แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพและความงาม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพและความงาม แสดงบทความทั้งหมด

30 กรกฎาคม 2568

ลดน้ำหนักไม่ใช่แค่เรื่องวินัย แต่คือการเข้าใจร่างกาย รพ.พญาไท 2

เปิด Weight Wellness Clinic เพื่อชีวิตที่สมดุลกว่าเดิม

น้ำหนักเกินไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง แต่คือสัญญาณสะท้อนสุขภาพทั้งระบบ โรงพยาบาลพญาไท 2 ในเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพรูปร่างในเชิงลึก จึงได้ยกระดับบริการผ่าน “Weight Wellness Clinic” ศูนย์ดูแลรูปร่างแบบองค์รวมที่ให้บริการครบวงจร ภายใต้แนวคิด Holistic & Personalized Wellness ด้วยการดูแลแบบองค์รวม ผสานการแพทย์เฉพาะทางจากหลากหลายสาขา ทั้งเวชศาสตร์ป้องกัน โภชนาการ ระบบต่อมไร้ท่อ เวชศาสตร์การนอนหลับ และเวชศาสตร์ครอบครัว Weight Wellness Clinic มุ่งฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอก โดยเน้นการวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัย เหมาะสม และยั่งยืนในระยะยาว

นพ.ธนารักษ์ สถาพรวรศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า “เราตระหนักดีว่า ภาวะน้ำหนักเกินไม่ใช่เพียงปัญหาด้านความงาม แต่สัมพันธ์กับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ เป้าหมายของ Weight Wellness Clinic คือการสร้างความเข้าใจสุขภาพในเชิงลึก วางแผนการดูแลเฉพาะบุคคล และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยมีทีมดูแลและเทคโนโลยีประเมินสุขภาพแบบองค์รวมรองรับอย่างครบครัน”

ลดน้ำหนักอย่างเข้าใจ ไม่ใช่เร่งผลลัพธ์ แต่เข้าถึงต้นตอของปัญหาพญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ผู้อำนวยการศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์ กล่าวเสริมว่า “หลายคนพยายามลดน้ำหนักโดยยึดวิธีที่ใช้ได้ผลกับคนอื่น ทั้งที่ต้นตอของปัญหาในแต่ละคนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง บางคนควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว แต่ไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง นั่นเพราะยังไม่ได้เข้าใจร่างกายอย่างแท้จริง”

Weight Wellness Clinic จึงออกแบบโปรแกรมดูแลเฉพาะบุคคลที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง ผ่านกระบวนการประเมินสุขภาพเชิงลึก ทั้งด้านโภชนาการ การปรับพฤติกรรม การออกกำลังกาย และการวิเคราะห์สุขภาพระดับ Epigenetic รวมถึงการตรวจ Gut Microbiome ประเมินคุณภาพการนอนหลับ เพื่อวางแผนการรักษาที่ตรงจุดในทุกมิติ




แนวทางการดูแลมีความยืดหยุ่นหลากหลาย ตั้งแต่ การปรับพฤติกรรมเฉพาะบุคคลเชิงลึก การใช้ยาภายใต้การควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

นอกจากนี้ ยังมี โปรแกรมเฉพาะสำหรับเด็กและวัยรุ่น ที่เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านแนวทาง ครอบครัวบำบัด ควบคู่กับระบบติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ยั่งยืนตั้งแต่วัยเยาว์ดูแลรูปร่างอย่างเข้าใจชีวิตจริง ภายใต้ระบบ Well-Life Ecosystem Weight Wellness Clinic เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “Well-Life Ecosystem” ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 มุ่งมั่นพัฒนาให้การดูแลสุขภาพสามารถปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตจริงของแต่ละบุคคล วางแผนการรักษาอย่างยืดหยุ่น พิจารณาจากสุขภาพโดยรวม ด้วยมาตรฐานวิชาชีพ และเป้าหมายระยะยาว

25 มิถุนายน 2568

ศ.ดร.ไมค์ ชาน แบ่งปันประสบการณ์ การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิดในการย้อนวัยทางชีวภาพ


ศาสตราจารย์ Dato' Sri Dr. Mike KS Chan อายุ 64 ปี ชาวมาเลเซีย ประธาน European Wellness Biomedical Group เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักเขียน และนักการศึกษาเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิด ภูมิคุ้มกัน และการแพทย์ฟื้นฟูทางชีวภาพมานานกว่า 40 ปี ในยุโรป

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นเจ้าของร่วมและผู้ก่อตั้ง European Wellness Biomedical Group ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่บูรณาการในแนวตั้ง ประกอบด้วยแผนกสำคัญในด้านการวิจัยและพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา โรงงานผลิตไบโอเทคและไบโอฟาร์มา (เยอรมนีและสหภาพยุโรป) สถาบันการศึกษาและสถาบันวิชาชีพ การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั่วโลกใน 80 ประเทศ และศูนย์การแพทย์เพื่อสุขภาพ การวินิจฉัย และการฟื้นฟูเยาวชน 26 แห่งในยุโรปและเอเชียแปซิฟิก รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี กรีซ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก เวียดนาม กัมพูชา ลาว และบังคลาเทศ โดยมีลูกค้าระดับ VIP ได้แก่ ประธานาธิบดี ประมุขแห่งรัฐ ฮอลลีวูด ฮ่องกง และคนดังของจีน รวมถึงคนรวยและคนดัง Mike Chan เป็นผู้แต่ง/ผู้ร่วมแต่งหนังสือวิทยาศาสตร์มากกว่า 50 เล่มเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิด (รวมถึงหนังสือสำหรับสัตว์) การแก่ชรา ความผิดปกติของระบบประสาท และพัฒนาการทางระบบประสาท โรคเมตาบอลิก การแพทย์ชีวภาพและการฟื้นฟู และสิ่งพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์มากกว่า 100 ฉบับในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร


