9 มีนาคม 2565, กรุงเทพฯ:บริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือพีแอนด์จี ประเทศไทย หนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำ อาทิ แพนทีนเฮดแอนด์โชว์เดอร์โอเลย์รีจอยส์ดาวน์นี่ ยิลเลตต์ และ ออรัล บี ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 35 ปี มุ่งมั่นคิดค้นนวัตกรรมทางผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคและยึดถือบรรษัทภิบาลในการดำเนินธุรกิจในฐานะพลเมืององค์กรที่ดีของสังคมโดยรณรงค์และสนับสนุนประเด็นทางสังคมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม (Sustainability), การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ (Ethics & Responsibility), ความเท่าเทียมและความเสมอภาค (Equality & Inclusion) รวมไปถึงการพัฒนาสังคมและชุมชน (Community Impact).
ในโอกาสครบรอบ 35 ปีของการประกอบกิจการในประเทศไทย พีแอนด์จีประเทศไทยจึงเปิดตัวโครงการvGrow ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ที่จะผลักดันและกระตุ้นเชิงนวัตกรรมผ่านอุตสาหกรรมธุรกิจสตาร์ทอัพ อีกทั้งโครงการนี้ยังมุ่งเน้นการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพของไทย ให้มีโอกาสได้เรียนรู้มีส่วนร่วม และนำเสนอแนวคิดทางธุรกิจกับบุคลากรของพีแอนด์จีเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญทางธุรกิจในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาโอกาสทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีโอกาสทำธุรกิจร่วมกับพีแอนด์จี ประเทศไทยอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น โครงการ vGrowยังได้ตอกย้ำภารกิจของ พีแอนด์จี ประเทศไทยทั้งในเรื่องการเป็นพลเมืองที่ดี (Force For Good) และการเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้สังคมเติบโต(Force For Growth) โดยมุ่งขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมเชิงธุรกิจในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงาน อีกทั้งโครงการนี้ยังเพิ่มโอกาสให้กับ พีแอนด์จี ประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์จากความคิดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นโดยสตาร์ทอัพในเมืองไทยอีกด้วย
มร. นิธิน ดาบาริ, กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีแอนด์จี ประเทศไทย กล่าวว่า “พีแอนด์จี ประเทศไทย ได้เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อ 35 ปีที่แล้วจากการเป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่มีพนักงานเพียงไม่กี่สิบคน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้มุ่งมั่นพัฒนาและขยายธุรกิจด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงพร้อมด้วยการสื่อสารการตลาด และกลยุทธ์การกระจายและนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาดที่ดีที่สุดให้กับคนไทยมาโดยตลอด จนวันนี้เราคือหนึ่งในบริษัทชั้นนำของเมืองไทย ซึ่งถ้าหากมองย้อนกลับไปเมื่อ 35 ปีที่แล้วเราอาจเรียกตัวเองว่าเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพในสมัยนั้นได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้เอง พีแอนด์จี ประเทศไทยจึงมีแรงบันดาลใจที่จะผลักดันโครงการที่เน้นการสนับสนุนและสร้างโอกาสให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจให้เติบโตในอนาคต เราจึงเปิดตัวโครงการvGrow ในประเทศไทยขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในเมืองไทยให้เข้าร่วมนำเสนอแนวคิดทางธุรกิจเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันกับพีแอนด์จี ประเทศไทย ในปี 2565 นี้ซึ่งเป็นปีแรกของการดำเนินโครงการvGrow เรามุ่งเน้นธุรกิจด้านเทคโนโลยีซึ่งในปัจจุบันถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และนอกจากการสนับสนุนในเชิงธุรกิจแล้วเรายังให้ความสำคัญในเรื่องอื่น ๆ อาทิ การสร้างความเท่าเทียมทางสังคมซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ vGrow จะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ให้โอกาสนักธุรกิจสตรีได้แสดงศักยภาพให้สังคมได้รับรู้อย่างเต็มที่อีกด้วย”
ด้านเจค เดนนี่ผู้ร่วมก่อตั้ง บาวน์ตี้ มีเดีย(Bounty Media)กล่าวว่า “เราเพิ่งเดินทางมาถึงประเทศไทยอาทิตย์นี้เพื่อมาประชุมและแนะนำ บาวน์ตี้ มีเดียให้เป็นที่รู้จักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากที่เรามีโอกาสได้นำเสนอไอเดียและในที่สุดก็คว้าชัยชนะในโครงการ vGrowของพีแอนด์จี ได้ในวันแรกของการเดินทางครั้งนี้”
ส่วน แคลส โลเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่และผู้ร่วมก่อตั้งบาวน์ตี้ มีเดีย (Bounty Media)กล่าวเสริมว่า “เราได้รับการแนะนำให้รู้จักกับโครงการ vGrowของ พีแอนด์จี ผ่านทาง Plug & Play ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้รับประสบการณ์ที่ดีมาก และเราตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับทีมพีแอนด์จี ประเทศไทย ในฐานะพาร์ทเนอร์หลักเพื่อแนะนำ บาวน์ตี้ มีเดีย ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียแปซิฟิค”
โครงการvGrow ของพีแอนด์จี ประเทศไทย ได้ดำเนินการเปิดให้ธุรกิจสตาร์ทอัพนำเสนอผลงานเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาโดยมีธุรกิจสตาร์ทอัพ 3 บริษัทที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพื่อมานำเสนอผลงานให้กับผู้บริหารและทีมงานของพีแอนด์จี ประเทศไทย โดยธุรกิจสตาร์ทอัพที่ชนะจะได้รับโอกาสในการร่วมธุรกิจกับพีแอนด์จี ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นประตูบานสำคัญในการต่อยอดธุรกิจของสตาร์ทอัพในประเทศไทย