15 สิงหาคม 2567

สภากาชาดไทย เดินหน้าค้นหาผู้ที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะทั่วประเทศ

โครงการคลินิกเคลื่อนที่สำรวจความพิการบนใบหน้าฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติฯ 72 พรรษา 


วันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2567 ณ ห้องประชุมศูนย์ OTOP องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี  นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย และผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรมแนะนำโครงการคลินิกเคลื่อนที่สำรวจความพิการบนใบหน้าฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ   พระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทยและศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อร่วมกันค้นหาผู้ที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพทั่วประเทศ ณ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  โดยมี ศ.กิตติคุณ นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วย นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ผศ.จุรีรัตน์ กอเจริญยศ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี  ศ.นพ.นนท์ โรจน์วชิรนนท์ รองหัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และนางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ร่วมด้วยท่านผู้ว่าฯ นายกเหล่ากาชาดฯ จากจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมแนะนำโครงการฯ ในวันนี้ 




ศ.กิตติคุณ นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้ดำเนินงานโครงการคลินิกเคลื่อนที่ แบบสหสาขาวิชาชีพ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นการดูแลรักษาผู้ป่วยเชิงรุก ขยายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ในส่วนภูมิภาคต่างๆ       ทั่วประเทศ และในปีพ.ศ. 2561 ได้ลงพื้นที่ค้นหาและออกตรวจผู้ป่วยครั้งแรกในจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมาครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2562 ได้ลงพื้นที่ค้นหาและออกตรวจ ณ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ต่อมาในปี พ.ศ. 2563 จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ต้องหยุดการดำเนินงานไปเป็นเวลานานถึง 3 ปี และกลับมาดำเนินโครงการฯ อีกครั้งในปี พ.ศ. 2566 โดยการผนึกกำลังกับสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ในการร่วมค้นหาผู้ป่วยในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดและเจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดจังหวัด ดำเนินการค้นหาผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์และทำการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบออนไลน์ไปยังศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการประเมินเข้าตรวจรักษาอย่างใกล้ชิดจากทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งจะมาให้คำปรึกษาและติดตามอาการแก่ผู้ป่วยด้วยวิธีการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย    ในการเดินทางของผู้ป่วย ลดทอนขั้นตอนการทำเอกสารส่งตัว ลดเวลานัดพบแพทย์เฉพาะทางในแต่ละครั้ง และช่วยแก้ไขความแออัดในโรงพยาบาลให้ดีขึ้น ซึ่งจะมีการนัดและตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีการรักษาด้วยการผ่าตัดร่วมด้วยจะมีการนัดหมายเพื่อรักษาอย่างใกล้ชิด


โดยในปีพ.ศ. 2567 ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้ดำเนินงานโครงการคลินิกเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติพระบาท    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ   28 กรกฎาคม 2567 โดยความร่วมมือระหว่างศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ ร่วมกันค้นหาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ 76 จังหวัดทั่วประเทศ และส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยเพื่อให้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาจาก  ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ และโรงพยาบาลจังหวัดในพื้นที่ได้ร่วมกันตรวจ วินิจฉัย และวางแผนให้ได้การรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึง”


นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย และผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย กล่าวว่า “ สภากาชาดไทยเป็นองค์กรสาธารณกุศลระดับชาติเล็งเห็นถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ของพี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสในสังคม ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักของสภากาชาดไทยคือด้านการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัยที่มีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทำหน้าที่ให้บริการรักษาพยาบาลที่มีความเป็นเลิศเชี่ยวชาญเฉพาะทาง  ซึ่งศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย    เป็นศูนย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะชนิดรุนแรงแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้บริการรักษาผ่าตัดผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะชนิดรุนแรงให้ได้รับการรักษาจากทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ ในการนี้ สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานการดำเนินกิจการเหล่ากาชาดจังหวัดและกิ่งกาชาดอำเภอ ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการคลินิกเคลื่อนที่สำรวจ      ความพิการบนใบหน้าฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติฯ 72 พรรษา เพื่อร่วมกันค้นหาผู้ที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะทั่วประเทศ ร่วมกับหน่วยงานของสภากาชาดไทยในส่วนภูมิภาค ได้แก่ เหล่ากาชาดจังหวัด 76 จังหวัด และกิ่งกาชาดอำเภอ 300 แห่ง ที่จะเป็นสื่อกลางในการประสานงานกับทางสาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ ร่วมกับสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดกิจกรรมแนะนำโครงการคลินิกเคลื่อนที่ฯ ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีจังหวัดยโสธร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ นครพนม ร้อยเอ็ด และอำนาจเจริญ    เข้าร่วมเพื่อสร้างความเข้าใจในการร่วมกันค้นหาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะในรูปแบบของโรคต่างๆ การนำส่งข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยจากทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพและนำไปสู่การได้รับโอกาสทางการรักษาอย่างถูกต้อง”

สภากาชาดไทย จึงขอเชิญผู้ใจบุญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นผู้มอบโอกาสให้ชีวิตใหม่ หากพบผู้ที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ สามารถติดต่อเพื่อขอเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ    แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตึก สก ชั้น 14 โทรศัพท์ 0 2256 4330  ในวันและเวลาราชการ อีเมล info@craniofacial.or.th หรือเว็บไซต์ www.craniofacial.or.th หรือร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี “สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย (2)” ประเภทบัญชี “ออมทรัพย์” เลขที่บัญชี 045-2-62588-8 หรือที่ www.donationhub.or.th ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานจัดหารายได้ โทรศัพท์ 0 2256 4440, 0 2255 9911