากรของประเทศไทย.

นายธนสุนทร กล่าวว่า กิจกรรมส่งต่อกำลังใจผู้สูงวัย 100 ปี เป็นการยกย่อง เชิดชูและให้กำลังใจแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 100 ปีขึ้นไป ซึ่งนับเป็นแบบอย่างของการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นหลังและส่งเสริมค่านิยมแห่งความกตัญญู ร่วมสร้างสังคมที่เอื้ออาทรต่อผู้สูงอายุ สร้างค่านิยมการเคารพ และมองเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุ โดยกระทรวง พม. ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มอบของขวัญและสิ่งจำเป็นพื้นฐาน เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ จำนวนรวมทั้งสิ้น 2,073 คน ทั่วประเทศ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากฐานข้อมูล MSO – Logbook ของกระทรวง พม. ซึ่งครอบคลุมผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางที่มีภาวะพึ่งพิง มีรายได้น้อยหรืออยู่ในสถานการณ์ทางสังคมที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางมีความมั่นคงในชีวิต และมีสวัสดิการที่เหมาะสม มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยกิจรรมอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ (อพมส.) และหน่วยงานในพื้นที่จะร่วมกันส่งต่อความห่วงใย ส่งมอบถุงกำลังใจจาก พม. ไปยังผู้สูงอายุทั่วประเทศ .



นายธนสุนทร กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมส่งต่อกำลังใจ ผู้สูงวัย 100 ปีในวันนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. กับข่ายภาคเอกชนและภาคประชาสังคมที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชนและองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ จำนวน 25 องค์กร ภายในถุงผ้าเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคซึ่งสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นต้น และได้รับความร่วมมือในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จากการรถไฟแห่งประเทศไทย และสายการบินนกแอร์ ในนามของกระทรวง พม. ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และมุ่งหวังว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสานพลังทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน