31 สิงหาคม 2564

ลุลา แอดมิท ด่วน...ห่วงแฟน ใกล้วันปล่อยเพลง

   
         
เป็นอีกหนึ่งสาวเสียงดีจากแกรมมี่ฯ ที่ใกล้จะมีงานเพลงใหม่ออกมาฝากแฟนๆในรอบ 3 ปี ที่ห่างหายจากเพลงตัวเองมานาน ทำเอาแฟนๆตั้งตารอลุ้น ดีใจคิดถึงเสียงไพเราะของสาวลุลา พร้อมส่งกำลังใจรัวๆ 
แต่ล่าสุดแอบเห็นเจ้าตัวโพสต์ไอจีแอดมิทเข้ารพ.ด้วยเหตุต่อมทอมซิลอักเสบ เนื่องจากแพ้มลพิษ  ฝุ่นและอากาศ ซึ่งกำลังเข้าการรักษา งานนี้แม้เจ้าตัวจะป่วยก็ยังห่วงเทคแคร์ฝากแฟนๆ ดูแลสุขภาพด้วยสถานการณ์ช่วงนี้พอมีไข้  การเข้ารับการรักษาก็จะยากขึ้นรวมทั้งต้องตรวจโควิด19 ก่อนเพื่อความปลอดภัยกับทุกคน  ยังไงฝากแฟนๆ ดูแลสุขภาพเช่นกันด้วยนะจ้า   

 แถมแย้ม...หายดีแล้ว รับรองแฟนๆ ได้ฟังเพลงใหม่เร็วนี้ๆ กันแน่นอนจร้าาาา...

กระเบื้องลายไม้วู้ดเวกัส เพิ่มเติมความหมาย ให้พื้นที่ว่าง เป็นที่สุดของการพักผ่อนจากโสสุโก้

โสสุโก้ (SOSUCO) กระเบื้องเซรามิค ที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกสไตล์ที่แตกต่าง โดยบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ชวนเติมเต็มพื้นที่ว่างภายนอกบ้าน ให้เป็นพื้นที่สุดพิเศษสำหรับการพักผ่อน ด้วยกระเบื้องลายไม้วู้ด เวกัส ซีรี่ย์ (Wood Vegas Series) ที่ให้สัมผัสถึงลายไม้เสมือนจริงของไม้ธรรมชาติ พร้อมเพิ่มความพิเศษบนผิวหน้าด้วยสตาร์ เอฟเฟกต์ (Star Effect)  ที่ให้ประกายระยิบระยับยามรับกับแสงแดดหรือแสงไฟในยามค่ำคืน ทั้งยังสะดวกในการดูแลรักษา ไม่มีการยืดหดตัว  ปลอดภัยจากปลวก หรือแมลงกัดแทะ  พร้อมเฉดสีให้เลือกถึง 2 สี คือ สีน้ำตาลและสีเทา  

เพียงเท่านี้ ก็เติมเต็มความหมายให้พื้นที่ว่าง เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับการพักผ่อน หรือมุมโปรด ลับเฉพาะคนรู้ใจ กับการเลือกใช้วัสดุที่ใช่ ขึ้นมาอีกมุมหนึ่งแล้ว  ท่านที่สนใจสามารถเลือกชมกระเบื้องที่สามารถใช้ตกแต่งบ้านสไตล์บ้านกลางสวนเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sosuco.com/  หรือ https://www.facebook.com/sosucothailand/   

สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าใกล้บ้าน หรือ ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ที่ http://www.sosuco.com/dealer.php เพื่อความสมบูรณ์แบบในการปูกระเบื้อง ขอแนะนำ

กาวซิเมนต์โสสุโก้ปูง่าย แห้งเร็ว เกาะแน่ ยึดติดนาน
http://www.sosuco.com/protail.php?mat=FAP991000140

Thanasiri ส่งต่อน้ำใจ จากครอบครัว...สู่ชุมชน

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ (ที่3จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)(THANA), บริษัท อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทในเครือ ร่วมส่งต่อน้ำใจจากครอบครัว...สู่ชุมชน สนับสนุนสินค้าเกษตรไทย สั่งเมล่อนออร์แกนิก ส่งตรงจากฟาร์มคุณภาพ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมกันส่งกำลังใจให้ชุมชนเข้มแข็งและปลอดภัยไปด้วยกันตอกย้ำนโยบาย 3 เรื่องหลัก คือ Quality of Family Life, Environment Care และ Social Sharing ของบริษัทฯ   
    





เพื่อให้เกิดความความยั่งยืนทั้งทางด้านคุณภาพชีวิต , เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และร่วมกันส่งเสริมโอกาสให้ชุมชนและสังคมต่อไป

30 สิงหาคม 2564

พม. ดึงภาคีเครือข่ายร่วมแถลง “ผนึกกำลังสร้างวิถีใหม่ เพื่อเด็กและเยาวชนไทย” ป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก


วันนี้ (30 ส.ค. 64) เวลา 10.30 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในการแถลงข่าว “ผนึกกำลังสร้างวิถีใหม่ เพื่อเด็กและเยาวชนไทย” ณ ห้องประชุม ชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถนนกรุงเกษม สะพานขาว กทม.

นายจุติ กล่าวว่า ปัจจุบันโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัยอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง รวมทั้งปัญหากลุ่มเด็กเร่ร่อนหรือกลุ่มเด็กเปราะบางที่เดินขอเงินหรือขายพวงมาลัยบนท้องถนน ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาความกดดันต่างๆ ในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือพ่อ-แม่ ผู้ปกครอง ในการหารายได้เพื่อจุนเจือครอบครัวทั้งที่เด็กสมัครใจและถูกบังคับ ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความยากจน ทั้งนี้กระทรวง พม. ทำงานเพียงกระทรวงเดียวไม่ได้ เราต้องมีการทำงานแบบบูรณาการกัน 

ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มเยาวชน กลุ่มครอบครัว ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง  ตนทราบถึงปัญหาและได้ผนึกกำลังกันกับหลายกระทรวง  เพื่อเปลี่ยนมิติจากการปราบปราม เป็นมิติของการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง เพื่อสร้างอนาคต สร้างวิถีชีวิตใหม่ ที่สามารถให้กลุ่มต่างๆ เหล่านี้เข้าถึงองค์ความรู้ ช่องทาง วิธีการที่จะสร้างอนาคต และเราจะมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ ผู้ประกอบการสินค้าแปลกๆ ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตเอง ทำเอง ขายเอง ในขณะเดียวกันเราใช้เมตตา โอกาส และความสร้างสรรค์ แต่เรามีกฎหมายตีกรอบว่า ถ้าเกิดมีการใช้ประโยชน์จากเด็กเยาวชนโดยไม่ชอบ ก็ต้องดำเนินการ 








นายจุติ กล่าวด้วยว่า ครอบครัวไหนที่มีความจำเป็นอยากจะประกอบอาชีพ เรามีกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดีอีเอส กระทรวง พม. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่คอยช่วยเหลืออยู่ด้วยความเข้าใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือให้เดินหน้าไปด้วยกัน ขณะนี้เราพยายามเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ และกระทรวง พม. ได้จับมือกับกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ ทั้งนี้ เรายังได้ผนึกกำลังกับสายด่วน ตำรวจ โทร. 191 โดยกระทรวง พม. จะมีเจ้าหน้าที่เพิ่มให้ครบทั้ง 50 เขต คอยดูแลปัญหาเหล่านี้และพัฒนากลุ่มเป้าหมายให้มีความยั่งยืนได้พ้นจากปัญหาที่ประสบอยู่ ในขณะเดียวกันเราให้ทั้งโอกาสและใครก็ตามที่มาใช้โอกาสโดยไม่ชอบก็ต้องจัดการ หากประชาชนเกิดปัญหาสามารถติดต่อ สายด่วน พม. โทร. 1300 หรือสายด่วน ตำรวจ โทร. 191 

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าจะมีเยาวชนที่เข้าใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราได้รับการฝึกจิตวิทยา และเราจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไม่ใช่ที่ปลายเหตุ โดยเราเชื่อว่าถ้าเราทำตรงนี้ได้ เด็กเหล่านี้จะไม่ถูกเอาเปรียบและไม่ถูกหลอกใช้



https://youtu.be/4AiNa9A58fk 

บันทึกหน้าประวัติศาสตร์วงการสื่อฯ สำนักข่าวจีน

“Thailand Headlines” ได้รับการจัดอันดับติด1 ใน3 ให้เป็นสื่อจีนต่างประเทศ
ที่ทรงอิทธิพล โดยรัฐบาลจีน – ยืนอันดับ 1 สื่อจีนยอดนิยมในไทย

จากการประเมินด้วยเทคโนโลยี BIG Data เกี่ยวกับการจัดอันดับสื่อจีนต่างประเทศที่ทรงอิทธิพลทั่วโลก ในช่วงครึ่งปีแรก 2021 โดย (เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564) ใน China News Service และ School of Journalism of Communication University of China ร่วมกันจัดอันดับอิทธิพลสื่อจีนในต่างประเทศทั่วโลก สำนักข่าวออนไลน์ภาษาจีน "Thailand Headlines" และ นิตยสารภาษาจีน"@ManGu" จากบริษัทไทยเจียระไนกรุ๊ป ทั้งคู่ได้รับเลือกเข้าสู่  World Chinese Media ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 สื่อจีนต่างประเทศที่มีอิทธิพล โดย Thailand Headlines ได้รับการจัดอันดับเป็น Top 3 ของสื่อจีนต่างประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุดทั่วโลก และเป็นสื่อจีนอันดับ 1 ในไทย และนิตยสาร“@ManGu” มีผลงานอิทธิพลด้านสื่อโซเชียลกับผลงานการนำเสนอเรื่องราวและไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในไทยได้อย่างครอบคลุมกว่า 10 คอลัมน์ ทั้งแหล่งกิน เที่ยว ช้อปปิ้ง บันเทิง ข่าวสารเหตุการณ์ในประเทศไทยเป็นภาษาจีนให้ชาวจีนได้ติดตาม ได้ถูกจับตาขึ้นมาเป็นอันดับที่ 22 ของโลก


นางสาวหลุ่ย แซ่กั๊ว ประธานกรรมการบริหารใหญ่ บริษัท ไทยเจียระไน กรุ๊ป จำกัด หนึ่งในบุคคลสำคัญด้านสื่อไทย-จีน กล่าวว่า Thailand Headlines ได้รับจัดอันดับสูงสุดของสื่อจีนในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาหลัก รองลงมาจากสื่อหลักของสิงคโปร์ Lianhe Zaobao of Singapore และมาเลเซีย Sinchew Daily เท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 สำนัก ล้วนเป็นบริษัทมหาชนที่มีประวัติยาวนานหลายสิบปี และใช้ภาษาจีนเป็นภาษาหลักมากกว่า 40% ของประชากรทั้งหมด และจากการที่นิตยสาร“@ManGu” ที่ผันตัวมาเป็นสื่อนิตยสาร online เมื่อปลายปีที่แล้ว ผลงานอิทธิพลสื่อโซเชียล ก็ได้จับตาขึ้นมาเป็นอันดับที่ 22 ของโลกด้วย นับเป็นความภาคภูมิใจและกำลังใจให้เราผลิตสื่อต่อไป ทั้งนี้ Thailand Headlines ไม่เพียงแต่เป็นสื่อที่รายงานข่าวเท่านั้น แต่เรายังเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวจีนในไทย เป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือชาวจีนที่ประสบภัยหลายครั้งในไทย เช่น เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ และยังเป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ไทยจีนอีกด้วย

สำนักข่าวภาษาจีน Thailand Headlines ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2013 โดยทำหน้าที่รายงานข่าวเหตุการณ์ในประเทศไทยเป็นภาษาจีนให้ชาวจีนได้ติดตามด้วยการนำเสนอข่าวที่รวดเร็วและตรงประเด็นครอบคลุมแม่นยำ ทำให้สำนักข่าว Thailand Headlines ได้รับรางวัลสื่อที่มีอิทธิพลสูงสุดจากทั่วโลกหลายรางวัล เช่น Top 5 Most Influential Chinese Overseas Medias, Top 8 Most Influential Chinese Overseas Media Websites, Top10 Most Influential Overseas Medias on Chinese Social Media ทั้งนี้ Thailand Headlines มียอดเข้าชมเฉลี่ย 3,000,000 + วิวต่อวัน รวมมียอดวิว ทั้งหมดสูงถึง 6 พันล้านวิว มีผู้ติดตามรวมทุกแพลตฟอร์มกว่า3,000,000 โดยครอบคลุมทั่วทุกแพลตฟอร์มทั้ง WEIBO, WeChatToutiao, Dafeng, Huayu,Twitter, Facebook แพลตฟอร์ม SMS เป็นต้น เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและเรียลไทม์

บริษัท ไทย เจียระไน กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2009 เริ่มต้นจากการทำสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสารแจกฟรีภาษาจีน @ManGu โดยตีพิมพ์ฉบับแรกเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2012 เป็นนิตยสารภาษาจีนรายปักษ์เล่มแรกในไทยนำเสนอข้อมูลแนวไลฟ์สไตล์ที่พักผ่อนแหล่งท่องเที่ยวในไทยเพื่อเป็นช่องทางให้ชาวจีนสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับไทยและเข้าถึงไทยได้มากยิ่งขึ้น จากนั้นในปี 2013 ได้ก่อตั้งสำนักข่าวภาษาจีน Thailand Headlines ซึ่งเป็นสำนักข่าวออนไลน์เจ้าแรกในไทยที่นำเสนอข่าวสารในไทยอย่างครอบคลุมและหลากหลาย และยังเป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือชาวจีนที่ประสบปัญหาในไทยอยู่บ่อยครั้ง 

นอกจากนี้ ไทย เจียระไน กรุ๊ป ยังมีธุรกิจในเครือและแบรนด์อีกหลายแบรนด์เพื่อให้บริษัทเติบโตไปตามแนวโน้มธุรกิจเช่น E-commerce ภายใต้ชื่อบริษัท ไทยวันมอลล์ จำกัด ที่ได้รับการตั้งให้เป็นแพลตฟอร์ม E- commerce แบบ B 2 C จากเครือ Alibaba เป็น E-commerce platform ที่ใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างไทย-จีนและยังได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)  ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ Jiaranai Real Estate เป็นตัวแทนจำหน่ายโครงการคอนโดมิเนียมให้แก่ชาวจีนและให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในไทยให้แก่นักลงทุนชาวจีนด้วยทีมงานมืออาชีพจากจีนธุรกิจ MCN สื่อบันเทิงน้องใหม่ผู้บริหารKOLs และบ่มเพาะ Net Idols ภายใต้ชื่อ Black Gold Entertainment

ติดตามข่าวสาร สำนักข่าว Thailand Headlines ได้ที่ https://www.facebook.com/ThailandHeadlines

Instagram:thailandtgttxw

Twitter:@Thaiheadlines02

WeiBo:@泰国头条新闻

WeChat: 泰国头条新闻

บัตรเครดิตทีทีบี มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มที่โรงพยาบาลชั้นนำรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุดถึง 11,000 บาท

บัตรเครดิตทีทีบี ส่งเสริมให้ลูกค้ามีสุขภาพดี อุ่นใจมากขึ้นเมื่อใช้บริการยังโรงพยาบาลชั้นนำที่ร่วมรายการ รับสิทธิพิเศษคุ้มสุดถึง 3 ต่อ รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุดถึง 11,000 บาท โดยโรงพยาบาลที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพและในเครือ, กรุงเทพคริสเตียน, บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล, BDMS Wellness Center & Royal Life, BNH, บำรุงราษฎร์, เกษมราษฎร์และในเครือ, เวิลด์เมดิคอล, เมดพาร์ค (MEDPARK), นครธน, นนทเวช, เปาโล, พญาไทและในเครือ, พระราม 9, สมิติเวชและในเครือ, สินแพทย์และในเครือ, ศิครินทร์, ไทยนครินทร์, เวชธานี, วิภาวดี และ วิชัยยุทธ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2564

คุ้มที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 6,000 บาท เมื่อมียอดใช้จ่าย 10,000 – 29,999 บาท / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 200 บาท ยอดใช้จ่าย 30,000 – 49,999 บาท / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 700 บาท ยอดใช้จ่าย 50,000 – 99,999 บาท / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 1,200 บาท และยอดใช้จ่าย 100,000 บาท ขึ้นไป / เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 3,000 บาท ลูกค้าสามารถลงทะเบียน SMS พิมพ์ THOS ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026  และสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ttb reserve ไม่ต้องลงทะเบียน

 คุ้มที่ 2 รับเพิ่ม 5,000 บาท สำหรับบัตรเครดิต ttb reserve infinite เมื่อมียอดใช้จ่ายตลอดรายการสะสมครบ 300,000 บาท ขึ้นไป

 คุ้มที่ 3 แลกคะแนนสะสมเท่ายอดใช้จ่าย รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% โดยมียอดใช้บริการครบ 10,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และแลกใช้คะแนนสะสมสูงสุดได้ถึง 100,000 คะแนน / บัญชีบัตรหลัก / ตลอดรายการ รวมทุกโรงพยาบาลที่ร่วมรายการ โดยลูกค้าบัตรเครดิต ttb reserve infinite รับเครดิตเงินคืน 15% บัตรเครดิต ttb reserve signature รับเครดิตเงินคืน 12% ลูกค้าบัตรเครดิตทีทีบี ประเภทที่มีคะแนน รับเครดิตเงินคืน 10% ลงทะเบียน SMS ทุกครั้งที่ร่วมรายการ พิมพ์ PHOS ตามด้วยคะแนนไม่รวมเศษทศนิยม เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ttb contact center 1428

 

#ttbcreditcard #ทีเอ็มบีและธนชาตเปลี่ยนเป็นทีทีบี
#เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น
#TMBThanachart #ttb #MakeREALChange

TikTok จับมือ สสว.ติดอาวุธ SMEไทยเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล


TikTok For Business
ร่วมมือกับ สสว. เดินหน้าติดอาวุธ SME ไทยพร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สามารถเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการลงนาม MOU เพื่อสร้างแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม พร้อมด้วยการเปิดโอกาสให้ SME ได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการพัฒนาความรู้ความเข้าใจในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการพัฒนารูปแบบการโฆษณาและการทำการตลาดออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพ 


นางสาวสิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing ของ TikTok กล่าวว่า นับตั้งแต่การเปิดตัว TikTok For Business เมื่อช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา TikTok ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเคียงข้างธุรกิจทุกขนาดรวมถึงธุรกิจ SME เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ธุรกิจ SME สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในการทำธุรกิจด้วยโซลูชั่นการตลาดดิจิทัลที่ตอบโจทย์อย่างครบวงจร และล่าสุด TikTok For Business ได้ยกระดับการขับเคลื่อนธุรกิจ SME ในประเทศไทยไปอีกขั้น ด้วยการร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ SME ไทยให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะการทำการตลาดดิจิทัลรูปแบบวิดีโอสั้นบน TikTok ให้มีความโดดเด่น ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ได้พัฒนาองค์ความรู้ในการประกอบธุรกิจ อาทิ การทำการตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok การสร้างโฆษณาวิดีโอสั้นเพื่อแนะนำแบรนด์และสินค้าได้อย่างน่าจดจำ การเพิ่มทราฟฟิคจากแพลตฟอร์ม TikTok ไปสู่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น 

“จากความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสให้กับ SME ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการเติบโตธุรกิจบนแพลตฟอร์ม TikTok อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ SME ได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะและพัฒนาองค์ความรู้ในหลายๆ ด้าน อาทิ กิจกรรมที่จะส่งเสริมให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ รวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับ TikTok For Business เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการพัฒนารูปแบบการโฆษณาและการทำการตลาดออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด” นางสาวสิรินิธิ์ กล่าวเพิ่มเติม 

สำหรับประโยชน์ของสมาชิกของ สสว. ที่จะได้รับคือ การเสริมทักษะทางด้านการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลผ่านคอร์สสัมมนาการเรียนรู้เกี่ยวกับ TikTok For Business ใน 3 ด้าน ดังนี้

1.     Grow with TikTok: เติบโตธุรกิจกับ TikTok ขั้นพื้นฐาน เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการทำโฆษณาบน TikTok เบื้องต้น และผู้ที่สนใจเริ่มลงโฆษณาบน TikTok

2.  Creative 101: เคล็ดลับสร้างงานครีเอทีฟบน TikTok เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเข้าใจพื้นฐานบางส่วนเกี่ยวกับการลงโฆษณาบน TikTok แล้ว หรือผู้ที่ผ่านการเรียนรู้ในหัวข้อ Grow with TikTok รวมถึงผู้ที่สนใจลงโฆษณาหรือต้องการสร้างงานครีเอทีฟงานโฆษณาบน TikTok

3.     Start with TikTok: สร้างแคมเปญโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพบน TikTok คอร์สนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเข้าใจพื้นฐานบางส่วนเกี่ยวกับการลงโฆษณาบน TikTok แล้ว หรือผู้ที่ผ่านการเรียนรู้ในหัวข้อ Grow with TikTok และต้องการเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการลงโฆษณาบน TikTok รวมถึงผู้ที่กำลังเริ่มต้นหรืออยู่ระหว่างการลงโฆษณา TikTok แต่ต้องการความรู้เพิ่มเติม 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของเศรษฐกิจของประเทศไทยในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ Thailand 4.0 โดยมีหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างจริงจัง อันจะทําให้ทุกภาคเศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ทันโลกและสามารถแข่งขันในโลกสมัยใหม่ได้ ซึ่งธุรกิจ SME ถือเป็นหน่วยธุรกิจที่สำคัญของประเทศและจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมในเรื่องดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยเฉพาะการตลาดดิจิทัลที่ถือเป็นอาวุธสำเร็จของธุรกิจในปัจจุบัน และสอดคล้องกับการสนับสนุนผู้ประกอบการของ สสว. ที่มุ่งเน้น 1. เพิ่มผลิตภาพ และลดต้นทุน 2. เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในรูปแบบ Online และ Offline 3. เชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ทั้งผ่านกองทุน สสว. และเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกันระหว่าง สสว. และ TikTok ในครั้งนี้ เพื่อติดอาวุธ SME ไทยในด้านการทำตลาดดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งความสร้างสรรค์และผลลัพธ์ทางธุรกิจบนแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงอย่าง TikTok เพื่อให้ SME ไทยสามารถก้าวข้ามขีดจำกัด สร้างโอกาสทางธุรกิจ สู่เป้าหมายเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

นอกจากนี้ SME ยังจะได้รับความรู้และการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของ สสว. รวมถึงโอกาสในการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีประโยชน์และส่งเสริมต่อการประกอบธุรกิจที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานพันธมิตรอีกด้วย

“ความร่วมมือระหว่าง TikTok For Business และ สสว.ในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยสร้างการเติบโตในช่องทางออนไลน์และก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการดิจิทัล
ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพในทุกสถานการณ์เศรษฐกิจ ด้วยโซลูชั่นการตลาดดิจิทัลที่ตอบโจทย์ครบวงจรสำหรับธุรกิจทุกขนาด ที่มีเครื่องมือต่างๆ Creative Tools ทำให้การสร้างสรรค์โฆษณาบนแพลตฟอร์ม TikTok เป็นเรื่องง่ายที่ธุรกิจทุกขนาดสามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งยังช่วยก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ ของธุรกิจ SME โดยเฉพาะงบประมาณการสร้างงานโฆษณาที่จำกัด โดย TikTok For Business จะเป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่จะช่วยสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจ SME ได้เติบโตอย่างยั่งยืน” ผอ.สสว. กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TikTok For Business
สามารถติดตามได้ที่ https://www.tiktok.com/business/th

บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง

DMT มอบเงินสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์แก่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง โดย ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจและการเงิน (คนที่ 2 จากขวา) และ คุณอัจฉรา   เจริญพร  ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และสื่อสารองค์กร (คนที่ 1 จากขวา)  มอบเงินจากการจัดกิจกรรมโครงการ ทุกเวลาคือการให้ ซึ่งมาจากการร่วมบริจาคของผู้ใช้ทางที่ใช้บริการทางยกระดับดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 2564 จำนวน 300,000 บาท เพื่อสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด  และเพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (คนที่  2  จากซ้าย) เป็นผู้รับมอบ


26 สิงหาคม 2564

สสว. ร่วมกับ ม.ศิลปากร ชูสร้างเครือข่ายเอสเอ็มอีไทย กลุ่มดิจิทัล คอนเทนท์ให้เข้มแข็งฝ่าวิกฤตโควิด

 


สสว. ร่วมกับ ม.ศิลปากร เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งชูการสร้างเครือข่ายเอสเอ็มอีไทยกลุ่มดิจิทัล คอนเทนท์ หนึ่งจิ๊กซอร์สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ  จัดกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ Digital Content ภายใต้โครงการสนับสนุนและพัฒนา  คลัสเตอร์ SME ประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3  พร้อมเปิดเวที Business Matching เพื่อนำเสนอผลงานต่อนักลงทุนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการในคลัสเตอร์อื่น รวมทั้งกลุ่มผู้ซื้อและกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ  คาดเกิดการสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมจากกิจกรรมฯ ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทและคาดต่อยอดรายได้ให้กับผู้ประกอบเพิ่มขึ้นอีก

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นการเร่งพัฒนายกระดับเอสเอ็มอีไทย เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างขีดความสามารถทางทำธุรกิจในระดับสากลมาก 

ซึ่งกลุ่มเอสเอ็มอีนับเป็นฐานเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของประเทศที่ทาง สสว. ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดได้จัดกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ Digital Content ภายใต้โครงการสนับสนุนและพัฒนาคลัสเตอร์ SME ประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 

โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการรวมกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มดิจิทัล คอนเทนท์ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอร์สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยฝีมือและผลงานคุณภาพระดับสากลของผู้ประกอบการไทยกลุ่มดิจิทัล คอนเทนท์ทำให้สามารถสร้างเม็ดเงินในอุตสาหกรรมฯ ได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท อ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจและคาดการณ์ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลกับสถาบันไอเอ็มซีมีการคาดการณ์ว่าในปี 2565 มูลค่าอุตสาหกรรม อยู่ที่ 45,094 ล้านบาทและเติบโต 15%  ซึ่งมีการเติบโตทั้งในส่วนแอนิเมชั่น เกมและคาแรคเตอร์

“ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนัก สสว. ได้เล็งเห็นความสำคัญของการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการและใช้แนวคิดในการสนับสนุนและพัฒนาคลัสเตอร์มาเป็นเครื่องมือเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเฉพาะกลุ่ม 

ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกันจำเป็นต้องมีแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาเฉพาะสำหรับเอสเอ็มอีแต่ละกลุ่ม โดยเน้นการกระตุ้นความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เน้นการพัฒนาผู้ประกอบการในคลัสเตอร์ให้มีศักยภาพเพื่อแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการนํานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมไปถึงการพัฒนาช่องทางการตลาดในเชิงรุกผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ พร้อมกับสร้างการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ของไทยให้กับ ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยการพัฒนา Digital Content Cluster และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เข้มแข็ง มุ่งให้เกิดการขยายสัดส่วนมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมของเอสเอ็มอีต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ  ดังนั้นการสร้างกลุ่มหรือคลัสเตอร์ทำให้เกิดความเข้มแข็งและอยู่รอดได้” นายวีระพงศ์ มาลัย กล่าว



ทางด้าน ผศ.ดร. ณัฐพร กาญจนภูมิ คณบดี คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.ศิลปากร กล่าวว่า ม.ศิลปากร เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านศิลปะและการออกแบบ มีนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุน และประสานความร่วมมือด้านงานบริการวิชาการระหว่างหน่วยงาน องค์กร เพื่อถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ระหว่างบุคลากรทางสายวิชาการและสายวิชาชีพ เพื่อให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน  

ซึ่ง ม.ศิลปากร ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและสร้างเครือข่ายดิจิทัลคอนเทนต์ ร่วมกับ สสว. ในกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ Digital Content ครั้งนี้ นับเป็นบทบาทที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งในฐานะภาคการศึกษาที่ผลิตบัณฑิตเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล คอนเทนท์  สำหรับคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เปิดหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาบุคลากรทางด้านดิจิทัล คอนเทนท์มากว่า 17 ปี โดยมีความเชื่อมั่นว่าการสร้างบุคคลากรที่สามารถบูรณาการความรู้ด้านการออกแบบและสร้างสื่อ เทคโนโลยีด้านดิจิทัลและธุรกิจการตลาดผสมผสานเข้าด้วยกันนำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมฯ ได้

สำหรับการจัดกิจกรรมพัฒนาคลัสเตอร์ Digital Content ภายใต้โครงการสนับสนุนและพัฒนาคลัสเตอร์ SME ปี 2564 ถือเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ในการสร้างความร่วมมือของหน่วยงานรัฐสองหน่วยงาน ระหว่าง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กับ มหาวิทยาลัยศิลปากร รวมถึงการไปร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก อาทิ สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT)  สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA)  รวมทั้งพันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ได้นำผลงานของผู้ประกอบการในเครือข่ายดิจิทัลคอนเทนต์ไปต่อยอด ทั้งด้านการผลิต และการจัดจำหน่ายอี-คอมเมิร์ซ 

ทั้งนี้การดำเนินงานจัดกิจกรรมประจำปีนี้เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนและจะมีต่อเนื่องจนถึงกันยายนนี้ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันองค์ความรู้ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบการ 3 เครือข่าย  ประกอบด้วย 1.เครือข่ายผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมการออกแบบและซื้อขายลิขสิทธิ์ และสินค้าตัวละคร (Character Design, Licensing and Merchandising) 2.เครือข่ายผู้ประกอบการด้านการสร้างคอนเทนท์  แอนิเมชั่น การรับผลิตแอนิเมชั่น และให้บริการด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ (Animation IP, Animation & CG Service) และ 3.เครือข่ายผู้ประกอบการด้านภาพกราฟฟิกเคลื่อนไหวและสื่อใหม่ (Motion Graphics and New Media)  

นอกจากนี้กิจกรรมพัฒนา คลัสเตอร์ Digital Content ยังประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ร่วมกันแบบบูรณาการของ 3 คลัสเตอร์ การเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ประกอบการ ส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการไปสู่ตลาดต่างประเทศให้มีโอกาสในการนำเสนอสินค้า เป็นต้น

“กลุ่มคลัสเตอร์ Digital Content จึงเป็นกลุ่มคลัสเตอร์หนึ่งที่ทาง สสว. ให้ความสำคัญและสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในการพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอีและคลัสเตอร์ดิจิทัล คอนเทนท์ให้มีความเข้มแข็งจะต้องอาศัยการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานภาคีต่างๆ หลายหน่วยงาน 

ซึ่งที่ผ่านมากิจกรรมนี้ได้สนับสนุนให้ประกอบการในคลัสเตอร์ดิจิทัล คอนเทนท์ ได้มีเวทีและโอกาสในการนำเสนอผลงานต่อนักลงทุน สื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการในคลัสเตอร์อื่น รวมทั้งกลุ่มผู้ซื้อและกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่กิจกรรม Business Matching ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสามารถกระตุ้นและต่อยอดให้เกิดมูลค่าในอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท” นายวีระพงศ์ มาลัย กล่าวปิดท้าย


 

รฟฟท.เผยผลสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสารแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ประจำปี 2564

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เผยผลสำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ ประจำปี 2564 

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการว่าจ้างบริษัท เยสยูแคน จำกัด
( YES YOU CAN COMPANY LIMITED ) ที่ปรึกษางานวิจัย และการประเมินผล  จัดทำผลสำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ ประจำปี 2564 ซึ่งปรากฏว่าผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจมากโดยจากค่าเฉลี่ยเต็ม 5.00 ผู้โดยสารมีความพึงพอใจด้านต่างๆดังนี้

ความพึงพอใจต่อการใช้บริการอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.26 ,  ความพึงพอใจด้านความปลอดภัยอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.49 , ความพึงพอใจด้านความน่าเชื่อถือของการเดินรถอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.35 , ความพึงพอใจด้านการประชาสัมพันธ์อยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.31 , ความพึงพอใจด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.38 และความพึงพอใจด้านบัตรโดยสารและการตลาดอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 4.24


นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด

การที่ผลสำรวจความพึงพอใจของผู้โดยสารที่มีต่อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ อยู่ในระดับพึงพอใจมากในด้านต่างๆนั้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ดำเนินนโยบาย และมาตรการต่างๆที่เป็นการยกระดับการให้บริการ และการรักษาความปลอดภัยมาโดยตลอด อาทิ การนำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 มาใช้ในการดำเนินงานทั้งการซ่อมบำรุง และการปฏิบัติการเดินรถ และให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนผ่านการรับรอง ISO 9001 : 2015 ขอบเขต : วิศวกรรมและซ่อมบำรุง และขอบเขต : งานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า จาก BV (Bureau Veritas) , การดำเนินโครงการ Smile Station เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ , การสร้างราวกั้นชานชาลา และแผ่นยางปิดช่องว่างระหว่างชานชาลากับประตูรถไฟฟ้า รวมถึงความเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัย และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่บริษัทเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร , การบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานีทั้งลิฟท์ และบันไดเลื่อนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ, การเพิ่มช่องทางของสื่อประชาสัมพันธ์ให้สามารถเข้าถึงผู้โดยสารมากขึ้น, การมอบสิทธิพิเศษของบัตรโดยสารสมาร์ทพาส และกิจกรรมการตลาด โดยเฉพาะกิจกรรมส่งเสริมการตลาดออนไลน์ ที่ได้ปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งผู้โดยสารให้ความสนใจเป็นจำนวนมากไม่ว่ากิจกรรมวันเด็กออนไลน์ วันตรุษจีนออนไลน์ วันแห่งความรักออนไลน์ และวันสงกรานต์ออนไลน์ เป็นต้น



อีกทั้งการให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ที่พร้อมรับข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ และเรื่องชมเชย ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่มีวันหยุด และ Official Page สะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ให้บริการด้วยความรวดเร็วในช่องทางการสื่อสาร



จุรินทร์ ชูผลสำเร็จ 7 เดือนแรก ส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปโตต่อเนื่อง

 

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นสักขีพยานพิธีประกาศความตกลง ซื้อขายผลไม้ล่วงหน้า (MOP) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์








นายจุรินทร์ กล่าวว่า ผลไม้ไทยถือเป็นสินค้าเป้าหมายสำคัญในการส่งออกเพื่อทำรายได้ให้กับประเทศ 7 เดือนแรกปีนี้ยอดการส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปมีมูลค่าสูงถึง 131,166 ล้านบาทขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.31 และเป้าหมายในปีนี้ทั้งปีตั้งเป้าหมายว่าจะส่งออกผลไม้เพื่อทำรายได้เข้าประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 โดยงานสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกผลไม้เพื่อทำรายได้เข้าประเทศประกอบด้วย 4 งานใหญ่1.กิจกรรมจัดคู่เจรจาทางการค้าออนไลน์ OBM หรือ Online Business Matching 2.กิจกรรมการส่งเสริมการขายการบริโภคผลไม้ในห้างสรรพสินค้าและตลาดสำคัญในต่างประเทศ 3.กิจกรรมการจัด Thai Fruits Golden Months หรือเดือนทองของการบริโภคผลไม้ไทยในประเทศต่างๆ 4.กิจกรรมขายผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆโดยเฉพาะแพลตฟอร์มสำคัญในระดับโลกเช่น bigbasket.com ของอินเดีย Tmall ของจีน เป็นต้น 



รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าต่อว่า ตัวอย่างของความสำเร็จ เช่น การจัด  Thai Fruits Golden Months ในประเทศจีนซึ่งช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาได้จัดไปแล้วใน 8 เมือง ประกอบด้วย  หนานหนิง ไห่หนาน ฉงชิ่ง ชิงต่าว เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ต้าเหลียน และฝอซาน สามารถทำได้ถึง 15,466 ล้านบาท และยังมีแผนงานที่เหลืออีก 5 เมืองคือ  เซี่ยเหมิน หนานชาง คุนหมิง อู่ฮั่น และหนานหนิง ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท รวมแล้วเฉพาะการจัด  Thai Fruits Golden Monthsในจีน 13 เมืองทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท



สำหรับ 1 ใน 4 งานหรือกิจกรรมคือ OBM จับคู่เจรจาทางการค้าซื้อขายผลไม้ เราดำเนินการ 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งการส่งเสริมการจับคู่ซื้อขายผลไม้ของภาคตะวันออกของประเทศไทยมีการจัดกิจกรรมจับคู่ไปแล้วเมื่อวันที่ 24-25 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ส่งออกไทยทั้งสิ้น 39 บริษัทผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 179 บริษัทจาก 37 ประเทศ สามารถเจรจาซื้อขายได้ถือ 392 คู่ 2,276 ล้านบาท ประเทศนำเข้าสำคัญที่จับคู่นำเข้าผลไม้กับไทยประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฮังการี อินเดีย รัสเซียและสหรัฐอเมริกา เป็นต้นโดยผลไม้ Top 5 ที่ได้เจรจาจนประสบความสำเร็จประกอบด้วย ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว สับปะรดและมังคุด

ช่วงต่อมา จับคู่เจรจาซื้อขายผลไม้ในภาคใต้กับภาคเหนือ วันที่ 22-23 กรกฎาคมมีผู้ส่งออกไทย 65 บริษัทผู้นำเข้า 72 บริษัทจาก 20 ประเทศสามารถเจรจาประสบความสำเร็จ 257 คู่ มูลค่า 1,865 ล้านบาท ผู้นำเข้าประกอบด้วยจีน เมียนมา อินเดีย ฮ่องกงและกัมพูชา ผลไม้สำคัญประกอบด้วยมะพร้าว สับปะรด มะม่วง ลำไย 

ในการเจรจาจับคู่ซื้อขายผลไม้ 2 ครั้งทั้งภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคเหนือสามารถทำยอดได้ถึง 4,141 ล้านบาท และกิจกรรมในวันนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการเจรจาทั้ง 2 ครั้งโดยมีการประกาศการจับคู่ที่กำหนดการส่งมอบที่เป็นรูปธรรมแล้วจำนวน 21 คู่ เป็นเงินซื้อขายจริงที่จะชำระ 2,394 ล้านบาทคือความตกลงซื้อขายผลไม้ส่งออก หรือ Memorandum of Purchasing : MOP เป็นผู้ส่งออกของไทย 21 บริษัทผู้นำเข้า 21 บริษัทจาก 16 ประเทศประกอบด้วยอินเดีย ลาว เมียนมา สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สเปน เกาหลี ไต้หวัน อินโดนีเซีย อาร์เจนตินา กัมพูชา ยูเออีและมาเลเซีย ผลไม้สำคัญประกอบด้วย ทุเรียน มะม่วง ลำไย มังคุดและมะพร้าว เป็นต้น

"และขอมอบนโยบายพาณิชย์จังหวัด และ ทูตพาณิชย์ ที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์วันนี้ช่วยเจรจาจับคู่เพื่อระบายผลไม้ที่ยังเหลืออยู่ในขณะนี้โดยเฉพาะลำไยภาคเหนือและลองกองที่กำลังจะออกตามมา จับคู่กันระหว่างเซลล์แมนจังหวัด และขอให้ทีมเซลล์แมนประเทศประจำสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมให้เร่งหาตลาดระบายพลไม้เพิ่มเติม และให้วางแผนล่วงหน้าเชิงรุก ให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดกับทีมเซลล์แมนประเทศประสานงานกัน ทางไทยให้เตรียมการผลิตผลไม้คุณภาพและทีมเซลล์แมนในต่างประเทศให้นำออกไปขายให้ทั่วถึง คือนอกจากจังหวัดต่อจังหวัดแล้วยังให้เป็นภารกิจจังหวัดกับโลกต่อไปด้วย" นายจุรินทร์ กล่าว

จุรินทร์ ชูผลสำเร็จ 7 เดือนแรก ส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปโตต่อเนื่อง

25 สิงหาคม 2564

กรมการค้าต่างประเทศจัดสัมมนาออนไลน์ หนุนผู้ส่งออกไทยใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจ

 

     กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เชิญชวนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME)  ผู้ส่งออก ผู้ผลิต และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมสัมมมนาออนไลน์ ภายใต้โครงการขยายการค้าการลงทุนสู่สากล ในเรื่อง “BOOST ธุรกิจ...ด้วยสิทธิประโยชน์ทางการค้า” ตั้งเป้าเสริม สร้าง ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางการค้าไปใช้เป็นประโยชน์ เพื่อสร้างโอกาส ขยายธุรกิจเพิ่ม ขีดความสามารถ ในการแข่งขัน และช่วย ลดต้นทุนธุรกิจ 

     โดยสัมมนาออนไลน์ผ่านระบบซูมซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 กันยายน ระหว่างเวลา 08.30-12.00 น.กรมการค้าต่างประเทศได้ขนทัพ วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิมากด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์โดยตรง ในประเด็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า การรับรอง ถิ่นกำเนิด สินค้าด้วยตนเอง (Self-Certification) และให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Form D

ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมการสัมมนา สามารถลงทะเบียนและติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2254-6891-9 ต่อ 10 หรือโทร. 087 978 5409

23 สิงหาคม 2564

ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์ที่รังสรรค์ด้วยความประณีตจากโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต

โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ร่วมฉลองอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วย ”ขนมไหว้พระจันทร์” หลากรสชาติที่เชฟรังสรรค์อย่างประณีตทุกชิ้นและ
เปี่ยมล้นไปด้วยความหมายอันเป็นสิริมงคล สร้างความประทับใจให้แก่ทั้งผู้ให้และผู้รับ จากห้องอาหาร
จีนโกลเด้น วิลเลจ ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 30 กันยายน 2564

ฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ด้วยขนมไหว้พระจันทร์ที่ทางโรงแรมคัดสรรเลือกวัตถุดิบอย่างดี สื่อถึงความหมายอันเป็นมงคลทั้งตัวไส้ขนมและบรรจุภัณฑ์สีแดง-ทอง ที่สื่อถึงความโชคดี ความสุขและมงคล ให้คุณได้ส่งความปรารถนาดีผ่านขนมไหว้พระจันทร์ “ไส้เม็ดบัว”: สัญลักษณ์ของจิตใจบริสุทธิ์ อายุที่ยืนยาว เกียรติยศ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และสงบสุข ”ไส้งาดำ”: สุดยอดราชันแห่งธัญพืช สัญลักษณ์ที่

สื่อถึงความมีอำนาจ ความสง่างาม “ไส้โหงวยิ้ง”: ธัญพืช 5 ชนิดอันเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ “ไส้ทุเรียน”: ราชาแห่งผลไม้สีเหลืองดั่งทองคำ ที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ในตัวเอง ความฉลาดหลักแหลม และความเข้มแข็ง และ “ไส้คัสตาร์ด” อุดมไปด้วยโปรตีนจากไข่ นม และครีมคุณภาพดี ที่ช่วยสื่อถึงการเจริญเติบโต 

ขนมไหว้พระจันทร์พร้อมเสิร์ฟระหว่างวันที่ 1 – 30 กันยายน 2564 ที่เลอ กูร์เม่ต์ ชั้นล็อบบี้ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต สิทธิพิเศษสำหรับท่านที่สั่งจองและชำระเงินภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 รับส่วนลดเพิ่ม 10% จากราคาปกติ* 

(สิทธิพิเศษนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิพิเศษอื่นๆได้)

ขนมไหว้พระจันทร์ ขนาด 4 ลูกใหญ่ ราคา 699 บาท

ขนมไหว้พระจันทร์ ขนาด 8 ลูกเล็ก ราคา 699 บาท

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งจองได้ที่ LINE: @NovotelairportBKK
หรือโทร 02-131-1111 ต่อ 1590 

อีเมลล์ legourmet@novotelairportbkk.com

ฟู้ด ฟอร์ ไฟเตอร์ ยังคงเดินหน้าต่อช่วยผู้ป่วยโควิดที่พักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation)

ล่าสุดธนาคารออมสิน ส่งไรเดอร์มาช่วยส่งข้าวกล่อง ยาและถุงยังชีพ


ฟู้ด ฟอร์ ไฟเตอร์ แรงดีไม่มีถอยยังคงเดินหน้าแคมเปญ “ข้าวแสนกล่อง” เพื่อมอบให้แก่บุคคลากรทางการแพทย์ยังโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามต่างๆทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงศูนย์ฉีดวัคซีน อาทิ ศูนย์ฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และชุมชนต่างๆ แม้ว่าข้าวกล่องที่ได้รับจะมียอดทะลุ 500,000 กล่องเข้าไปแล้วนับตั้งแต่เปิดศูนย์ข้าวเพื่อหมอ  ณ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา



ล่าสุดวันนี้( 23สิงหาคม 2564) โครงการ “ออมสินห่วงใยส่งกำลังใจให้สังคม " ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมช่วยเหลือสังคมและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยธนาคาร ออมสิน  นำอาหารปรุงสุกจำนวน  200 กล่อง  พร้อมน้ำดื่ม 1,200 ขวด มอบให้แก่ฟู้ด ฟอร์ ไฟเตอร์ ณ ศูนย์ข้าวเพื่อหมอ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังจัดทีมไรเดอร์ จิตอาสา  เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจส่งอาหาร ยา สมุนไพรสดให้แก่ผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้านและอาหารกล่องปรุงสุกให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เป็นระยะเวลา 1-2 เดือนต่อจากนี้ หรือจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้กำลังใจนักสู้ทุกคนในสังเวียนโควิดให้รอดจากวิกฤติโควิด-19นี้ไปด้วยกัน 

#ข้าวแสนกล่อง  #ออมสินห่วงใยส่งกำลังใจให้สังคม
#chulaalumni #supportfarmerssupportfighters #foodforfigthersth #covid-19


ไมซ์ไทยรวมใจสร้างชาติ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บเตรียมจัดงาน “ไมซ์ไทยรวมใจสร้างชาติ”ในรูปแบบออนไลน์ (Virtual Meeting) วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 14.00 – 16.30 น.เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความตระหนักถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ การสร้างความรู้ความเข้าใจถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจไทย และทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในอนาคต รวมถึงความพร้อมของไมซ์ซิตี้ศูนย์กลางภูมิภาคต่อ
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 

กิจกรรมหลักภายในงาน ประกอบด้วย การกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทยกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ” โดยนายวิโรจน์ นรารักษ์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและ การบรรยายในหัวข้อ “ทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ ปี 2565” โดย นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)หรือ ทีเส็บ

นอกจากนี้ยังมีการเสวนาพิเศษในหัวข้อ “ไมซ์ไทยรวมใจสร้างชาติ” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมแสดงความพร้อมของไมซ์ไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ได้แก่ นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม ทีเส็บ, นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี, นายอนุชา มีเกียรติชัยกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถรับชมผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ที่
 Facebook MICE in Thailand และช่อง Youtube:Business Event Thailand




SKANHUB แจกกล่อง“Care for You”สำหรับผู้ป่วยโควิด Home Isolation จำนวน 1000 ชุด


SKANHUB แอพพลิเคชั่นในไลน์มิติใหม่แห่งการสะสมยอดเพื่อแลกรับของรางวัลสะดวก ง่าย และเข้า
ถึงทุกคน

SKANHUBเล็งเห็นถึงปัญหาการแพร่ระบาดของ Covid-19 เราจึงขอส่งต่อความห่วงใยอย่างต่อเนื่องกับแคมเปญCare & Share เฟส2โดยในแคมเปญนี้ เราจะแจกกล่อง “Care for You”จำนวน 1,000 กล่องโดยจะมอบให้กับผู้ป่วย Covid กลุ่มสีเขียว หรือผู้ป่วยที่กักตัวที่บ้าน (Home Isolation) เพื่อเป็นส่วนช่วยในการสังเกตอาการและบรรเทาอาการเบื้องต้น ซึ่งในกล่องนี้ จะประกอบไปด้วย

1. ปรอทวัดไข้

2. เครื่องวัดระดับออกซิเจนปลายนิ้ว

3. ยาน้ำแก้ไอ

4. ยาเม็ดพาราเซตามอล 3 แผง

5. เกลือแร่ชนิดผง 6 ซอง

สำหรับการขอรับสิทธิ์ เพียงลงทะเบียนผ่าน Line Official @skanhub หรือสแกน QR Code เพื่อเพิ่มเพื่อน และทำแบบสอบถามคัดกรองเบื้องต้น โดยเปิดลงทะเบียนแล้ววันนี้ ถึง 30 กันยายน2564

SKANHUBขออยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน เราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

ติดตามข่าวสารแลโปรโมชั่นดีๆ จาก SKANHUB ได้ที่ FACEBOOK PAGE: SKANHUB https://www.facebook.com/skanhub


20 สิงหาคม 2564

ถ้าจะ How to.. ทิ้ง ลองมา Think แบบเซน

กับ5 กระแสอินเซนปรับพื้นที่บ้านให้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ รับวิกฤตโควิด-19

จากผลกระทบจากวิกฤตโควิด 19 ที่ทำให้คนทั้งโลกต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตไปในทุกๆ อย่าง โดยเฉพาะ วิถีการใช้ชีวิตภายใน “ บ้าน”  ที่ต้องกลายมาเป็น พื้นที่ทำงาน และพื้นที่ อยู่อาศัยไปด้วยพร้อมกัน และทำให้หลายคนอาจรู้สึกวุ่นวาย กับการจัดเก็บพื้นที่ ที่มีอยู่แต่เดิม ให้เหมาะสมกับการใช้งานใหม่ 

ถ้าจะ How to.. ทิ้ง ลองมา Think แบบเซน   
สิ่งแรกที่เป็นปัญหาใหญ่ในการปรับพื้นที่ใหม่ ที่เจ้าของบ้านต้องเผชิญก็คือ การจัดเก็บข้าวของภายในบ้าน จากหนังสือ ‘อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป’ ที่เขียนโดย ซะซะกิ ฟุมิโอะ บอกว่า กฎเหล็กของการทำให้ข้าวของน้อยลงก็คือ การทิ้งของที่ไม่ได้ใช้ และทิ้งสิ่งที่คิดว่าคงจะไม่ได้ใช้อีกแล้ว โดยเริ่มต้นด้วย 

การจัดการกับจุดซ่อนสมบัติ ที่อาจจะต้องเผชิญหน้ากับข้าวของมากมาย แต่ให้ลองตั้งสติให้ดี ๆ แล้วค่อยๆ จัดการทีมันออกไปทีละส่วน   ต่อด้วยการทิ้งสิ่งที่เป็นขยะ ไม่ว่าจะเป็น กระป๋องเปล่า กล่องใส่ข้าว โบรชัวร์ หรือแม้แต่ของต่างๆ ที่แช่ทิ้งไว้อยู่ในตู้เย็นและอาจหมดอายุไปแรมปี  ทิ้งสิ่งที่อาจจำเป็นต้องทิ้ง อย่างของที่มีเหลือใช้หรือของที่มีซ้ำกันหลายชิ้น เพราะการที่เรามีของคล้ายๆ กันอยู่หลายชิ้น แถมยังวางไม่เป็นที่ ก็อาจทำให้เราจำไม่ได้ว่า มีของเหล่านี้อยู่ ดังนั้นเพื่อลดจำนวนข้าวของลง ให้ลองทิ้งอันที่ชอบน้อยกว่าไป รวมถึงของที่ไม่ได้ใช้มานานเกิน 1 ปี เพราะนั่นหมายถึงว่า สิ่งนั้นไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ยกเว้นข้าวของที่เตรียมเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินยามเกิดภัยพิบัติต่างๆ หรือของบางอย่าง ที่อาจใช้วิธีบริจาคให้ตามศูนย์รับบริจาค หรือขาย ถ้าตัวเองใช้ไม่ได้หรือไม่ได้ใช้แล้ว   และสุดท้าย หากยังตัดใจไม่ได้ ให้ถ่ายรูปของที่ตัดใจทิ้งไม่ได้เก็บไว้ดู ซึ่งหลายครั้งที่เราตัดสินใจทิ้งไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของราคา แต่เป็นเพราะความทรงจำที่เรามีต่อของเหล่านั้น หากเป็นเช่นนี้ แนะนำให้ลองใช้รูปถ่ายเป็นการเก็บความทรงจำแทนจะดีกว่า เพียงแค่นี้ คุณก็อาจจะได้เห็นพื้นที่ของบ้าน ที่น่าจะปรับนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้เพิ่มขึ้นแล้ว 

ทำไมต้อง  คิดแบบเซน 
การได้อยู่บ้านทำงานนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เรามีเวลาในการใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น    ได้ใช้งานทุกพื้นที่ของบ้านอย่างจริงจังมากขึ้น    หลาย ๆ คนมีเวลาในการตกผลึกความคิดเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนบ้านเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความรื่นรมย์ในการทำงานให้กับตัวเองมากขึ้น   ภายใต้ข้อจำกัดของพื้นที่ ที่ถูกสภาพเศรษฐกิจลิดรอนให้น้อยลงตามโอกาสทางการเงิน ทำให้แนวคิดการแต่งบ้าน แบบเรียบง่าย แต่มากฟังชั่นส์ กลายเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ ที่กำลังเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่  โดยเฉพาะรูปแบบผสมผสานสไตล์โมเดิร์น มินิมอลแบบเซน ที่เน้นความน้อยแต่มากประโยชน์  เรียบง่ายแต่อบอุ่น ด้วยการเน้นสีโทนอ่อน และเพิ่มเติมความเป็นธรรมชาติด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือไม้ประดับเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้พื้นที่พักอาศัย ดูผ่อนคลายสบาย สบาย จากพลังธรรมชาติได้อย่างลงตัว  


คัมพานา ธรรมชาติที่สร้างบรรยากาศ ที่แสนพิเศษได้ไม่รู้จบ  หนี่งในผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิก ภายใต้บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ขอแนะนำ 5  กระแสอินเซน( Zen) ของการปรับพื้นที่บ้าน ให้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติแบบเซน  ไปพร้อมกับกระเบื้องปูพื้นลายไม้ดีไซน์ต่าง ๆ จาก ซี่รี่ย์ เดอะฟอเรส คอลเลคชั่น  มาร่วมสร้างบรรยากาศภายในบ้าน ให้ผ่อนคลาย เพื่อช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงาน พร้อมพักผ่อนให้รื่นรมย์ด้วยธรรมชาติใกล้ ๆตัว ในแบบของเซน มาฝากกัน เริ่มต้นกันที่


