“จะรู้ได้อย่างไรว่าสวนนี้เป็นลำไยอินทรีย์” “อินทรีย์กับ Organic ต่างกันอย่างไร” “ขอกลับมาอีกได้ไหม เห็นนาเขียวๆ รู้สึกสบายจัง” “อยากซื้อวัตถุดิบอินทรีย์ตรงกับเกษตกร” “อยากกลับไปทำฟาร์มอินทรีย์ที่บ้านบ้าง” เหล่านี้คือบางส่วนของคำถามและความเห็นของผู้บริโภค และนักท่องเที่ยว ที่สะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ คุณค่า เรื่องราวและโอกาสในการพัฒนาและส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ (Organic Tourism) ซึ่งมุ่งเน้นให้เกิดการเชื่อมโยงและความร่วมมือของคนทั้งห่วงโซ่ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับระบบอาหาร สังคม และสิ่งแวดล้อม
นายอรุษ นวราช นายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) กล่าวว่า ภายใต้โครงการ “Amazing Organic Tourism for Sustainable Living” TOCA ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีการทำงานเชิงรุก เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรสังคมอินทรีย์ทั้งต้นน้ำกลางน้ำ และปลายน้ำ ในการส่งเสริมและขับเคลื่อนกิจกรรมท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ (Organic Tourism) ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังจุดประกาย และสร้างแรงกระเพื่อมให้กับผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยว โดยทาง TOCA ได้สรุป“7 ไอเดีย เที่ยวเปลี่ยนโลก ส่งต่อคุณค่าสังคมอินทรีย์” ให้ทุกๆ การเที่ยวของทุกคนช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกนี้ได้ ดังนี้
1. Eat Organic จุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดและทำได้ทันที คือ เปลี่ยนมากินอาหารอินทรีย์ ซึ่งไม่มีสารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ที่นอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพ ยังจะเป็นประตูสู่การเรียนรู้คุณค่า ประโยชน์ของการผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์ที่คำนึงถึงระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการกินอาหารอินทรีย์ ผู้บริโภคจะได้รับรู้ถึงความแตกต่างของรสชาติ รู้จักผักพื้นบ้าน พืชผักตามฤดูกาล และหันมาสนับสนุนเกษตรกรอินทรีย์ ช่วยหนุนเสริมความมั่นคงทางอาหารมากขึ้น
2. Buy Organic หันมาซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าอินทรีย์ ตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ บนฐานการค้าที่เป็นธรรม เป็นโอกาสที่ผู้บริโภคจะได้เรียนรู้จากเกษตรกร และเข้าใจการสร้างความสมดุลของสิ่งแวดล้อมด้วยเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนต่อยอดเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวอื่นๆ โดยผู้บริโภคสามารถเจอเกษตรกรอินทรีย์ได้ด้วยการเดินทางไปที่ฟาร์ม หรือไปที่ตลาดนัดอินทรีย์ต่างๆ เช่น ตลาดสุขใจจ.นครปฐม ตลาดจริงใจ จ.เชียงใหม่ ตลาดนัดคนดี จ.ภูเก็ต นอกจากนี้ยังสามารถซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ เช่น บน TOCA Platform
3. Organic Farm Tour หรือ “Farm Visit” การเที่ยวฟาร์มอินทรีย์ นับเป็นเสน่ห์การท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ที่จุดประกายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากมาย ด้วยบริบทพื้นที่ ผลผลิต อาหาร ที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ที่ไปท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์และแรงบันดาลใจใหม่ๆ แบบครบรส 3 อิ่ม คือ อิ่มกาย อิ่มใจ และอิ่มสุข จากเรื่องราวความสำเร็จ วิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อ ความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชพันธุ์และสิ่งมีชีวิต กิจกรรม “Farm Visit” ยังจุดประกายให้ผู้ประกอบการ องค์กรต่างๆ เกิดไอเดียต่อยอดนำลูกค้ามาท่องเที่ยว หรือนำบุคลากรมาเรียนรู้ เพื่อเป็นทักษะในการรับมือกับวิกฤติต่างๆ ดังเช่นในช่วงสถานการณ์โควิด ที่ความรู้จากการเกษตรอินทรีย์ ทำให้หลายคนสามารถผลิตอาหารอินทรีย์ทานเองได้
4. Organic Chef Table ช่วยสร้างสรรค์อรรถรสในการกินได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสถานที่ ทั้งแบบชิลล์ๆ รื่นรมย์ กลางธรรมชาติของสวนผัก แปลงนา หรือในบรรยากาศสุดหรูของห้องอาหารในโรงแรม พร้อมเชฟบอกเล่าเรื่องราวเส้นทางอาหาร และประสบการณ์การเรียนรู้ ลงพื้นที่ และทำความเข้าใจ ในมิติต่างๆ ร่วมกับเกษตรกรอินทรีย์ จนกว่าจะเป็นมื้อเที่ยงจากวัตถุดิบ Organicสุดหรรษา หรือมื้อค่ำสุดพิเศษนี้ ทั้งยังเป็น Soft Power ส่งต่อคุณค่าที่มีต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเป็นจุดขายสร้างเศรษฐกิจได้อย่างมากมาย ในหลายโรงแรมที่ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง นอกจากได้ผลผลิตอินทรีย์แล้ว ขยะอาหารจากโรงแรม ร้านอาหาร สามารถส่งกลับไปให้เกษตรกร เพื่อทำปุ๋ยหมัก หรือเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ทำให้เกิดการหมุนเวียนตลอดห่วงโซ่การผลิต ได้อาหารที่เป็นอินทรีย์แท้ๆ
5. Organic Workshop & DIY เป็นกิจกรรมที่ใช้เวลาไม่นาน โดยเกษตรกรอินทรีย์เป็นวิทยากร สอนทำ และพาทำ เพื่อสร้างทักษะให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวสามารถนำความรู้จากฟาร์ม กลับไปทำที่บ้านได้ เช่นการเพาะผักในเปลือกไข่ การเพาะต้นอ่อนผักบุ้ง การทำปุ๋ยหมักใช้เองในแปลง รวมถึงการแปรรูปผลผลิต เช่น ทำชาสมุนไพร เพื่อเพิ่มมูลค่า และการทำซอสมะเขือเทศ เพื่อลดความสูญเสียจากผลผลิตที่ออกมามากไปและเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค
6. Organic Knowledge & Seminar องค์ความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์ซ่อนอยู่ในแปลงมีมากมาย ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจ จะได้ความรู้เชิงลึก และได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ มีการจัดอบรมและเสวนาให้ความรู้อยู่เสมอ เช่น ความสำคัญของดิน เทคนิคการปรุงดิน เทคนิคการทำปัจจัยการผลิตต่างๆ ตลอดจนการแปรรูป
7. Organic Food Festival & Event ในหลายๆ จังหวัดที่มีการรวมกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์อย่างเข้มแข็ง จะมีการจัดงานรวมพลังเครือข่ายสังคมอินทรีย์ เกษตรอินทรีย์ ทำให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวจะได้ไปชิม ช้อป อาหาร รวมถึงได้แรงบันดาลใจ ได้เจอเครือข่าย ที่พร้อมแบ่งปันความรู้ เพื่อการพัฒนา ดังเช่น ทุกปีจะมีการจัดงานสังคมสุขใจ ที่สวนสามพราน จ.นครปฐม หรืองาน Amazing Green Fest 2024 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ The Cloud หรือล่าสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ จัดเทศกาลหวานดี (Longan-Givity Festival) โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่สวนผักฮักร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมให้มีการปลูกและรู้จักลำไยอินทรีย์มากขึ้น ได้รับความร่วมมือจากทีมเชฟของโรงแรมร้านอาหาร ชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมกันสร้างสรรค์เมนูอาหารอินทรีย์คาวหวานจากลำไยอินทรีย์ มีการพาทัวร์สวนลำไยอินทรีย์ เพื่อให้เห็นระบบนิเวศที่สมดุลและเกื้อกูลกัน
นายอรุษ นวราช กล่าวอีกว่า ด้วยบริบทของแต่ละพื้นที่ และความสนใจที่แตกต่างกันไป นอกจาก 7 ไอเดียเที่ยวเปลี่ยนโลกแล้ว ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยว สามารถออกแบบผสมผสานกิจกรรมต่างๆ เข้าด้วยกัน ตามความสนใจได้ เช่น คนที่สนใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากป่า สามารถไปที่ชุมชนแม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีกิจกรรมพาเดินป่า เรียนรู้การอยู่ร่วมกันของคนกับป่า และมีกิจกรรมสนุกสนานเก็บผักพื้นบ้านมาทำแกงแค เก็บไข่ในฟาร์มมาทำไข่ป่าม การแช่เท้าด้วยสมุนไพร หรือคนที่อยากได้ความรู้เชิงลึก ที่สวนผักฮักร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่มีการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และระบบนิเวศ เข้ามาออกแบบแปลง จัดการดิน จัดการผลผลิต และมีกิจกรรมให้มีส่วนร่วม เช่น ดำนา เกี่ยวข้าว เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจการเที่ยววิถีอินทรีย์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.tocaplatform.org พร้อมสมัครเป็นสมาชิก TOCA (ไม่มีค่าใช้จ่าย)หรือติดตามข่าวสารความรู้ ได้ที่เพจ TOCA Platform ได้อีกช่องทาง ซึ่งใน TOCA Platform ยังมีกิจกรรม Earth Points ที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นสะสมได้ทันทีจากการซื้อ โดยทุกๆ 25 บาท ได้รับ 1 คะแนน หมายถึง คุณได้เริ่มต้นมีส่วนร่วมลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับโลกได้มากขึ้น “เพื่อโลกยั่งยืน เริ่มต้นได้ง่ายๆ แบบนี้ ชวนกันมา ททท. คือ เที่ยวทันที กันเลย !!!!”