30 เมษายน 2564

แต้มสีสันให้บ้านสวยสดใส ด้วยกระเบื้องหลากสี ให้ทุกพื้นที่ของบ้าน สนุกในทุกมุมมอง

 

ต้องยอมรับว่า การแต่งบ้านบางครั้ง สภาพอากาศ หรือสถานการณ์ก็มีส่วนผลักดันอารมณ์ และจินตนาการในการตัดสินใจเลือกสี หรือวัสดุอุปกรณ์ในการตกแต่ง มาประกอบกับสไตล์ความชอบของตัวเองอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะข่าวคราวของการแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวน ก็อาจทำให้อารมณ์ ความนึกคิดเคร่งเครียด ขาดสีสัน หรือพลังไปได้ชั่วขณะ 

การตกแต่งบ้าน ให้มีสีสันในบางพื้นที่ เพื่อใช้เป็นมุมผ่อนคลาย พักสายตา หรือเพิ่มเติมพลังอารมณ์ ให้สนุก สดใสไปกับสีสันจาก พื้น หรือผนังบ้านก็นับเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ในบ้านด้วยอีกทางหนึ่ง กระเบื้องโสสุโก้  โดยบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)  ขอแนะนำการใช้ กระเบื้องโทนสีคัลเลอร์ฟูล หลากหลายสไตล์มาเติมแต่งสีสันสดใส ให้กับบ้านในมุมมองต่าง ๆ อาทิ 


1.ระเบียงบ้าน  

จุดรับลมชมวิว ที่หลายๆ ครอบครัวมักใช้เป็นพื้นที่สังสรร หรือพักผ่อนหย่อนใจร่วมกันจนเรียกได้ว่าเป็น แลนด์มาร์คสำคัญอีกมุมหนึ่งของบ้าน  โดยอาจนำกระเบื้องลายอิฐมอญสีส้มแดง ( Wallsina)  มาวางบนพื้นระเบียงที่นอกจากจะสร้างสีสันให้กลมกลืนไปกับอารมณ์นอกบ้านด้วยสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติของอิฐและพื้นผิวกระเบื้องมีมิติร่องลึกของก้อนอิฐมอญแล้ว ยังให้มิติของความสนุกด้วยโทนสีส้ม ที่ลากยาวต่อเนื่องไปบนผนัง พร้อมเติมความสดชื่นด้วยช่อดอกไม้ที่อยู่กลางแผ่นกระเบื้อง ( Wallrose) ลายอิฐมอญอีกชั้นหนึ่ง   และไม่ลืมเพิ่มเติมชุดโซฟาสนามโทนสีอ่อน  สำหรับให้สมาชิกนั่งรับลมชมวิวกับระเบียงสีสันสดใส เพียงแค่นี้ ก็ช่วยให้ความตึงเครียดผ่อนคลาย ได้ไม่ยากเลย 

2, โถงทางเดินในบ้าน

เป็นอีกหนึ่งมุมของบ้านที่สามารถแต่งเติมด้วยโทนสีคัลเลอร์ฟูล  แทนสีเรียบๆ ชืดๆ ที่ดูเหงาๆ เพิ่มความสดใสด้วยกระเบื้องผิวมันลายสวนดอกฟ้า ที่ออกแบบให้มีลวดลายของช่อดอกกุหลาบหลากสีสัน  สามารถนำมาปูต่อดอกต่อลายให้ดูเป็นเหมือนสวนดอกไม้บนพื้นสีฟ้าสด  ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสดชื่น   อาจใช้เก้าอี้เก๋ ๆ สไตล์วินเทจมาวางเพิ่ม ก็ทำให้พื้นที่ดูสวยสดใสไปอีกแบบ

3.มุมนั่งเล่นในสวน

มุมนั่งเล่นในสวนก็เป็นอีกจุดที่ใช้เป็นที่นั่งพักผ่อน จิบกาแฟยามเช้าในมุมเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสวนสวยในบ้านด้วยสีสันที่มากกว่าแค่พื้นหญ้าเขียวด้วย  กระเบื้องลายเขาวงกต  ที่ทำให้พื้นผิว มีมิติร่องลึกของหินหลากสีมาวางเรียงร้อยกับต้นหญ้าและดอกไม้  ในดีไซน์แบบยุโรป ให้ดูโดดเด่นด้วยโทนสีส้มของหินสลับกับหญ้าเขียว ทำให้ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ  เป็นอีกหนึ่งมุมที่ใช้เป็นที่รับแขกและถ่ายรูปมุมสวยได้เมื่อมาเยือน  ข้อสำคัญมีหญ้าที่ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องตัดหญ้า  ทำความสะอาดง่าย

4. ห้องน้ำ  

อากาศร้อนเมื่อไหร่  หลายคนอาจชอบอาบน้ำวันละหลายครั้งเพื่อคลายร้อน  มาเพิ่มความรู้สึกให้สดชื่นสนุกสนานด้วยการเพิ่มสีสันโทนสีคัลเลอร์ฟูล อย่าให้ห้องน้ำถูกจำกัดให้อยู่แต่ในโทนสีขาว หรือโทนสีเรียบ ๆ  เพราะช่วงเวลาอาบน้ำก็เป็น ช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายที่พิเศษสุด อีกหนึ่งกิจกรรมของการวัน เพียงตกแต่งผนังห้องน้ำด้วยกระเบื้องบุผนังลายดอกโรสเบลล่าสีชมพูเล็ก ๆ สลับไปกับลวดลายกราฟฟิกเบา ๆ  ให้อารมณ์ของพื้นผิวผนังดูอ่อนโยน แต่คงความหรูหรา ไม่มากไม่น้อยจนเกินพอดี อาจเพิ่มบรรยากาศของการอาบน้ำสดชื่น ขึ้นอีกนิด ด้วยกลิ่นดอกไม้ที่ชื่นชอบ เพียงแค่นี้ ก็ทำให้อารมณ์สดใส ได้อย่างดี

5. พื้นที่เล่นสำหรับลูกน้อย

บ้านที่มีเด็ก  ควรจัดให้มีพื้นที่เล่นอิสระสำหรับลูกน้อย  ที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาแห่งการเรียนรู้ การตกแต่งพื้นที่จึงเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกใช้โทนสีคัลเลอร์ฟูลบนผนังห้องด้วยกระเบื้องบุผนังลายพิกกี้เบิร์ดมีลวดลายสีสันของนกน้อยและดอกไม้ทำให้ห้องดูสดใสมากขึ้น  เด็กๆ จะรู้สึกสนุกสนานกับลวดลายผนังรอบห้อง ของเล่นไม่ว่าจะเป็นตัวต่อ ม้าโยก ล้วนแต่เป็นการช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรงขึ้น   
ยังเป็การต่อยอดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ๆ   


             

การเลือกใช้กระเบื้องโทนสีสัน แนวคัลเลอร์ฟูลมาใช้ตกแต่งพื้นที่ต่าง ๆ  ภายในบ้านแบบนี้ นอกจากจะช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ ในวันที่เคร่งเครียด เหนี่อยล้า หรือบรรเทาความร้อนทางอารมณ์ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนนี้ ให้สดชื่นแจ่มใส คึกคัก ไปได้ด้วยแล้ว   เราอาจเพิ่มเติมสีสัน ให้กับพื้นที่ใช้งานอื่น ๆ สดใสได้ด้วยการใช้เลือกใช้หมอนอิง  จานชาม   แก้วน้ำ แจกันดอกไม้หลากสี  รวมไปถึงเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเอง  ทั้งหมดนี้ ก็ล้วนช่วยเติมเต็มให้เกิดความสนุกสนาน  ร่าเริง    ลดความรู้สึกร้อนแรงของอากาศร้อนไปได้เยอะเลยพร้อมเติมแบตเตอรี่ ให้พลังชีวิต เป็นอย่างดี   

สำหรับท่านที่สนใจดูสินค้าโทนสีคัลเลอร์ฟูลเพิ่มเติมชอบแบบไหน สไตล์ไหนโสสุโก้ก็มีให้เลือกได้ที่  http://www.sosuco.com/ หรือ https://www.facebook.com/sosucothailand/   

สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านทั่วประเทศได้ที่   http://www.sosuco.com/dealer.php

28 เมษายน 2564

ดาวน์นี่ ยกระดับประสบการณ์ความหอมแนะนำ คอลเลคชั่นน้ำหอม ใหม่!

เผยเสน่ห์แห่งความหอม สุดตราตรึงใจ พร้อมแพคเกจจิ้งโฉมใหม่ที่โดดเด่น สะดุดตา

26เมษายน 2564ดาวน์นี่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความหอมในตลาดน้ำยาปรับผ้านุ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ดาวน์นี่ คอลเลคชั่นน้ำหอม ที่ได้รับการรังสรรค์ และยกระดับประสบการณ์ความหอม มอบกลิ่นหอมใหม่ที่ดีที่สุดจากดาวน์นี่
เผยเสน่ห์แห่งความหอม สุดตราตรึงใจ ยาวนานตลอดทั้งวัน

ใหม่! ดาวน์นี่ คอลเลคชั่นน้ำหอม ผสาน 2 เทคโนโลยีสุดล้ำจากดาวน์นี่ นำกลิ่นหอมสุดพรีเมี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของดาวน์นี่ ที่ปรุงด้วยหลักการเดียวกับน้ำหอมราคาแพง ผนวกกับ Perfume Pearl เทคโนโลยีไข่มุกน้ำหอม ให้กลิ่นหอมยาวนานตลอดวัน ด้วยการกักเก็บความหอมอันเลอค่าไว้ในขณะที่สวมใส่เสื้อผ้า เมื่อขยับร่างกายระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ หรือการเสียดสีกันระหว่างเนื้อผ้ากับเนื้อผ้า ไข่มุกน้ำหอมจะแตกตัวออกเผยเสน่ห์ความหอมสุดตราตรึงใจ มาพร้อมกับแพคเกจจิ้งโฉมใหม่ที่อัพเกรดให้โดดเด่น สะดุดตามากยิ่งขึ้น 

ดาวน์นี่ คอลเลคชั่นน้ำหอมนำทีมโดยดาวน์นี่ มิส-ทีค น้ำยาปรับผ้านุ่มระดับตำนานที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งตลอดการณ์ของดาวน์นี่ คอลเลคชั่นน้ำหอม รวมถึงดาวน์นี่ แพชชั่น, ดาวน์นี่ แดร์ริ่ง และ ดาวน์นี่ สวีทฮาร์ท มีจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

หาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วไป หรือ
สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่
Shopeehttps://shopee.co.th/collections/705030

27 เมษายน 2564

“ณวัฒน์” เดินเครื่องโครงการ “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา”

ยอมรับตกใจยอดผู้ป่วยที่รอการรักษาอยู่ในที่พักอาศัยจำนวนมาก


เดินเครื่องเต็มกำลังและไม่มีวันถอย ตราบใดที่ประเทศไทยและประชาชนยังต้องเผชิญกับไวรัส โควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นและการช่วยเหลือจากภาครัฐและการรักษายังล่าช้า ทำให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ทนไม่ไหว ตั้งทีมเฉพาะกิจจัดโครงการ  “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” ขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อแต่ยังไม่ได้รับการรักษาและยังไม่ได้รับการดูแล ยืนยันจะช่วยเหลือในการหาสถานที่รักษาพยาบาลมารับผู้ป่วยในเคสหนักให้ทันท่วงที โดยโรงพยาบาลแรกที่ตอบรับคือ โรงพยาบาลปิยะเวท จนสามารถส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้ว 25 ราย ภายในระยะเวลาเพียง 4 วัน นับจากวันที่เปิดโครงการ พร้อมประสานงานกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา ผู้ป่วยทุกคนต้องรักษาฟรี! ณวัฒน์ ยอมรับการทำข้อมูลครั้งนี้ ทำให้ได้ทราบว่า มีผู้ป่วยจำนวนมาก นอนรักษาตัวอยู่ที่ในที่พักอาศัย

ล่าสุด ณวัฒน์ นำทีมนางงามมิสแกรนด์ น้ำ พัชรพร จันทรประดิษฐ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 และ ออยล์ จุฑามาส เมฆเสรี รองอันดับ 3 มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 และทีมงานประจำโครงการ เป็นโควิดต้องมีที่รักษา จัดแถลงข่าวโครงการ ณ บางกอก ทัวร์ริส เลานจ์ ชั้น 1 โชว์ดีซี พระราม 9 ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 ภายในงานได้รับเกียรติจาก นพ.วิชัย ทวีปวรเดช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลปิยะเวท  ร่วมงานแถลงข่าว โดย ณวัฒน์ เปิดภาพวีดีอาร์ที่แสดงให้เห็นถึงจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่รอการรักษาอยู่ที่บ้านเป็นจำนวนมาก เพื่อแสดงให้ผู้สื่อข่าวและผู้ชมที่กำลังชมผ่านทางยูทูป ช่อง GRAND TV และ Facebook : Miss Grand  Thailand ได้ทราบไปพร้อมกัน  โดย ณวัฒน์ เผยว่า 

ผมเปิดโครงการ เป็นโควิดต้องมีที่รักษา มาเพียง 4 วัน โดยให้ญาติหรือผู้ติดเชื้อ โควิด 19 แจ้งเข้ามาทางไลน์ @missgrand ซึ่งผมได้จัดเตรียมทีมงานเอาไว้นับ 10 คน เพื่อรองรับและสอบถาม ทำให้ได้ทราบยอดผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับการเหลียวแล และติดต่อกลับจากโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก มีหลายเคสหนัก ผมก็รีบประสานงานกับโรงพยาบาลปิยะเวท และอีกหลายๆโรงพยาบาล จนได้ส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วน ซึ่งการจัดทำโครงการนี้ มีหลายคนว่าผมอยากดัง ผมไม่ได้อยากดัง เพราะผมพอมีชื่อเสียงมานับสิบปีแล้ว แต่นี่อยากช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราเป็นคนๆนึง ที่ไม่อาจทนเห็นใครสูญเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการเหลียวแล รักษา ได้หรอก ถ้าใครได้ดูคลิปคุณยายคนนึงยกมือไหว้อ้อนวอนขอให้โรงพยาบาลมารับไปรักษา แต่กลับไม่ได้รับการรักษา สุดท้ายเขาก็เสียชีวิตคาบ้าน ซึ่งเรื่องนี้เราจะหวังพึ่งรัฐบาล หรือกระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียวคงไม่ได้ ตอนเห็นการสูญเสียผมรู้สึกเศร้าใจ นี่คือผลลัพธ์ของการรักษาที่ไม่เสมอภาคเป็นสิ่งที่บอบช้ำในจิตใจคนมากนะ ผมดูคลิปก็น้ำตาคลอ ทำไมเค้าต้องตาย  สุดท้ายผมก็คิดว่าช่างมันเถอะ พูดไปก็เท่านั้น ทำเลยดีกว่าเลยเกิดโครงการ เป็นโควิดต้องมีที่รักษา ขึ้นมา

หลักเกณฑ์การคัดเลือกเข้าโครงการ ข้อ 1 ต้องผ่านการตรวจและมีผลจากโรงพยาบาลว่าเป็นโควิด19 ข้อ 2 ยังไม่มีใครยอมมารับไปรักษาโดยยังคาอยู่ในที่พักอาศัย หากมีคุณสมบัติตามนี้และต้องการความช่วยเหลือ ให้แอดไลน์ @missgrand จะมีเจ้าหน้าที่โครงการติดต่อกลับ โดยหนึ่งในนั้นคือทีมนางงาม มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 อาทิ น้ำ พัชรพร จันทรประดิษฐ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 ออยล์ จุฑามาศ เมฆเสรี รองอันดับ 3 มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 ทุกคนได้ผ่านการอบรมโดยโรงพยาบาลเกี่ยวกับวิธีสอบถามข้อมูลและการคัดกรองเบื้องต้น เพื่อส่งข้อมูลให้กับโรงพยาบาลต่างๆต่อไป ผมดีใจนะที่ตอนนี้เราสามารถหาสถานรักษาพยาบาลให้กับผู้ป่วยได้แล้ว 25 คน จาก 80 คน ส่วนเคสที่ยังรออยู่ ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เพราะนี่คือนาทีชีวิตของทุกคน ผมบอกตรงนี้เลยว่าโรงพยาบาลมีเตียงนะครับ มากน้อยผมไม่รู้หรอก แต่ผมหาได้ตลอดแล้วส่งผู้ป่วยไปรักษา  อีกอย่างไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเลย ค่าใช้จ่ายเป็นศูนย์จนกว่าคุณจะหาย แต่ความช่วยเหลือของผมนั้น อาจจะไม่ทั่วถึงได้มากเท่าที่ใจผมอยากทำ แต่ผมทำเต็มที่ คนที่ยังมีอาการน้อยๆหรือมีประกันต่างๆรีบจัดการดูแลและช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นกันก่อนเลย ทุกเคสประกันเขารับผิดชอบคุณหมด เราต้องช่วยกันให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้นะครับ สุดท้ายผมขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่ผมไปรบกวน ทีมคุณหมอ ทีมพยาบาล โรงพยาบาลปิยะเวท  โรงพยาบาลกลาง ที่ให้ความช่วยเหลือ ขอบคุณ  พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ ท่ามกลางความวุ่นวายของทุกคนท่านก็ใส่ใจให้กำลังใจ เคสหนักมากท่านก็จะช่วยเหลือ สำหรับโครงการนี้ผมคงทำไปเรื่อยๆจนกว่ารัฐบาลจะผ่อนปรนหรือจะทำให้อะไรมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ แต่ผมคิดว่าหากโครงการนี้อยู่นาน แสดงว่าการรักษายังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง แต่ผมคาดหวังว่าโครงการจะคงอยู่ไม่นาน เพราะผมอยากเห็นมาตรฐานในการช่วยเหลือชีวิตของผู้คนที่ติดโควิด 19 มากที่สุดครับ


เอสซีจี เซรามิกส์ แถลงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 ยอดขายกำไรพุ่ง

เรียนรู้ปรับตัวพร้อมรับมือโควิดระลอกใหม่ ช่องทางขายหลากหลายมั่นใจยังเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มได้ไม่สะดุด

 นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) เปิดเผยถึงงบการเงินรวมก่อนสอบทาน ของ COTTO ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 2,806 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทมีกำไรสำหรับงวด 187 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น  และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 

 “ปัจจัยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ มีผลทำให้ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศสูงขึ้นและทำให้สินค้าจากจีนรวมทั้งกระเบื้องเซรามิกนำเข้ามีราคาสูงขึ้นมาก ผู้ประกอบการภายในประเทศโดยเฉพาะโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างจึงเลือกที่จะสต็อกสินค้าที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯมีแหล่งนำเข้าสินค้ากระเบื้องเซรามิกจากหลากหลายประเทศทำให้สินค้ากระเบื้องเซรามิกนำเข้าของบริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น จึงได้รับความไว้วางใจและได้รับการสนับสนุนในฐานะผู้ผลิตและผู้นำเข้ากระเบื้องเซรามิกรายใหญ่ลำดับต้น ของประเทศ ขณะที่บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง ทั้งในฐานะที่เป็นลูกค้าและเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญของบริษัทฯด้วย มีผลทำให้ยอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ จากการที่ภาครัฐหนุนให้โครงการของรัฐจัดซื้อจัดจ้างจากพัสดุในประเทศมากขึ้นไม่น้อยกว่า 60% ของพัสดุที่ใช้ ยังเป็นผลดีต่อผู้แทนจำหน่ายคู่ค้าสำคัญซึ่งเป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่มีฐานลูกค้างานภาครัฐและภาคเอกชนรายใหญ่ด้วย” นายนำพล กล่าว

 สำหรับการดำเนินงานที่สำคัญในระยะสั้นภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกเมษายน ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ นายนำพล เปิดเผยว่า การที่ทางภาครัฐได้มีการประกาศใช้นโยบายต่าง ๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดในประเทศมีผลกระทบกับผู้บริโภคโดยทั่วไปและบริษัทฯ ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีความพร้อมและได้เตรียมการรับมือแล้ว โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 1 ปี ได้มีการเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอด จึงมั่นใจว่าจะสามารถผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างราบรื่น

 ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจในจุดแข็งเรื่องช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย ร่วมกับประสบการณ์ในการบริหารจัดการช่องทางจัดจำหน่ายแต่ละรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ไม่ว่าจะเป็นร้านผู้แทนจำหน่าย ร้านโมเดิร์นเทรด คลังเซรามิค COTTO Life ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งแต่ละช่องทางต่างมีจุดเด่นที่จะตอบสนองความต้องการและเข้าถึงลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างทั่วถึงครอบคลุมและสามารถเติมเต็มการให้บริการครบวงจร คาดว่าจะได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มาก เนื่องจากผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงสินค้าของบริษัทฯ จากหลากหลายช่องทางได้อย่างสะดวกสบายเหมือนภาวะปกติ

 “บริษัทฯ พยายามที่จะหาโอกาสสร้างยอดขายผ่านช่องทางที่หลากหลายและผสมผสานระหว่างหน้าร้านสาขาและช่องทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น ร้านผู้แทนจำหน่าย ร้านค้าปลีก ร้านค้าช่วง โมเดิร์นเทรด และ COTTO Life ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่จะเข้าถึงและซื้อสินค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและลดความกังวลจากการติดเชื้อในสถานการณ์แพร่ระบาดที่เกิดขึ้นขณะนี้ด้วย 

