Lightnet
บริษัทฟินเทค ก่อตั้งโดย คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ หนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเครือเจริญโภคภัณฑ์
(CP) และคุณตฤบดี อรุณานนท์ชัย อดีตนักการเงินและผู้ประกอบการสายเทคโนโลยี
แถลงข่าวเปิด Lightnet อย่างเป็นทางการผ่านการระดมทุนในรอบ Series A มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท นำโดยเครือบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง UOB Venture Management, Seven Bank,
Uni-President Asset Holdings, HashKey Capital, Hopeshine Ventures, Signum
Capital, Du Capital และ Hanwha
Investment and Securities มุ่งเป้าสร้างระบบชำระเงินยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี
Blockchain
คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัทของ Lightnet เปิดเผยว่า Lightnet ก่อตั้งขึ้นเพื่อมาเป็นศูนย์กลางการชำระเงินแห่งใหม่เพื่อให้บริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
ปลอดภัย ต้นทุนต่ำ และรวดเร็วทันใจแก่ประชากรมากกว่า 4 พันล้านคนทั่วทั้งเอเชีย
ผ่านเทคโนโลยี Blockchain บนเครือข่ายระบบปฏิบัติการจากอเมริกาในนาม
Stellar Network ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่จะมาเปลี่ยนโฉมโลกการเงินออนไลน์ในอนาคต
Lightnet ตั้งเป้าที่จะปฏิรูปตลาดการส่งเงินข้ามประเทศ
(Cross-border Remittance Market) ที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ที่เริ่มต้นจากแรงงานข้ามชาติกว่า 11 ล้านคน ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบการเงินของธนาคาร
ทำให้ต้องพึ่งพาการใช้ระบบการเงินแบบเก่าที่มีต้นทุนสูง ทั้งยังกระจัดกระจาย
และล้าสมัยอย่าง SWIFT รวมถึงบริการที่อันตรายอย่างการเงินใต้ดิน
โดยตลาดแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่อยูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบริการเหล่านี้มีมูลค่าสูงถึง
150,000 ล้านดอลลาร์
นับว่าเป็นต้นทุนที่สิ้นเปลืองและรอการเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยีที่ดีกว่าอย่าง Smart
Contract และ Blockchain
คุณตฤบดี อรุณานนท์ชัย
ผู้ก่อตั้งและรองประธานบริษัท Lightnet กล่าวเสริมว่า Lightnet ตั้งเป้าภายใน 3 ปี
จะมีทำธุรกรรมการเงินได้มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท
จากเครือข่ายพันธมิตรของเรา นั่นคือเหตุผลที่เราเน้นย้ำยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้าง Ecosystem
แก่ตลาดท้องถิ่น ในการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้บริการได้อย่างทั่วถึง
กลุ่มนักลงทุนชั้นนำของ Ligthnet นั้นนำโดย UOB Venture Management
and Hanwha Investment and Securities ซึ่งเป็นเครือบริษัทที่ใหญ่และมีอิทธิพลที่สุดในสิงคโปร์และเกาหลีตามลำดับ
รวมถึงบริษัท Seven Bank (TKO: 8410) จากกลุ่มบริษัท Seven
& I Holdings ผู้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ 7-Eleven ทั้งหมดในญี่ปุ่นและร้านสะดวกซื้ออีกประมาณ 69,200 ร้านทั่วโลก,
บริษัท Uni-President Asset Holdings บริษัทด้านลงทุนของ
Uni-President Enterprises Corp., ผู้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ 7-Eleven
และ Starbucks มากกว่า 9,000 สาขาในไต้หวัน จีน และฟิลิปปินส์ รวมถึงบริษัท Hashkey Capital บริษัทด้านลงทุนของเครือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์และการเงินในจีนอย่าง WanXiang
Group
คุณสุวิชชา สุดใจ CEO ของบริษัท Lightnet อธิบายเพิ่มเติมว่า นวัตกรรมของ Lightnet ประกอบไปด้วย 3 นวัตกรรม ได้แก่ BridgeNet,
LiquidNet และ SmartNet โดยตอนนี้โครงข่ายหลักของผลิตภัณฑ์นั้นได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
และคาดว่าจะเปิดบริการ BridgeNet เป็นอันดับแรกในช่วงต้นปี 2563
นี้ ในด้านผู้ใช้บริการ Lightnet
สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกว่า 5 แสนรายจากเครือข่ายตัวแทนผู้ให้บริการ
Lightnet ยังมีแผนที่จะเปิดตัวบนเครือข่ายพันธมิตร อีกหลายประเทศ
อาทิ ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงกลุ่มประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งเป็นระบบการโอนเงินข้ามประเทศและชำระเงินชั้นนำของโลก อย่าง MoneyGram,
Seven Bank, Yeahka และ Ksher ภายในปี 2563
นี้
โดยการระดมทุนรอบนี้ยังทำให้ Lightnet เป็นบริษัทด้าน Blockchain หนึ่งเดียวในเอเชียที่ได้รับเงินทุนจากเครือบริษัทในกลุ่ม Fortune
500 มากถึง 6 บริษัท
และเครือพันธมิตรนี้ยังเป็นช่องทางให้ Lightnet เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่มีความต้องการบริการทางการเงินที่ดีกว่ามากกว่าหลายล้านคนทั่วภูมิภาคอีกด้วย
"Lightnet ได้รวบรวมความพร้อมรอบด้านทั้ง
ทีมนักพัฒนา Blockchain ระดับโลก ความรู้ในตลาดท้องถิ่น
พันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย และ Ecosystem ที่สมบูรณ์
เพื่อที่จะผลักดันเทคโนโลยี Blockchain ให้เกิดการนำมาใช้ในวงกว้าง
และมีเป้าหมายที่จะส่งมอบนวัตกรรมการเงินที่น่าเชื่อถือ
เข้าถึงได้ง่ายให้แก่ทุกคนอย่างแน่นอน คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ กล่าวปิดท้าย