แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ท่องเที่ยวทั่วไทย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ท่องเที่ยวทั่วไทย แสดงบทความทั้งหมด

02 กันยายน 2568

กรมการท่องเที่ยว เปิดตัวภารกิจ 'Thailand Green Tourism Plan 2030'


ชูแนวทางการพัฒนาระบบนิเวศการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของไทย ยกเครื่องใหม่จากแผน สู่มาตรฐานและระบบประเมินสถานะยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Top 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก



2 ก.ย. 68 - กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดงานเปิดตัวภารกิจ “Thailand Green Tourism Plan 2030” อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “Igniting the Path to Global Green Success” ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืนตามกรอบการพัฒนาประเทศและเป้าหมายสากลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วย นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์มาตรฐานความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และนำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาว โดยในโครงการนี้เป็นการผนึกกำลังของ 4 หน่วยงานหลัก (Key Partners) ได้แก่ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าภาพหลัก และ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นศูนย์ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืนประเทศไทย (STAC Thailand)  ผู้พัฒนาองค์ความรู้ร่วมกับ Green Destinations Foundation องค์กรสากลด้านมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน  และ Travelife for Tour Operators องค์กรสากลด้านมาตรฐานยั่งยืนในธุรกิจทัวร์ ร่วมกับอีก 49 หน่วยงานพันธมิตร (Committed Partner) จากทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษาและเอกชน ที่มีเป้าหมายเดียวกันในการวางบทบาทหน้าที่ภายใต้สังกัดของตนสู่การวางเป้าหมายในภาวะเร่งด่วน เพื่อสร้าง Big Impact มากขึ้นจากการทำงานร่วมกัน 


นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "การท่องเที่ยวไทยกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญ เราไม่เพียงแต่เผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังต้องปรับตัวให้ทันต่อกติกาใหม่จากเวทีโลก ทั้งมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม กฎหมายระหว่างประเทศ และความคาดหวังของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ การเปิดตัวแผน Thailand Green Tourism Plan 2030 จึงไม่ใช่เพียงการประกาศนโยบาย แต่คือการยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในระดับโลก เรามุ่งยกระดับคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยวและผู้ประกอบการไทยให้มีมาตรฐานที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและคุณค่าทางสังคมและวัฒนธรรม เพื่อส่งต่อการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าให้กับคนรุ่นต่อไป และด้วยแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวที่เน้นความยั่งยืน ครอบคลุมและทั่วถึง จะนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ และสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้"

ภายในงานได้มีการเปิดตัวตราสัญลักษณ์มาตรฐานความยั่งยืนของประเทศไทย “Thailand Good Travel” ที่เทียบเท่ามาตรฐานในระดับสากล ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสำหรับแหล่งท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว สถานประกอบการที่พักขนาดเล็ก (ไม่เกิน 50 ห้อง) และธุรกิจนำเที่ยว ที่ดำเนินงานตามเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจอย่างสมดุล โดยกลไกนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ คู่ค้าและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ว่าการเดินทางในประเทศไทยเป็นไปอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยเข้ากับมาตรฐานระดับสากล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “เพื่อให้การดำเนินงานตามแผน Thailand Green Tourism Plan 2030 เกิดผลเป็นรูปธรรม กรมการท่องเที่ยวได้วางกิจกรรมสำคัญหลายด้านภายใต้โครงการฯ โดยได้เปิดรับสมัคร 'Thailand Green Coach' เพื่อทำหน้าที่เป็น 'พี่เลี้ยง' ให้คำปรึกษาและสนับสนุนแก่สถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวให้เข้าใจและสามารถพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเดือนตุลาคมนี้ จะมีการจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Road show) ใน 4 จังหวัด จาก 4 ภูมิภาค ได้แก่ ฉะเชิงเทรา เชียงราย นครศรีธรรมราช และนครราชสีมา ซึ่งจะเปิดโอกาสให้พี่เลี้ยงในระดับภูมิภาคได้เชิญแหล่งท่องเที่ยวและผู้ประกอบการมาร่วมมือกันเรียนรู้และฝึกการประเมินตนเองและรายงานผลจากการพัฒนาตัวชี้วัดมาตรฐานยั่งยืนลงระบบที่ได้ออกแบบเพื่อแสดงสถานะความยั่งยืนในระดับประเทศจากการประเมินตนเองและสามารถต่อยอดสู่เป้าหมายการเข้าสู่มาตรฐานยั่งยืนในระดับสากล พร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวและธุรกิจต่อไป

“การเตรียมความพร้อมในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่มุ่งสู่การได้รับรองมาตรฐานที่เทียบเท่าระดับสากลและโอกาสในการเข้าร่วมชิงรางวัล Top 100 Green Destinations และ Good Travel Stories Competition ซึ่งในปีนี้กรมการท่องเที่ยวตั้งเป้าส่งแหล่งท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ 30 รายเข้าประกวด และจะมีการมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานความยั่งยืนให้แก่ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อเป็นการรับรองและสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ค้าและนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำไปสู่การสร้างรายได้และเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว” นายจาตุรนต์กล่าวเสริม การเปิดตัวภารกิจ Thailand Green Tourism Plan 2030 จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศไทย ในการยืนยันบทบาทเชิงรุกด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวและคู่ค้าในระดับโลกว่า "การท่องเที่ยวไทย" พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่อนาคตที่เติบโตไปพร้อมกับการรักษ์โลกอย่างแท้จริง

ผู้ประกอบการและแหล่งท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมโครงการเพื่อเตรียมความพร้อม สามารถติดตามรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ทางการตลาดได้ที่ เว็บไซต์:
www.Thailandgreenplan2030.com Facebook: Thailand Green Tourism Plan 2030

15 สิงหาคม 2568

งาน "วิจิตรธานี ถิ่นนี้อุทัย ๑๙๒ ปี บ้านสะแกกรัง"

งาน "วิจิตรธานี ถิ่นนี้อุทัย ๑๙๒ ปี บ้านสะแกกรัง" จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงความเป็นมาและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของบ้านสะแกกรัง รวมถึงเผยแพร่ความงดงามของวิถีชีวิตริมแม่น้ำสะแกกรัง. งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 ณ บริเวณวัดอุโปสถาราม (วัดโบสถ์) และลานสะแกกรัง. 

หลักการและเหตุผล:                                                       ความเป็นมาและความสำคัญทางประวัติศาสตร์: บ้านสะแกกรังมีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์จังหวัดอุทัยธานี การจัดงานนี้จึงเป็นการรำลึกถึงรากเหง้าและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชุมชน. 

การอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรม:

แม่น้ำสะแกกรังเป็นสายน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในอดีตและปัจจุบัน วิถีชีวิตริมน้ำสะแกกรังจึงเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด การจัดงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาของชุมชน. 

ส่งเสริมการท่องเที่ยว: 

การจัดงานยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอุทัยธานี ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสเสน่ห์ของบ้านสะแกกรังและเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น. 

สร้างความภาคภูมิใจในท้องถิ่น:

การจัดงานนี้จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในพื้นที่ และกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชน. 

เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่:

การจัดงานนี้ยังเป็นโอกาสในการเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ให้รู้จักและเข้าใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของบ้านสะแกกรัง. 

โดยรวมแล้ว งาน "วิจิตรธานี ถิ่นนี้อุทัย ๑๙๒ ปี บ้านสะแกกรัง" มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชุมชนริมแม่น้ำสะแกกรัง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความภาคภูมิใจในท้องถิ่น. 

24 กุมภาพันธ์ 2568

อพท. ลุย! เสริมกำลังดัน “กระเช้าภูกระดึง”

เตรียมปั้นพื้นที่ท่องเที่ยวยั่งยืน จ.เลย พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ลงพื้นที่ จ.เลย เตรียมความพร้อมเสริมกำลังหนุนท่องเที่ยวยั่งยืน เพิ่มมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STMS) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรองรับการสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง

ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มอบหมายให้ ผู้บริหารสำนักพัฒนาขีดความสามารถการท่องเที่ยว (สพข.) สำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน (สทช.) และสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเลย (อพท.เลย) เดินหน้าลงพื้นที่ จังหวัดเลย เพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในอำเภอภูกระดึง โดยเตรียมนำมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STMS) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ Global Sustainable Tourism Council ไปใช้ในการค้นหาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวตามความบริบทและความเหมาะสมในพื้นที่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบัน และอนาคตที่จะเกิดจากโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง   