สร้างความใกล้ชิดธรรมชาติ
ด้วยวิถีของเซน ที่ให้ความเคารพธรรมชาติ เราจึงมักจะเห็นความผูกพันของการใช้ไม้ เป็นวัสดุตกแต่ง หรือเลือกใช้วัสดุเลียนแบบไม้ธรรมชาติ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ที่มีหน้าโต๊ะเป็นไม้  ตลอดจนของแต่งบ้านกระจุกกระจิก อย่างกระถางต้นไม้จิ๋ว   หรือการวางกระถางต้นไม้ไว้ตามมุมต่างๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยฟอกอากาศแล้ว การเลือกกระเบื้องลายไม้ปูพื้น  เดนทรี สีน้ำตาล https://bit.ly/3iy1qAd   ยังช่วยสร้างบรรยากาศให้ใกล้ชิดธรรมชาติ มากยิ่งขึ้นด้วย  และดีมากขึ้นถ้ามุมของห้อง มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดโอกาสให้แสงแดดอ่อน ๆ ได้ล้อเล่นกับธรรมชาติเล็ก ๆ ของที่พักในยามเช้า ปล่อยให้สายตาได้มองพักผ่อนไปกับสีเขียวของใบไม้ พร้อมช่วยปลุกให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า และตื่นตัวไปกับวันใหม่ของชีวิต ในทุกวัน 

สร้างความผ่อนคลายจากชีวิตประจำวัน
ถ้าจะพูดถึงวิถีแห่งเซน ก็คงจะปฏิเสธ Japanese Living ไปด้วยไม่ได้ คนญี่ปุ่นมีไลฟ์สไตล์ที่ทำงานหนัก ชอบการพักผ่อนที่สงบเงียบ และเป็นส่วนตัว การตกแต่งพื้นที่สำหรับการพักผ่อน จึงเลือกการตกแต่งโดยใช้หลักการคิดแบบเซนที่เน้นความที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ในการตกแต่งโดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ใช้งาน เพื่อให้ความรู้สึกได้ผ่อนคลายด้วยธรรมชาติใกล้ ๆ ตัว กระเบื้องลายไม้เชอร์แมนวู้ด สีน้ำตาล https://bit.ly/3kHDD3g  ที่ตัดรับกับผนังโทนสีอ่อนหรือสีขาว ให้ดูมีมิติ ไม่ให้สว่างมากจนเกินไป  พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามที่จำเป็น เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่ง สะอาดตา  ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากหน้าที่การงานได้เป็นอย่างดี    

เลือกใช้โทนสีอบอุ่น 
เอกลักษณ์การแต่งบ้านสไตล์เซน หรือญี่ปุ่นอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การใช้สีโทนอบอุ่น หรือ แนวเอิร์ธโทน ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3  โทนสี คือ สีน้ำตาลที่มาจากไม้   สีเขียวที่มาจากต้นไม้ และสีเทาที่มาจากหิน   การตกแต่งจะเลือกโทนสีเหล่านี้ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน  และเพิ่มความพิเศษด้วยวัสดุที่มีลูกเล่นของพื้นผิวที่มีเส้นสายลายริ้วของเนื้อไม้ คัมพานาขอแนะนำ  กระเบื้องลายไม้  สวินลี่- ทีค https://bit.ly/3iB4Emr ที่ให้เฉดสีของพื้นไม้ กลมกลืนไปโทนสีธรรมชาติสไตล์เซน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้ ห้องนั่งเล่น หรือห้องสำหรับใช้ทำกิจกรรมภายในครอบครัว  ดูอบอวลด้วยความสดใสจากกลิ่นอายของพลังจากธรรมชาติที่โอบล้อมใกล้ ๆ ตัวแล้ว

ใช้พื้นที่แนวตั้งให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า 
แนวคิดแบบเซน ที่ถูกหล่อหลอม จนดูจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Japanese Living ที่น่าสนใจจนกลายเป็นอัตลักษณ์ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของคนญี่ปุ่น ก็คือความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่เห็นได้ตั้งแต่นอกบ้าน จนถึงการจัดบ้าน การจัดสรรพื้นที่ในบ้านให้สามารถใช้สอยอย่างคุ้มค่า จึงนับเป็นเสน่ห์ อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการใช้พื้นที่ที่มีขนาดเล็กลง ของคนเมืองในปัจจุบัน  พื้นที่แนวตั้งหรือผนังบ้านจึงถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้ด้วยการทำเฟอร์นิเจอร์ติดผนัง หรือ อาจเป็นชั้นต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นที่เก็บของ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เก็บของต่าง ๆ  ทั้งชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่เพื่อการจัดวาง แยกประเภทของให้เป็นระเบียบ  หยิบใช้งานได้ง่าย  เน้นเฟอร์นิเจอร์ใช้พื้นที่น้อย  แต่มากฟังก์ชั่น  และไม่ลืมที่จะสอดแทรกสีเขียว เพื่อเติมเต็มความเป็นธรรมชาติสไตล์เซนเข้าไปด้วย  พร้อมด้วยการนำกระเบื้องลายไม้ลัมเบอร์แลนด์-น้ำตาล  https://bit.ly/3eEJbrF มาเพิ่มเสน่ห์ให้ครัวน่ารัก ๆ แต่มากฟังชั่นส์ ไปด้วยในตัว

เลือกดีไซน์เรียบง่าย ไม่ตกยุค
คนญี่ปุ่นถอดแบบการออกแบบบ้านผ่านการใช้ชีวิตจริงจากกิจวัตรประจำวัน   เราจะพบว่า การตกแต่งห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน จะถูกออกแบบให้สอดรับกับวิถีการใช้งาน ของพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ไม่เว้นแม้แต่ ห้องน้ำ จะเห็นได้ชัดเจนว่า การจัดองค์ประกอบหลักที่น้อยแต่มากประโยชน์ และการเลือกใช้โทนสีอ่อน เรียบง่ายสบายตา ดูจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้ห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น มินิมอลแบบเซนเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ผสมผสานกับการเลือกใช้ กระเบื้องลายไม้ แทร็ก วู้ด - เนื้อ จากคัมพานา https://bit.ly/3iyELDH  ที่โชว์เส้นสายลายไม้ ให้ความรู้สึกสัมผัสถึงความเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติแล้ว ยังช่วยให้ง่ายต่อการดูแลรักษา ทำความสะอาด สอดรับกับวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอลตัวจริง

เสน่ห์ของแนวคิดการแต่งบ้านสไตล์เซนอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การใช้งบประมาณไม่มาก ไม่ยุ่งยาก เพราะความน้อยแต่มากประโยชน์ใช้สอย ช่วยให้พื้นที่พักผ่อน และทำงาน มีความเป็นส่วนตัว เป็นระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการดูแลรักษาด้วยพื้นกระเบื้อง ที่มีพื้นผิวของลวดลายไม้ในดีไซน์และเฉดสีไม้ต่าง ๆ ของคัมพานา ช่วยเข้ามาเติมเต็มบรรยากาศผ่อนคลาย สบายๆ และอบอุ่นไปด้วยกลิ่นอายตะวันออกในแบบเซน   
สำหรับใครที่สนใจสามารถหารายละเอียดสินค้า หรือ เลือกชมลวดลายของกระเบื้องในคอลเลคชั่นต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่  www.campanatiles.com  หรือ  https://www.facebook.com/campanatiles   

สัมผัสพื้นผิวของสินค้าได้ที่ตัวแทนจำหน่ายกระเบื้องคัมพานาทั่วประเทศ  หากต้องการช่างผู้ชำนาญในการติดตั้ง แบบมืออาชีพ นัดหมายสำรวจหน้างานได้ที่ https://ctis.scgceramics.com/cisdemand/ 
หรือ https://www.facebook.com/CTISService/