แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ lifestyle แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ lifestyle แสดงบทความทั้งหมด

31 สิงหาคม 2568

ไดมารุ - ซีจีโอ.คอม - สึกิซุเตะ อิงค์ เปิดมุมมองใหม่ธุรกิจไทย–ญี่ปุ่น สร้างพลังการตลาดเชื่อมโลกดิจิทัล


ไดมารุ - ซีจีโอ.คอม - สึกิซุเตะ อิงค์ เปิดมุมมองใหม่ธุรกิจไทย–ญี่ปุ่น ในงานสัมมนา JPOP Marketing Forum 2025 แนะเคล็ดลับใช้วัฒนธรรม JPOP, Gyaru และ Underground Idol สร้างพลังการตลาดเชื่อมโลกดิจิทัลและผู้บริโภครุ่นใหม่

ในงานสัมมนา Japan Pop Culture Marketing Forum in Thailand 2025 ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งภาคธุรกิจ ที่ปรึกษาการตลาด และวงการบันเทิง ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้วัฒนธรรมญี่ปุ่น JPOP และ Sub Culture เป็นเครื่องมือทางการตลาดยุคใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสธุรกิจใหม่ๆ แก่นักธุรกิจและนักการตลาดของไทย

นายหลุยส์ โอคาซากิ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจดิจิทัล บริษัท ไดมารุ มัตสึซากายะ ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์ จำกัด ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงอันดับต้นของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบทบาทในการเชื่อมโยงวัฒนธรรม สินค้า และนวัตกรรมเข้ากับผู้บริโภคญี่ปุ่นและต่างประเทศ กล่าวในงานสัมมนา Japan Pop Culture Marketing Forum in Thailand 2025 เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์เชิงกลยุทธ์ สร้างแรงบันดาลใจ และโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ แก่นักการตลาดไทย ในการผสมผสานวัฒนธรรม JPOP จนเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงอิทธิพลว่า วัฒนธรรม JPOP ไม่ว่าจะเป็น อนิเมะ ศิลปะการแสดง และอินฟลูเอนเซอร์ มีการเติบโตและได้รับความนิยมจนเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจในญี่ปุ่นและขยายไปยังหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ในญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ผู้ค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ต่างมีการใช้การตกแต่ง จัดกิจกรรม และการแสดงที่ใช้วัฒนธรรม JPOP มาเป็นเครื่องมือการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยกลไกที่ทำให้การใช้วัฒนธรรม JPOP ในเชิงการตลาดประสบความสำเร็จ คือ การระดมแฟนคลับเพื่อสร้างความเชื่อมโยงและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการตลาดได้อย่างลึกซึ้งและเป็นระบบ ทั้งนี้การเป็นวัฒนธรรมเปิดของ JPOP ยังมีความยืดหยุ่นสูงทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบฟังก์ชั่นและช่องทางการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม แม้ในกลุ่มเฉพาะอย่าง GenZ หรือ Sub Culture 

ปัจจุบันมีการใช้วัฒนธรรม JPOP เป็นเครื่องมือการสร้างการสื่อสารทั้งในเชิงลึกและกว้างไปพร้อมๆ กัน โดยในเชิงลึก (Depth) เพื่อสร้างคอนเทนต์กับกลุ่มแฟนให้เหนียวแน่น ส่วนในเชิงกว้าง (Breadth) เพื่อกระจายแบบไวรัลช่วยให้เข้าถึงผู้คนได้หลากหลายขึ้น นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาใช้วัฒนธรรม JPOP เฉพาะที่เป็น Sub Culture มากขึ้น อาทิ ไอดอลใต้ดิน (Underground Idol) หรือ สาวแกล (Gyaru culture) รวมถึงยังได้ขยายช่องทางการสื่อสารและพัฒนาธุรกิจที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม JPOP เข้าไปสู่โลกดิจิทัล โซเชียลมีเดีย และเมทาเวิร์ส อีกด้วย ซึ่งนักการตลาดของไทยก็สามารถใช้แนวทางเดียวกันเพื่อเชื่อมโยงวัฒนธรรม JPOP และ Sub Culture เพื่อเป้าหมายทางการตลาด การสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย และโลกดิจิทัลได้ด้วยแนวทางเดียวกัน