 ในส่วนของหน้าร้าน เช่น คลังเซรามิค เป็นร้านที่มีลักษณะเปิดโล่งในพื้นที่กว้างขวาง โดยมีพื้นที่ของแต่ละสาขามากกว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งลูกค้าสามารถรักษาระยะห่าง Social Distancing ได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ที่สำคัญพนักงานทุกคนได้รับการอบรมเรื่องขั้นตอนการบริการและมาตรการปฏิบัติตนเพื่อดูแลตนเองและลูกค้าให้ปลอดภัยจากโควิด-19  นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มบริการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส  ทั้งการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารหรือคิวอาร์โค้ด ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้นด้วย  ปัจจุบัน “คลังเซรามิค” มีจำนวนทั้งหมด 47 สาขา กระจายอยู่ตามพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยบริษัทฯ ยังคงเร่งขยายสาขาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง”

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานโดยเพิ่มเติมการใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารออนไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า ช่วยให้สามารถบริหารจัดการช่องทางจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 “ล่าสุด บริษัทฯ ได้ทดลองเพิ่มรูปแบบกิจกรรมการขายสินค้าให้กับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายเป็นการสั่งจองและขายสินค้าผ่านการ Live ทางเฟซบุ๊ก ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจมาก ถือเป็นการปรับกระบวนการทำงานภายใน ระหว่างบริษัทและผู้แทนจำหน่ายซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความรวดเร็วและความต่อเนื่องในการติดต่อซื้อขายระหว่างกันในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด” นายนำพล กล่าว 

“คาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะยังคงส่งผลต่อทั้งระบบเศรษฐกิจไปอีกระยะหนึ่ง โดยมีหลายปัจจัยที่ควรเฝ้าระวัง เช่น แนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อ และสภาพคล่องของระบบเศรษฐกิจ โดยมองว่าในปี 2564 คาดว่า
ยังมีการลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์
ซึ่งเป็นที่ต้องการของการอยู่อาศัยจริง และมาจากความต้องการภายในประเทศเป็นหลัก ดังนั้น จะยังคงมีสินค้าที่น่าจะได้รับผลเชิงบวก คือ กลุ่มสินค้าโครงสร้างรวมทั้งกลุ่มสินค้าตกแต่ง เช่น กระเบื้อง สุขภัณฑ์ เชื่อว่าในช่วงสั้น ๆ สถานการณ์ตลาดในประเทศจะยังทรงตัวในลักษณะนี้ต่อไป โดยอาจจะมีปัจจัยหนุน
คือ แนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจของทางภาครัฐ” นายนำพล กล่าวสรุป

26 เมษายน 2564

GIT เปิดเวที! GIT’s World Jewelry Design Awards 2021 ชิงเงินรางวัลกว่า 300,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ

 

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GITชวนนักออกแบบไทย-เทศ ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลงานออกแบบเครื่องประดับ ชิงรางวัล GIT’s World Jewelry Design Awards 2021 ภายใต้แนวคิด Intergeneration Jewelry ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤต Covid 19 ทำให้พฤติกรรมการใช้เครื่องประดับของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ในปีนี้เราได้ออกแบบการประกวดภายใต้แนวคิด 


"Intergeneration Jewelry" - jewelry for every generation เครื่องประดับที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของเจนเนอเรชั่นการหลอมเป็นความคิดและประสบการณ์ของคนในแต่ละเจนเนอร์เรชั่นโดยการนำเสนอคุณค่าความงดงาม ของวัสดุ/วัตถุดิบอันมีค่าที่เลือกใช้ผสมผสานผ่านการนำเสนอแนวคิดในการออกแบบเครื่องประดับเพื่อทุกคน (Design for all

ซึ่งการประกวดครั้งนี้เป็นโจทย์ที่ท้าทายเพราะนักออกแบบรุ่นใหม่จะต้องนำแนวคิดประสบการณ์ ความชื่นชอบเครื่องประดับของผู้คนในทุกช่วงอายุมาหล่อหลอมรวมและรังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องประดับแบบใหม่เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดคนในแต่ละเจเนอเรชั่น 

เราคาดหวังจะได้เห็นผลงานออกแบบใหม่ๆ ที่ฉีกกรอบเดิม และสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเปิดให้นักออกแบบนำวัสดุใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ไม้ พลาสติก เรซิ่น รวมทั้งนวัตกรรมอื่นๆ มาออกแบบตามความเหมาะสม และจะต้องสามารถนำมาพัฒนาเป็นจิวเวลรี่ที่จำหน่ายได้จริง 

โดยเบื้องต้นสถาบันจะตัดสินรอบคัดเลือกแบบวาดและนำแบบวาดที่เข้ารอบสุดท้าย 4 แบบวาด มาผลิตเป็นเครื่องประดับจริงเพื่อนำไปตัดสินอีกครั้ง และประกาศรางวัลผู้ชนะเลิศ พร้อมทั้งแสดงแฟชั่นโชว์ด้วยดารานางแบบชั้นนำ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน 

จากนั้นสถาบันจะนำผลงานการออกครั้งนี้ไปจัดแสดงในงานแสดงสินค้าต่างๆ อาทิ โชว์ในงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ และ งานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2021 เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกของประเทศไทย” (Thailand’s Gems and Jewelry Hub of The World)

การประกวดครั้งนี้มีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท หรือ 10,000 เหรียญสหรัฐ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 4,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัลมูลค่า 3,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 1,500 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ และรางวัลชมเชย

1 รางวัล เงินรางวัล 1,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ โดยจะประกาศผลการตัดสินรอบแรกจากแบบวาดในวันที่ 15 มิถุนายน นี้  

โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลก อาทิ นางสิริพร ภาณุพงศ์ อดีตอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา รองประธานกรรมการ สำนักกฎหมาย Royal Law ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายสุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทบิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด นายชาญชัย เลิศกุลทานนท์
 
รองประธานกรรมการ การผลิตกลุ่มและผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท PANDORA PRODUCTION, ดร.ธัชวิน  สุรเศรษฐ กรรมการผู้จัดการ L.S.Jewelry Group (Lee Seng Jewelry), Prof. Paolo Torriti: Professor at the University of Siena, Italy และ Mr. Saeed Mortazavi Founder & CEO of Mortazavi Design Academy, Iran, Prof. Kwon Ju Han: Professor at College of Art and Design, Faculty of Applied Arts, Republic of Korea


ทั้งนี้นักออกแบบจะต้องส่งแบบวาดไม่จำกัดเทคนิคหรือภาพเขียนจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ตรงกับหัวข้อ จำนวนไม่น้อยกว่า
3 ชิ้นใน 1 ชุดหรือคอลเลคชั่น โดยในคอลเลชั่นนั้นจะต้องมีสร้อยคอเป็นหลัก และเครื่องประดับอื่นๆ เช่น ต่างหู แหวน กำไล เป็นต้น

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2564 ผ่านทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.gitwjda.com หรือส่งผลงานพร้อมใบสมัครทางไปรษณีย์หรือส่งผลงานด้วยตัวเองที่ฝ่ายฝึกอบรม สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน) 140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 3 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายฝึกอบรม โทร. +66 2 634 4999 ต่อ 301-306 และ 311-313
ดูรายละเอียดการรับสมัครได้ที่
www.gitwjda.com 




