แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหาร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหาร แสดงบทความทั้งหมด

27 พฤษภาคม 2568

เปิดตัววิทยาลัยอินโชคุจิน สาขาแรก ในประเทศไทย

โรงเรียนสอนทำซูชิแบบเข้มข้นจากญี่ปุ่น ปั้นเชฟซูชิคนไทยสู่เวทีโลก

วิทยาลัยอินโชคุจิน (Insyokujin College) สถาบันจากประเทศญี่ปุ่น เปิดโรงเรียนสอนทำซูชิ แห่งแรกในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการเป็นเชฟซูชิ รองรับความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลักสูตรเน้นการอบรมด้านซูชิ ปลา อาหารทะเล และการออกแบบเมนูในรูปแบบญี่ปุ่น โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนสายงานเข้าสู่อาชีพเชฟ ผู้ที่สนใจในสายอาชีพอาหาร และเจ้าของกิจการร้านอาหารที่ต้องการเรียนรู้ทักษะการทำซูชิแบบมืออาชีพภายในระยะเวลาอันสั้น


โซอิจิ โยโกยามะ ประธานกรรมการบริหาร วิทยาลัยอินโชคุจิน กล่าวว่า “จากการศึกษาตลาด พบว่าในประเทศไทยตลาดร้านอาหาร โรงแรม และซูเปอร์มาเก็ตมีความต้องบุคลากรวิชาชีพด้านเชฟซูชิในอัตราสูง โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเรียนแบบเข้มข้นในระยะเวลาจำกัดพร้อมใบรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเราพบว่ามีผู้ที่สนใจเรียนรู้ทักษะเชฟซูชิเพื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ สร้างโอกาสเข้าสู่งานในระบบร้านอาหารหรือเปิดกิจการของตัวเองเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเชฟมืออาชีพ คนที่อยู่ในแวดวงอาหาร เจ้าของกิจการร้านอาหาร รวมถึงคนที่กำลังอยากเปลี่ยนงานเพื่อรายได้มากขึ้น

วิทยาลัยเล็งเห็นความต้องการดังกล่าว จึงเปิดสาขาจัดให้มีการเรียนการสอนขึ้นในประเทศไทย เพื่อความสะดวกและคล่องตัวของผู้เรียน และได้พัฒนาหลักสูตรเข้มข้นที่มีระยะเวลา 3 เดือน เน้นการฝึกปฏิบัติจริงเป็นหลักกว่า 80% ของเนื้อหา เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคระดับเชฟมืออาชีพ รวมถึงมีการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริงและเรียนรู้การบริหารจัดการร้านอาหาร สอนโดยคณาจารย์ที่เป็นเชฟและมีร้านของตนเองจึงสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้จากมุมมองของเชฟตัวจริงที่หาไม่ได้จากที่อื่น”

หลักสูตรของวิทยาลัยอินโชคุจินมีความแตกต่างจากสถาบันอื่นตรงที่มีการออกแบบเพื่อผู้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน โดยเน้นภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น ผู้สอนทุกคนล้วนมีประสบการณ์ตรงในวงการอาหาร และมีระบบการดูแลผู้เรียนทั้งในระหว่างและหลังจบการศึกษา เช่น การสัมภาษณ์ให้คำปรึกษารายบุคคล การฝึกงานในร้านของวิทยาลัยและร้านพันธมิตร รวมถึงการเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายร้านอาหารทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยเนื้อหาหลักสูตรประกอบด้วย

เดือนที่ 1 : จิตวิญญาณการบริการ (โอโมเตะนัทชิ) เปรียบเทียบโครงสร้างและรสชาติปลา ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับปลาและการแล่ปลาเบื้องต้น เรียนรู้ต้นกำเนิด ประวัติศาสตร์และความรู้เกี่ยวกับซูชิ การพัฒนาทักษะการใช้มีด และเรียนรู้วิธีการเตรียมและการปรุงอาหารทะเล

เดือนที่ 2 : การฝึกปฏิบัติซ้ำๆ การไปศึกษาที่ตลาดปลา (เรียนรู้นอกสถานที่) การพิจารณาคุณภาพของปลา  ฝึกปฏิบัติการจัดการปลาจนเสร็จสมบูรณ์ และ เรียนรู้การทำอาหารเซ็ตแบบญี่ปุ่นเซ็ต ซาชิมิ อาหารจานเล็ก และจานพิเศษ