ส่วนนางสาวริคาโกะ ทาเคโนะ ผู้ก่อตั้งและประธาน บริษัท ซีจีโอ.คอม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาการพัฒนาองค์กร นวัตกรรม ธุรกิจ การตลาดและการสื่อสาร ด้วยวัฒนธรรม Gyaru กล่าวในงานสัมมนาเดียวกันถึงบทบาทของวัฒนธรรม Gyaru และการเชื่อมโยงต่อยอดสู่ภาคธุรกิจว่า วัฒนธรรมแกล, เกล หรือ เกียวรุ (Gyaru) เริ่มขึ้นในย่านชุบุยะ โตเกียว ในฐานะภาพสะท้อนของการแสดงออกถึงความเป็นปัจเจกที่เข้มแข็ง สมาชิกแกล จะมีลักษณะเด่นด้วยการแต่งหน้าจัดจ้าน ผิวแทน ทำผมสีสว่างสดใส จนปลายทศวรรษ 2010 วัฒนธรรมนี้ได้แพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่นและต่างประเทศ ปัจจุบัน Gyaru ได้รับการยอมรับในความหมายที่ลึกซึ้งกว่ารูปลักษณ์ภายนอก โดยถูกมองว่าเป็น “ทัศนคติและวิถีชีวิต” ที่เป็นอิสระ มีความเชื่อมั่น และคิดบวก 

ดังนั้นวัฒนธรรม Gyaru จึงถูกนำมาเชื่อมโยงกับธุรกิจในหลายลักษณะ ในด้านการพัฒนาองค์กรและการสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน ทัศนคติแบบ Gyaru ช่วยขับเคลื่อนสร้างความเชื่อมั่นในสัญชาตญาณ การคิดบวก ส่งเสริมการแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาและการทำงานเชิงรุก ด้านการสื่อสาร  การสื่อสารสไตล์ Gyaru จะเปิดกว้าง เท่าเทียม และเปิดเผยตนเองมากขึ้น ทำให้เกิดการสนทนาที่สร้างสรรค์ระหว่างคนต่างวัย-ต่างแผนกในองค์กร สำหรับในเชิงการตลาดนั้น วัฒนธรรม Gyaru มีความไวต่อเทรนด์และสะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจน ทำให้สื่อสารออกมาได้อย่างโดดเด่น ทั้งภาพลักษณ์ ภาษา และเข้าถึงง่าย พร้อมทั้งช่วยสื่อสารในเนื้อหาที่ยากหรือเป็นทางการให้น่าสนใจและง่ายขึ้น รวมถึงยังสร้างความสนใจจากสื่อจนเกิดเป็นกระแสไวรัลและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นที่การตลาดแบบเดิมเข้าไม่ถึง ซึ่งการใช้วัฒนธรรม Gyaru เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร ผลิตภัณฑ์ และบริการนั้น ทำได้ทั้งการส่งสมาชิก Gyaru เข้าไปในองค์กร เพื่อเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม (Gyaru-Style Brainstorming) หรือ แปลงไอเดียที่ได้จากเวิร์กช็อปกับสมาชิก Gyaru ให้เป็นผลิตภัณฑ์และธุรกิจจริง (Gyaru-Style Studio) ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีลูกค้ากว่า 100 ราย โดย 90% เป็นบริษัทขนาดใหญ่ อาทิ Mitsubishi Pencil Co., Ltd., Suzuki Motor Corporation, Nissan Motor Co., Ltd., Fujitsu Limited ฯลฯ 

