31 ตุลาคม 2565

"เปิดโลกสมานฉันท์" เรียนรู้ประวัติศาสตร์พหุวัฒนธรรม


          เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ดร. กมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร. กนกวรรณ วิลาวัลย์) และเป็นเลขานุการโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต์" ซึ่งมีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธานกรรมการอำนวยการโครงการ ร่วมกิจกรรมกับนักโบราณคดีจากอุทยานประวัติศาสตร์และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา โดยนำเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากค่ายเยาวชน รุ่นที่ 39 ในโครงการ "สานใจไทย สํูใจใต้" เข้าเยี่ยมชมและศึกษาแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อาทิ กุโบร์เจ้าพระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด ) จุฬาราชมนตรีท่านเเรก วัดใหญ่ชัยมงคลซึ่งมีพระมหาเจดีย์ชัยมงคลที่สมเด็จพระนเรศวรให้ทหารที่ตามเสด็จไม่ทันในการเข้าสู่วงล้อมของพม่าในการทำยุทธหัตถีร่วมกันสร้างเพื่อไถ่โทษ และเป็นการประกาศชัยชนะ  วัดมหาธาตุ วัดพระศรีสรรเพ็ชร เจดีย์วัดสามปลื้ม และสถานที่สำคัญบริเวณเกาะเมืองและอุทยานประวัติศาสตร์ 


จากนั้นได้มีการมอบหมายภารกิจให้เยาวชนร่วมวิเคราะห์ ถึงเเนวทางการใช้ชีวิตร่วมกันของประชาชนซึ่งมาจากหลากหลายวัฒนธรรม หลายเชื้อชาติ หลายภาษา ที่สามารถใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุขและร่วมสร้างอาณาจักรอโยธยาให้เจริญรุ่งเรือง 


ที่ปรึกษา รมช.ศธ. กล่าวกับเยาวชน 5 จังหวัดชายแดนใต้ว่า “การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่มีความจำเป็น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตย่อมเป็นบทเรียนสำหรับปัจจุบัน และชี้นำแนวทางการก้าวต่อไปในอนาคต สังคมไทยต้องก้าวผ่านประวัติศาสตร์บาดหมางไปสู่การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อความสมานฉันท์ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์อยุธยา ทำให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตพหุวัฒนธรรมของชุมชนที่มีเชื้อชาติต่างกันไม่ว่าจะเป็นชาวไทย จีน ญี่ปุ่น เปอร์เซีย โปรตุเกต ฮอลันดา ฯลฯ ตลอดจนนับถือศาสนาที่หลากหลาย อาทิ พุทธ คริสต์ และอิสลาม รวมทั้งการปรับตัวของกลุ่มคนที่แตกต่างกัน ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ สิ่งเหล่านี้จึงควรเป็นต้นแบบของความสมานฉันท์ และสันติสุข ซึ่งเชื่อว่าเด็กและเยาวชนจะสามารถนำสิ่งที่เห็นไปวิเคราะห์และประยุกต์ใช้ในท้องถิ่นของตนเองได้ในอนาคต”

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2565 ไปถวายแด่พระสงฆ์ซึ่งจำพรรษากาลถ้วนไตรมาส  ณ วัดบูรพาพิทยาราม (พระอารามหลวง) ตำบลเขาวัว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี 

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 นายวัลลพ สงวนนามเลขาธิการ กศน.น้อมนำผ้าพระกฐินพระราชทาน สำนักงาน กศน.พ.ศ. 2565 พร้อมทั้งอัฐบริขารและปัจจัยถวายเป็นพระราชกุศล ณ วัดบูรพาพิทยาราม (พระอารามหลวง) ตำบลบ้านเขาวัว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นางสาวทรงศรี วิระรังษิยากรณ์ นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์ นายคมกฤช จันทร์ขจร รองเลขาธิการ กศน. พร้อมด้วยผู้บริหาร สำนักงาน กศน. จังหวัด สถานศึกษาขึ้นตรง ข้าราชการ บุคลากรในสังกัดสำนักงาน กศน. และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในพิธี 


ยอดเงินโดยเสด็จพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน สำนักงาน กศน. ประจำปี 2565  เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,181,323 บาท






ยอดเงินโดยเสด็จพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน สำนักงาน กศน. ประจำปี 2565  เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,181,323 บาท

วัดบูรพาพิทยาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญสังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลเขาวัว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ก่อตั้งขึ้นมา เมื่อ พ.ศ. 2368 ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดใหม่หนองปรือ เหตุเพราะสภาพท้องที่เป็นที่ลุ่ม มีหนองน้ำใหญ่ปกคลุมด้วยต้นปรือมากมาย การสร้างวัดในระยะเริ่มแรกเมื่อประมาณ พ.ศ. 2359 ชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ได้ช่วยกันก่อสร้างขึ้นมาและเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2368 ต่อมา พ.ศ. 2370 มีการก่อสร้างเสนาสนะต่าง ๆ จนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองและมีความสำคัญต่อชุมชนเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งที่ให้การศึกษาแก่สงฆ์และเยาวชนอย่างกว้างขวาง มีโรงเรียนฝึกหัดครูตั้งอยู่ในวัด เป็นสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลย่อย ๆ มีพระภิกษุที่มีความชำนาญในวิชาการแพทย์แผนโบราณติดต่อกันมาหลายรูป



สองพี่น้องตระกูล“อนุวัตเมธี”ปั้นอาณาจักร “Scene”สยายปีกเบเกอรี่พรีเมียมแบรนด์ไทย

สองพี่น้องตระกูล “อนุวัตเมธี” ทุ่ม 80 ล้าน เปิดอาณาจักร “Scene Bangkok” คาเฟ่หรูสไตล์ฝรั่งเศส พร้อมครัวกลางขนาดใหญ่ เผยแผนบุกตลาดเบเกอรี่ระดับพรีเมียม ปักธง 4 สาขาในกรุงเทพฯ ภายใน 3 ปี ขยายร้านขนมอีก 50-70 แห่ง แตกแบรนด์ย่อยลุยเทศกาล-งานอีเว้นต์  ชูวัตถุดิบคุณภาพสูง การผลิตทันสมัย สร้างชื่อเบเกอรี่แบรนด์ไทยเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์


ลูกไม้ อนุวัตเมธี
กรรมการผู้จัดการ ร้าน Scene Bangkok  ผู้เป็นพี่สาว เล่าให้ฟังว่า มีความหลงใหลในเบเกอรี่มาตั้งแต่  และมีโอกาสเรียนการทำอาหารและขนมในสถาบันต่าง ๆ ได้เรียนรู้วิชาและฝึกประสบการณ์จากเชฟที่มีชื่อเสียง จนได้เปิดร้าน “Tokyo Dessert” ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งได้การตอบรับที่ดีมาก จนกลายมาเป็น OEM รับออกแบบและทำขนมให้กับหลาย ๆ ร้าน อาทิ ทรูคอฟฟี่ คอฟฟี่บีน อเมซอน และร้านในเครือเซ็นทรัล เป็นเวลาประมาณ 6 ปี จนช่วงหลังเริ่มทำไม่ไหว จึงต้องปิดตัวร้าน  “Tokyo Dessert” ลงไป








ด้าน  ซีน - ดุสิตา อนุวัติเมธี ผู้น้องที่ผันตัวเองจากทันตแพทย์ เพื่อมาช่วยพี่สาวบริหารงานเต็มตัว กล่าวเสริมว่า หลังจากอยู่ในเส้นทางการผลิตเบเกอรี่ระดับพรีเมียมมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้มองเห็นโอกาสทางการตลาด และมีเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้ลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท สร้างอาณาจักร “Scene Bangkok บนถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4

Scene Bangkok ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 5 ไร่ โซนด้านหน้าเป็นร้านเบเกอรี่ขนาดใหญ่ โทนสีขาวสะอาดตา ออกแบบสไตล์โมเดิร์นผสานกลิ่นอายฝรั่งเศส ภายในโทนสีฟ้าขาว ประกอบด้วยชั้นล่างและชั้นลอย โถงตรงกลางร้านเป็นบาร์เปิดแบบ 360 องศา รายล้อมด้วยขนมนานาชนิด ๆ  ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ เป็นที่ยอมรับเรื่องรสชาติและความพิถิพิถัน บริการอาหาร ขนม และเครื่องดื่มนานาชนิด โซนนอกอาคารเป็นพื้นที่สวน ด้านหลังร้าน เป็นส่วนของครัวกลางขนาดใหญ่ ที่ออกแบบไว้เพื่อรองรับการขยายสาขาในอนาคต นอกจากนั้นยังมีส่วนของร้าน Zachi Omakase ต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น โดยเชฟฝีมือระดับประเทศ ประสบการณ์การปั้นซูชิกว่าหมื่นคำต่อวัน การันตีด้วยความ Premium ที่จัดว่าดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น





สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า คือ การขยายสาขา Scene Bangkok อีก 4 สาขาในกรุงเทพฯ เป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่เช่นเดียวกับสาขาแรก โดยจะลงทุนเองทั้งหมด รวมทั้งการปั้นโมเดลร้านขนมขนาดเล็ก ที่สามารถขยายธุรกิจได้ 50-70 สาขา ทั้งการลงทุนเองและรูปแบบแฟรนไชส์ โดยจะใช้ศักยภาพของครัวกลางที่เตรียมไว้เพื่อรองรับการผลิตทั้งหมด




ลูกไม้
อธิบายเสริมว่า Scene จะเป็นแบรนด์หลักในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีดีไซน์และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ และมีซับแบรนด์ อาทิ X-CUZINE บริการแคทเทอริ่ง สำหรับการจัดเลี้ยงและงานอีเว้นต์ต่าง ๆ แบรนด์ Scene  Celebration สำหรับเทศกาลและโอกาสพิเศษ  รวมทั้งแบรนด์ Scene Secret House  ธุรกิจธีมเทพนิยาย อันเป็นที่ชื่อชอบของสองพี่น้อง โดยปัจจุบันได้นำเสนอบ้านฮอบบิทในพื้นที่ของ Scene Bankok และจะสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ เช่น น้ำหอม ภายใต้คอนเซ็ปต์เครื่องหอมและเวทมนต์ เป็นต้น ส่วนความเป้าหมายในอนาคต คือการเข้าตลาดหลักทรัพย์




“ความฝันของไม้ คือ อยากเข้าตลาดหลักทรัพย์ เราเป็นคนคิดใหญ่และมีเป้าหมายสูง ส่วนน้องสาวเป็นหมอฟัน ทำอาหารไม่เป็นเลย แต่ก็มีส่วนช่วยเรื่องงานออกแบบ เพราะน้องซีนชอบศิลปะ เมื่อเราบอกกับน้องว่าอยากทำเบเกอรี่แบบนี้ ๆ ตกแต่งแบบนี้ น้องจะสเก็ตช์ภาพออกมาเพื่อส่งให้กับเชฟได้ทำตามที่เราคิด” ลูกไม้ กล่าว 

“ดีป้า” ร่วมพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19

ส่งเสริมเอกชนพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลตอบโจทย์นักท่องเที่ยว

31 ตุลาคม 2565, กรุงเทพมหานคร - ดีป้า เดินหน้าส่งเสริมภาคเอกชนพัฒนา Safe T Travel แพลตฟอร์มท่องเที่ยวไทยที่มีการผสมผสานเทคโนโลยีเอไอและบิ๊กดาต้ามาใช้วิเคราะห์ความชอบและความต้องการของนักท่องเที่ยว 

ก่อนนำเสนอข้อมูลด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรในรูปแบบดิจิทัลคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเฉพาะบุคคลหรือกลุ่มคน โดยสามารถจองและชำระค่าบริการผ่านแอปพลิเคชัน QueQ พร้อมกันนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย เสริมความแข็งแกร่งให้ภาคธุรกิจ และร่วมพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ต้องหยุดชะงัก ประชาชนทั่วโลก รวมถึงคนไทยเองต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตโดยหันมาให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน การดำเนินธุรกิจ หรือแม้แต่การจับจ่ายใช้สอย รวมไปถึงการท่องเที่ยว และแม้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ กำลังดำเนินไปสู่ภาวะปกติใหม่ ภาคธุรกิจเริ่มให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคกลับต้องประสบกับปัญหาด้านข้อมูลที่มีปริมาณมากและหลากหลาย ดังนั้น ดีป้า ในนามหน่วยงานภาครัฐจึงต้องเร่งพัฒนาบริการแก่ภาคประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง นำเสนอผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อช่วยในการตัดสินใจที่แม่นยำ ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ควบคู่ไปกับการยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย

ด้วยเหตุนี้ ดีป้า จึงให้การส่งเสริม บริษัท เซฟที ทราเวล จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลสัญชาติไทยดำเนินโครงการ Digital Food Tourism เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในระดับปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในชื่อ “Safe T Travel” (Multi Food Tourism Platform) ให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ที่พัก (Accommodation) บริการยานพาหนะขนส่ง (Transportation) ร้านอาหาร (Restaurants) มัคคุเทศก์ท้องถิ่น (Local Guide) กิจกรรมสันทนาการ (Activities) ร้านสินค้าที่ระลึก และสถานที่ปลอดภัย (Self-care) โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองบริการต่าง ๆ ล่วงหน้า และชำระค่าบริการผ่านแอปพลิเคชัน QueQ อีกหนึ่งพันธมิตรที่ร่วมโครงการฯ นอกเหนือไปจากร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงอุทยานต่าง ๆ นอกจากนี้จะมีการแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวได้ทราบเมื่อใกล้ถึงคิว ซึ่งจะช่วยลดความหนาแน่นในพื้นที่ รองรับผู้ใช้งานได้ไม่จำกัด อีกทั้งเป็นการส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารและการท่องเที่ยวไทย



ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า Safe T Travel ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นช่องทางแนะนำประสบการณ์การรับประทานอาหาร สันทนาการ และการท่องเที่ยวแบบครบวงจร โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่นักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างด้วยการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้วิเคราะห์ความชอบและความต้องการเฉพาะบุคคลหรือกลุ่มคน ก่อนประมวลผลและนำเสนอข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) ด้านการเดินทางท่องเที่ยว จองที่พัก/ร้านอาหาร ฯลฯ 
แบบ One Stop Service ที่ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน Safe T Travel จะเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวของไทยในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย ทั้งวิสาหกิจขนาดกลาง ขยาดย่อม และรายย่อยนำเสนอข้อมูลของตนเองในรูปแบบดิจิทัลคอนเทนต์ เพื่อประชาสัมพันธ์ถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยวแบบอิสระและกรุ๊ปทัวร์



นอกจากนี้ ดีป้า จะร่วมส่งเสริมองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับธุรกิจของตนเอง เพื่ออำนวยความสะดวกในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยวในวงกว้าง

“แพลตฟอร์มท่องเที่ยวไทยที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยคนไทยจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการรับบริการอย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน ก่อให้เกิดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ๆ และสร้างโอกาสการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่เมืองรอง ซึ่งถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนต่าง ๆ ของไทย พร้อมกันนี้ ดีป้า ประเมินว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าสู่แพลตฟอร์ม Safe T Travel มากกว่า 10,000 ราย ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับเหล่าผู้ประกอบการ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างชาติ ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ก่อนนำพาประเทศก้าวไปสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในระยะถัดไป” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว



29 ตุลาคม 2565

เอิร์ธ สายสว่าง จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานอีเวนท์ของทุกปี ของ เอิร์ธ สายสว่าง สำหรับการปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันเกิดของ“ เอิร์ธ”  ไม่เคยจัดงานแบบธรรมดาๆ เพราะ เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด

ในปีนี้  ชวนคนสนิท ทั้งดาราไฮโซร่วมร่วมดินเนอร์สังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน ด้วยการใช้พื้นที่บนเรือสำราญ Wonderful Pearl   เห็นฉากหลังวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมี  เจ้าของเรือ  พิชิต กุลเกียรติเดชมามอบความบันเทิง ไห้ด้วย...



โดยงานจัดขึ้นที่ เรือสำราญ Wonderful Pearl cruiseงานนี้เหล่าคนดังในวงการบันเทิงได้มาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดนี้อย่างคับคั่ง  บอกเลยว่าแต่ละคนแต่งตัวกันมาแบบจัดหนักจัดเต็มมากศิลปินดารานักแสดงและเซเลบริตี้ชื่อดัง ...

อาทิ รศ.ดร.นริศ ชัยสูตร ประธานกรรมการบริหาร สถาบันวิทยาการธรรมศาสตร์เพื่อสังคม และเพื่อนผู้เข้าร่วมการอบรมหลักสูตรนักบริหาร(นมธ.) พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร, พร้อมทั้งนักร้องชื่อดัง ชรัส เฟื่องอารมย์, 

รัศมี สิริไพรศรี, โจแอน บุญสูงเนิน , จารึก วิริยะกิจ...และ เพื่อนๆ  ร่วมกันสร้างสีสันให้ความบันเทิงอย่างสนุกสนานบนเรือสำราญ Wonderful Pearl  พร้อมชื่นชมทัศยภาพงานสถาปัตยกรรมของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สุดแสนโรแมนติก









เรือสุดหรู "Wonderful Pearl cruise" ร่วมชมชมบรรยากาศสุดพิเศษและความอร่อยเต็มรูปแบบของ Wonderful Pearl cruise ท่านใดอยากฟินกับรรยากาศสุดแสนโรแมนติก อาหารอร่อยโดนใจ อาหารนานาชาติสุดพิเศษมากมาย จนจุใจแบบนี้.. แวะมาอร่อยคุ้มค่าแบบมีระดับกับเรือ Wonderful Pearl cruise


เรือสำราญ Wonderful Pearl cruise สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

เจ้าหน้าที่แผนกขาย โทร 02-861-0255 กด 5 

Email : Sale@wonderfulpearl.com

Email : Event@wonderfulpearl.com

Email : rsvn@grandpearlcruise.com

Line : @wonderfulpearl

Lineofficial Link : https://lin.ee/yKILFUl

#อร่อยปลอดภัยมีระดับกับวันเดอร์ฟูลเพิร์ล #WONDERFULPEARL #บนเรือสำราญWonderful Pearl