เดือนที่ 3 : ศึกษาการประมูลปลาที่ท่าเรือ (กิจกรรมเสริมหลักสูตร) การเลือกซื้อปลาและฝึกใช้ปลาสดจริง  ฝึกการคิดเมนู คอร์สอาหารจนถึงการทำซูชิ การคำนวณต้นทุน การเลือกวัตถุดิบ ฝึกปฏิบัติเพื่อให้บริการ

กับลูกค้าจริง (แขกรับเชิญ) เรียนรู้การบริหารจัดการร้าน ออกนอกสถานที่ไปฝึกประสบการณ์ในร้านซูชิ
(ทัศนศึกษา) โดยนักเรียนต้องมีอัตราการเข้าเรียนไม่น้อยกว่า 80% จึงจะมีสิทธิ์สอบจบได้

โซอิจิ โยโกยามะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นับจนถึงปัจจุบัน เรามีนักเรียนที่จบหลักสูตรนี้มากกว่า 1,300 คน โดยในจำนวนนั้นกว่า 80% ไม่มีพื้นฐานด้านการทำอาหารมาก่อน แต่สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว และกว่า 90% ของผู้เรียนทั้งหมดสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพ หรือสามารถเปิดกิจการของตนเองได้ภายในไม่กี่เดือนหลังจบหลักสูตร เรามองว่าโอกาสของผู้เรียนไม่ได้จบแค่ในห้องเรียน แต่ยังสามารถขยายต่อไปสู่ธุรกิจร้านอาหารของตัวเอง หรือเข้าร่วมเครือข่ายร้านอาหารทั้งในไทยและญี่ปุ่นที่เรามีอยู่จำนวนมาก”

ทั้งนี้ร้านอาหารที่ดำเนินการโดยตรงภายใต้การบริหารของวิทยาลัยได้รับการแนะนำใน Michelin Guide 5 ปีติดต่อกัน และ ปัจจุบัน วิทยาลัยมี 4 สาขาในประเทศญี่ปุ่น และอยู่ระหว่างการขยายสาขาในไต้หวัน เกาหลี ไทย และมาเลเซีย

วิทยาลัยอินโชคุจิน สาขาประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 20 โดยบนชั้น 3 ของอาคาร ยังมีร้าน “Ceramic Valley Mino Japan” ในเครือฯ ซึ่งจัดจำหน่ายงานเซรามิกจากแหล่งผลิตมิโนะ จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเซรามิกคุณภาพสูง คิดเป็นประมาณ 60% ของการผลิตในประเทศญี่ปุ่น


โดยมีทั้งงานคราฟต์และของใช้ในชีวิตประจำวันวางจำหน่ายในพื้นที่ พร้อมช่องทางออนไลน์ เช่น Shopee และ Lazada อีกทั้งยังมีธุรกิจ “Yamaguchi Tofu” เต้าหู้ที่ผลิตจากถั่วเหลืองในจังหวัดเชียงใหม่และเกลือธรรมชาติจากจังหวัดน่าน ด้วยกรรมวิธีดั้งเดิมของญี่ปุ่น ปราศจากสารเติมแต่ง จัดจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำหลายแห่ง เช่น Fuji Super, Rimping, Siam Takashimaya, Mitsukoshi One Bangkok และร้านOhkajhu

วิทยาลัยอินโชคุจิน สาขาประเทศไทย เปิดสอนหลักสูตรซูชิไมสเตอร์ ภาคกลางวัน ระยะเวลา 3 เดือน เรียนวันจันทร์ถึงเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ค่าเล่าเรียน 270,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://linktr.ee/Insyokujincollegebkk และ Line ID: @insyokujinbkk

18 กรกฎาคม 2567

คุยกับเชฟ ตวง อร่อยเด็ดทุกจาน ไฟลุกทุกเมนู ร้านอาหารโบราณนิยม @เขาค้อ

Wefiethailand จะพาคุณไปชิมอาหารถูกปากคนไทย ถูกใจนักชิม รังสรรค์โดยเชฟคนไทย ปรับเปลี่ยนรสชาติและเมนูใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองลิ้มลองรสชาติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน รับรองว่ารสชาติอร่อย และที่สำคัญไร้ผงชูรส ทุกเมนูน่ารับประทานจนเลือกไม่ถูกกันเลย ตามไปเข้าครัวไปพูดคุยกับ เชฟตวง เจ้าของร้านอาหารโบราณนิยม ด้วยกันเลย




ร้านอาหารโบราณนิยม @เขาค้อ โดยเชฟตวง   เขาค้อ  บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสบาย ๆ เหมือนนั่งรับประรับประทานอาหารอยู่บ้าน พบครัวแบบเปิดอยู่กลางร้าน บรรยากาศสบาย ตัวร้านตกแต่งแบบย้อนยุค เหมือนได้นั่งกินข้าวบ้านคุณยาย ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั้งหมู่คนไทยและทั่วโลก ปัจจุบันมีเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่ง มากกว่าสองร้อยรายการ มาที่ร้านพบกับเชฟตวงเขาค้อ ร้านอาหารโบราณนิยม ภายในร้านตกแต่งสบาย เหมือนนั่งรับประรับประทานอาหารอยู่บ้าน พบครัวแบบเปิดอยู่กลางร้านที่มีลีลาผัดไฟแรงและผัดเร็วๆ ด้วยกระทะจีน สะท้อนความอร่อย


คุยกับเชฟ ตวง ร้านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ :
 https://www.youtube.com/watch?v=pZlOZrmwnWQ&t=8s

โดยเชฟตวงเป็นดิเอนเนอร์และเอกเซ็กคลูทีฟเชฟ ผู้ควบคุมทุกอย่างร้านแห่งนี้ โดยนำเสนอเมนูอาหารจากความทรงจำ ที่คุณยายของผมกิน ผมไม่อยากให้เมนูหลายอย่างตายไปกับคุณยาย และอยากอนุรักษ์เมนูต่างๆ ที่คุณยายทำเอาไว้ในโลกนี้ต่อไป 

เข้าครัวไปพูดคุยกับ เชฟตวง เจ้าของร้านอาหารโบราณนิยม  ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทรนด์การรับประทานอาหารที่เขาค้อ ด้านวัตถุดิบทางร้านเชื่อมโยงกับเขาค้อ เชฟตวงการันตีความอร่อย บอกว่า การรู้ที่มาของวัตถุดิบอาหารจะมีความสำคัญต่อผู้บริโภค รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งอุปโภคและบริโภค “วัตถุดิบโดยเฉพาะพืชผักสดเราใช้จากเขาค้อเป็นหลัก เพราะอยากอุดหนุนเกษตรกร และพ่อค้าแม่ค้าบนพื้นที่เขาค้อ รถพุ่มพวงต่างๆ อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารไทยอย่างเต็มที่ การปรับตัวเพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยนไป เน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้นักเดินทาง ยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย พร้อมสื่อสารสร้างความเชื่อใจ เพื่อท่องเที่ยวต่ออย่างสบายใจ


เชฟอุดหนุนชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ แม้แต่แก๊สสั่งกับรถพุ่มพวง ร้านอยู่ได้ชุมชนอยู่ได้ เรียกว่าร้านอยู่อย่างมีความสุขกับชุมชน ยังช่วยสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนของเมนูที่สะท้อนความเป็นเขาค้อ เป็นเมนูโบราณ ที่คุณยายทำให้เรากินอาหารจำพวกหลน แกงคั่ว อาหารจำพวกต้มหมูโบราณเช่น ต้มหมูสัปปะรด แกงรัญจวน ปิดท้ายด้วยขนมหวาน สาคู และ เฉ๊าก๊วย 



ปัจจุบันหาคนที่มีภูมิรู้ด้านนี้น้อยลง
เชฟอยากอนุรักษ์ทุกเมนู ไม่เคยหวงสูตร อาหารไทยมีเสน่ห์ เด่นเรื่องรสชาติ เพื่อถ่ายทอด เชฟไลฟ์สด เปิดกรุ๊ปให้ทุกคนได้ชม เพื่อนำไปทำทานกัน หรือจะนำไปต่อยอดอาชีพก็ยินดี เชฟถือว่า กิ๊ฟแอนด์เทค เป็นหัวใจหลักในการเป็นเชฟตวง คือ อยากจะทำอาหารที่ดี ใจรัก สิ่งที่มีสองอย่างที่ขาดไม่ได้คือหนึ่ง ภูมิรู้ คือภูมิรู้ดั้งเดิม โตมากับสังคมแบบไหน เคยไปกินอะไรมา นี่คือภูมิรู้ที่เคยกิน ถ้าบ้านไหนไม่กินปลาไหลลูกหลานก็ไม่ได้กินปลาไหล  แต่สิ่งสำคัญคือการใฝ่รู้ คือการไปฝึกฝนเพิ่มเติมศึกษาในโซเชียลก็ได้ กูเกิลหรือยูทูบ แต่ไม่ได้กลิ่นได้รส ได้แค่รู้หรือไม่ก็ไปซื้อเขากิน ฉะนั้นภูมิรู้และใฝ่รู้ต้องคู่กัน อยากให้ทุกท่านได้สัมผัสอรรถรสความอุดมสมบูรณ์ในเรื่อง อาหาร 



ร้านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ รายการอาหาร รวมถึง รสชาติ และวิธีการ ได้รับมรดกตกทอดจาก คุณยายขวัญชื่น ( เสมรสุต ) พุ่มบัว หรือคุณยายตุ๋ย หลานสาวหลวงวิชิตสรไกร (โต) ข้าราชการกลาโหมในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีความสามารถในการปรุงอาหารแบบโบราณดั้งเดิม ออกแบบเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่ง ทุกชนิดไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่ผงปรุงรสทั้งสิ้น ปัจจุบันเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งชาวไทยเอง รวมถึง มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และแม้แต่ไต้หวัน ที่แวะเวียนมาที่ร้านแทบทุกวันเลือกออกจากราชการและมาคอนเซนเทรดกับทางงานครัวโดยเฉพาะ จนมีวันนี้ โบราณนิยมขึ้นสู่ปีที่เก้า 


ขอทำหน้าที่แทนคนไทย ทุกครั้ง ที่มี นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนที่ร้าน านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อเชฟมอบความประทับใจให้ทุกครั้ง เพื่อหน้าตาของประเทศชาติ

มาเที่ยวเขาค้อ ร้านโบราณนิยม  เขาค้อ ... ยินดีต้อนรับ ร้านอาหารที่เพียบพร้อม ทั้งอาหารคาว หวาน ทั้งแบบโบราณและร่วมสมัย รวมถึงเครื่องดื่มนานาชนิด เบียร์นานาชาติ 

-เชฟตวง กล่าวทิ้งท้าย

สามารถติดต่อที่เพจเฟซบุ้ค ร้านโบราณนิยม เขาค้อ อินบ็อกได้
โทรติดต่อ 062 565 0535 

FB ร้าน โบราณนิยม เขาค้อ Boranniyom Khao Kho Restarant

โทร 062 656 0535 / 083 068 8635

https://maps.app.goo.gl/DUL35QDPSFLDxirF6
ทล.2325 ทางไปน้ำตกศรีดิษฐ์ ปากซอย The Sense ก่อนถึง แทนรัก ทะเลหมอก รีสอร์ท , 

เมนูออนไลน์ กดลิงค์ที่นี่

https://online.anyflip.com/vtzpu/kefw/mobile/index.html

#ChefTuang #อันดับ1wongnai2022เขาค้อ
#อันดับ1wongnai2024เขาค้อ
#LeCordonBleuDusit
#น้ำปลาเคี่ยวน้ำยำ2in1สูตรเชฟตวง
#wefiethailand

03 มิถุนายน 2567

ปักหมุด! ร้านอาหารไทยกินรี สุขุมวิท 8 อร่อยจนต้องยกนิ้ว


มื้อเที่ยงวันนี้ กับอาหารไทยร่วมสมัย ร้านอาหารไทยชื่อดัง ‘กินรี’ ย่านสุขุมวิท8 เข้าซอยนิดเดียว สวยงามตั้งแต่ทางเข้าร้าน ร่มรื่น ภายในตกแต่งสวยงาม นั่งสบาย บรรยากาศดี ทางร้านมีเมนูความอร่อยให้เลือกหลากหลายรสชาติไทยแรงบันดาลใจเกิดจากความชำนาญ สู่ร้านอาหารที่เป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวไทยชาวต่างชาติ ทั้งกลุ่มยุโรป และ เอเชีย ร้านอาหารไทยต้นตำรับบรรยากาศดีที่มีเมนูอาหารอร่อยถูกปากแน่นอน 