สำหรับวัฒนธรรม Gyaru ในประเทศไทยนั้น แม้จะไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่แฟชั่นวัยรุ่นญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย บนสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง TikTok หรือ แพลตฟอร์มอื่นๆ ก็มีผู้ใช้งานชาวไทยจำนวนมากโพสต์เลียนแบบสไตล์และการแต่งหน้าแบบ Gyaru พร้อมติดแฮชแท็ก #gyaru ซึ่งสร้างการรับรู้ ความสนใจ และเข้าถึงได้มากขึ้น ดังนั้นหากธุรกิจไทยมีการนำวัฒนธรรม Gyaru มาปรับใช้ก็จะช่วยเพิ่มคุณค่าและมูลค่ากับกลุ่มเป้าหมายที่สนใจวัฒนธรรมนี้ได้ทั้งตลาดในประเทศและขยายสู่ตลาดญี่ปุ่นได้อีกด้วย

ด้านนางสาวโนโดกะ ซากุระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สึกิซุเตะ อิงค์ ผู้ให้บริการด้านที่ปรึกษาธุรกิจ การฝึกอบรม และเวิร์กชอป โดยอาศัยทักษะและประสบการณ์จากวงการบันเทิงมาเชื่อมโยงธุรกิจกับกิจกรรมการตลาด การสื่อสาร และการสร้างแบรนด์ โดยธุรกิจหลักของบริษัทฯ ประกอบด้วยการสนับสนุนอาชีพที่สอง (Second-career support) แก่ไอดอล นักแสดง และบุคลากรในวงการบันเทิงที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ การให้คำปรึกษาและพัฒนาธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างความต้องการของวงการบันเทิงและภาคธุรกิจ การจัดเวิร์กช็อปที่นำทักษะของอดีตบุคลากรในวงการบันเทิงมาต่อยอดการเรียนรู้และสร้างคุณค่าใหม่ ซึ่งจุดแข็งสำคัญของบริษัทฯ คือการมีอดีตบุคลากรจากวงการบันเทิงเป็นแกนหลักของทีม ทำให้นำเสนอโซลูชันได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การสนับสนุนศิลปิน การออกแบบโมเดลธุรกิจ ไปจนถึงการนำไปสู่การปฏิบัติจริง ปัจจุบัน สึกิซุเตะ อิงค์ ทำงานร่วมกับกว่า 150 บริษัท ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร และมากกว่า 30 แห่ง ในด้านที่ปรึกษาและการออกแบบธุรกิจ อาทิ บริษัทประกันชีวิตไดอิจิ (Dai-ichi Life Insurance Company) มหาวิทยาลัยเรียวโกกุ (Ryukoku University) และมหาวิทยาลัยคันไซ กากุอิน (Kansai Gakuin University)






ส่วนบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ Underground Idol ด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ ซึ่งต่างจากอินฟลูเอนเซอร์ กระแสหลักที่มีผู้ติดตามจำนวนมากนั้น นางสาวโนโดกะ เผยว่า Underground Idol อาจไม่โดดเด่นในแง่ยอดผู้ติดตาม แต่สร้างการมีส่วนร่วมที่มีคุณภาพและแปลงเป็นผลลัพธ์เชิงธุรกิจ (High-conversion, Experience-based Engagement) ได้จริง ผ่านกิจกรรมอย่างการแสดงสด งานพบปะแฟนคลับ การถ่ายภาพ (Cheki) หรือการทำสินค้า Co-branding ซึ่งประสบการณ์เฉพาะเหล่านี้ช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งกับแฟนๆ และเพิ่มอัตราการแปลงผล (Conversion Rate) ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกับแคมเปญที่เน้นการสื่อสารเชิงประสบการณ์ (Immersive & Memorable Brand Interactions) ส่วนการนำ Underground Idol มาประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การตลาดของไทยนั้น นับเป็นโอกาสในการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ ที่ต้องการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าให้ใกล้ชิดและแนบแน่นขึ้น พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่จริงใจขับเคลื่อนโดยชุมชน ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการแสวงหาหรือสร้างความสัมพันธ์ที่มากกว่าการโฆษณาในรูปแบบเดิมอีกด้วย

สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่คุณนาโอฮิสะ โอคาวะ อีเมล์ naohisa.okawa@jfr.co.jp

28 สิงหาคม 2568

Sheep เปิดตัว คอลเลคชั่น “Sheep x Monchhichi

 ผ่านคอนเซ็ปต์  “Monchhichi in Thailand” พามาสคอตดัง ตะลุยย่านทรงวาด           

 

แบรนด์เคสมือถือแฟชั่นสัญชาติไทย Sheep  สร้างกระแสส่งความน่ารักครั้งใหม่ให้กับตลาดเคสมือถือ ด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Sheep x Monchhichi”    ร่วมงานกับ Monchhichi คาแรกเตอร์ตุ๊กตาสุดไอคอนิกจากประเทศญี่ปุ่น    ที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลก พร้อมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษให้แฟนชาวไทยได้สัมผัสมาสคอต ดังตะลุยย่านทรงวาด        



Sheep”เคสสัญชาติไทยผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของสินค้าและคำนึงถึงภาพลักษณ์การใช้งานของผู้ใช้ ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าไทยจากร้าน AppleSheep แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และไอที  เปิดตัวคอลเลคชั่น  Sheep x Monchhichi  มาเอาใจแฟนด่อม Monchhichi ชาวไทย

นายอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์ (คุณตุ่ย) Founder&CEO บริษัท ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ Sheep เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า   “มีกระแสเรียกร้องมายาวนาน ให้แบรนด์ Sheep ทำเคส ลาย Monchhichi เพราะต้องการพกเคส พาความน่ารัก ไปทุกๆที่ในทุกวันๆ เราถือเป็นอันดับแรกๆเลยก็ว่าได้ ที่ทำเคสคอแลปกับMonchhichi ซึ่งMonchhichiเป็นตุ๊กตาจากญี่ปุ่น เกิดจากฝีมือการสร้างสรรค์ของบริษัท Sekiguchi ประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ใบหน้ากลม ดวงตาโต และเอกลักษณ์การดูดจุกนม สื่อถึงความรัก ความอ่อนโยน และความอบอุ่น  Monchhichiครองใจคนทุกเพศทุกวัยและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั่วโลก                         




สำหรับคอลเลคชั่น Sheep x Monchhichi ได้นำเสน่ห์ของ Monchhichi มาผสมผสานกับความเป็นแแบรนด์ sheep  ผ่านคอนเซ็ปต์ “Monchhichi in Thailand”  ถ่ายทอดภาพความน่ารักของมาสคอตแดนปลาดิบ  ที่ออกเดินทางมาสัมผัสวิถีไทยอย่างเต็มรูปแบบ  โดยSheep ได้พามาสคอต Monchhichi  ที่มีขนาดสูง 160 เซนติเมตร มาพร้อมกับใส่ผ้าพันคอกันเปื้อน ที่มีสัญลักษณ์ Sheep  ตะลุยเที่ยวเมืองไทย กรุงเทพฯ ย่านทรงวาด  ที่ผสมผสานเสน่ห์วัฒนธรรมเก่าแก่และความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถตุ๊กตุ๊ก เดินชมป้ายถนนเก่า และถ่ายภาพกับแลนด์มาร์คที่มีเอกลักษณ์แบบไทย เพื่อสื่อถึงการเชื่อมโยงสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกันการพา Monchhichi มาเที่ยวไทยในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความประทับใจให้แฟนคลับเท่านั้นแต่ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก  โดยบรรยากาศวันที่เราพามาสคอต  Monchhichi ไปเดินที่ถนนทรงวาด มีแฟนคลับให้การต้อนรับกันแน่นอย่างอบอุ่น  หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป แช๊ะภาพ เป็นจำนวนมาก  

สำหรับเคสคอลเลคชั่น Sheep x Monchhichi  ดีไซน์เคสที่สะท้อนความเป็นไทย ถ่ายทอดเรื่องราวสวัสดีม่อนชิชิ “Monchhichi in Thailand” ลงบนเคสมือถือด้วยรายละเอียดที่ใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัวอักษรไทยเขียนคำว่า “ม่อนชิชิ” ป้ายถนนแบบไทย ไปจนถึงภาพกราฟิกที่บอกเล่าไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวในกรุงเทพฯของม่อนชิชิ   พร้อมเทคนิคการ ถ่ายภาพสินค้าจัดองค์ประกอบ ในรูปแบบ3 มิติ เพิ่มให้ตัวคาแรกเตอร์ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