วิริยะประกันภัย ปิดทำการสาขาสุขสวัสดิ์ และ ระยอง เป็นเวลา 3 วัน ตามมาตรการป้องกัน โควิด-19


บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) แจ้งหยุดทำการสาขาและศูนย์ฯ สุขสวัสดิ์ – ระยอง เป็นเวลา 3 วัน 26-28 เม.ย.64 หลังพบพนักงาน 3 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 พร้อมให้ความมั่นใจลูกค้าผู้เอาประกันภัย ยันไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประกันภัยและสินไหมทดแทน ด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงเครือข่ายเป็นหนึ่งเดียวทุกทิศทั่วไทย

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากกรณีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ บริษัทฯ มีมาตรการการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ตามแนวทางมาตรการป้องกันที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้รับการยืนยันว่ามีพนักงานจำนวน 3 ราย ตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยพนักงาน 1 ราย ปฏิบัติงานอยู่ที่สาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน สุขสวัสดิ์ ตั้งอยู่ที่ 330 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร และพนักงาน 2 ราย ปฏิบัติงานอยู่ที่สาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน ระยอง ตั้งอยู่ที่ 375/28-30 ถนนสุขุมวิท ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

​“บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องให้ สาขาและศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน สุขสวัสดิ์ และ ระยอง หยุดทำการติดต่อและให้บริการแก่ประชาชนเป็นระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 28 เมษายน 2564 เพื่อทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่สำนักงาน รวมถึงแจ้งให้พนักงานที่ปฏิบัติงานภายในสาขา/ศูนย์ฯ ปฏิบัติงานที่บ้าน (Work From Home) และเฝ้าสังเกตอาการแจ้งแก่ผู้บังคับบัญชาทราบ เป็นระยะเวลา 14 วัน อันเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่อทั้งพนักงาน ครอบครัว และผู้มาใช้บริการของบริษัทฯ  ทั้งนี้ บริษัทฯ จะให้พนักงานจากสาขา/ศูนย์ฯ ใกล้เคียงเข้าปฏิบัติงานแทน เพื่อให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปสามารถใช้บริการด้านประกันภัยได้อย่างต่อเนื่อง และให้ได้รับการบริการที่ดีที่สุดจากบริษัทฯ”

​นายสยม กล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะนี้ สาขา/ศูนย์ฯ ในพื้นที่อื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่สำนักงาน รวมถึงเฝ้าระวังติดตามพนักงาน และดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที เมื่อพบว่ามีความเสี่ยงสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดโควิด-19  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผน BCP รองรับสถานการณ์ดังกล่าว โดยพิจารณาให้พนักงานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานด้านบริการให้ปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยของตนเอง


บริษัทฯ ขอยืนยันว่าภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีผลใดๆ ต่อการให้บริการผู้เอาประกันภัย เพราะบริษัทฯ มีมาตรการในการบริหารจัดการการดำเนินงาน และบุคลากรภายในองค์กรให้รองรับต่อการให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพและเป็นธรรมที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอให้ลูกค้าวิริยะประกันภัยเชื่อมั่นได้ว่า กรณีเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ กรมธรรม์ประกันภัยจะยังคงให้ความคุ้มครองตามปกติ ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัย สามารถเลือกใช้บริการตรวจสอบอุบัติเหตุแบบเรียลไทม์ ผ่านบริการ VClaim on VCall ซึ่งสามารถแจ้งการเคลมนัดหมายผ่านบริการดังกล่าวได้ตามวันเวลาที่สะดวก นอกจากนี้หากลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่ประสงค์ใช้บริการด้านประกันภัยและดำเนินการด้านสินไหมทดแทน ยังสามารถใช้บริการสาขา/ศูนย์อื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง และผ่านช่องทาง 1557 ตลอด 24 ชั่วโมงทุกทิศทั่วไทย


 

 

​“บริษัทฯ มีความพร้อมในการดำเนินงานรองรับภาวะฉุกเฉินอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงเครือข่ายเป็นหนึ่งเดียว ทำให้สาขาและศูนย์ฯ ของวิริยะประกันภัยที่ครอบคลุมทั่วไทย กว่า 170 แห่ง สามารถรองรับงานบริการต่างๆ ได้เทียบเท่ากับสำนักงานใหญ่ รวมทั้งบุคลากรกว่า 6,700 คน ที่สามารถเป็นกำลังเสริมตามเครือข่ายของวิริยะประกันภัย โดยรองรับงานธุรกรรมการรับประกันภัยหรืออื่นๆ และการบริการสินไหมทดแทนได้ตลอดเวลา” นายสยมกล่าวในที่สุด

“โอม คณิน”หวั่นใจ!! กลัวคนดูปรับอารมณ์ไม่ทัน

กลัวคนดูปรับอารมณ์ไม่ทันกับบทต่างในละครช่อง 3 มายาเสน่หา - อุบัติร้ายอุบัติรัก

​สาวๆ คนไหนชอบผู้ชายสเปคลูกครึ่งหล่อสุดละมุนมองหน้าแล้วใจสั่น ต้องหันมามองหนุ่มคนนี้ “โอม-คณิน สแตนลีย์” หลายคนอาจจะเคยโดนความน่ารักของเขาทำใจละลายมาแล้ว จากผลงานละครช่อง 3 หลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ซึ่งกำลังมีผลงานละครที่กำลังออนแอร์บนจอช่อง 3 อยู่ถึง 2 เรื่อง คือ ละคร “มายาเสน่หา” และละคร “สะใภ้เจ้าสัว” เรียกได้ว่าทั้งกระแสและเรตติ้งของละครทั้งสองเรื่องกำลังไปได้สวยเลยทีเดียว โดยทั้ง 2 เรื่องนี้มีความแตกต่างกันโดย ละคร “มายาเสน่หา” เป็นสายโรแมนติกดราม่าสุด อินจัดและเรื่องนี้หนุ่ม “โอม คณิน” ก็รับบทเป็น “ภากร” หรือ “กร” หนุ่มหล่อดูดีสายปาร์ตี้ แถมยังเป็นตัวละครสีเทาๆ ที่ทุกคนต้องจับตาดูให้ดี ตัดภาพมาที่ละคร “สะใภ้เจ้าสัว” เรื่องนี้ก็จะโชว์ความฮา ความน่ารักพระนางแบบไร้ขีดจำกัดเลย อีกทั้งเรื่องนี้ “โอม คณิน” ยังได้ขึ้นแท่นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกอีกด้วย ในบทบาท 



“ไตรวิช” ตำรวจหนุ่มรักอิสระไม่ชอบอยู่ภายใต้คำสั่งใครโดยเฉพาะพ่อของเขาเจ้าสัวเทียน เรียกได้ว่าทั้งสองเรื่องหนุ่ม “โอม คณิน” ต้องรับบทบาทคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันสุดขั้ว แถมทั้ง 2 เรื่องยังออนแอร์พร้อมกันอีกด้วย

​งานนี้หนุ่ม “โอม คณิน” เลยขอเปิดใจถึงความรู้สึกว่า “ดีใจและตื่นเต้นที่สองเรื่องออนแอร์พร้อมกัน 

ก็จะได้เห็นเราในรูปแบบที่แตกต่างกัน ภากร เขาก็จะเป็นตัวละครสีเทาๆ ที่มีความรักโลภโกรธหลง และก็เป็นตัวละครที่อาจจะมีอะไรพีคๆ ให้ได้ดูด้วยต้องไปติดตามในละคร มายาเสน่หา ส่วนเรื่อง สะใภ้เจ้าสัว ไตรวิช ก็จะเป็นตัวละครสีขาว เป็นคนน่ารัก ขี้อ้อนหน่อยๆ ครับ” และด้วยความที่ตัวละครแตกต่างกันมาก แถมละครต้องออนแอร์พร้อมกัน หนุ่ม “โอม คณิน” ก็ได้เผยว่า “หวั่นใจนิดๆ เหมือนกัน กลัวว่าแฟนๆ จะปรับอารมณ์ตัวละครไม่ทัน เพราะมันจะมีวันที่ออนแอร์วันเดียวกันคือ วันพุธ-พฤหัสบดี คนก็จะดูเราตอน 1 ทุ่ม และมาดูเราอีกทีตอน 2 ทุ่มครึ่ง ซึ่งแบบตัวละครก็ต่างกัน มายาเสน่หา ก็จะเข้มข้มมาก แต่เรื่อง สะใภ้เจ้าสัว ก็จะสนุกคลายเครียด เอาจริงๆ ทั้งบท ภากร และ ไตรวิช เป็นบทบาทที่ไม่ได้ง่ายเลย และไม่เคยเล่นมาก่อนเลยทั้งสองบท ปกติผมจะเป็นแนวแอบรักเขา แอบไปช่วยเขา สองเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ผมทำการบ้านเยอะมาก ก็เลยอยากให้ทุกคนติดตามกัน เพราะว่ามันสนุกทั้งสองเรื่องเลยทั้ง มายาเสน่หา และ สะใภ้เจ้าสัว ยังก็ฝากละครทั้งสองเรื่องด้วยครับ”

​ใครที่ปลื้มหนุ่มลูกครึ่ง “โอม คณิน” คนนี้อยู่ก็สามารถรับชมผลงานละครของเขากันแบบเต็มอิ่มได้เลยกับละคร “สะใภ้เจ้าสัว” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. และละคร “มายาเสน่หา” ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ CH3Thailand และแอพพลิเคชั่น ‎CH3 Plus

24 เมษายน 2564

กุนเชียงกล่องทิพย์

กุนเชียงนั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารแปรรูปยอดนิยมของคนไทย ยิ่งในยุคโควิด-19 กุนเชียงยิ่งขายดี เพราะสามารถเก็บไว้ในบ้านได้นาน ในช่วงที่คนไม่ค่อยออกไปไหน ที่สำคัญสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น กุนเชียงทอด, ยำกุนเชียง, ข้าวผัดกุนเชียง ,ขนมปังไส้กุนเชียง (สไตล์เวียดนาม) ก๋วยเตี๋ยวหลอด ฯลฯ

อีกทั้งบริโภคครั้งใดก็อร่อย กุนเชียงจึงเป็นสิ่งที่หลายบ้านมีติดตู้เย็นไว้ หิวเมื่อไรก็นำมาประกอบอาหารทานได้ทันที เรียกว่าทั้งอร่อย กลมกล่อม ทานง่าย ทานได้ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งเหมาะกับการดำรงชีวิตอย่างเร่งรีบของคนในยุคปัจจุบัน เพราะมีกระบวนการทำที่รวดเร็ว สุกง่าย ไม่ยุ่งยากในการประกอบอาหารอีกด้วย 

นางฐนิวรรณ กุลมงคล เจ้าของแบรนด์อาหาร “กล่องทิพย์” และอีกบทบาทคือนายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า พร้อมจะนำกุนเชียงหมูภายใต้แบรนด์กล่องทิพย์ลงตลาด โดยเน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพเกรด A ด้วยความร่วมมือกับนายสมพล ถ้ำน้อย เจ้าของบริษัท โชคนิพลหมูป่า ผลิตกุนเชียงหมูที่มีเนื้อหมูในสัดส่วนถึง 95% หวานน้อย ไขมันต่ำ ไม่ผสมแป้ง


นางฐนิวรรณ กุลมงคล เจ้าของแบรนด์อาหาร “กล่องทิพย์”

“ กุนเชียงกล่องทิพย์ เน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพสูง อร่อย ภายใต้ราคาไม่แพง และเราพร้อมแล้วที่จะลงสนามตลาดกุนเชียงที่มีมูลค่าต่อปีสูงถึง 6 พันล้านบาท แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก และหลายรายเป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ แต่เรามั่นใจในคุณภาพสินค้าและช่องทางต่างๆ ที่จะขยายต่อไปในอนาคต”   

ในอนาคตแบรนด์กล่องทิพย์และโรงงาน โชคนิพลหมูป่า พร้อมที่จะนำสินค้าตัวอื่นๆ ลงสนามไปสู่ผู้บริโภคและเจ้าของร้านอาหาร โดยจะเป็นความร่วมมือในการนำนวัตกรรมต่างๆ ที่มี มาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคและร้านอาหารให้มากที่สุด โดยสินค้าตัวต่อไปเช่นหมูชาชู ขาหมูเยอรมัน ขาหมูพะโล้ หมูหัน ลูกชิ้นหมู  ฯลฯ 

ในระยะแรกของการทำตลาดกุนเชียงกล่องทิพย์ จะเน้นการเจาะกลุ่มตลาดร้านอาหาร รวมถึงการเจาะตรงถึงผู้บริโภค ทั้งการขายปลีกและขายผ่านเอเย่นต์ ซึ่งหากสนใจเป็นเอเย่นต์ของกุนเชียงกล่องทิพย์หรือหากร้านอาหารที่สนใจสั่งกุนเชียงเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่สนใจสั่งแบบขายปลีก ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์ 091-119-8875  

ก่อนหน้านี้ แบรนด์กล่องทิพย์สร้างสรรค์อาหารไทยและอาหารกล่อง เพื่อรองรับยุค Dilivery โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจัดทำอาหารกล่องสำหรับงานประชุมสัมมนา รวมถึงสำนักงานต่างๆ ที่ต้องการอาหารไทยชาววังในบรรจุภัณฑ์สวยงาม อร่อย ปรุงสุกใหม่ ในระดับราคาไม่แพง 

กุนเชียงกล่องทิพย์

นางฐนิวรรณในฐานะนายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้มุมมองสำหรับธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารว่า ตั้งแต่เกิดโควิด 19 ระลอกแรกยิ่งตอกย้ำว่า งานวิจัยที่มีบริษัทชั้นนำเคยทำไว้เป็นความจริงว่าในไม่ช้าร้านอาหารจะมีขนาดหน้าร้านเล็กลง ผู้คนจะซื้อของขายของกันทางออนไลน์หรือทางอากาศ ร้านอาหารที่เป็น Fine Dining จึงจะอยู่รอด เพราะค่าแรงจะสูงขึ้น แรงงานจะหายากขึ้น ในที่สุดโควิด19 ซึ่งขณะนี้มาถึงระลอก 3 แล้ว ก็สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจอาหารยุคนี้จำหน่ายกันบนอากาศหรือทางออนไลน์มากจริงๆ และร้านอาหารต้องปรับตัวขนานใหญ่ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจกันต่อไปได้

ก่อนหน้านี้สมาคมภัตตาคารไทยได้เคยเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้เห็นใจผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในเรื่องเวลาเปิดปิดในยุคโควิด 19 เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจฝ่าวิกฤตการณ์โควิดไปได้  ล่าสุดก็ได้รับการตอบรับที่ให้ร้านอาหารสามารถนั่งได้ถึง 21.00 น.

