28 กุมภาพันธ์ 2563

สพฐ. ชี้

 “All for Education”

ยุค 4.0ต้องเป็น “All for Education” ทุกคนมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียนเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระบุแนวทางการสื่อสารกับผู้ปกครองให้เข้าใจทิศทางการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียน ต้องเน้นย้ำและสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน ว่าการศึกษาในวันนี้ต้องเป็นแบบ “Allfor Education” คือคนทุกคนต้องมีส่วนร่วม หวังพึ่งโรงเรียนอย่างเดียวคงไม่พอหนึ่งสัปดาห์เด็กอยู่ที่โรงเรียน 5 วัน ที่เหลือคืออยู่กับครอบครัว สังคม ชุมชน ดังนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันขับเคลื่อนสังคมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพดร.อำนาจ วิชยานุวัติเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ในการเรียนรู้นั้น คุณครูผู้ปกครอง หรือชุมชน สังคม ต้องช่วยกันสร้างเกราะป้องกันให้กับเด็กให้เขาได้มีความพร้อมในการที่จะอยู่กับโลกใบนี้อย่างมีความสุขผมต้องเชิญชวนทุกท่าน ทั้งผู้ปกครอง หน่วยงานทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคประชาชนต้องช่วยกันลงมาดูแลเด็กๆของเรา ถ้าเด็กมีความเข้มแข็งทั้งด้านวิชาการ ด้านทักษะชีวิต ด้านอาชีพที่ดีแล้วประเทศไทยเราจะเจริญรุดหน้าไปได้ไกลขึ้น กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การกำกับของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้กำชับคือการสร้างความเข้มแข็ง ทั้งภายในและภายนอกให้เกิดขึ้นกับตัวเด็กภายในหมายถึงองค์ความรู้ที่เกิดขึ้น ทักษะที่เกิดขึ้น แล้วแต่ทัศนะคติของเด็กเอง เขาต้องแข็งแรงทั้งด้านทักษะวิชาการทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต ส่วนภายนอกคือสังคมรอบนอก เราต้องช่วยกันหล่อหลอมช่วยกันดูแลใส่ใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเด็กทำให้เด็กมองเห็นว่าสิ่งที่มีอยู่รอบข้างนั้นมีหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์และหลายเรื่องที่เป็นโทษ ให้เขาได้เรียนรู้ หัดคิดหาเหตุและผลให้พื้นที่เขาได้แสดงความคิดเห็นด้วย เพราะเด็กทุกคนมีความหมายและมีความสำคัญไม่ต่างกัน”หลังการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติครั้งที่ 69 ประจำปี 2562 ใน 4 ภูมิภาค ที่เพิ่งผ่านพ้นไปแล้วนั้น เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงกันระหว่าง Thailand 4.0 และงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนอีกครั้งว่า 107ปีที่ผ่านมาว่า“นัยยะของคำว่าศิลปหัตถกรรมนั้นเป็นสิ่งที่นำความเป็นไทยมาหล่อหลอม มาผสมผสาน มาเติมเต็มซึ่งกันและกันกับความเป็นโลกยุคใหม่จะเห็นว่ามีการแข่งขัน Robot ด้วยการแข่งขัน Codding การแข่งขันคอมพิวเตอร์แข่งขันภาษาต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการจัดการแข่งขันที่บ่งชี้ถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยของเราอาทิ การแกะสลัก การแสดงดนตรีไทย การฟ้อนรำ รวมทั้งด้านอื่นๆสะท้อนให้เห็นความงดงามทางศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเกียรติภูมิที่บรรพชนของเราได้อนุรักษ์หวงแหนถ่ายทอดมาสู่คนรุ่นหลัง และ  ได้รับ
การอนุรักษ์และถ่ายทอดไปสู่อนุชนรุ่นหลังพร้อมๆ กับการก้าวไปสู่ยุคอนาคตต่อไปการพัฒนาผู้เรียนของเราจึงต้องได้รับการอบรมบ่มเพาะ หล่อหลอม สอดคล้องทันสมัยทันยุคและคงความเป็นไทยของเรา ไว้ให้ได้” นี่คือบทสรุปที่แน่วแน่ในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนที่ชัดเจนยิ่งของ ดร.อำนาจ กล่าว