นอกจากนี้ Mike Chan ยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัลในด้านเทคโนโลยีชีวภาพในยุโรปและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ Mike Chan ยังมีสิทธิบัตรระหว่างประเทศมากกว่า 40 ฉบับทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ชีวเภสัชภัณฑ์หลายรายการ รวมถึงเซลล์ต้นกำเนิด เปปไทด์ การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันตนเอง และสารอาหารทางเส้นเลือด

ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 80 ด้วยทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 เหรียญสหรัฐ ไมค์มีประสบการณ์ตรงจากการอยู่ภายใต้การดูแลของนักบำบัดเซลล์ที่เก่งกาจที่สุดในโลกหลายคนซึ่งมาจากสหภาพโซเวียต เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ Mike Chan ผู้บุกเบิกการแพทย์ฟื้นฟูทางชีวภาพ การบำบัดด้วยเซลล์/ออร์กาโน และการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดในยุโรป และหลังจากนั้นเป็นผู้นำบริษัทสวิสและเยอรมนีหลายแห่งที่มีชื่อเสียงด้านการบำบัดด้วยเซลล์เพื่อต่อต้านวัยให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก โดยมีการดำเนินการที่หลากหลายตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการผลิตและการจัดจำหน่าย และต่อมามีการริเริ่มการศึกษาแพทย์เพื่อปรับปรุงการใช้งานทางคลินิกของชีวเภสัชภัณฑ์

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นผู้บุกเบิกในการนำการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดและการบำบัดด้วยเซลล์เข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษ 1980 และนับจากนั้นเป็นต้นมา ไมค์ได้ริเริ่มโครงการการศึกษาสำหรับแพทย์และตัวแทนจำหน่ายผ่านเครือข่ายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมใน 80 ประเทศ Mike Chan เป็นวิทยากรในที่สาธารณะบ่อยครั้ง โดยเขาได้บรรยาย สัมมนา และประชุมสัมมนามากกว่า 1,000 ครั้งทั่วโลกในสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชีวภาพ ชีวเภสัชภัณฑ์ ยาต้านวัย การแพทย์ฟื้นฟู และการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด

ปัจจุบัน Mike Chan ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการและเป็นหัวหน้าคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูของ ESAAM (European Society of Preventative, Regenerative and Anti-Aging Medicine) ซึ่งเป็นองค์กรวิทยาศาสตร์ด้านการป้องกัน ฟื้นฟู และต่อต้านวัยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งในปี 2003 และดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแห่งเอเชียด้วย นอกจากนี้ เขายังเป็นรองศาสตราจารย์ของ AASCP (American Academy of Stem Cell Physicians) แห่งสหรัฐอเมริกา ประธาน A4M (American Academy of Anti-Aging Medicine) แห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับประเทศไทยและเอเชีย สมาคมการแพทย์ฟื้นฟูของญี่ปุ่น MMJ (Multi-Dimensional Holistic Medical Team Japan) และผู้ก่อตั้งร่วมของ FCTI Precursor Stem Cells แห่งยุโรป ในปี 2018 และ 2019 Mike Chan ร่วมกับทีมแพทย์ของเขาได้นำการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพและการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาที่สำคัญมาสู่สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และมาเลเซีย โดยมีแพทย์จากสหรัฐอเมริกา โปรตุเกส เบลเยียม จีน สเปน สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และตะวันออกกลาง ร่วมด้วย

นอกจากนี้ Mike Chan ยังเป็นสมาชิกวุฒิสภา BWA ประเทศเยอรมนี (สมาคมเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศสำหรับจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย) และเป็นผู้นำ จ้างงาน และทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการชั้นนำจากทั่วโลก เช่น MIT, Oxford, Cambridge Heidelberg University และ University of Irvine, California เป็นต้น

Mike Chan ได้รับรางวัลมากมาย สำหรับความเป็นผู้นำ ผู้ประกอบการ การรับรองคุณภาพ และรางวัลความสำเร็จจากยุโรปไปจนถึงจีน เขาเป็นสมาชิกในองค์กรวิชาการและสมาคมมากกว่า 20 แห่ง นอกจากยังปรากฏตัวบนหน้าปกมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก



เขาอาศัยอยู่ในเมืองโกตาคินาบาลู ซาบาห์ และยุโรปมาเป็นเวลากว่าสามทศวรรษ ความปรารถนาของเขาในฐานะชาวจีนมาเลเซียที่ภาคภูมิใจซึ่งมีเชื้อสาย "บูดักกัมปุง" ถือเป็นแรงบันดาลใจมาโดยตลอด โดยเขาเป็นรุ่นที่สามของชาวจีนเชื้อสายฝูเจี้ยนที่ต้องการนำเทคโนโลยีชีวภาพ การวิจัย และการศึกษาที่ทันสมัยระดับโลกมาสู่มาเลเซียและจีน ปัจจุบัน เขากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลซานตงของจีนเกี่ยวกับศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพ การศึกษา และการวิจัยด้านการแพทย์ชีวภาพ/ฟื้นฟู และการบาดเจ็บจากกีฬาและการฟื้นฟูร่างกาย และได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดและโภชนาการสำหรับโควิด (รวมถึงการระบาดของโควิด 14 กุมภาพันธ์ 2020)