#กุนเชียงกล่องทิพย์

23 เมษายน 2564

“ภูมิใจไทย” ​เลือก“ณิฐ์ภาวรรณย์ แตงเอี่ยม" เป็นตัวแทนพรรคประจำเขต​ 10​ ดอนเมือง

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีการประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรคภูมิใจไทย กรุงเทพมหานครเขตเลือกตั้งที่ 10 ดอนเมือง โดยมี สส.มณฑล โพธิ์คายเป็นประธาน , คุณ สิรวิชญ์ บ่อถ้ำ, คุณณัฐพล จรัสสุริยพงศ์, คุณสมัย โกกเจริญพงศ์ คุณพิชิตชัย รัชตามพร , ดร.จิณณา สืบสายไทย, คุณสำคัญต่อชาติ เอี่ยมอ่ำ, คุณโพสินทร์ มีนธนานันท์และทีมงานภูมิใจไทยกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่กกต. ร่วมสังเกตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย






การประชุมในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำเขตในพื้นที่กทม.ตามกฎหมายกกต.ที่ทุกเขตต้องมีการจัดตั้งตัวแทน  ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีสมาชิกพรรคกว่าสองร้อยคนร่วมกันเลือกตั้งตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ณ ซอยเวฬุวนาราม 36 เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

การเลือกตัวแทนพรรคเขต 10 ดอนเมือง เริ่มขึ้นเวลา 10.00 น. – 11.00 น. เป็นอันเสร็จการนับคะแนนการเลือกตั้งโดยผู้ที่ได้รับการลงคะแนนเป็นอันดับหนึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนพรรคเขต 10 ดอนเมือง

โดยปรากฏว่า นางสาวณิฐ์ภาวรรณย์ (นิกกี้)  แตงเอี่ยม อดีตผู้สมัครสส.เขตดอนเมือง พรรคภูมิใจไทย ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากสมาชิกพรรคที่มาลงคะแนนการเลือกตั้ง ให้เป็นตัวแทนพรรคเขต 10​ ดอนเมือง ประจำกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้การประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรคภูมิใจไทยดังกล่าว จัดขึ้นท่ามกลางความเข้มงวดด้านมาตรฐานความปลอดภัยจากการระบาดโรคโควิด - 19 โดยมีอุปกรณ์วัดอุณหภูมิ การแจกเจลและหน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนที่มาในนามสมาชิกพรรคเกือบสองร้อยคน

อย่างไรก็ตามพบว่า การเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคและร่วมกิจกรรมการจัดตั้งตัวแทนของเขตดอนเมืองในครั้งนี้ เกิดกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น คาดว่าจะมาจากผลงานพรรคภูมิใจไทยที่ผ่านมาสองปี อาทิ เรื่องกัญชาทางการแพทย์ งานด้านสาธารณสุข ทำให้ต่างให้ความสนใจงานทางการเมืองด้านสาธารณสุข อสส.ในเขตกทม.จำนวนมากขึ้น อีกด้วย





ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจร

“ความมุ่งมั่นสรรค์สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง”

ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรแห่งแรกของจังหวัดระยอง “ความมุ่งมั่นสรรค์สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง”

นิยามของคำว่า “ชุมชน” นั้น อาจสื่อได้ถึง ความร่วมแรงร่วมใจ ความสมานฉันท์ ที่ผู้อยู่อาศัยร่วมกันในชุมชนนั้น ได้ช่วยกันบริหารจัดการ เพื่อให้ชุมชนนั้น ๆ เป็นชุมชนที่น่าอยู่ ชุมชนที่เราจะพาทุกคนเดินทางไปค้นหาความหมายเพิ่มเติมกันในวันนี้ เป็นชุมชนเล็ก ๆ ในประเทศของเราแต่ยิ่งใหญ่ หรือเรียกว่าเป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการขยะแห่งแรกของจังหวัดระยองก็ว่าได้ ชุมชนนี้ คือ “ชุมชนวัดชากลูกหญ้า” แล้วอะไรที่ทำให้ชุมชนแห่งนี้พร้อมใจกันหันมาสนใจเรื่องนี้และเริ่มต้นบริหารจัดการขยะ เราไปค้นหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย 

 “ชุมชนวัดชากลูกหญ้า” ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ชุมชนนี้เป็นชุมชนกึ่งเมือง มีปริมาณขยะมูลฝอย ถึงประมาณ 8.2 ตันต่อวัน พี่เปิ้ล นภาพัฒน์ อู่เจริญ ประธานวิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เล่าให้เราฟังว่า “จุดเริ่มต้นของการบริหารจัดการขยะภายในชุมชนเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีก่อน ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในชุมชนมาช่วยกันคิดว่า จะนำขยะที่มีอยู่มาทำอะไรให้เป็นประโยชน์ได้บ้าง ทางเทศบาลจึงได้ส่งชาวบ้านให้ไปศึกษาดูงานหลายๆ ที่ กลับมาจึงได้แนวคิดและตกผลึกออกมาเป็น โครงการธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล โดยคณะกรรมการมีกติกาว่า ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกของโครงการ จะต้องนำขยะมาฝากตามที่กำหนด เพื่อรักษาความเป็นสมาชิกไว้ ส่วนเงินที่ได้จากการเอาขยะมาฝากไว้ ทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เอาไว้ดูแลเรื่องของฌาปณกิจ และจัดสรรในเรื่องของสวัสดิการ ทุนการศึกษา ค่ารักษาพยาบาล โดยขยะที่ได้ทำการคัดแยกจากครัวเรือนมาถึงพี่เปิ้ล มีประมาณ 2.5 ตันต่อเดือน นำเข้าโครงการฯ และจัดการจนทำให้ปริมาณขยะลดลงไป”   