เช่นเดียวกันกับความเห็นของ นายพยอม วงษ์พูล ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัยเขต 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 69 ปีการศึกษา 2562 ภาคเหนือ จังหวัดสุโขทัยที่เห็นว่าการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้-ต่อยอดการศึกษา สู่อาชีพที่มั่นคงสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง นั้น เด็กๆ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากเวทีการประกวดต่างๆบริบทต่างๆ เสริมควบคู่ไปจากการเรียนรู้ภายในห้องเรียน คำขวัญการจัดงานของภาคเหนือคือวิชาการก้าวนำ หัตถกรรมก้าวหน้า เด็กเหนือพัฒนา ภูมิปัญญาสู่สากล ภูมิปัญญาในที่นี่เป็นการนำเอาความรู้ด้านวิชาการที่มีมากมายหลายแขนง ทั้งศาสตร์และศิลป์ซึ่งมีการพัฒนาและนำสมัยอยู่ตลอดเวลามารวมกัน หัตถกรรมหรือฝีมือต่าง ๆ ก็ต้องได้รับการพัฒนาไม่ด้อยไปกว่าทางด้านวิชาการ โดยให้เด็กหรือนักเรียนเป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์ในเชิงสร้างสรรค์และถ่ายทอดซึ่งกระบวนการคิดวิเคราะห์ผ่านการนำเสนอในรูปแบบต่างๆจนเกิดซึ่งภูมิปัญญาหรือผลงานเชิงสร้างสรรค์ ที่สะท้อนความรู้กระบวนการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ออกมาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาผู้ที่ได้พบเห็นทั้งในและต่างประเทศอันจะเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพของผู้เรียนได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญต้องสามารถนำภูมิปัญญานั้นไปสร้างอาชีพสร้างรายได้และเป็นบุคคลที่มีส่วนในการพัฒนาชาติต่อไป


อย่างไรก็ตาม นายพยอม ยังกล่าวเสริมอีกว่า  การแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนฯมีการลงพื้นที่จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตพื้นที่ เพื่อติดตาม สังเกตการณ์การแข่งขันกิจกรรมทุกสนามแข่งขัน เพื่อเก็บข้อมูลอันจะนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการจัดการศึกษาในด้านต่างๆอาทิ นักเรียนที่เข้าแข่งขันมีทักษะทั้งทางด้านวิชาการมีความรู้ความสามารถเป็นไปตามความต้องการของหลักสูตร มีทักษะวิชาชีพซึ่งสามารถพัฒนาต่อยอดและนำไปสู่การเป็นอาชีพ นักเรียนแสดงออกอย่างมีความคิดสร้างสรรค์การใช้เทคโนโลยีต่อยอดทางการศึกษาเรียนรู้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน เช่น การแข่งขันหุ่นยนต์ และนักบินน้อย สพฐ.เป็นต้น ซึ่งต้องยอมรับว่าการแข่งขันศิลปหัตถกรรมที่ผ่านมาจากอดีตถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคมโดยมุ่งเน้นให้เด็กค้นหาและพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อพัฒนาเป็นอาชีพได้อย่างสร้างสรรค์ “อยากให้นักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความรู้ความสามารถที่ได้รับจากการแข่งขันในครั้งนี้ ไปพัฒนาผลงานของตนเองหรือนำไปต่อยอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อปูทางไปสู่การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไปและที่สำคัญได้นำไปสร้างอาชีพที่มั่นคง สร้างรายได้เลี้ยงตัวและครอบครัวรวมทั้งสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของตนเองต่อไป” 
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 กล่าว สรุป