คอลเลคชั่นนี้มีให้เลือก 2 แบบ2 ลายดีไซน์พิเศษ โดยเน้นโทน สีแดง เป็นสีหลัก ออกแบบมาให้รองรับ iPhone รุ่น 11 – 17 และ Samsung Galaxy S23 Ultra – S25 Ultra นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น MagSafe Griptok, MagSafe Wallet, Phone Charm, Mouse Pad รวมถึงเคสสำหรับ iPad   อีกด้วย         



คอลเลคชั่น Sheep x Monchhichi วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่หน้าร้าน Sheep และช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์  ให้แฟน ๆ ได้สะสมและพกพาความน่ารักในทุก ๆ วัน  ที่  Sheep Flagship Store ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และร้านAppleSheep 9 สาขาด้วยกัน  , เซ็นทรัลลาดพร้าว , แฟชั่นไอส์แลนด์ , เซ็นทรัลรามอินทรา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ,เมกา บางนา , ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต 2 แห่ง ,  เซ็นทรัลขอนแก่น ,เซ็นทรัลหาดใหญ่

ติดต่อช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.applesheepth.com, Line: @applesheep, Facebook: AppleSheep
เคส ipadpro มีที่เก็บปากกา, Instagram: applesheepth, Tiktok: applesheepth

23 สิงหาคม 2568

พี่เอก พาชม ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน

ทริปนี้ Wefiethailand พาไปคุยกับ “กิตินันท์ แม้นเลขา” หรือ “พี่เอก” ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน เล่าว่า แม้จะเป็นชมรมเล็ก ๆ แต่ทุกคนก็ตั้งใจที่จะส่งเสริมให้เส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน ต.หินซ้อน อ.แก่งคอย เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว การรวมของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความตั้งใจสร้างสรรค์ ให้พื้นที่แห่งนี้เป็นอีกเป้าหมายแห่งความความเพลิดเพลินใจของเจ้าบ้านและผู้มาเยือน เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน บนพื้นที่ฐานของความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม  





ส้มโอขาว ลูกใหญ่ ทรงสวย หวานฉ่ำ
เริ่มต้นจากสวนส้มโอหลักปลูกในบริเวณบ้าน  ปลูกส้มโอทั้งหมด สามสายพันธุ์  ประมาณ 80 ต้น ส้มโอเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง หากดูแลต้นให้สมบูรณ์จะสามารถให้ผลผลิตต่อเนื่องนาน 20-30 ปี ระยะเก็บเกี่ยวสำหรับบางสายพันธุ์นั้นอยู่ที่ราว 6-8 เดือน หลายคนอยากจะลองปลูกส้มโอติดบ้านกันไว้สักต้น
"ส้มโอ" ปลูกง่าย ทนทาน โตไว และให้ผลผลิตเร็ว เหมาะสำหรับหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยมีปัจจัยสำคัญ คือการเลือกสภาพดิน และการรดน้ำที่เหมาะสม โดยเฉพาะดินเหนียวที่อุดมสมบูรณ์ ดินจะอุ้มน้ำและมีแร่ธาตุเพียงพอ และการให้ปุ๋ยตามช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมการเติบโตและให้ผลผลิตที่ดี









และนี่ถือเป็นแนวคิดการทำสวนส้มโอในแบบ กิตินันท์ แม้นเลขา หรือ “พี่เอก”ที่ผ่านการสังเกต ลองผิดลองถูก พร้อมลงปฏิบัติจริงจนประสบความสำเร็จ ได้ผลิตผลคุณภาพดีรสชาติอร่อย

14 สิงหาคม 2568

ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) เปิด 6 เหตุผลของคนชอบทำอาหาร!


พร้อมเสิร์ฟไอเดีย ‘EASY COOKING BY MEYER’ รับกระแส Home Cooking  ตั้งเป้าสิ้นปี 68 โกยยอดขายเพิ่ม 15%

: MEYER รับกระแส Home Cooking ยังแรงต่อเนื่อง เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องครัวคุณภาพ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

: ตลาดเครื่องครัวไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท 

: คนไทยยุคใหม่อายุ 18 – 45 ปี มีแนวโน้มเข้าครัวทำอาหารเพิ่มขึ้น 10-15% จากหลายปัจจัย

: 6 แรงจูงใจสำคัญ ส่งผลให้ผู้บริโภคสนใจทำอาหาร ได้แก่ สุขภาพ-โภชนาการ, ประหยัดค่าใช้จ่าย, ผ่อนคลายความเครียด, เชื่อมความสัมพันธ์, ได้ความภูมิใจ และ มีตัวช่วยทำอาหารที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

: ตั้งเป้า ‘EASY COOKING BY MEYER’ สร้างยอดขายเพิ่ม 15% ภายในปี 68 แบ่งเป็นในห้างฯ-โชว์รูม 50% และออนไลน์ 50%

ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์เครื่องครัวชั้นนำของโลก เปิดเผยข้อมูล 6 เหตุผลของคนชอบทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน พร้อมเสิร์ฟไอเดีย ‘EASY COOKING BY MEYER’ (อีซี่ คุกกิ้ง บาย ไมย์เออร์) รับกระแส Home Cooking (โฮม คุกกิ้ง) ที่ยังคงแรงต่อเนื่อง ชวนทุกคนร่วมชาเลนจ์สร้างสรรค์เมนูโปรดแบบอีซี่ได้ทุกวัน ด้วยนวัตกรรมเครื่องครัวคุณภาพจากแบรนด์ MEYER (ไมย์เออร์) ได้แก่ MEYER Multipan และ MEYER Easy Cooker ที่มีฟังก์ชั่นครบ ตอบรับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่รักความสะดวกสบาย ให้สนุกกับการทำอาหารและอิ่มอร่อยง่ายๆ อย่างปลอดภัยแบบได้สุขภาพดี ภายใต้แนวคิด If you cook, you’re chef ตั้งเป้าภายสิ้นปี 68 ปิดยอดขายเพิ่ม 15%

นายโจเซฟ โล ผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการ บริษัท ไมย์เออร์ อินดัสตรีส์ จำกัด และ บริษัท ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม Cookware and Bakeware ระดับท็อปของโลก มีศักยภาพความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายแบรนด์เครื่องครัวคุณภาพหลายแบรนด์ชั้นนำมาตฐานระดับสากล ทั้งนี้บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญกับทีม R&D(Research and Development) ด้วยการศึกษาข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน นำมาวิเคราะห์เชิงลึกเป็น Consumer Insight พร้อมวางแผนพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายแบบ Outside-In ครบทุกเจอเนเรชั่นอย่างแท้จริง 



ซึ่งจากการเก็บรวบรวมข้อมูลล่าสุดพบว่า ปัจจุบันคนไทยยุคใหม่อายุระหว่าง 18 – 45 ปี อาศัยอยู่ในคอนโดและบ้านพัก มีแนวโน้มเข้าครัวทำอาหารรับประทานเองเพิ่มขึ้น 10-15% จากปัจจัยบวกด้านการดูแลสุขภาพและรูปร่าง, ภาวะความผลันผวนทางเศรษฐกิจ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ตลอดจนมี 6 เหตุผลหลักที่ทำให้กลุ่มผู้บริโภคสนใจทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน ประกอบไปด้วย 1.ใส่ใจเรื่องสุขภาพและโภชนาการ ได้เลือกวัตถุดิบที่ดี สะอาด สดใหม่ มีคุณภาพ นำมาปรุงอาหารตามต้องการ เพื่อดูแลรูปร่างและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆในอนาคต 2.ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะเมนูยอดนิยมที่มีราคาสูงในร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งสามารถวางแผนเลือกวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมและทำตามได้ง่ายๆในงบประมาณที่จำกัด 3.ผ่อนคลายความตึงเครียด การเข้าครัวทำอาหารต้องโฟกัส อาศัยสมาธิ การเรียนรู้ ความตั้งใจ เป็น       

