23 กันยายน 2564

รมว.สุชาติ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมมอบของที่ระลึกผู้เกษียณฯ

เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 28 ปี กระทรวงแรงงาน 

วันที่ 23 กันยายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีกราบสัก
การะ และถวายพวงมาลัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช พระภูมิชัยมงคล และท้าวมหาพรหมณ์เทวฤทธิ์ และพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงแรงงาน ประจำปี พ.ศ.2564 โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล  ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ บริเวณกระทรวงแรงงาน 


จากนั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบของที่ระลึกสำหรับผู้เกษียณอายุราชการประจำปี พ.ศ. 2564 ณ ห้องจอมพล ป.พิบูลสงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ VDO Conference และ Facebook Live โดย นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 จนถึงปัจจุบัน รวม 28 ปี จากอดีตจนถึงปัจจุบันภารกิจของกระทรวงแรงงานมีการปรับเปลี่ยน และเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กระทรวงแรงงาน ต้องเผชิญกับวิกฤตในหลายๆ ด้าน ทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะภาคแรงงานและสถานประกอบกิจการ  ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายให้กระทรวงแรงงานต้องเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาว
ต่างชาติ รักษาระดับการจ้างงาน พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงาน โดยกระทรวง
แรงงานได้มีมาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาในหลายด้าน ได้แก่ 

1) ด้านการพัฒนาทักษะฝีมือ โดยการ up-skill re-skill และ new-skill เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และตลาดแรงงานในยุค New Normal
2) ด้านการส่งเสริมการมีงานทำ จัดงาน Job Expo Thailand 2020 ล้านงานเพื่อล้านคน เตรียมตำแหน่งงานผ่านแพลตฟอร์มไทยมีงานทำ ส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงานให้เหมาะสม 

3) ด้านคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงาน บริหารจัดการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและใช้ระบบแรงงานสัมพันธ์ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้แรงงาน แก้ไขปัญหาการถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม 4) การดูแลผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคม โดยการจ่ายเงินเยียวยา การลดเงินสมทบ การตรวจโรคโควิด-19
เชิงรุกแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบกิจการ แคมป์คนงาน การฉีดวัคซีนโควิดแก่ผู้ประกันตนในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเศรษฐกิจ การจัดหา Hospitel รองรับผู้ประกันตนที่ป่วยโควิด ดำเนินโครงการ Factory Sandbox เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แรงงานและสร้างความเชื่อมั่น  ในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในภาคการผลิต 



นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เกิดจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานทุกท่าน ที่มุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน ซึ่งถือว่าทุกท่านคือบุคลากรที่มีคุณภาพ และสมควร
ได้รับการยกย่อง เนื่องในโอกาสที่ข้าราชการและลูกจ้างประจำจะเกษียณอายุราชการในปีนี้ ขอชื่นชมและขอบคุณในความทุ่มเท ตั้งใจ ของผู้เกษียณอายุราชการที่ทำให้กับประเทศชาติและกระทรวงแรงงานตลอดระยะเวลาที่ท่านรับราชการ คุณความดีของทุกท่าน ควรค่าแก่การสรรเสริญ สมควรที่จะได้รับการจดจำ และยึดถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รุ่นต่อไปได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน