21 ธันวาคม 2564

นายกฯ มอบ พม. ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวพลเมืองดี พร้อมมอบโล่รางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคม

วันนี้ (21 ธ.ค. 64) เวลา 16.30 น. นายจุติ  ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนางสาวศิริพร  ไชยสุต นายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปภัมภ์ และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่เขตหนองจอก กรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมครอบครัว พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนซึ่งถูกรุมทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 64 บริเวณถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พร้อมทั้งมอบโล่รางวัลผู้เสียสละเพื่อสังคม ในการทำความดีเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม และให้ความช่วยเหลือครอบครัวตามภารกิจกระทรวง พม.


นายจุติ กล่าวว่า จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการโพสต์คลิปกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายตำรวจควบคุมฝูงชนจนได้รับบาดเจ็บ และมีพลเมืองดีเข้าให้ความช่วยเหลือ พาขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 60 ก่อนนำส่ง สน.หัวหมาก ซึ่งพลเมืองดีดังกล่าวคือ นายณรงค์ ซอเฮง และนางสาวนุชนาฏ พลายแก้ว พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารรถประจำทางปรับอากาศ สาย ปอ.60 ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากคำชมเชยและชื่นชมว่า คนดีคนกล้า ในสังคมยังมีและจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม รวมทั้งได้ฝากคำอวยพรมาว่า ขอให้มีความสุข และยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยได้มอบหมายให้ตนเดินทางมาที่บ้านของพลเมืองดีเพื่อมาดูความเป็นอยู่ ตนดีใจที่ได้เดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง และได้มาเห็นสภาพครอบครัวที่ปากกัดตีนถีบแต่ก็สู้ชีวิต ที่สำคัญเขายังห่วงสังคมห่วงความถูกต้อง ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ให้กำลังใจคนได้ทั้งประเทศ ถ้าสังคมมีคนอย่างนี้เยอะๆ และออกมาช่วยกัน ไม่ดูดายไม่นิ่งเฉย ทำให้ประเทศไทยดีขึ้นทุกวัน เราเชื่อว่าประเทศไทยจะยิ่งใหญ่และมีความสุข

นายจุติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับครอบครัวพลเมืองดีดังกล่าว มีสมาชิก 21 คน ประกอบด้วย ลูกหลานจำนวน 11 คน อายุ 7 เดือน ถึง 15 ปี อาศัยภายในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม ซึ่งกระทรวง พม. จะให้ความช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวง พม. ในด้านต่างๆ โดยได้มอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินสงเคราะห์ครอบครัวเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น นอกจากนี้

เนื่องจากครอบครัวนี้ มีลูกพิการลูกที่ยังเรียนหนังสือ และมีหลานอีกเยอะ เราจะมาดูตามเกณฑ์ โดยกระทรวง พม. มีหน้าที่อยู่แล้วคือพัฒนาทุนมนุษย์ ให้ทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกันและครอบครัวมีความเข้มแข็งมีความอบอุ่น ตนไม่อยากทำให้เวอร์เกิน แต่อยากให้กำลังใจคนดี คนดีมีที่ยืน คนดีมีที่พึ่งและเรา
ก็จะเดินหน้าไปด้วยกันช่วยให้ประเทศไทยดีขึ้นทุกวันให้คนดีมีที่ยืนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน








นายณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ตนและภรรยารู้สึกภาคภูมิใจและดีใจที่เราได้ช่วยชีวิตคน ได้เห็นคนที่เราช่วยเหลือเขามีความปลอดภัยและร่างกายแข็งแรงดียิ่งทำให้เราดีใจ ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนทำความดีเพื่อสังคม และขอขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวง พม.
ที่เห็นถึงการทำความดีในครั้งและให้ความช่วยครอบครัวของตน