ส่วนสำคัญช่วยบำบัดสมอง ฟื้นฟูอารมณ์และจิตใจ 4.เชื่อมความสัมพันธ์ ลดอาการเสพติดโซเชียลมีเดีย มีกิจกรรมให้ทำด้วยกัน สร้างความรู้สึกอบอุ่นใกล้ชิดกันมากขึ้นภายในครอบครัว 5.ความภาคภูมิใจที่มากกว่ารสชาติ แม้ว่าจุดเริ่มต้นอาจมีบางครั้งที่ไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่ประสบการณ์จากการได้ลงมือฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะสามารถเอาชนะใจตัวเอง และสร้างความเป็นมืออาชีพได้ในอนาคต 6.ตัวช่วยในการทำอาหาร ปัจจุบันมีนวัตกรรมเครื่องครัวที่สามารถช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องสนุก ง่าย รวดเร็ว ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป อีกทั้งยังมีดีไซน์สวยทันสมัยเหมาะกับทุกเจนทุกไลฟ์สไตล์ เป็นแรงกระตุ้นให้อยากเข้าครัวทำอาหารและแชร์โมเม้นท์แห่งความสุขในโลกโซเชียลมีเดีย

ทั้งนี้ ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) ยังคงเดินหน้าสร้างกระแส Home Cooking ให้ฟีเวอร์ตลอดกาล ด้วยแคมเปญ ‘EASY COOKING BY MEYER’ พร้อมบุกตลาดเครื่องครัวไทยที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ด้วยการส่งต่อแรงบันดาลใจในการเข้าครัว สร้างโมเม้นท์แห่งความสุข สนุก อบอุ่น ให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ได้สุขภาพดี ภายใต้แนวคิด If you cook, you’re chef พร้อมเปิดตัวความอัจฉริยะของนวัตกรรมเครื่องครัวคุณภาพจากแบรนด์ MEYER พร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ 

• MEYER Multipan 6 in 1 มาพร้อมความโดดเด่น การดีไซน์ที่เรียบง่ายเป็นเอกลักษณ์ พร้อมสารเคลือบ

ลื่นกระทะเซรามิค เพิ่มความแข็งแรงทนทานขึ้น 8 เท่า มีฟังก์ชั่น 6 in 1 ตอบโจทย์ทุกเมนูทั้ง ผัด ต้ม แกง ทอด ได้ในกระทะใบเดียว ปลอดภัยสำหรับการปรุงอาหารที่อุณหภูมิร้อนจัด ใช้ได้กับเตาทุกประเภท รวมถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารยุคใหม่ที่อาศัยอยู่ในคอนโดและบ้านพัก

• MEYER Easy Cooker หม้ออัดแรงดันไมโคเวฟ 3-in-1 อเนกประสงค์ สามารถสร้างสรรค์เมนูสุดฮิตผ่าน

ไมโครเวฟ ทั้ง ต้ม ตุ๋น ผัด ได้ครบจบในหม้อเดียวในระยะเวลาเพียง 15 นาที คงความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการ สามารถทนความร้อนได้ถึง 140°C มีระบบระบายแรงดันอัตโนมัติ ปลอดภัย 100% ผ่านมาตรฐาน มอก. และ BPA Free ปลอดสารก่อมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็สามารถทำได้ง่ายๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ฉบับเริ่มต้น รวมไปถึงผู้ที่เร่งรีบมีเวลาจำกัด แต่ยังคงชื่นชอบการทำอาหารที่สะดวกสบายและรวดเร็ว 

โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 15% ภายในสิ้นปี 68 แบ่งเป็นยอดขายในห้างสรรพพสินค้าชั้นนำ-โชว์รูมไมย์เออร์ 50% และช่องทางออนไลน์อื่นๆ อีก 50% อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตั้งงบประมาณกว่า 30% ของเป้าหมายยอดขาย เจาะกลุ่มลูกค้าฐานใหม่ รวมไปถึงรักษาลูกค้ากลุ่มเดิมที่ต้องการอัพเกรดเครื่องครัวที่ตอบโจทย์การใช้งานยิ่งขึ้น โดยวางแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ ตอกย้ำ Branding ทั้ง Mass Media และ Social Media ในทุกช่องทางได้แก่ Facebook : meyercookware, Instagram: meyerthai, Web site : potsandpans.in.th และ Line : @meyercookware นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับพลังการบอกต่อผ่านโซเชียลมีเดีย โดยอาศัย Influencer ที่น่าเชื่อถือเป็นหลักอีกด้วย ทั้งนี้ ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม และยังมุ่งเน้นการผลิตแบบ Net Zero รักษาสิ่งแวดล้อม Reduce GHG emission, Reduce waste to landfill, and Corporate Social Responsibility (CSR) 

สินค้าพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือโชว์รูมไมย์เออร์
แผนที่ https://bit.ly/3A3m4Vk
และง่ายสะดวกสบายในช่องทางออนไลน์ PotsandPans: https://bit.ly/4c7O8E8

Shopee: https://bit.ly/3yiv9ch

: https://bit.ly/4cb2Bzl

TikTok Shop : https://bit.ly/4d4eU1D

#meyerthai

#MeyerCookware

#ไมย์เออร์มายโมเมนต์

10 สิงหาคม 2568

ช.ส.ท. ขอบคุณผู้ประกอบการร่วมสนับสนุน กิจกรรม “สุขทันทีที่เที่ยวอุตรดิตถ์”


ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว นำโดย นางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมฯ ขอบคุณพันธมิตร จาก กองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ในการร่วมสนับสนุนกิจกรรม สุขทันทีที่เที่ยวอุตรดิตถ์ ระหว่างวันที่ 7 – 10 สิงหาคม 2568 เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกแก่ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ และนายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ภูมิภาค ภาคเหนือ ททท. สื่อมวลชนและคณะนักท่องเที่ยววัยเก๋า กว่า 100 คน 


โดยผลิตภัณฑ์คุณภาพจากพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว ได้แก่ 

‎เพียงใจไทยสปา – ผลิตภัณฑ์สปาสมุนไพรแท้ บำรุงผิวพรรณและช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพ

‎วิสาหกิจชุมชนเย็บผ้าเครื่องนอนยางพาราเขาคีริส – เครื่องนอนจากยางพาราธรรมชาติ ปลอดสารเคมี รองรับสรีระดีเยี่ยม ช่วยให้นอนหลับสบาย

‎สเปรย์เย็น “เย็นดี” – เติมความสดชื่น ลดความร้อนและความเมื่อยล้า เหมาะกับอากาศเมืองไทย

‎สเปรย์ฉีดหน้าน้ำกุหลาบ Rose Water Face Mist – เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยผ่อนคลาย

‎น้ำมันหอมระเหยสายมู สูตรแพทย์แผนโบราณระดับพรีเมี่ยม – ผสมผสานสมุนไพรและศาสตร์แพทย์แผนไทย เสริมสิริมงคลและพลังบวก

‎หลวงปู่ทวดแกะสลักจากนิลแท้ จังหวัดกาญจนบุรี – พระเครื่องอันทรงคุณค่า เชื่อว่ามีพลังปกป้องและเสริมดวงชะตา

Artiva ผลิตภัณฑ์งานคราฟต์เครื่องหอมเมืองจันท์ น้ำหอมฉีดกาย Eau de patfum (EDP) กลิ่นนวลจันทร์และตะวันฉาย ขนาด 15 มล.

กระเป๋าหนังวัวแท้ Shop Chic กระเป๋าหนังวัวแท้ Handmade












ทั้งนี้ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นการมอบของที่ระลึกให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม แต่ถือเป็นการแสดงพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และชุมชนท้องถิ่น ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยควบคู่กับการผลักดันสินค้าไทยคุณภาพสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วประเทศ นับเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่ช่วยสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้คึกคักและน่าจดจำยิ่งขึ้น