หลังจากนั้น เมื่อโครงการธนาคารคัดแยกขยะฯ ดำเนินการมาได้ระยะเวลาหนึ่ง ประกอบกับทางบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้สร้าง “YOUเทิร์น แพลตฟอร์ม” ซึ่งเป็นระบบจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจรขึ้น ตั้งแต่การรวบรวมและคัดแยกขยะ การขนส่งขยะพลาสติกเข้าสู่ระบบกระบวนการรีไซเคิล และกระบวนการแปรรูปจนได้กลับมาเป็นสินค้าอัพไซคลิง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง ตอบสนองการดำเนินชีวิตของผู้คนและส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการรีไซเคิล รวมถึงสร้างระบบการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืน GC เล็งเห็นว่าแพลตฟอร์มนี้น่าจะมีประโยชน์กับชุมชนแห่งนี้ จึงได้เข้ามาเป็นพลังเสริม ในการช่วยพัฒนาการบริหารจัดการขยะของชุมชนให้ครบวงจร เช่น การบันทึกข้อมูลขยะขาเข้าจากแหล่งต่างๆ การจัดการด้านบัญชีการเงิน ข้อมูลขยะในคลัง จนถึงการจัดการด้านการขายพลาสติก (ประเภท PET และ HDPE) ให้กับโรงงาน ENVICCO ของ GC ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลระดับ Food Grade มาตรฐานยุโรปแห่งแรกของประเทศไทย ช่วยบริหารจัดการด้านการขนส่ง (Logistics) ด้วยการวางแผนการขนส่งให้มีต้นทุนที่ถูกที่สุดอีกด้วย ในที่สุดความร่วมมือระหว่าง วิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า GC และ ENVICCO จึงทำให้ ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะช่วยบริหารจัดการขยะของชุมชนได้ถึง 10 ตันต่อเดือน นับว่าศูนย์ฯ นี้เป็นต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรจากต้นทางถึงปลายทางแห่งแรกในจังหวัดระยอง   

ศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า เป็นศูนย์การเรียนรู้และบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจร โดยดึงการมีส่วนร่วมของคนที่อยู่ในชุมชนมาช่วยกัน และสามารถนำรายได้ส่วนหนึ่งกลับมาสนับสนุนชุมชน เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในชุมชน ในส่วนของชุมชน ก็ช่วยลดปัญหาขยะ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ขยะถูกจัดการอย่างถูกต้อง นำกลับมาเพิ่มคุณค่าได้ ซึ่งข้อดีมาก ๆ ของการเป็นศูนย์การเรียนรู้อีกข้อหนึ่ง คือ จะทำให้คนที่ได้มาเรียนรู้ สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับชุมชนของตัวเอง ถือเป็นการขยายผลการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนที่แท้จริง ซึ่งตรงกับความต้องการของชุมชน 

“พี่อยากให้ศูนย์นี้เป็นศูนย์ที่ให้ชาวบ้านเข้ามาเรียนรู้ เข้ามาเห็นว่า วันนี้ชุมชนกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อเห็นแล้วก็อยากจะให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมมือกับสิ่งที่ชุมชนได้สร้างขึ้นมา ชุมชนวัดชากลูกหญ้าก็ขอฝากถึงพี่น้องชาวระยอง ใครที่มีเคมีตรงกับเรา อยากเดินทางร่วมโครงการนี้ไปกับเรา ท่านสามารถเข้ามาร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ มาช่วยกันสานต่อโครงการนี้ให้ยั่งยืนและแข็งแรง เพื่อสิ่งแวดล้อมของชาวระยอง เราก็จะพยายามสร้างศูนย์ฯ แห่งนี้ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับชุมชน เพื่อน ๆ โดยรอบ นักเรียน เด็กรุ่นใหม่ๆ เพราะว่าอย่างน้อยสิ่งที่ทางผู้ประกอบการ GC , ENVICCO และหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาร่วมมือมาช่วยกัน ก็ทำให้เรามีพลังที่จะทำให้โครงการนี้ยั่งยืนตลอดไป” พี่เปิ้ลกล่าวทิ้งท้ายด้วยแววตามุ่งมั่น

จากที่ได้พูดคุยกับพี่เปิ้ล ประธานวิสาหกิจชุมชน ธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้าในวันนี้ ทำให้เรากลับออกมาจากชุมชนด้วยความอิ่มเอมใจ พลังความมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังของชาวบ้านชุมชนวัดชากลูกหญ้าที่มีทั้งความสำนึกรักบ้านเกิด ความต้องการที่จะเห็นสิ่งแวดล้อมที่ดีเกิดขึ้นในชุมชนของตัวเอง และยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น จนทำให้วันนี้ ชุมชนของพวกเขากลายเป็นชุมชนเข้มแข็ง เป็นต้นแบบของศูนย์การเรียนรู้แห่งแรกที่ครบวงจร สามารถแบ่งปันองค์ความรู้ให้ชุมชนใดก็ตามที่สนใจ นำไปต่อยอดปรับใช้ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน เราหวังว่า ใครก็ตามที่ได้อ่านเรื่องราวในวันนี้คงจะได้รับแรงบันดาลใจไม่มากก็น้อย ในการเริ่มต้นทำสิ่งดี ๆ เพื่อถิ่นที่อยู่ของเรากันนะคะ

#ชุมชนเข้มแข็ง   #เคมีเดียวกันสร้างสรรค์ทุกความสุข   #GCCircularliving  #Chemicalforbetterliving

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับมอบตู้แช่วัคซีนโควิด-19

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับมอบตู้แช่วัคซีนโควิด-19 จำนวน 1 เครื่อง มูลค่ากว่า 9 หมื่นบาท จากนายธนานันต์ สุวรรณโพธิ์รุ่ง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ธนวรรณ เครื่องเย็น จำกัด ผู้ผลิตตู้แช่วัคซีน โควิด-19 พร้อมคณะผู้บริหารบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่ ร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ได้ส่งให้ นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ต่อไป 

นายธนานันต์ สุวรรณโพธิ์รุ่ง ผู้จัดการทั่วไปบริษัท ธนวรรณ เครื่องเย็น จำกัด ผู้ผลิตตู้แช่วัคซีน โควิด-19 เปิดเผยว่า การมอบตู้แช่วัคซีนโควิด-19 ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเก็บรักษาวัคซีน โดยเฉพาะในเดือนหน้าที่จะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้วัคซีนคงประสิทธิภาพมากที่สุด ทางบริษัทจึงมีความประสงค์จะสนับสนุนทีมแพทย์โดยการมอบตู้แช่ที่มีระบบตรวจสอบอุณหภูมิทางไกล หรือระบบ IOT ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ เชื่อว่าการระดมฉีดวัคซีนจะเป็นทางออกที่สำคัญให้กับประชาชนคนไทย ให้มีความเชื่อมั่นในการดำเนินชีวิต ดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัย โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มี GDP เป็นลำดับต้นๆของประเทศ ถ้าสามารถระดมฉีดวัคซีนได้เป็นจำนวนมาก จะทำให้เศรษฐกิจภายในจังหวัดปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจาก อยุธยามีเสาหลักเศรษฐกิจที่ดี 3 ภาค คือ ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เมื่อนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากขึ้นว่าการท่องเที่ยวมีความปลอดภัยก็จะเริ่มมีการท่องเที่ยวมากขึ้น เห็นจากการระบาดรอบแรกที่เมื่อสามารถควบคุมได้แล้ว จังหวัดอยุธยาถือเป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวสูงสุด ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้มีมากขึ้นตามไปด้วย



ด้าน นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวขอบคุณ ผู้บริหารบริษัท ธนวรรณ เครื่องเย็น จำกัด ที่ได้ให้การสนับสนุนตู้แช่วัคซีนโควิด-19 ที่มีระบบตรวจสอบอุณหภูมิทางไกล หรือระบบ IOT ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัด พร้อมทีมบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมในการเก็บรักษาวัคซีนจำนวนมากให้คงประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้ง สนับสนุนการดำเนินการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสร้างความเชื่อมั่นในภาคเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย