29 ธันวาคม 2565

อิมเมจิน ไทยแลนด์ฯ ผนึก ผู้นำชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ นครปฐม

รุกพัฒนาศักยภาพเยาวชน สร้างภูมิคุ้มกันจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ

เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง Imagine Thailand Movement องค์กรขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ ร่วมกับผู้นำชุมชน    คลองมหาสวัสดิ์ และผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสุวรรณาราม จ.นครปฐม จัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนสร้างสรรค์  สุขภาวะชุมชนคลองมหาสวัสดิ์” ภายใต้ โครงการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ โดยการสนับสนุนของ สสส.  เป้าหมายสำคัญ เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชน รู้เท่าทันอันตราย จากปัจจัยเสี่ยง  พร้อมเสริมทักษะภาวะความเป็นผู้นำ ร่วมพัฒนาคลองมหาสวัสดิ์ให้เป็นพื้นที่สุขภาวะ

ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการทางสังคม (ประเทศไทย)  และ Imagine Thailand Movement  กล่าวว่า หนึ่งในความท้าทายของเด็กและเยาวชนในสมัยนี้คงหนีไม่พ้นปัจจัยเสี่ยงรอบตัว ทั้งด้านกายภาพ สิ่งเสพติด และด้านจิตใจ รวมถึงสื่อออนไลน์ที่ทุกวันนี้ทำให้สภาพสังคมทุกอย่างดูเร่งรีบ รวดเร็วไปหมด เยาวชนมีความเสี่ยงที่จะเสพสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา โอกาสการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นน้อยลง และทักษะการอยู่ร่วมกันก็น้อยลงไปด้วย ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ มันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป้าหมายที่ท้าทายคือจะทำอย่างไรให้เด็กมีความพร้อม และสามารถเลือกเสพสื่อต่างๆ อย่างเข้าใจ เพราะฉะนั้นผมคิดว่า การทำความเข้าใจให้กับเด็กๆ ผ่านกระบวนการค่าย ทำให้เขาได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสิ่งเสพติด  เพื่อเป็นเกราะป้องกันภัย พาตัวเองออกมาจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เหล่านั้น   



“เราทำงานกับผู้นำชุมชน ปราชญ์ ศิลปิน ในพื้นที่ชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ เข้าสู่ปีที่ 3 และยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ค่ายเยาวชนสร้างสรรค์สุขภาวะ เป็นหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่เราใช้ดึงความร่วมมือของคนในชุมชน  เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้นำชุมชน และโรงเรียนวัดสุวรรณาราม เราเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และขณะเดียวกันเรียนรู้ทักษะการอยู่ร่วมกัน การทำงานเป็นทีม  ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทักษะเหล่านี้จะทำให้เขาเติบโตและสามารถอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขต่อไป” ดร.อุดม กล่าว 


อาจารย์ภัทรียา คชหิรัญ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสุวรรณาราม ได้กล่าว เด็กที่นี่มีความเสี่ยงเรื่องยาเสพติดที่มีอยู่ในชุมชน  แต่ไม่ได้หมายความว่า เด็กนักเรียนของเราจะติดยาเสพติด แต่ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โรงเรียนเองควบคุมไม่ได้ทั้งหมด เพราะเด็กอยู่โรงเรียนแค่ 6 ชั่วโมง อยู่ที่บ้านมากกว่า จึงมีโอกาสพบเจอกับสิ่งที่ไม่ดี   ทำให้ชุมชนเกิดความตระหนัก ครูเองมีความเป็นห่วง ยิ่งช่วงนี้สังคมเราเปิดกว้างให้กับสิ่งเสพติดค่อนข้างเยอะ  การมีค่ายเหมือนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชน เพราะค่ายสอนทักษะการอยู่ร่วมกัน ซึ่งปกตินักเรียนอยู่ในชุมชนเมือง ตัวใครตัวมัน หมดเวลาก็กลับบ้าน และสอนให้รู้จักการทำงานเป็นทีม 
ซึ่งความรู้เหล่านี้ ทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกัน และรู้จักที่จะชักชวนกันไปในทางที่ดี                                                                                                   
กิจกรรมนี้เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของผู้นำชุมชน นำโดย คุณจงดี เศรษฐอำนวย (ป้าแจ๋ว) คุณขนิษฐา    พินิจกุล (พี่ฐา) คุณวาษิณี เชื้อวงศ์ (พี่กบ) อาจารย์ภัทรียา คชหิรัญ ผอ.โรงเรียนวัดสุวรรณารามและคุณครู  พร้อมด้วย เด็กนักเรียนชั้นป.4-ป.6 จำนวน 42 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้  ณ โรงเรียน            วัดสุวรรณาราม ต.ศาลายาอ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 

กระบวนการค่ายถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต ภาวะความเป็นผู้นำ รวมถึงการรู้เท่าทันอันตรายจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ที่สอดแทรกไว้ในแต่ละกิจกรรม โดย เด็ก ๆ ได้พัฒนาฝึก 3 ฐานหลัก ได้แก่ ฐานกาย ได้เคลื่อนไหวร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ ฐานคิด ได้เรียนรู้หลักเรื่องหมวก 6 ใบ ที่สอนให้รู้ว่าใน 1 เรื่องสามารถคิดได้หลายมุม และฐานใจ ได้ฝึกสมาธิ การใช้จินตนาการ ด้วยการวาดลายเส้น การระบายสี  และในส่วนของเนื้อหา ได้เรียนรู้เรื่องของอนาคตที่จะมีการเปลี่ยนแปลง การที่จะอยู่รอดได้ คือ ต้องใช้สิ่งที่มีอยู่ในตัวเองให้เป็นประโยชน์ เพราะทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง 

แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ  แต่องค์ความรู้ที่พวกเขาเก็บเกี่ยวติดตัวกลับไปมีคุณค่า และมีความหมายมากมาย   อย่าง  ด.ช.ฐิติวีฒน์  เฉยสวัสดิ์ นักเรียนชั้นป.6  บอกว่า มีความสุขมาก เพราะค่ายนี้ทำให้เขารักและเข้าใจเพื่อนมากขึ้น จากการเรียนรู้วิธีคิดเรื่องหมวก 6 ใบที่1เรื่องสามารถคิดได้หลายมุม  ทั้งที่ก่อนหน้านี้รู้สึกไม่ชอบเพื่อนคนนี้เลย  ค่ายเปลี่ยนความคิดทำให้มีความสุข  และสนุกกับการวาดเส้นระบายสี เพราะได้ใช้สมาธิ ทั้งยังได้ความรู้เรื่องการทำงานเป็นทีม หลังจากนี้จะนำความรู้ ไปบอกเล่าน้องๆ ที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรม     



หัวใจความสำคัญของการขับเคลื่อน คือความต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากค่ายเยาชนนี้จะมีการขับเคลื่อนกิจกรรมกันต่อ โดยจะมีการคัดเลือกเยาวชนแกนนำ เข้ามามีส่วนร่วมทำงานกับผู้นำชุมชน วัด โรงเรียน สู่เป้าหมายการพัฒนาชุมชนคลองมหาสวัสดิ์เป็นพื้นที่ต้นแบบสุขภาวะต่อไป