ในโอกาสนี้ ผู้บริหาร อพท. ได้เข้าพบ นายศุภฤกษ์ น้อยสุวรรณ นายอำเภอภูกระดึง เพื่อรับข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอภูกระดึง พร้อมหารือร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 องค์กร ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลศรีฐาน เทศบาลตำบลภูกระดึง องค์การบริหารส่วนตำบลผานกเค้า องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยส้ม และองค์การบริหารส่วนตำบลภูกระดึง ถึงแนวทางการการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมเชิญชวนเข้าร่วมส่งเสริมมาตรฐาน STMS โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 5 องค์กร เห็นถึงความสำคัญในการเตรียมมาตรฐานการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยินดีเข้าร่วมส่งเสริมมาตรฐาน STMS ของ อพท. และจะร่วมลงพื้นที่สำรวจศักยภาพของพื้นที่ทั้ง 54 หมู่บ้านในโอกาสต่อไป


สำหรับความคืบหน้าในเรื่องการสร้างกระเช้าภูกระดึงนั้น ทางจังหวัดเลยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความยินดีและพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ ร่วมกัน เพราะเป็นโครงการที่รอมานาน และได้ให้ข้อเสนอแนะในการสร้างการรับรู้และสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมให้กับท้องถิ่นและชุมชนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงต่อไป โดยขั้นตอนการดำเนินงานต่อไปของ อพท. คือ การพัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 5 องค์กร ตามมาตรฐาน STMS และการพัฒนาศักภาพด้านการท่องเที่ยวของ 54 หมู่บ้าน เพื่อให้ได้แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยว เรื่องราวท้องถิ่น อาหารท้องถิ่น เครื่องดื่มท้องถิ่น ของฝากและของที่ระลึก ที่พักและผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป

02 กันยายน 2567

ททท. เปิดตัวโครงการ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก”

ชวนคนรุ่นใหม่ท่องเที่ยว  รักษ์โลกไปกับกลัฟ คณาวุฒิ


วันนี้ (28 สิงหาคม 2567) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวเปิดตัวโครงการสร้างกระแสการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก” โดยดึง กลัฟ คณาวุฒิ ศิลปินชื่อดังร่วมเป็นพรีเซนเตอร์โครงการ ชวนคนรุ่นใหม่ออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมคืนสิ่งดี ๆ ให้กับธรรมชาติ ร่วมเปิดตัวโครงการโดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. และ กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท.เดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาแบรนด์ท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่ความยั่งยืนบนรากฐานของเสน่ห์ไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการพัฒนายกระดับห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไปพร้อมกับการสร้างจิตสำนึกการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและกระแสการท่องเที่ยวอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม จึงมุ่งเน้นการสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อการท่องเที่ยวทุกรูปแบบไปพร้อมกับการดูแลใส่ใจทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และเปิดประสบการณ์ทรงคุณค่าเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนตามเป้าหมาย Sustainable Tourism Goals (STGs)  โดยในโครงการ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก” ได้ชวน กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ เป็นพรีเซนเตอร์ปลุกกระแสในโครงการ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก” เพื่อเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่สร้างกระแสการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เนื่องจากมีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ชอบเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่นที่น่าสนใจ เชื่อว่าจะสามารถนำประสบการณ์มาถ่ายทอดและแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านการท่องเที่ยวแบบ Responsible Tourism สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างให้กับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี


การแถลงข่าวโครงการ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก” จะจัดกิจกรรม Responsible Talk พูดคุยเรื่องการท่องเที่ยวอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. และ กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ดำเนินรายการโดย แบม ปีติภัทร คูตระกูล ต่อด้วย Exclusive Meet
& Greet และมินิคอนเสิร์ตของกลัฟ คณาวุฒิ ทั้งนี้โครงการเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา (TVC) ซึ่งนำแสดงโดย กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ภายในเดือนกันยายนนี้ ด้วยแนวคิด ลดโลกเลอะกับกลัฟ 5 ภาคทั่วไทย เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก ซึ่งจะชวนทุกคนออกไปคืนสิ่งดี ๆ ให้กับโลก ทั้งผืนป่า ทะเล ชุมชน สัตว์ป่า เพื่อให้ทุกทริปดีต่อใจ และดีต่อโลก พร้อมกันนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์คอนเทนต์สำหรับผู้รักการเดินทางให้เที่ยวแบบทัชใจ ดีต่อใจ และดีต่อโลก แบบกลัฟ ในช่องทาง Facebook : TAT CG & CSR และเตรียมจัดกิจกรรม CSR (Corporate Social Responsibility) ชวนผู้โชคดีจำนวน 100 คน เข้าร่วมทำกิจกรรมที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 อุทยานแห่งชาติทับลาน และเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : TAT CG & CSR

03 มีนาคม 2567

โอเอซิสสปา หนุนกิจกรรมแรลลี่รักษ์โลก

Prachachuen news :Let's Go Low Carbon for Charity Rally 2024 สู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมPrachachuen news :Let's Go Low Carbon for Charity Rally 2024  ดิโอเอซิส สปา (ประเทศไทย)  ร่วมจัด กิจกรรมแรลลี่เพื่อสิ่งแวดล้อม 


โดยมีพันธมิตรกว่า 45 องค์กร  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ฟุคส์ ลูบริแคนท์ส, บอร์เนียว เทคนิเคิล, พอลาเนอร์  จัดโดย ประชาชื่นนิวส์ จัดกิจกรรม แรลลี่เพื่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้ชื่อ Prachachuen news :Let's Go Low Carbon for Charity Rally 2024 


โดยมี นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี และตีธงปล่อยคาราวานแรลลี่ พร้อมด้วย Mr.Stephan Lenz, Regional Business Development Manager & Southeast Asia บริษัท ฟุคส์ ลูบริแคนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด, นายณัฐพล โสวัญณะ Business Unit Manager Automotive Aftermarket Divisionบริษัท บอร์เนียว เทคนิเคิล จำกัด, นางกานต์พิชชา คงสมบัติ ประธานกรรมการ บริษัท โพลว์ อินเตอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายเบียร์ พอลาเนอร์ ประเทศไทย, เอิร์ธ สายสว่าง -โอเอซิสปา, ชาตรี นุ้ยประสิทธิ์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเดอะพาร์คไนน์สุวรรณภูมิ, สาธร ลีลาขจรจิต บรรณาธิการบริหารประชาชื่นนิวส์และผู้ร่วมแข่งขันกว่า 80 คน ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่

ท่องเที่ยวเปิดมุมมองใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ พร้อมกิจกรรมรักษ์โลกที่สนุกสนาน ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals)  ทั้ง 36 องค์กรชั้นนำของประเทศ ต่างร่วมใจสนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรม ปลูกจิตสำนึก รณรงค์รักษ์สิ่งแวดล้อม มอบความรัก ความห่วงใย ด้วยการมอบพันธุ์กล้าไม้ ที่ศูนย์การเรียนรู้พระเจดีย์กลางน้ำระยอง พร้อมสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ผ่อนคลายไปกับเสียงคลื่นริมหาดแสงจันทร์ ณ โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง  ในวันเสาร์ที่ 2 และ วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2567

#สุขทันทีที่เที่ยวภาคตะวันออก #ระยอง #prachachuennews #LetGoLowCarbonforcharityRally2024

21 ธันวาคม 2566

Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ

บ่ายวันนี้ (21 ธันวาคม 2566) ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธาน   ในงานแถลงข่าวการจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ประเทศไทย พร้อมกันนี้นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และนายกันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานการตลาดสาขาและบริหารงานลูกค้าบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติร่วมงานฯ  เชิญชวนสัมผัสความวิจิตรตระการตาแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยามที่จะส่งมอบความสุขต้อนรับวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 ในพื้นที่หลักสวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งปีนี้ ททท. ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมในจังหวัดนครราชสีมา และสนับสนุนการจัดงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ คาดว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนรวม 5.4 หมื่นล้านบาท 


นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. เตรียมต้อนรับศักราชใหม่ จัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบิ๊กอีเวนต์สำคัญภายใต้โครงการ Thailand Winter Festivals ของรัฐบาล เพื่อเพิ่มแรงส่งกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2566 ทั้งสอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กรุงเทพมหานคร เป็นแลนด์มาร์กและ Global Countdown Destination จุดเคาท์ดาวน์ระดับโลกที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงและมาเยือนอย่างต่อเนื่อง

กิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ที่ ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมและร่วมจัดกิจกรรม แต่ละพื้นที่ มีเอกลักษณ์และกิจกรรมในการจัดงานที่แตกต่างกันไป ดังนี้

1. งาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ”

วันจัดงาน : วันที่ 31 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567

พื้นที่จัดงาน : สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร

กิจกรรม “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ถือเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในเดือนธันวาคม 2566 ต่อเนื่องจากงาน VIJIT CHAO PHRAYA 2023 โดย ททท. เนรมิตพื้นที่สวนนาคราภิรมย์ ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด“วิจิตร อรุณ” ความวิจิตรตระการตาของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยามที่จะส่งมอบความสุขในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 โดยสร้างสีสันบรรยากาศยามค่ำคืนให้กับสถานที่สำคัญที่มีความสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์กของประเทศไทยอย่าง พระปรางค์ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ด้วยนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย ควบคู่กับการผสมผสานวัฒนธรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอันอัศจรรย์ใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวพร้อมเติมเต็มบรรยากาศแห่งความสุขและสนุกส่งท้ายปีด้วยการแสดงทางวัฒนธรรมไทยและการแสดงร่วมสมัยประยุกต์ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงโขน การแสดงจากคณะโจหลุยส์ การบรรเลงเพลงออเครสตร้า จากวง Chao Phraya Symphony Orchestra พร้อมขับกล่อมบรรยากาศด้วยบทเพลงจากศิลปิน รวมถึงการแสดงจากศิลปินชื่อดัง ได้แก่ น้อย - กฤษดา สุโกศล แคลปป์, นัท มีเรีย, เก่ง ธชย, ติวเตอร์ - กรภัทร์ ลำน้อย,  เข้ม - หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ก่อนจะปิดท้ายกับ กิจกรรมไฮไลต์ร่วมนับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ไปพร้อมกับการแสดงพลุที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยายาวต่อเนื่องกว่า 7 นาที โดยแบ่งเป็น 9 องก์ ประกอบด้วย อรุณรุ่ง / อรุณแห่งศรัทธา / รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย / ดินแดนแห่งความสุข / สยามเมืองยิ้ม / รุ่งอรุณแห่งการท่องเที่ยว / แสงอรุณแห่งอิสระเสรี / เจริญ รุ่งโรจน์ และ แสงอรุณแห่งความเชื่อ ศรัทธา ก้าวหน้า รอยยิ้มสะท้อนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นปีศักราชและส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ 2567

2. งาน Korat Winter Festival & Countdown 2024

วันจัดงาน : วันที่ 22 ธันวาคม 2566 - 2 มกราคม 2567

พื้นที่จัดงาน : บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา

กิจกรรม “Korat Winter Festival & Countdown 2024” ร่วมเฉลิมฉลองเมืองนครราชสีมา ครบรอบ 555 ปี ในรูปแบบ “งานมหกรรมสวนสนุกนานาชาติ” ภายในงานพบกับสวนสนุกขนาดใหญ่ เสิร์ฟความสุขต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2566 - 14 มกราคม 2567 จากนั้นห้ามพลาดแวะเช็กอินจุดแลนด์มาร์กต้นคริสมาสต์ตกแต่งประดับไฟสวยงาม และสวนดอกไม้ โดยฟลอร่าพาร์ค บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หรือชิมช้อปผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ของเมืองโคราชก็มีมาให้เลือกอย่างจุใจ

นอกจากนี้ ททท. ยังร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียงบนเวที ในวันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 การตกแต่งประดับไฟสวยงามบริเวณหอนาฬิกาและในคูเมืองบริเวณที่จัดงาน ก่อนจะปิดท้ายด้วยกิจกรรมไฮไลต์ร่วมจุดพลุเฉลิมฉลองนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566 


นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ICONSIAM พร้อมแล้วกับปรากฏการณ์เคานต์ดาวน์ระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยายิ่งใหญ่ส่งท้ายปี “Amazing Thailand Countdown 2024” ภายใต้ความร่วมมือของ ททท. กรุงเทพมหานคร พันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไว้ครบทุกความเป็นที่สุดในทุกด้านกับการฉลองเข้าสู่ศักราชใหม่ต่อเนื่อง 3 วัน 3 คืน ตั้งแต่ 29 -31 ธันวาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “The Unrivaled Phenomenon of SIAM” มหาปรากฎการณ์เปิดศักราชใหม่แห่งสยาม รวมสุดยอดศิลปินบนเวที 360 องศา สุดอลังการริมแม่น้ำ กับเซอร์ไพร์สของศิลปิน KPOP วง GOT7 นำโดย แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล, มาร์ค ต้วน และคิม ยูคยอม และ 13 ศิลปินท็อปลิสต์ของเมืองไทย อาทิ  BameeKT, PERSES, Jeff Satur, Proxie, 4EVE, ATLAS, Three Man Down, ซี-นุนิว, พีพี-กฤษฏ์, บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ และ DJ HANKY ก่อนจะสะกดทุกสายตาโลกกับการแสดงพลุรักษ์โลก 50,000 ดอก ภายใต้แนวคิด 

“The Unrivaled Phenomenon of SIAM” ความยาว 9 นาที รวมระยะทาง 1,400 เมตร ตลอดคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา และการแสดงโดรน 3D Drone Celebration Show กว่า 2,000 ลำ ประกอบบทเพลง ภายใต้แนวคิด “The Revolutionary Phenomenon of SIAM” มหาปรากฏการณ์ความรุ่งโรจน์จากผืนน้ำสู่ฟากฟ้า บอกเล่ามหัศจรรย์เรื่องราวความรุ่งโรจน์ของ ICONSIAM  

นายกันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานการตลาดสาขาและบริหารงานลูกค้า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) เตรียมสร้างปรากฎการณ์ความสุขส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ กับงาน Centralworld Bangkok Countdown 2024 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazing Thailand Countdown 2024 และ Thailand Winter Festivals ปีนี้จัดเต็มความมันส์ด้วยโปรดักชั่นระดับโลก ทั้งเวที แสง เสียง คมชัดทุกองศา โดยมีกิจกรรมไฮไลท์การแสดงจากศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 65 ชีวิต นำทัพด้วย บิวกิ้น พีพี กฤษณ์ อิงค์ วรันธร นนท์ ธนนท์ โบกี้ไลอ้อน และ Finale Show ของศิลปินระดับโลกอย่าง YOUNGJAE GOT7 และ PATRICK ก่อนจะส่งท้ายด้วยการแสดงพลุสุดล้ำ Digital Firework 180 องศาผสมผสานกับพลุจริง เพื่อส่งเสริมให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์กลายเป็น Time Square of Asia แลนด์มาร์กแห่งงาน Entertainment Countdown ที่ดีที่สุดในระดับโลก 

นอกจากนี้ ททท. ยังมีกิจกรรมที่ ททท. ให้การสนับสนุนการจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศไทย เริ่มต้นที่ ภาคเหนือ เช่น งาน Amazing Chiang Mai Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น งาน AWAKEN KHONKAEN COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 ณ สวนประตูเมืองและบริเวณถนนศรีจันทร์ จังหวัดขอนแก่น, งาน “นครพนม Winter Festival ตอน หนาวลม ชมโขง” วันที่ 25 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม, งาน “หอโหวด๑๐๑ ROI ET TOWER” วันที่ 29 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 ณ หอโหวด 101 จังหวัดร้อยเอ็ด, ภาคกลาง งาน Countdown Suphanburi 2024 Happy Love Happy Luck วันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 ณ สวนเฉลิมภัทรราชินีหอคอยบรรหารแจ่มใส จังหวัดสุพรรณบุรี, งาน Hua Hin Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, งาน Ratchaprasong New Year Lighting 2024 วันที่ 5 ธันวาคม 2566-5 มกราคม 2567 ณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริและถนนเพลินจิต กรุงเทพมหานคร, งาน Light Up Christmas Tree 2024 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566-2 มกราคม 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร, งาน Amazing Thailand Countdown 2024 วันที่ 29-31 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร, งาน Centralworld Bangkok Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร และ ภาคใต้ งาน Discover Phuket Countdown 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 ณ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต, งาน HATYAI COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567 ณ ถนนศุภสารรังสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นต้น 


ททท. เชื่อมั่นว่าการจัดงานฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยว ช่วยขยายเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืน และเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในพื้นที่ของการจัดกิจกรรม เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และผู้ให้บริการล่องเรือรับประทานอาหาร เป็นต้น โดย ททท. คาดว่าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2567 การท่องเที่ยวภายในประเทศจะคึกคักมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่คนไทยเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องและถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 3.75 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 12,700 ล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 1.18 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 41,700 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้รวมทางการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 54,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

07 ธันวาคม 2566

สกายวอล์ควัดพระธาตุดอยเวา มีความยาวที่สุดในประเทศไทย


Wefiethailand ทริปนี้อยู่ที่จังหวัดเชียงราย  อากาศสบายๆ อยากชวนมาเที่ยวชม พร้อมทำบุญ ที่ Sky Walk เหนือสุดในสยาม วัดพระธาตุดอยเวา ที่มีความยาวมากสุดในประเทศไทย เปิดตัว วันที่ 9 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา “สกายวอล์ควัดพระธาตุดอยเวา” เป็นสกายวอล์คเหนือสุดของประเทศไทยตั้งอยู่ที่ อ.แม่สาย ติดชายแดนไทย-เมียนมา ลักษณะเป็นทางเดินกระจกทรงโค้งขนานไปกับถนนทางลงดอยเวา ความยาวประมาณ 150 เมตร ความยาวมากสุดในไทย มองเห็นทิวทัศน์ได้ทั้งฝั่งอำเภอแม่สาย และจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้ไกลสุดสายตา  เข้าชมคนละ 50 บาท 



วัดพระธาตุดอยเวา ที่ประดิษฐานองค์พระธาตุมีความเก่าแก่รองลงมาจาก พระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่ใน ตำบลเวียงพาคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และ พระสุพรรณกัลยา อีกด้วยค่ะ นับเป็นวัดเก่าแก่ที่เปรียบเสมือนเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวแม่สาย






สำหรับสกายวอล์คเหนือสุดในสยาม บนวัดพระธาตุดอยเวา โครงสร้างเป็นทรงโค้ง ทางเดินมีความยาวประมาณ 150 เมตร โดยโครงสร้างโลหะดังกล่าวเป็นคานที่ยื่นออกไปจากดอยจัน 2 ด้าน แต่ละด้านกว้างประมาณ 2.50 เมตร ยาวประมาณ 70 เมตร ตรงปลายเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่เชื่อมกับคานทั้ง 2 ด้านตั้งอยู่เหนือสุดในสยามเป็นสกายวอล์คที่มีทางเดินยาวที่สุดในประเทศไทย สามารถชมวิวทิวทัศน์ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา อีกทั้งยังตั้งอยู่ในจุดทำเลที่ดีและสวยงาม โดยระหว่างเดินสามารถมองเห็นวิวของ อำเภอแม่สาย และ เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนม่า ได้อย่างชัดเจน ถือเป็นอีกหนึ่งทริปที่ได้ทั้งบุญ และสัมผัสธรรมชาติ สกายวอล์ควัดพระธาตุดอยเวา ทางขึ้นวัดพระธาตุดอยเวา นอกจากจะมีทางขึ้นรถได้สองทาง




เปิดให้เข้าชมในช่วงเวลา 07.00-20.00 น.
ราคาตั๋วสกายวอล์ค บุคคลทั่วไป 50 บาท นักเรียน นักศึกษา 25 บาท

ขณะที่พระภิกษุสามเณร ผู้สูงวัยที่อายุเกิน 70 ปี ผู้พิการ และเด็กที่สูงไม่เกิน 120 เซ็นติเมตร
สามารถเข้าชมฟรี



สอบถามเพิ่มเติม วัดพระธาตุดอยเวา 836 หมู่1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โทร. 080 746 2528

facebook : Sky Walk วัดพระธาตุดอยเวา เหนือสุดในสยาม

#สกายวอล์คแม่สาย #สกายวอล์ควัดพระธาตุ #เที่ยววันธรรมดา

#AmazingWeekdays #StayAtChiangrai

#เที่ยวสบายๆสไตล์เชียงราย #AmazingChiangRaiLifestyle

#โมเมนต์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอ #สุขทันทีที่เชียงราย

#เฮอริเทจเชียงรายโฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่น


04 ธันวาคม 2566

ททท.สำนักงานเชียงราย เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ภายใต้แคมเปญ

“เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle”
ด้วยหลากหลายกิจกรรม  


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายภายใต้แคมเปญ “เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle” พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวหลากหลายกิจกรรม อาทิ เส้นทางชา-กาแฟ เส้นทางศิลปะ  Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 เส้นทาง Health & Wellness กิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน โดย ททท. สำนักงานเชียงราย ได้ยกสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวดังกล่าว มาประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวภายในงาน พร้อมทั้งรับฟังการเสวนาทิศทางการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย  

“เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle” ในระหว่างวันที่ 4 – 6 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00 – 20.00 น.  ณ บริเวณด้านหน้าอาคารเทิดพระเกียรติ 90 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ (เชิงสะพานขัวพญามังราย) อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายมีการเติบโตที่ดี โดยมีสถิติในปี 2565 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน  5,051,642 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1,389,418 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 363.58 และรายได้รวมในปี 2565 จำนวน 34,413 ล้านบาท สำหรับ 10 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม - ตุลาคม 2566) มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนรวม 4,924,558 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.29 (จากสถิติกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ซึ่งในปี 2566 จังหวัดเชียงราย  


ได้ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายของจังหวัดเชียงรายส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมือง Sport City และเป็นเมืองแห่งชาและกาแฟ รวมถึง Chiang Rai Wellness City (เชียงรายเมืองสุขภาพ) และยังได้รับการประกาศจาก UNESCO ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ และในปี 2566 – 2567 จังหวัดเชียงรายได้กำหนดจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวที่สำคัญ ดังนี้  

1. งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย  

2. งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และอีก 4 อำเภอได้แก่ อ.ป่าแดด อ.พญาเม็งราย อ.ดอยหลวง และ อ.แม่จัน  

3. งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2567  ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย  

4. งานสีสันดอยตุง ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 28 มกราคม 2567 (เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขตฤกษ์) ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย  

5. งานมหัศจรรย์ 10 ชาติพันธุ์แม่สาย ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 6 – 11 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เมล็ดคามิเลียและนำมันพืชอื่น ในมูลนิธิชัยพัฒนา อ.แม่สาย จ.เชียงราย  

6. งานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ International Balloon Fiesta 2024 ระหว่างวันที่  14 – 19 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สิงห์ปาร์คเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย  

7. งานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ระหว่างวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2567 ณ วัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย 

โดย ททท. สำนักงานเชียงราย ซึ่งรับผิดชอบด้านตลาดและการประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยา มีแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายประจำปีงบประมาณ 2567 ได้แก่ (1) โครงการเที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle ชูสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวหลักด้านชา-กาแฟ ศิลปะ (2) โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดา Amazing Weekdays Stay @ Chiang Rai ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนท่องเที่ยว และ Health & Wellness และส่งเสริมการท่องเที่ยว Soft power 4F + 1A (Faith Food Festival Fashion Art)  และ (3) โครงการ Luxperience Chiang Rai (Luxury + Experience) เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพสูงด้วยสินค้า Health & Wellness และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ผ่านการดำเนินงานในรูปแบบการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น Social Media KOL Influencer Blogger ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก  และเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายร่วมกับผู้ประกอบการ สมาคม ชมรมด้านท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยาโดยเน้นตลาดในภูมิภาคภาคเหนือ กรุงเทพมหานคร และ Roadshow ในภาคตะวันออก (ระยองและชลบุรี)   

ทั้งนี้ ททท. สำนักงานเชียงราย ได้กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle” พร้อมทั้งกิจกรรมเสวนาทิศทางการท่องเที่ยว และเปิดการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ในระหว่างวันที่ 4 – 6 ธันวาคม 2566  เวลา 14.00 – 20.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคารเทิดพระเกียรติ 90 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ (เชิงสะพานขัวพญามังราย) อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยยกสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวมาประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งภายในงานได้นำผู้ประกอบการมานำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว  



อาทิ ชา กาแฟ อาหารท้องถิ่น กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน ศิลปะ และสินค้าด้านสุขภาพ การสาธิตต่างๆ เช่น การสาธิตและการเสวนาให้ความรู้ด้านชา-กาแฟ  และศิลปะ รวมถึง Workshop งานคราฟต์ งานศิลปะ และการแสดงบนเวที และศิลปินนักดนตรีที่มีชื่อเสียงทุกวันตลอดการจัดงาน และสุดพิเศษภายในงาน พบกับแพ็คเกจท่องเที่ยวเส้นทางชา-กาแฟ เส้นทาง Thailand Biennale Chiang Rai และเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ราคาพิเศษภายในงานลดสูงสุดถึง 20% รวมถึงคูปองส่วนลดซื้อสินค้าและบริการภายในงานสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวน 50 บาท (เงื่อนไขตามที่กำหนด) และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย  


ททท. สำนักงานเชียงราย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน “เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle” และเดินทางมาสัมผัสกับประสบการณ์กับกิจกรรมการท่องเที่ยวและความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว สินค้า และบริการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 หรือ TAT Call Center โทร. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเขียงรายได้ที่เว็บไซต์ www.tourismchiangrai-phayao.com, เพจ Facebook : ททท.สำนักงนานเชียงราย