ขอบคุณข้อมูล ศาสตราจารย์ Dato' Sri Dr. Mike KS Chan จาก
https://european-wellness.eu/advisory/prof-dr-mike-chan/

04 เมษายน 2568

“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ซื้อ 1 ฟรี 1 ซอง เพียง 39 บาท

หน้าร้อนนี้ผิวดี พร้อมข้อเข่าแข็งแรง ซื้อได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่น

ซัมเมอร์ เมษานี้ บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มเพื่อสาวๆ “บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ขนาดซองบรรจุ 7,200 มิลลิกรัม เข้มข้นด้วยสารสกัดที่จะช่วยดูแลผิวและข้อเข่า ซื้อ 1 ซอง ฟรีอีก 1 ซอง พิเศษเพียง 39 บาท จากปกติราคา 78 บาท และสมาชิก All Member รับ 1 เหรียญ สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ - 23 เมษายน 2568 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ใกล้บ้าน เป็นคอลลาเจน เกรดพรีเมี่ยม อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีและรับประกันคุณภาพจากบีไชน์ อยากให้ทุกคนได้ลองทาน ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย 

“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ขั้นสุดของคอลลาเจนที่ดี ดูแลได้มากกว่าผิว ผสาน 5 คุณประโยชน์เน้นๆ ได้แก่ ไดเปปไทด์คอลลาเจนจากปลา 7000 มิลลิกรัม นวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด ดูดซึมได้ดีที่สุด โดยคอลลาเจนไดเปปไทด์สกัด เฉพาะ 2 คู่ ที่เรียกว่า PO และ OG ทำให้มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับไดเปปไทด์ทั่วไป ผสาน สารสกัดจากซีบัคธอร์น, สารสกัดจากว่านหางจระเข้, วิตามินซี และวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวให้สวยเนียนใส ตึงกระชับ ลดริ้วรอย พร้อมเสริมข้อเข่าให้แข็งแรง สุขภาพดี เพิ่มมวลกระดูกให้มากขึ้น ลดอาการปวดเข่าจากข้อเข่าอักเสบ รับประทานวันละ 1 ซอง ก่อนอาหารเช้า อย่างน้อย 30 นาที วิธีชง : ชงละลายน้ำดื่ม 200 มล. สามารถผสมกับเครื่องดื่มและอาหารได้หลากหลายตามที่ต้องการ เช่น น้ำเปล่า ชา กาแฟ นม น้ำผลไม้ หรือเติมปรุงในอาหารต่างๆ เช่น ซุป โยเกิร์ต น้ำสลัด โดยไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลง


“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” คอลลาเจนแท้จากปลา นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม ละลายง่าย ไม่คาว ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่มีไขมัน ไม่เติมน้ำตาล ปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ทานได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จนถึงคนที่มีอายุ 40+ ขึ้นไป เติมสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ บำรุงทั้งผิว และช่วยปัญหาข้อเข่าเสื่อม บรรเทาอาการปวดและกลับมาแข็งแรงเดินได้อย่างมั่นคง 

สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและดูข้อมูลเพิ่มเติมของ “บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” 
ได้ที่ www.bshine.co.th, FB : https://www.facebook.com/BnpHealth และ Line : @Bshine

27 มีนาคม 2568

พาราไดซ์ พาร์ค มุ่งยกระดับประสบการณ์ใหม่ สู่การเป็น Health & Wellness Destination

พาราไดซ์ พาร์ค มุ่งยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่จากเดิม สู่การเป็น Health & Wellness Destination เติมเต็มทุกความต้องการด้านสุขภาพและทุกไลฟ์สไตล์เพื่อชีวิตที่ดีของทุกคน

พาราไดซ์ พาร์ค ยืนหนึ่งในเรื่องการให้บริการสุขภาพครบวงจร เดินหน้าขยายพันธมิตรด้านสุขภาพชื่อดังหลากหลายอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางเป็น “สถานีสุขภาพดี”  ที่ครบในด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตดี ๆ Health & Wellness Destination เพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างไป
จากเดิมให้กับลูกค้าทุกคน เชื่อตอบโจทย์และต่อยอดไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเดิม และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่





หลังจากที่ เอ็ม บี เค ประกาศปรับโฉมใหม่ ศูนย์การค้าพาราไดซ์  พาร์ค พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์และแนวคิดใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Living in Harmony ใส่ใจการใช้ชีวิต กินดี อยู่ดี สุขภาพดี เพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่ดูแลใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ด้วยการให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม ที่ไม่เพียงแต่เน้นการรักษาแต่ยังรวมถึงการสร้างเสริม ป้องกัน ดูแล รักษา บำบัดและฟื้นฟู แบบครบวงจรในย่านศรีนครินทร์ 

นางสาวพุทธชาด ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ก่อนที่จะปรับโฉมใหม่และปรับแนวคิดคอนเซ็ปต์ใหม่ ได้มีการศึกษาพฤติกรรมไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าตลอดจนประชาชนพื้นที่โดยรอบ แม้ว่าแต่ละกลุ่มจะมีไลฟ์สไตล์หรือความต้องการที่แตกต่างกันไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนให้ความสนใจเหมือนกันและมีแนวโน้มว่าจะสนใจเพิ่มมากขึ้น คือ “การดูแลสุขภาพดีไม่ต้องรอ” เพราะเรารวมคลินิคมากมายครบถ้วน ให้คุณเข้าถึงการรักษาได้อย่างสะดวกสบาย มาดูแลสุขภาพไปพร้อมกับการใช้ชีวิตประจำวัน




ตอนนี้มีพันธมิตรด้านสุขภาพ ทั้งคลินิกแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์ทางเลือก ศูนย์ความงามแบบครบวงจร ตลอดจนร้านเพื่อสุขภาพต่าง ๆ กว่า 50 ร้านค้า โดยเฉพาะชั้น 3 มีพื้นที่ 17,014 ตารางเมตร และกว่า 60% ของพื้นที่ ทำเป็น โซน Health & Wellness  ลูกค้าจะพบกับคลินิกชั้นนำมาเปิดให้บริการ อย่าง คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ@พาราไดซ์ พาร์ค ที่ถือเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญกับ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในการเปิดศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรนอกพื้นที่โรงพยาบาล ให้ประชาชนเข้าถึงการดูแลสุขภาพและการบริการที่ครบวงจร โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา อาทิ  อายุกรรม กุมารเวช กระดูกและข้อ

สูติ-นรีเวช เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์ทางเลือก คลินิกการนอนหลับ จากโรงพยาบาลรามาธิบดี และการให้บริการพื้นฐานทางหัตถการที่สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมืองหรือเข้าสู่ระบบการรักษาในโรงพยาบาล สามารถรองรับผู้ป่วยได้ไม่ต่ำกว่า 300 คนต่อวัน  ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมากว่า 1ปี ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าและประชาชนในพื้นที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ารับบริการต่อเนื่อง 

รวมทั้งมีคลินิกของคุณหมอที่เก่งและเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านต่าง ๆ มาเปิดให้บริการ อาทิ คลินิกกายภาพบำบัด Rehabz By Chersery Home ที่เหมือนยกแผนกกายภาพบำบัดระดับโรงพยาบาลมาไว้ที่นี่ เพื่อดูแลฟื้นฟูสุขภาพด้านกายภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC)  รักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ด้วยวิธี
"กดจุดลึกปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (Deep Acupressure and Muscle Restructuring)" ผสมผสานกับ "การบำบัดจุดกดเจ็บ” อีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ สหคลินิก เวลเนสแคร์ ใช้การรักษาด้วยวิถีธรรมชาติบำบัดร่วมกับแผนปัจจุบัน (Integrative Therapy/Integrative Medicine) พร้อมให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนอาหารให้เป็นยา




นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ดูแลสุขภาพและความงามชั้นนำที่นำนวัตกรรมทันสมัย พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญทั้งด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย เวชศาสตร์ป้องกัน เวชศาสตร์ฟื้นฟู คอยดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด อาทิ Aestheta Wellness & Aesthetic พบกับการให้บริการที่หลากหลาย อาทิ การปรับสมดุลร่างกายด้วยการคลีนลำไส้ให้สะอาดกับ Colon Hydrotherapy  หรือการดูแลหัวใจด้วย EECP เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงหัวใจให้เพิ่มขึ้น  ส่วน S’RENE by SLC คลินิกดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อคนเมือง ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย อย่าง Smart Focus Shockwave ที่ใช้คลื่นกระแทกที่มีความแม่นยำสูง มารักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ กระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และเพิ่มการไหลเวียนเลือด หรือการรักษาข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีดเกล็ดเลือดด้วยเครื่อง PRP เป็นต้น รวมทั้งยังมีคลินิกแพทย์แผนจีน คลินิกสุขภาพจิต คลิกนิกเฉพาะทางเรื่องการได้ยิน คลินิกทันตกรรม ตลอดจนร้านสินค้าเพื่อสุขภาพและอุปกรณ์ของใช้ผู้สูงอายุ และโซน ตลาดสมุนไพรพรีเมียม นำสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับการรับรองหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รางวัลจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ และในไตรมาส 2 นี้จะเปิด ศูนย์ไตเทียม ให้บริการฟอกไต ซึ่งพาราไดซ์ พาร์ค ถือเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทยที่มีบริการฟอกไต โดยสามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้ถึง 16 เตียง
ใช้สิทธิ์ประกันสังคม และสิทธิ์ 30 บาท ได้อีกด้วย 


นางสาวพุทธชาด กล่าวเพิ่มเติม ไม่เพียงแค่การเติมเต็มพันธมิตรสุขภาพชั้นนำ หรือผนึกร้านค้าชั้นนำ ร้านอาหารชื่อดังต่าง ๆ ภายในศูนย์การค้าให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าและสร้างทราฟฟฟิกให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น การจัด “อีเว้นท์” เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิก และช่วยกระตุ้นกำลังซื้อร้านค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติได้อีกเช่นกัน

ปัจจุบันทราฟฟิกลูกค้าพาราไดซ์ พาร์ค เฉลี่ยประมาณวันละ 40,000-50,000 คนต่อวัน ในช่วงวันหยุดหรือในวันที่มีการจัดกิจกรรมอีเว้นท์ จะเพิ่มขึ้น 15% โดยกลุ่มลูกค้าของพาราไดซ์ พาร์ค จะเป็นกลุ่มครอบครัว และผู้สูงวัย ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง พบว่ามีเฉลี่ยการใช้จ่ายปกติอยู่ที่ 3,000 บาทต่อบิล แต่เมื่อมีการจัดอีเว้นท์ จะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 10%



เมื่ออีเว้นท์มีส่วนสำคัญในการดึงดูดคนเข้าศูนย์การค้าฯ และช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยให้กับร้านค้า จึงต้องออกแบบที่มีความโดดเด่น น่าสนใจ และน่าประทับใจ ตลอดจนนำเทรนด์คนดังที่กำลังเป็นกระแสมาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรม เพื่อมอบความสุขและความผ่อนคลายสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมทั้งการจัดกิจกรรมที่รองรับกลุ่มผู้สูงอายุ 

โดยอีเว้นท์ที่ครองใจที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อย่าง กิจกรรม “ยังก์ ไหว คลับ” เป็นเหมือนเป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตี้ที่กลุ่มผู้สูงวัย ที่ได้ออกมาพบปะพูดคุย เพลิดเพลินกับการใช้เวลาว่างหลังเกษียณ ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งการเต้นลีลาศ และร้องเพลง กิจกรรม PARADISE PARK KHON THE THEATER การแสดงโขน ให้ชมฟรีในทุกเดือน ซึ่งนอกจากร่วมอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของไทยให้คงอยู่แล้ว ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมากทุกคนชื่นชอบและรอคอยเพื่อที่จะมาชื่นชมการแสดง หรือแม้แต่การนำเรื่องเทรนด์การดูแลสุขภาพมาต่อยอดกับ กิจกรรม Paradise Park Health & Wellness ที่จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ จากพันธมิตรคลินิกในศูนย์การค้าฯ อาทิ            Rehabz By Chersery Home สหคลินิก เวลเนสแคร์ มาให้ความรู้ควบคู่การทำเวิร์คช็อปที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกันผนึกพันธมิตรกับสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำ ในการจัดการแข่งขันเชิงวิชาการที่สนุกอย่างสร้างสรรค์ทั้งการแข่งขันหุ่นยนต์ การแข่งขันหมากรุกสากล การแข่งขัน Crossword การแข่งขันการ์ดเกม เป็นต้น  




“การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งนี้ของพาราไดซ์ พาร์ค ไม่เพียงแต่ปรับกลยุทธ์และแนวคิดใหม่ แต่ยังยกระดับประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า ในการมุ่งสู่การเป็น Health & Wellness Destination จุดหมายปลายทางที่ครบครันในเรื่องการดูแลสุขภาพและการมาใช้ชีวิตดี ๆ ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการ กินดี อิ่มอร่อยร้านอาหารมากมาย อยู่ดี เพลิดเพลินกับสินค้าคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล รวมทั้งกิจกรรมดี ๆ มากมายสำหรับทุกคนในครอบครัว และ สุขภาพดี กับหลากหลายบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวมที่พร้อมดูแลคุณทั้งร่างกายและจิตใจ เชื่อว่าจะตอบโจทย์และต่อยอดไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเดิมและยังช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้อีกเช่นกัน” นางสาวพุทธชาด กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอ็ม บี เค คอนแทคท์เซ็นเตอร์ 1285
พร้อมติดตามกิจกรรม และโปรโมชันดี ๆ ของศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ได้ที่ www.paradisepark.co.th หรือเฟซบุ๊กเพจ Paradise Park อินสตาแกรม paradisepark_th
และยูทูป paradiseparkchannel

https://www.youtube.com/shorts/oqpC1XMNFws

#พาราไดซ์พาร์ค #Paradisepark  #HEALTHANDWELLNESSDESTINATION #รามาธิบดีเฮลธ์สเปซ #RehabzByCherseryHome #โสฬสคลินิก #สหคลินิก #Aestheta #S’RENE #ศูนย์ไตเทียม

16 มีนาคม 2568

เมสันจับมือโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เปิดแคมเปญ Balance within, Brilliance Beyond


โรงแรมเมสัน โรงแรมระดับลักชูรี่พูลวิลล่าประกาศจับมือโรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เปิดแคมเปญ "Balance within, Brilliance Beyond" ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ พร้อมเดินหน้าผลักดัน เมืองพัทยา นาจอมเทียน เป็นศูนย์กลาง Wellness Tourism ระดับโลก Balance within, Brilliance Beyond ยกระดับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

●     ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์กลุ่มไฮเอนด์

●     ผลักดัน เมืองพัทยา สู่ศูนย์กลาง Wellness Tourism ระดับโลก

●     ตอบรับเทรนด์สุขภาพและการเติบโตของ Wellness Tourism

●     เสริมสร้าง Medical Tourism และการดึงดูดลูกค้าระดับไฮเอนด์



โรงแรมเมสัน โรงแรมระดับลักชูรี่พูลวิลล่าประกาศจับมือโรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เปิดแคมเปญ "Balance within, Brilliance Beyond" ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ พร้อมเดินหน้าผลักดัน เมืองพัทยา นาจอมเทียน เป็นศูนย์กลาง Wellness Tourism ระดับโลก

คุณพรพรรณ รัตนพิทักษกุล, ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเมสัน กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า "เราเชื่อว่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่สำคัญของการท่องเที่ยวระดับลักชูรี่ในอนาคตอันใกล้ และเราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เพื่อมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่ครบวงจร ทั้งในด้านการพักผ่อนและการฟื้นฟูร่างกาย โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพสูง และเป็นการดูแล Wellness แบบองค์รวม ที่จะไม่เพียงมอบประสบการณ์พักผ่อนที่เหนือระดับจากเมสัน แต่ยังผสานกับการให้บริการด้าน Wellness ที่มีความเป็นมืออาชีพด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์การบริการระดับโลก จากโรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา” 

โดยโปรแกรม Wellness ภายใต้แคมเปญ "Balance within, Brilliance Beyond" - สมดุลภายใน เปล่งประกายเหนือระดับ มุ่งเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกาย และจิตใจ ผ่านการบริการที่ครอบคลุมทั้งการพักผ่อนและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ ทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ มักมองหาประสบการณ์ที่มีคุณค่าและลึกซึ้งมากขึ้น โดยไม่เพียงต้องการการพักผ่อนในบรรยากาศที่สะดวกสบายเป็นส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังต้องการให้การพักผ่อนนั้นช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจอย่างยั่งยืน ซึ่งเมสันมีความแข็งแกร่งและมีจุดเด่นในด้านการเป็นที่พักพูลวิลล่าหรู ติดหาดนาจอมเทียน มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และบริการเหนือระดับ เน้นความเป็นส่วนตัว และมีความพร้อมในการมอบประสบการณ์การพักผ่อนริมทะเลให้กับนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น เมสันสปา กิจกรรมสันทนาการต่างๆทั้งในและนอกเมสัน เมนูอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ พร้อมบริการผู้ช่วยส่วนตัว เมื่อผนวกรวมกับความแข็งแกร่งโดดเด่นในด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาแคมเปญนี้จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม สมดุล และแตกต่างอย่างลึกซึ้งและส่งต่อคุณภาพสูงสุดให้กับแขกที่เข้าพัก และลูกค้าที่มีความต้องการแตกต่างหลากหลายได้อย่างแท้จริ

โปรแกรม Wellness ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 แพ็กเกจหลัก ได้แก่ 1. Stress Relief package เหมาะสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาความเครียดสะสม และการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ ผ่านเทคนิคการผ่อนคลายเชิงลึกและการดูแลสุขภาพจิตใจ 2.  Detoxifying Restore package – มุ่งเน้นการขจัดสารพิษในร่างกายและฟื้นฟูสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก โดยใช้ศาสตร์การล้างพิษและโภชนาการเพื่อเพิ่มพลังชีวิต 3. Glow & Grow Rejuvenation package – เสริมสร้างความงามจากภายใน พร้อมเติมเต็มพลังงานให้กับร่างกายและจิตใจ ผ่านศาสตร์การชะลอวัยและการดูแลสุขภาพอย่างองค์รวม

• เทรนด์สุขภาพและการเติบโตของ Wellness Tourism
ขณะที่ พญ.ปิยาภรณ์ ทิพยะรัตน์, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจอมเทียน กล่าวว่า “ความร่วมมือในวันนี้เกิดจากแนวคิดที่ว่า “สุขภาพดีเริ่มต้นจากการดูแลก่อนป่วย” เราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Healthcare) และเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging & Regenerative Medicine) ซึ่งจะเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพที่สำคัญในอนาคต โดยในปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของ Wellness Tourism ระดับโลก จากข้อมูลของ Global Wellness Institute คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรม Wellness จะเติบโตเฉลี่ย 12-14% ต่อปี และจะมีมูลค่าถึง 8.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2027 นี้ ดังนั้นการจับมือกันกับเมสันภายใต้แคมเปญดังกล่าว จึงจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมให้พัทยาเป็นจุดหมายปลายทางของการดูแลสุขภาพที่ครบวงจรสำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างแน่นอน”

• กลยุทธ์ Wellness Tourism ดึงดูดลูกค้าระดับไฮเอนด์ 

เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักของเมสันเป็นกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติระดับไฮเอนด์ โดยเป็นกลุ่มคู่รัก, กลุ่มเพื่อน, ครอบครัวขนาดเล็ก,  นักธุรกิจ หรือ Expat ที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ลึกซึ้งและสมบูรณ์แบบ โดยจากเทรนด์รักสุขภาพในปัจจุบันพบว่า นักท่องเที่ยวและแขกที่เข้ามาพักที่โรงแรมให้ความสนใจและมีความต้องการในเรื่องการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น

คุณพรพรรณ รัตนพิทักษกุล, ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเมสัน กล่าวเพิ่มเติมว่า “Wellness is the New Luxury ดังนั้นการสร้างความแตกต่างโดยเพิ่มเรื่องสุขภาพและ Wellness เข้ามาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการทำธุรกิจ จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางหรือเลือกใช้บริการ ในวันนี้เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก จากแคมเปญความร่วมมือด้าน Wellness ดังกล่าว เราจะช่วยผสมผสานจุดแข็งของ Ultra-Luxury Hospitality และ World-class Healthcare เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีทั้งความสะดวกสบายและการดูแลสุขภาพที่ครบวงจรอย่างยั่งยืนให้แก่แขกที่เข้าพักและลูกค้าทุกท่าน”

#MASONwellness #MASONexperience #BangkokHospitalPattaya

11 มีนาคม 2568

บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่ อะเซโรลาเชอร์รี่ ช่วยเติมความสดชื่นให้ผิวใสสุขภาพดี

โปรสุดคุ้มรับซัมเมอร์ เพียงขวดละ 179 บาท ที่เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขา

“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” (B Shine NaturC) วิตามินซีจากธรรมชาติ 100 % ด้วยสารสกัดอะเซโรลา เชอร์รี่ 1000 มก. เทียบเท่ากับผลอะเซโรลาเชอร์รี่สด 4000 มก. จากสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะและลำไส้ ไม่ทำลายสารเคลือบฟัน และยังผสานคุณค่าจากสารสกัดผลไม้หลากหลายชนิด ได้แก่ สารสกัดจากทับทิม สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ เบอร์รี่รวม และแคโรทีนอยด์ ที่อุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยดูแลผิวพรรณให้แลดูสดใส พร้อมเสริมภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพในทุกวัน 

“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” มีสารสกัดที่มีประโยชน์จากผลไม้และผักหลากชนิด ส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด : ประกอบด้วย อะเซโรลา เชอร์รี่ สกัด 1000 มก., ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ 100 มก., เบอร์รี่มิกซ์ 120 มก. (สตรอเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, ราสพ์เบอร์รี่, เอลเดอร์เบอร์รี่, แบล็คเคอร์เรนท์, เรดบีท), สารสกัดจากทับทิม 70 มก., สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ 23.75 มก., แคโรทีนอยด์ 7.5% 23.75 มก.

เพียงวันละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้าหรือเย็น รับประทานหลังอาหารทันที ดีต่อผิวพรรณและสุขภาพซัมเมอร์นี้ แดดแรงแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว! เพราะบีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่ ช่วยเติมความสดชื่นให้ผิวใสสุขภาพดี 

“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” ขนาดบรรจุ 30 เม็ด แถมฟรีอีก 5 เม็ดในขวด รวมเป็น 35 เม็ด จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มสุดๆ เหลือเพียง 179 บาท จากปกติ ราคา 249 บาท ช่วยประหยัดถึง 70 บาท และสำหรับสมาชิก All Member เหลือ 178 บาท ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ - 23 มีนาคม 2568 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ 

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ของบีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่ ซึ่งจัดจำหน่ายโดยบริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด ได้ที่ : https://www.bshine.co.th/NaturC_landingpage/

ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นเด็ดๆ ได้ที่ : https://linktr.ee/bshinenutritionplus 

25 กุมภาพันธ์ 2568

“สมศักดิ์” ประกาศ สธ.ตั้งเป้าเพิ่มสั่งใช้ยาสมุนไพรในระบบหลักประกันสุขภาพ


“สมศักดิ์” ประกาศ สธ.ตั้งเป้าเพิ่มสั่งใช้ยาสมุนไพรในระบบหลักประกันสุขภาพ ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาทในปี 2569 ด้าน “อภัยภูเบศร”  ขานรับนโยบายยาสมุนไพรใช้บ่อยใน 10 กลุ่มโรค  มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพรและงานวิจัยทางคลินิก



24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างเสริมความเชื่อมั่นการใช้ยาจากสมุนไพรสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมประกาศ คิกออฟ นโยบาย “เจ็บป่วยคราใดคิดถึงยาสมุนไพรก่อนไปหาหมอ” ว่า ปัจจุบันมีการใช้ยาในระบบสาธารณสุขของรัฐประมาณ 70,500 ล้านบาท เป็นยาแผนตะวันตก 69,000 ล้านบาท และเป็นยาสมุนไพรเพียง 1,500 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นการใช้ยาสมุนไพรในระบบ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติประมาณ 400 ล้านบาทเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่มียาสมุนไพรหลายชนิดที่มีคุณภาพและมาตรฐาน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มการสั่งใช้ยาสมุนไพร ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000ล้านบาท ภายในปี 2568 และไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ในปี2569 ทั้งนี้เพื่อเป็น ทางเลือกให้แก่ผู้ป่วย ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ สนับสนุน การยกระดับภูมิปัญญาไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในประเทศ

“ผมขอให้บุคลากรทางการแพทย์มีความเชื่อมั่นในยาสมุนไพร และเชิญชวนให้สั่งใช้ในการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาสมุนไพร 10 รายการ ใน 10 กลุ่มโรคที่พบบ่อย ได้แก่ ยาไพล แก้ปวดกล้ามเนื้อและข้อ ยาฟ้าทะลายโจรรักษาไข้หวัดและโควิด 19 ยาขมิ้นชันแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาเพชรสังฆาตช่วยเรื่องท้องผูกริดสีดวงทวาร ยาขิงบรรเทาอาการวิงเวียน  ยามะระขี้นกแก้เบื่ออาหาร  ยากล้วยบรรเทาอาการท้องเสีย ยาหอมเทพจิตช่วยเรื่องนอนไม่หลับ  ยาพริกแก้อาการชาจากอัมพฤกษ์อัมพาต และยาว่านหางจระเข้ ใช้ทาผิวหนัง แผล จึงขอให้ทุกท่าน ช่วยกันผลักดัน การใช้ยาสมุนไพร ผมเชื่อว่า จะเป็นการสร้างรายได้ให้ประเทศ และเพิ่มมูลค่า ทางเศรษฐกิจ ให้กับพืชสมุนไพรไทย” รมว.สาธารณสุข กล่าว 

ด้านแพทย์หญิงชนิดา สยุมภูรุจินันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า วันนี้ มูลนิธิโรงพยาบาลและโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เข้าร่วมจัดบูทแสดงนวัตกรรมและการวิจัยยาสมุนไพร  รวมถึงมาตรกรการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในสถานพยาบาล ผ่านการพัฒนาหลักฐานเชิงประจักษ์  การให้คำปรึกษาและการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ โดยรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมนำนโยบายของ รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับยาสมุนไพรใช้บ่อยใน 10 กลุ่มโรคไปดำเนินการโดยมุ่นพัฒนาการทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่างแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย


ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์  ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  กล่าวเสริมว่า มูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรให้ความสำคัญกับการพัฒนา วัตถุดิบที่นำมาพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ที่ต้องผ่านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของนานาชาติ  คือ มาตรฐาน IFOAM (International Federation of Organic Movement) และสารสำคัญทางยา ตามมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  เรามีงานวิจัยเล็ก ๆ พบว่า เถาวัลย์เปรียง ต้องอายุ 5 ปีไปแล้ว  เพชรสังฆาตต้องอายุ 1.5 ปีไปแล้ว ถึงจะเก็บเกี่ยวมาทำยาได้  ถ้าอายุน้อยกว่านี้จะไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในตำรายาหรือ Thai Herbal Pharmacopoeia (THP)  ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  และเมื่อสารสำคัญไม่ถึงฤทธิ์ทางยาก็ไม่ดี  เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แม้จะต้องทำให้ต้นทุนยาสูงขึ้น แต่เราก็คาดหวังว่าคุณภาพยาที่ดีจะทำให้มีการใช้อย่างกว้างขวาง  และเกิดการพัฒนาด้านสมุนไพรที่ยั่งยืน 

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์แล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการวิจัยทางคลินิก เพื่อพิสูจน์ประสิทธิผลและความปลอดภัยของยา  โดยขณะนี้เรากำลังจะทำวิจัยทางคลินิก  ของอิมัลเจลจากสารสกัดกระดูกไก่ดำ เพื่อบรรเทาอาการปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อเข่าในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม  และผลของตำรับสมุนไพรอภัยบีต่อการเปลี่ยนแปลงตัวบ่งชี้ทางชีวภาพในผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อมระยะเริ่มต้น เพื่อตอบรับสังคมสูงอายุ  ซึ่งคาดว่าจะทำงานวิจัยทั้งสองชิ้นนี้แล้วเสร็จในปี 2569

05 พฤศจิกายน 2567

เปียง รีแฮบบิลิเทชัน คลินิก (PYONGRehabilitation Clinic)


เปียง รีแฮบบิลิเทชัน คลินิก (PYONGRehabilitation Clinic) คลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยอาจารย์ นายแพทย์ กันตพงศ์ ทองรงค์ ฉลองครบรอบ 1 ปีด้วยการจัด ‘Office Syndrome Summit 2024’ สุดยอดการประชุมเชิงสุขภาพสำหรับ ‘คนรักงาน’ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี รวมแพทย์เฉพาะทางรุ่นใหม่ 6 คนในหลากหลายสาขา เพื่อร่วมเสวนาในประเด็นต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการมีสุขภาพกายที่ดีซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยงานจัดขึ้นที่ห้องประชุมกระจก Crystal Box เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท ชั้น 19เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง



Office Syndrome Summit 2024 คือการจัดงานครบรอบในรูปแบบใหม่ ที่สะท้อนความต้องการของ PYONG Rehabilitation Clinic นั่นคือเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับสังคมการทำงานของไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ เพราะอาการออฟฟิศซินโดรมไม่ได้เป็นเพียงแค่การปวดคอ บ่า หรือไหล่อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ แต่ยังรวมไปถึงระบบอื่น ๆ ทั้งร่างกายภายในงานจึงมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากทีมแพทย์เฉพาะทางรุ่นใหม่ 6 ท่าน ใน 6 ประเด็นที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ ได้แก่ อาการปวดกล้ามเนื้อ อาการปวดศีรษะ มลภาวะทางอากาศ การใช้ยาสามัญประจำบ้าน การดูแลดวงตา การนอนหลับ และปัญหาสุขภาพจิต โดยผู้เข้าร่วมงานยังสามารถปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์เฉพาะทางได้โดยตรง เพื่อพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ เช่น สาเหตุโรค อาการของโรค การดูแลที่เหมาะสม และการป้องกันไม่ให้เกิดโรคซ้ำ รวมไปถึงการทดลองรักษาจริงด้วยเครื่องมือกายภาพบำบัดสมัยใหม่กับทีมบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


นายแพทย์ กันตพงศ์ ทองรงค์ แพทย์ผู้ก่อตั้ง PYONG Rehabilitation Clinic กล่าวว่า “กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและพังผืดเรื้อรัง หรือ ที่คนไทยเรารู้จักกันในชื่อ office syndrome เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ประสิทธิภาพและบรรยากาศในการทำงานแย่ลงครับ และผู้คนจำนวนมาก ยังไม่รู้ว่าจะต้องการจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร และแน่นอนว่า หลายครั้งอาการสามารถรักษาได้ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และ การออกกำลังกายยืดเหยียดที่เหมาะสมและเพียงพอ ความรู้เป็นสิ่งสำคัญ เมื่ออาการดีขึ้น คุณภาพชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้นตามมา”



สำหรับคนไทยมีความเสี่ยงในการเป็นออฟฟิศซินโดรมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 – 44 ปี ซึ่งที่มาของอาการเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ การนั่งในรถหรือบนโต๊ะทำงานเป็นเวลานาน และอยู่กับจอคอมพิวเตอร์เป็นนานเกินไป การรักษาเบื้องต้นเริ่มได้ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผู้มีความเชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคุณ คือ ปณิธานของเรา ทำนัดเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อนำไปสู่การบำบัดรักษาที่เหมากับคุณได้ที่เจ้าหน้าที่คลินิก ชั้น L เกษรวิลเลจ หรือ Line @pyongrehab โทร 097-468-7990

#PYONGRehabilitationClinic
#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย
#PYONGSUMMIT
#PYONGSUMMIT2024