กินรี เปิดมาสิบเจ็ดปีแล้ว เมื่อตั้งชื่อร้าน “กินรี” มีเรื่องเล่าที่อยู่ภายใต้ชื่อ  “กินรี” เป็นสัตว์ในวรรณคดีที่มีรูปร่างครึ่งนก ครึ่งผู้หญิง อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์   กินรี คนไทยส่วนมากรู้จักกินรีจากนิทาน ชาดก และวรรณคดีเรื่องราวเป็น Love Story ของคนไทย ความรักระหว่างเจ้าชายกับกินรี โดยทางร้านตกแต่งร้านให้มีดอกไม้ ใบไม้ ให้ความเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงการออบแบบตกแต่งในเมนูอาหารด้วย ปรับความคิดว่า อาหารธรรมดาของไทย เป็นอาหารที่คนต่างชาติ ว้าว!!! เป็นอาหารที่เมื่อมาเมืองไทยจะต้องมากินอาหารในเมืองไทย ร้านนี้จึงเสิร์ฟอาหารไทยเอาใจชาวไทยและต่างชาติ นอกจากอาหารไทยรสชาติอร่อยแล้ว​ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ​ อีกหลากหลายมุมภายในและบริเวณภายนอก   มีโซนนั่งชิลจิบ Cocktail อีกด้วย


วนัสนันท์ กนกพัฒนางกูร Vanessa WU 
ผู้เชี่ยวชาญด้านการอบรมและที่ปรึกษา ด้านร้านอาหารไทยในต่างประเทศ 
 



วนัสนันท์ กนกพัฒนางกูร Vanessa WU 
ผู้เชี่ยวชาญด้านการอบรมและที่ปรึกษา ด้านร้านอาหารไทยในต่างประเทศ Kinnaree Gourmet Thai Co,Ltd  ปัจจุบัน เป็นกรรมการผู้จัดการ Kinnaree Gourmet Thai Co,Ltd ( Kin Academy)


วนัสนันท์ กนกพัฒนางกูร (เชฟหน่อย) เจ้าของร้าน ผู้สรรค์สร้างรสชาติอาหารไทยที่ถูกลิ้นชาวต่างชาติ สู่การต่อยอดและสร้างอาหารไทยให้แข็งแรงด้วยการศึกษาไกลถึงต่างประเทศ ชวนเปิดประสบการณ์อาหารไทยร่วมสมัยใน Kinnaree สุขุมวิท 8 รังสรรค์เมนูไทยรสชาติต้นตำรับ  เพิ่มเติมความคิดสร้างสรรค์ในทุกจาน เพราะว่า...เชฟอยากให้คนไทยทานอาหารไทยแท้ที่มีคุณภาพ เสิร์ฟความอร่อยแบบจานต่อจานจากเชฟมากประสบการณ์รสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร 



วันนี้ เชฟหน่อยนำเสนออาหาร โดยเริ่มต้นจานแรกอยากให้ทานก่อน เป็นอาหารจานทอด  “ค้างคาวเผือก” ชื่อแปลกเป็นอาหารโบราณ  ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า เชฟแกะจากสูตรโบราณ แล้วนำมาลองทําเป็นอาหารร่วมสมัย ใช้ข้าวเม่ากรอบเพื่อที่ทานควบคู่ไปด้วย นำดอกไม้ตกแต่งสวยงาม (ดอกไม้สามารถทานได้หมด)  ทางร้านมีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายเมนูยอดนิยมทั่วประเทศไทย วันนี้ขอแนะนำเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดต่อไปนี้ 

ยำส้มโอ 
ต่อมาเป็น “ยําส้มโอ” เชฟหน่อย  เล่าต่อว่า “ใช้ผลไม้ไทยเสริฟ แล้วทําให้เกิดยำแดง คือ สีของน้ำยำ มีส่วนผสมจากน้ำพริกเผาเป็นส่วนช่วยทำให้ออกเป็นสีแดง และเพิ่มความน่าทาน ด้วยกลิ่นหอมของมะพร้าวคั่วและกลิ่นหอมของน้ำมันน้ำพริกเผา รสชาติของเชฟหน่อยมเปรี้ยวของส้มโอท็อปอัพด้วยหอมเจียว ซึ่งเมนูนี้ใช้เวลานานมากในการเจียวหัวหอม หั่นหัวหอม ใช้ฝีมือในการยํา รสชาติไม่เผ็ด เน้นความหอมและความเปรี้ยว เหมาะมากสําหรับทานในหน้าร้อน ซึ่งในเมืองไทยคนต่างชาติชอบมาก เพราะมาถึงร้านกินนรี มาเมืองไทยต้องทานผลไม้ไทย แล้วก็มาทานเมนูยำไทย  

ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนลำไย 
ถัดมาอีกหนึ่งเมนู ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนใส่ลำไย นำความหวานจากลําไย ปกติทานลำใยเป็นผลไม้ หรือขนมหวานข้าวเหนียวเปียกลำไย เชฟนำลำไยใช้ความหวาน เป็นส่วนประกอบอาหารในต้มแซ่บทำให้ความเปรี้ยวเค็มของต้มแซ่บให้เกิดความละมุน พอเราเคี้ยวลําไยไปจะทําให้รู้สึกว่าไม่เผ็ดและกลมกล่อม 

เมี่ยงคำ 
เสริฟมาในภาชนะที่ต่างชาติเห็นแล้ว ว้าว! อีกเช่นกัน เป็นตัวชูโรงให้อาหารไทยเลยทีเดียว เพราะว่าสมุนไพรไทย ในจานนี้ มีขิง มีพริก มีมะนาวหั่น มีหอมแดง มีมะพร้าว ซึ่งเป็นมะพร้าวซอยและอบที่ร้านไม่ใช้กุ้งแห้ง เพราะฝรั่งทานกุ้งแห้งแล้วจะรู้สึกว่าแข็งและมีกลิ่นคาวมากกว่ากุ้งธรรมดา มีไก่ และถั่ว  สิ่งสำคัญที่สุดคือ น้ำซอสมีความกลมกล่อม หอม เครื่องปรุงรสกลมกล่อม ทานกับใบชะพลู วิธีการห่อ ทำให้ลูกค้าเห็นว่า คนไทยสมัยโบราณทานด้วยมือ เพราะฉะนั้นเมื่อทานกัดเข้าไปข้างใน ลูกค้าจะชอบเมนูนี้มาก เพราะรู้สึกสนุกที่ได้ทานอาหารแบบนี้ 


ลาบเป็ดส้มกินรี 
ด้วยความที่เราใช้ผลไม้หลากหลาย เมนูนี้ใช้ส้ม รวมกับความเผ็ดจัดจ้านของลาบ ซึ่งส้มกับเป็ดมันคู่กัน เมื่อทานคู่กันและมีน้ำลาบ สิ่งที่เป็นเสน่ห์คือ หอมแดง เวลากินลาบแล้วกัดหอมแดงเข้าไปจะรู้สึกเข้ากัน และรู้สึกว่าลงตัวด้วยความสดชื่นของหอมแดง และหมี่กรอบ 


ห่อหมกทะเล 
เมนูที่มีผลไม้เป็นส่วนประกอบอีกแล้ว มะพร้าว ขูดเอาเนื้อมะพร้าวอ่อนลงมาผัดกับพริกแกงแดง  เมนูนี้ว้าวเช่นกัน  เวลาทานได้ความหอม ความมันของตัวมะพร้าว บวกกับตัวกะทิและพริกแกงแดง ปรุงแต่งด้วยความสดของเครื่องปรุงรสมีส่วนผสมของซีฟู้ดรวม

ปลาย่างทักษิณา
ถัดมาจึงเป็น ปลาย่างทักษิณา คลุกซอสให้มีรสชาติเค็ม หอม ทักษิณาใช้สะตอผัดกับเนื้อหมู ใช้พริกเหลืองเพื่อให้เกิดความหอม สีสวย สองอย่างนี้ดูไม่เข้ากันนะแต่นำมาทานด้วยกันอร่อยมาก 

ข้าวผัดปลาร้า 
เชฟใช้สูตรเด็ด น้ำปลาร้าที่มาจากปลาช่อน และยังมีปลาช่อน ปลากะดี่ ที่เชฟทำเป็นกากปลาร้า เพื่อที่จะทำเป็นท็อปอัพและโรยด้านบนของข้างผัด วิธีการคล้ายกับข้าวคลุกกะปิ มีหอมแดง พริก ความเปรี้ยวจากมะม่วง คลุกเคล้าเกิดความหอมและความลงตัวที่เกิดจากปลาร้า โดยปกติกินปลาร้าจากส้มตำและเป็นอาหารจานเย็น แต่วันนี้เราทำเป็นอาหารจานร้อน แล้วทำเป็นน้ำแล้วนำมาคลุกเคล้าเป็นเมนูข้าวผัด ลองมาทาน ข้าวผัดผ่านความร้อนเป็นข้าวผัดปลาร้าบวกกับความลงตัวของ Herb มะม่วงและพริกให้ความลงตัวทานแล้วละมุนปาก อยากให้ทานเป็นจานสุดท้าย ให้ความรู้สึกว่าจบ แปลว่าอิ่มสบายท้อง ความทรงจำในรสชาติทั้งหมดจะโหยมาอยู่ในคำสุดท้าย  อร่อยคุ้นปากทุกเมนูจริงๆ

ไอติมน้ำตาลโตนด  

ข้าวเหนียวมะม่วง

สำหรับเมนูขนมหวาน
ข้าวเหนียวมะม่วงและไอติมน้ำตาลโตนด  

ปิดท้ายความอร่อยมื้อนี้ด้วย ข้าวเหนียวมะม่วง จบด้วยไอศกรีมน้ำตาลโตนด โดยได้มาจากหนังสารคดีที่เชฟไปถ่ายทำ ไปเจอคนทำน้ำตาลโตนดรสชาติหวานไทย หวานละมุน 

ร้านกินรี สุขุมวิท 8 Kinnaree Sukhumvit 8 
เลขที่ 43 ซอย สุขุมวิทซอย 8 ( 250 เมตร)

เปิดบริการ ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00-15:00 | 18:00-24:00
โทร. 094 229 8998

เดินทางรถไฟฟ้า BTS สถานี นานา ซอย 4

Our team pleasured for your visit Transportation BTS NANA (Exit 4)

https://maps.app.goo.gl/EZWPG6EoqL2JWEsz7?g_st=ic

เปิดความอร่อยในตำนาน ร้าน Kinnaree Sukhumvit 8

#kinnaree #kinnareesukhumvit8 #kinnareebyvanessawu #sukhumvit8 

#sukhumvit #thairestaurant #authenticthaifood #contemporaryfood #thaifood 

28 พฤษภาคม 2567

เครือเฮอริเทจ พร้อมโชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024

เครือเฮอริเทจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เข้าร่วมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคอนเซ็ปต์ของปีนี้คือ “Beyond Food Experience” หรือ การนำเสนอประสบการณ์ที่มากกว่าเพียงรสชาติ สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ในเครือที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานการผลิตระดับโลก พร้อมด้วยปณิธานของเครือที่มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีรสชาติดี แต่ยังถึงพร้อมด้วยการสร้างสุขภาพที่เป็นเลิศให้แก่ผู้บริโภคทุกวัย

ภายในบูธเครือเฮอริเทจปีนี้ พร้อมจัดแสดงแบรนด์ชั้นนำ อาทิ “เฮอริเทจ” ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ, “บลูไดมอนด์” ผลิตภัณฑ์อัลมอนด์และนมอัลมอนด์จากแคลิฟอร์เนีย, “ซันคิสท์” ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเมียมคุณภาพหลากหลายชนิด และเครื่องดื่มน้ำนมพิสทาชิโอ, “นัท วอล์คเกอร์” ขนมขบเคี้ยวประเภทถั่วและเมล็ดพืช, “เนเจอร์ เซ็นเซชั่น” ผลิตภัณฑ์ธัญพืชและผลไม้อบแห้ง, “วันเดอร์พัฟฟ์” ข้าวโพดอบกรอบผสมถั่วพรีเมียม, “ฟรังซัว” คุ้กกี้สไตล์โฮมเมด และ “เลอรูท” อาหารคลีนพร้อมทาน

“เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการส่งมอบประสบการณ์อันมีคุณค่าที่เป็นเลิศด้วย Healthy Food เพื่อ Happy Life ของผู้บริโภค เราทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างนวัตกรรมทางอาหารที่มีความหลากหลายและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มและทุกไลฟ์สไตล์ ยกตัวอย่างงานในวันนี้ เราได้มีการนำนมอัลมอนด์ มาทำเป็นไอศกรีม plant-based soft serve เพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาดผู้บริโภคนมทางเลือก เพื่อแสดงให้ผู้ประกอบการเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในเครือเฮอริเทจ สามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่อร่อย ดีต่อสุขภาพ น่าสนใจได้หลากหลาย ขยายกลุ่มเป้าหมาย และสร้างโอกาสทางธุรกิจด้านอาหารเเละเครื่องดื่มสุขภาพได้ต่อไป” คุณวศธร พลไพศาล ผู้บริหารเครือเฮอริเทจ กล่าว

ในปีนี้เราได้รับรางวัล Thailand’s Most Admired Brand จัดขึ้นโดยนิตยสาร BrandAge โดยทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคชาวไทย เกี่ยวกับแบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบและประทับใจมากที่สุด โดย Blue Diamond Almond Breeze ได้รับรางวัลนี้ถึง 2 ปีซ้อน คือในปี  2023 จากกลุ่มนมจากธัญพืช และ ในปี 2024 จากกลุ่มนมอัลมอนด์ รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการนำเสนอนมอัลมอนด์ที่มีคุณภาพ ผลิตจากอัลมอนด์นำเข้าจากแคลิฟอร์เนีย รสชาติอร่อย และดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคชาวไทย

ภายในงาน มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลท์หลายรายการ ได้แก่ บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซ โยเกิร์ตพร้อมดื่มจากนมอัลมอนด์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลท์ ที่ได้เปิดตัวไปช่วง Q4 ของปี 2023 นับเป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่มแพลนท์เบส ที่ทำจากนมอัลมอนด์ แบรนด์แรกในประเทศไทย ยังคงคุณประโยชน์ของนมอัลมอนด์ ที่มีวิตามินอีและแคลเซียมสูง นำมาผสมผสานกับน้ำผลไม้แท้ ที่ให้ทั้งวิตามินและความสดชื่น มาใน 2 รสชาติ ได้แก่ รสทรอปิคอล ฟรุต และ รสมิกซ์เบอร์รี่ เป็นการขยายทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่หลีกเลี่ยงนมวัวด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น มีภาวะย่อยแลคโตสผิดปกติ แพ้โปรตีนในนมวัว เป็นต้น

“บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซ" เครื่องดื่มน้ำนมอัลมอนด์ ที่มียอดขายอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา ทั้ง 7 สูตร ได้แก่ สูตรไม่เติมน้ำตาล, รสออริจินอล,  รสวานิลลา, รสช็อกโกแลต, รสมัทฉะ, รสลาเต้ และ สูตรบาริสตา เบลนด์ ได้มีการปรับโฉม packaging ใหม่ทั้งหมด เพื่อขยายตลาดให้โดนใจสายสุขภาพที่เป็นคนรุ่นใหม่  โดยมี “คุณต้าเหนิง กัญญาวีร์” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของประเทศไทย สื่อภาพลักษณ์ของการเป็นคนรุ่นใหม่ที่ดูแลตัวเอง และใส่ใจในสุขภาพ ให้เป็นตัวแทนสื่อสารในการเปลี่ยนลุคในครั้งนี้ โดยได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมา

“วันเดอร์พัฟฟ์” เปิดตัว 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ ข้าวโพดอบกรอบผสมมะม่วง และข้าวโพดอบกรอบผสมแครนเบอร์รี ป๊อบคอร์นแบรนด์วันเดอร์พัฟฟ์ มีความพิเศษตรงที่มีการผสมผสานถั่วพรีเมียมชนิดต่าง ๆ อาทิ แมคคาเดเมีย อัลมอนด์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น โดยปีนี้ เราได้เพิ่มผลไม้อบแห้ง 2 ชนิด คือ มะม่วงและแครนเบอร์รี่ เข้ามาเป็นส่วนประกอบ สร้าง texture การทานป๊อปคอร์นแบบใหม่ ๆ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี เครือเฮอริเทจ ได้รับการจดทะเบียนระดับสากล และผ่านการรับรองมาตรฐานทั้ง HACCP, GHPs, BRCGS, และ ISO 22000 ซึ่งรับรองมาตรฐานด้านการจัดการความปลอดภัยของอาหาร พร้อมด้วยมาตรฐานอาหารฮาลาลและโคเชอร์ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากธรรมชาติ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจและผู้บริโภคจึงสามารถมั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยมถึงความปลอดภัยและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีมีสุข

เครือเฮอริเทจสนับสนุนให้ผู้บริโภคทั่วโลกเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพ ทุกขั้นตอนการผลิตคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยงาน THAIFEX ในปีนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าชมงาน ทั้งจากนักธุรกิจและประชาชนทั่วไป 

ติดตามกิจกรรมและข่าวสารของเครือเฮอริเทจได้ที่ www.facebook.com/Heritagegroupth, www.instagram.com/heritagegroupth และ www.heritagethailand.com