ปัจจุบันองค์กรภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจดังกล่าวเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนในอนาคต
· TBCSD รวมพลังสร้างสมดุลเศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
(TBCSD) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 28 ปีTBCSD ซึ่งเป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวกันของภาคธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศไทยที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนกว่า
40 องค์กร
และด้วยความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งขององค์กรสมาชิก
และการทำงานร่วมกันกับองค์กรพันธมิตร TBCSD จึงสามารถยกระดับภาคธุรกิจไทยให้ดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน
และสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยดำเนินการไปพร้อม ๆ
กับการขยายกรอบการทำงานเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาระดับชาติด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ “บทบาทภาคเอกชนกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13” ว่า ความท้าทายในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ได้ตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับแนวทางการพัฒนาประเทศให้สมดุลและยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ของสหประชาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยสู่ ‘สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน’ ซึ่งภาคเอกชนเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่จะช่วยเร่งรัดให้เกิดความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
·
5 องค์กรพันธมิตรหนุนสร้างความยั่งยืนภาคธุรกิจไทย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ให้ความร่วมมือกับ TBCSDอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมภาคธุรกิจไทยให้ดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน
เช่น สนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและระบบโลจิสติกส์การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและของเสียอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีและพัฒนาแพลตฟอร์มการบริหารจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและผลิตภัณฑ์พลอยได้
เพื่อนำของเสียเข้าสู่ระบบการจัดการที่เป็นรูปธรรม นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ สนับสนุนการเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
รวมทั้งส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยจัดโครงการความร่วมมือการรับซื้อฟางข้าวใบอ้อยและซังข้าวโพด เพื่อลดปัญหา PM2.5 และภาวะโลกร้อน โดยคาดหวังว่าสมาชิกของ TBCSD ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจขนาดใหญ่ระดับประเทศ และมีองค์กรที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจที่หลากหลายจะสร้างพลังการขับเคลื่อนธุรกิจและประเทศไทยให้ก้าวหน้าสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืน
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ให้มีระบบและกลไกในการบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาลอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัว เติบโต และแข่งขันได้ในระดับสากล สอดคล้องกับพันธกิจของ TBCSD ที่มุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจไทยมีความยั่งยืนและประสบความสำเร็จ เพื่อช่วยการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกที่ยั่งยืน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการสร้างความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมในภาคธุรกิจ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจไทยในเวทีโลก
นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกรวนที่เกิดจากการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน ซึ่งองค์บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกฯได้ส่งเสริมความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในระดับองค์กร และได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ TBCSD เพื่อช่วยกันสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรภาคธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงยกระดับการลดก๊าซเรือนกระจกและขับเคลื่อนประเทศไทยให้เข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และการเป็น Net Zero ได้ตามเป้าหมาย
ด้วยจุดยืนของ TBCSD กับบทบาทการเป็น “ผู้นำ” และความร่วมมืออย่างเข้มแข็งขององค์กรสมาชิก การทำงานร่วมกับองค์กรพันธมิตรเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศเพื่อยกระดับภาคธุรกิจไทยด้านความยั่งยืนที่ทันกระแสโลกและตอบโจทย์ทิศทางการพัฒนาของประเทศ จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง.