11 กันยายน 2568

T&B Media Global เปิดบ้านต้อนรับ ผู้บริหารหลักสูตรและผู้เข้าอบรม

หลักสูตร  “THE CREATORS : Craft your future”

บริษัท T&B Media Global (ประเทศไทย) จำกัด เปิดบ้านต้อนรับ ผู้บริหารหลักสูตร และ ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “THE CREATORS : Craft your future” ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ผลิตและสร้างบุคคลกรด้านภาพยนตร์ สารคดี ละคร ซีรีส์ และ แอนิเมชัน  ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ซึ่งคณะผู้บริหารโครงการได้เห็นศักยภาพของ T&B ที่เป็นผู้ผลิตแอนิเมชันแถวหน้าของเมืองไทย โดย ดร.ณัฐวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คุณภาคภูมิ ตันตนันตา Group Deputy  CEO, คุณวุฒิกร เส้า Group Chief Business Development and Contents Officer, คุณรัชต์ จิราธรศิริ Chief Operation Officer , คุณกฤษ เงาศรี  Director of Production, คุณพรวิรุณ แก้วทอง  Project Director and Producer  ร่วมแนะนำผลงานของบริษัท พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เข้าอบรมโดยมี คุณวรวรรณ ติณสูลานนท์  Corporate Communication & PR Advisor ร่วมงาน




“THE CREATORS : Craft your future”   เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง   สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร่วมกับ สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) สมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) และ ผู้ประกอบการสมาชิกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สนับสนุนโดย  กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีผู้ประกอบการระดับท็อปของวงการด้านวิชาชีพที่มาให้ความรู้ และแนวคิดให้กับผู้เข้าอบรมได้ความรู้และนำไปต่อยอดกับการผลิตผลงานในวิชาชีพต่อไป


นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายยังได้มีการนำเสนอผลงานของผู้เข้าอบรม เพื่อรับทุนในการผลิตผลงานผ่านกรรมการตัวจริงเสียงจริง  นำโดย  คุณเขมทัตต์ พลเดช    นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุ และโทรทัศน์ดร.โชคชัย  เอี่ยมฤทธิไกร   CEO TERO DIGITAL COMPANY LIMITED, คุณคริสโตเฟอร์ วอชิงตัน,  ดร.ธราภุช จารุวัฒนะ   CEOบริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด และ คุณสุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์ ที่ปรึกษาสมาพันธ์  ซึ่งทุกทีมได้ถูกผ่านการปรับเปลี่ยนเนื้อหา และให้คำปรึกษาโดยทีมพี่เลี้ยง  ทั้งนี้เพื่อให้พร้อมต่อการนำเสนอโดย บริษัท T&B Media Global(ประเทศไทย) จำกัด  ได้ส่งตัวแทนของบริษัทเข้าร่วมในการอบรมครั้งนี้ด้วย

10 กันยายน 2568

การประชุมสุดยอดทางธุรกิจ Chile-ASEAN Business Summit 2025

เปิดศักราชใหม่แห่งการค้า นวัตกรรม และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม       

กรุงเทพฯ, 10 กันยายน 2568  การประชุม Chile-ASEAN Business Summit 2025 เปิดฉากอย่างเป็นทางการวันนี้ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี โดยตลอด 3 วันของการประชุม มุ่งเน้นการเสวนาระดับสูง การจับคู่เจรจาธุรกิจ การเยี่ยมชมกิจการต่างๆ ตลอดจนกิจกรรมทางวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างชิลีกับภูมิภาคอาเซียน



เอกอัครราชทูตชิลีประจำประเทศไทย นายปาตริซิโอ พาวเวลล์ เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีนางเกลาเดีย ซานอูเอซา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศฝ่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สาธารณรัฐชิลี ดร. นลินี ทวีสิน อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย และนายอิกนาซิโอ เฟอร์นันเดซ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (ProChile) ร่วมกล่าวต้อนรับ ซึ่งทุกฝ่ายล้วนย้ำถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของชิลีในฐานะพันธมิตรสำคัญของอาเซียน หนึ่งในภูมิภาค เศรษฐกิจที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก

ผู้ส่งออกจากชิลีกว่า 20 รายในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เกษตรและอาหารทะเล ไวน์ ไม้ป่าไม้ บริการ และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เดินทางมาร่วมงานที่กรุงเทพฯ และจาการ์ตา โดยมีกำหนดเข้าร่วมการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 200 รอบกับผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายกว่า 70 รายจากทั่วอาเซียน อาทิ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังมีการสัมมนา เวิร์กช็อปไวน์ และเทศกาลสินค้าสำหรับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อแนะนำสินค้าต่างๆ จากชิลีสู่ผู้บริโภคในไทยและภูมิภาค





“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างชิลีกับอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของความตกลงการค้าเสรีชิลี–ไทย” นางซานอูเอซา กล่าว “แม้เราจะอยู่ห่างไกลกันคนละทวีป แต่เรายังคงเชื่อมโยงถึงกันด้วยค่านิยมร่วม ซึ่งได้แก่ การเปิดกว้างทางการค้า ความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และความเชื่อมั่นว่าการร่วมมือระดับภูมิภาคคือกุญแจสำคัญสู่ความรุ่งเรืองในอนาคต”

ด้วยจำนวนประชากรกว่า 680 ล้านคน และชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อาเซียนนับเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ สำหรับชิลีในการกระจายการค้าและการลงทุน ในขณะเดียวกัน อาเซียนก็สามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย และยั่งยืนจากชิลี รวมถึงระบบนิเวศของนวัตกรรมที่เต็มไปด้วยพลังของชิลีซึ่งจะเป็นประตูไปสู่ต่อภูมิภาคลาตินอเมริกา





นายอิกนาซิโอ เฟร์นานเดซ อธิบดี ProChile กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการสร้างโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการ SMEs  “เราไม่ได้มุ่งหวังแค่ตัวเลขทางการค้า แต่เราอยากเปิดโอกาสให้ SME ของชิลี ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของภาคส่งออก ได้พบปะโดยตรงกับคู่ค้าจากอาเซียน เพื่อขยายเครือข่ายและสร้างความร่วมมือระยะยาว งานที่จัดครั้งนี้ผสมผสานระหว่างการเจรจาธุรกิจกับกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น การสาธิตการทำอาหารชิลี และกิจกรรมโปรโมชันร่วมกับห้างค้าปลีกอย่าง Gourmet Market ที่เอ็มควอเทียร์ และ GO! Wholesale รังสิต แสดงให้เห็นถึงมิติต่างๆ ในด้านความคิดสร้างสรรค์และการร่วมมือของชิลี”

ดร. นลินี ทวีสิน อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า “การเดินทางของคณะผู้แทนการค้าชิลีมายังประเทศไทยครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ชิลีคือมิตรประเทศของไทย จากอีกฝั่ง ของมหาสมุทรแปซิฟิก  และเราก็หวังว่าชิลีจะถือว่าเราคือ ประตูสู่อาเซียนเช่นเดียวกับที่เรายึดถือชิลีเป็นประตูสู่ละตินอเมริกา”

Chile-ASEAN Business Summit 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วยการหารือด้านการค้า การเจรจาระดับรัฐบาล และกิจกรรมทางวัฒนธรรม เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของชิลี ที่จะเป็นพันธมิตร ระยะยาวของอาเซียน ในด้านความมั่นคงทางอาหาร นวัตกรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน

09 กันยายน 2568

DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025

จัดยิ่งใหญ่ แฟนคลับดิสนีย์แห่ร่วมงาน สวรรค์ของนักสะสม แบรนด์ของเล่นระดับโลกร่วมสร้างสีสันเต็มพื้นที่

ก้าวเข้าสู่โลกของ Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars – DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมตอกย้ำความยิ่งใหญ่ในฐานะหนึ่งในงานของเล่นของสะสมธีมดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอด 4 วันเต็ม งานได้รวบรวมทัพของเล่น ของสะสม และสินค้าลิขสิทธิ์จากแบรนด์ระดับโลก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวสุดรักของ Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars

วันเปิดงานเต็มไปด้วยแฟนดิสนีย์ นักสะสม และผู้เข้าชมทุกวัย ที่มาร่วมช้อปคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดและสินค้าลิมิเต็ดที่ห้ามพลาด ธีมของปีนี้คือ “Discover the world of Disney” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ โดยมีไฮไลต์คือจุดถ่ายรูปสุดน่ารัก “Stitch Preserved Flower” ขนาดสูง 1.8 เมตร และกิจกรรม Meet & Greet กับเพื่อนคนพิเศษจากเรื่อง Lilo & Stitch ตอกย้ำประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่แฟนดิสนีย์ทั่วโลกต้องมาเยือน 



งานนี้จัดโดย The Walt Disney (Thailand) Company Limited ร่วมกับ Asaki International Co., Ltd., Central Pattana Public Company Limited, Shopee (Thailand) Co., Ltd., Advanced Wireless Network Co., Ltd. และ Toytopia Co., Ltd. ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ตอกย้ำความนิยมในหมู่แฟนดิสนีย์และนักสะสม พร้อมทั้งช่วยขับเคลื่อนตลาดของสะสมและ art toy ในไทยให้คึกคักยิ่งขึ้น


Alex Baillie รองประธานและผู้จัดการทั่วไป Disney Consumer Products, South Asia Pacific กล่าวว่า  “ความนิยมในของสะสมเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ art toy ที่กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนรักและผูกพัน และเป็นสิ่งที่เชื่อมระหว่างแฟนๆกับเรื่องราวที่พวกเขาชื่นชอบ งาน Disney Toy Expo Thailand เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงให้เห็นว่า แบรนด์ต่าง ๆ ได้ตีความคาแรคเตอร์เหล่านี้ใหม่อย่างไร และทำให้สินค้าเข้าถึงทุกเจนเนอเรชันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้   

DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 กันยายน 2025 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,700 ตร.ม. บน 3 ชั้นงาน มาพร้อมของเล่น ของสะสม ฟิกเกอร์ แกดเจ็ต อุปกรณ์เสริม ของตกแต่งบ้าน เครื่องนอน ไปจนถึงการคอลแลบสินค้าลิมิเต็ดอิดิชัน โดยรวบรวมแบรนด์ลิขสิทธิ์จากผู้จัดแสดงสินค้าร่วม 40 ร้านค้า  มากกว่า 50 บูธ และสินค้ากว่า 2,000 รายการให้มาเลือกชมและเลือกซื้อ กันในที่เดียวภายในงานจะมีสินค้าลิขสิทธิ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ที่มาพร้อมการจัดแสดงที่น่าประทับใจจากผู้นำอุตสาหกรรมในระดับโลก 

ผู้แสดงสินค้าระดับโลกที่เข้าร่วมได้แก่

อุปกรณ์มือถือ: Casebang (จีน)

ของแต่งบ้าน: SundayHome (เวียดนาม), Bestine (จีน)

ของขวัญและไลฟ์สไตล์: OH!SOME (สิงคโปร์)

การ์ดสะสม: Bushiroad (ญี่ปุ่น), Disney Lorcana Trading Card Game (สิงคโปร์)

ฟิกเกอร์สะสม: Hot Toys (ฮ่องกง), Blokees (จีน), Beast Kingdom (ไต้หวัน), Funko (สหรัฐฯ)

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไทยที่มาในงานนี้ด้วยเช่น

AppleSheep (แกดเจ็ตและอุปกรณ์มือถือ)

Asaki (อิเล็กทรอนิกส์)

SB Furniture (เฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน)

Taketoys (ตุ๊กตา Plush)       

สินค้าเปิดตัวพิเศษ  คอลเลคชั่นใหม่    Star Wars จาก Blokees , Aliens และ Lotso จาก BBToys ,แอคเซสซอรี Toy Story จาก Casebang  และ  Mickey Mouse จาก AppleSheep             


โดยโปรโมชั่นพิเศษในงาน ส่วนลด 10%–30% โปรโมชั่น “ซื้อ 2 แถม 1”  ซื้อครบ 1,000 บาท รับบัตรกำนัลมูลค่า 100 บาทเรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่จัดต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากแฟนคลับเข้าร่วมร่วมอย่างเนืองแน่น DISNEY TOY EXPO THAILAND 2025 จัดยิ่งใหญ่และจัดเต็มเพื่อแฟนคลับดิสนีย์จริงๆ

บางกอกแอร์เวย์ส เดินหน้าคว้า “ดาวแห่งความยั่งยืน” ระดับ 5 ดาว จากททท. ต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ / 9 กันยายน 2568 — บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้รับประกาศนียบัตร “ดาวแห่งความยั่งยืน” ระดับ 5 ดาว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้โครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวดำเนินงานตามแนวทางความยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเป็น “แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพระดับโลก” ที่เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

การได้รับรางวัลครั้งนี้สะท้อนถึงการดำเนินงานของบางกอกแอร์เวย์สที่ยึดมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ สอดคล้องกับเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STGs) ของ ททท. ทั้งนี้ สายการบินฯ ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566


โครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ภายใต้ยุทธศาสตร์ของ ททท. ที่เน้นการพัฒนา Shape Supply บนพื้นฐานความปลอดภัยและความยั่งยืน เพื่อนำไปสู่บริการและมาตรฐานที่มีคุณค่าสูง (High Value Services & Standards) โดยอ้างอิงกรอบการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ครอบคลุม 17 เป้าหมายหลัก ซึ่งสะท้อนความยั่งยืนใน 4 มิติ ได้แก่ ธรรมาภิบาล สังคม–เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม

จากแอนิเมชัน"เชลล์ดอนหอยกู้โลก"สู่การเรียนรู้นอกห้องเรียน

จากแอนิเมชัน"เชลล์ดอนหอยกู้โลก"สู่การเรียนรู้นอกห้องเรียนร่วมขับเคลื่อนสังคม-สิ่งแวดล้อม พร้อมฉายในNetflix Asia

แอนิเมชันชื่อดังของไทย “เชลล์ดอน หอยกู้โลก” (Shelldon) ผลงานของ บริษัท T&B Media Global (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท Shellhut Entertainment ที่ฉายมาแล้วกว่า 180 ประเทศทั่วโลกและยังได้เป็นฑูตสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ โดยเชลล์ดอนในฐานะทูตด้านสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุน UN Sustainable Development Goal (SDG) เป้าหมายที่ 14 Life Below Water โดยขณะนี้แอนิเมชัน “เชลล์ดอน หอยกู้โลก” ก็กำลังออกอากาศอยู่ที่ช่อง 7HD และยังได้ก้าวข้ามจากจอทีวีไปสู่การเรียนรู้นอกห้องเรียนโดยการเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนได้ใส่ใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ล่าสุดแอนิเมชัน “เชลล์ดอน หอยกู้โลก”ได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการพัฒนาเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนด้านสิ่งแวดล้อมในระบบออนไลน์ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนำเนื้อหาของการ์ตูนมาสร้างเป็นชุดความรู้เชิงสร้างสรรค์     โดยชุดความรู้นี้ได้รับความสนใจในการเป็นสื่อกลางของการเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างจิตสำนึกในการจัดการขยะอย่างถูกวิธีไม่ให้ไหลลงสู่ท้องทะเล เพื่อทำให้เป้าหมายแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs) ที่ 14 เข้าถึงได้ง่ายและสนุกมากขึ้น



นอกจากนี้   “เชลล์ดอน”     ยังออกเดินทางสู่โลกภายนอกห้องเรียนผ่านการเข้าร่วมงานสำคัญ อาทิ  งาน SPOGOMI World Cup 2025 Thailand Qualifiers  ณ สยามพารากอน ซึ่งเป็นงาน แข่งกีฬาเก็บขยะระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยต้องการสร้างจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนหันมาสนใจ ในเรื่องการอนุรักษ์ในเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องการจัดการยะ โดย “คุณคณิน แก้วอินทร์”   ผู้อำนวยการด้านนวัตกรรม เพื่อสังคมโดยเป็นผู้แทนจาก  Shellhut Entertainment  ซึ่งแป็นผู้มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  ที่มาพร้อมจุดประกายไอเดียดีๆในการดูแลโลกของเราร่วมกัน โดยแบ่งปันความรู้และสร้างความตระหนักด้านการจัดการขยะ (Waste Management) พร้อมกับชวนเด็กๆและครอบครัว รวมถึงเยาวชนให้ตระหนักถึงการดูแลโลกร่วมกันกับหัวข้อ “ขยะเล็กๆที่เรามองข้าม อาจเปลี่ยนโลกได้”  และในงาน GCNT Expo 2025 ระหว่างวันที่29–31 กรกฎาคม 2568 ณ True Digital Park ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานที่รวมพลังจากทุกภาคส่วน   เพื่อขับเคลื่อน SDGs   โดย  “คุณคณิน แก้วอินทร์”   ได้พูดในหัวข้อ “Translating Corporate Sustainability Values into Social Innovation through Creative Media” ถ่ายทอดการเปลี่ยนคุณค่าความยั่งยืนขององค์กร ให้เป็นนวัตกรรมทางสังคมผ่านพลังของสื่อสร้างสรรค์และการเล่าเรื่องเพื่อเปลี่ยนโลก พร้อมพาเชลล์ดอนและผองเพื่อน มาร่วมมอบความสุข ความสนุกสาน และความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมมาให้กับผู้ร่วมงานเพื่อขยายพลังบวกนี้ให้กว้างไกล ซึ่งงานนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมดีๆ ทั้งเวิร์กช็อป เทคโนโลยีเพื่อ SDGs มุม HR สำหรับคนรุ่นใหม่ และโอกาสจับมือร่วมพัฒนาโลกแบบจริงจัง และ Shelldon ขอเป็นอีกเสียงเล็กๆ จากใต้ทะเล ที่อยากเห็นโลกนี้ดีขึ้น ทั้งบนบกและบนโลกใบนี้             



โดยล่าสุด แอนิเมชัน “เชลล์ดอน หอยกู้โลก” ได้รับเลือกให้ออกอากาศบน Netflix Asia พร้อมส่งต่อความสุขและสาระเรื่องการอนุรักษ์ท้องทะเลสู่ผู้ชมทั่วทั้งภูมิภาค ที่ขอเป็นอีกเสียงเล็กๆ จากใต้ทะเล ที่อยากเห็นโลกนี้ดีขึ้น ทั้งบนบกและในน้ำ #เชลล์ดอน #ShellDon #รักษ์โลก #showwecare

BAFS จับมือ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ต่อยอดงานวิจัย

สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต ตอบโจทย์อุตสาหกรรมสมัยใหม่

 ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บาฟส์) และ รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการความร่วมมือในการส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมจากการศึกษา โดยมี นายเจษฎ์ ทูปิยะ ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร บาฟส์ และ ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เพชรภา รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สจล. ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและงานวิจัย ต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรมให้สามารถนำมาใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ โดยนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีของ สจล. ในด้าน Smart Materials, Devices and Systems ร่ภายใต้กรอบแนวคิดที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยคำนึงถึงแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) 

ด้านม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บาฟส์) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการนำประสบการณ์ความชำนาญและมาตรฐานความปลอดภัยกว่า 40 ปี ในภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มบริษัทบาฟส์ ก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มาจากการต่อยอดการวิจัยของสจล. ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของ บาฟส์ที่มุ่งดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลตอบแทนสู่สังคมเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ มีโครงการนำร่อง 2 โครงการ ได้แก่

1. นวัตกรรม “วัสดุดูดซับน้ำมัน” ใช้เส้นใยนาโนคาร์บอนจากดอกธูปฤาษี (Typha angustifolia) เพื่อเสริมคุณสมบัติซุปเปอร์ไฮโดรโฟบิคของแผ่นซับน้ำมัน สามารถดูดซับน้ำมันและไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินการโดย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิลักษณ์ เอียดเอื้อ

2. นวัตกรรม “ปุ๋ยอินทรีย์ 4Kings และชีวภัณฑ์เพื่อเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่” เป็นปุ๋ยที่มีสารอาหาร แร่ธาตุ N,P,K เทียบเท่าปุ๋ยเคมีพร้อมแร่ธาตุอาหารรองที่พืชต้องการ อีกทั้งชีวภัณฑ์ซึ่งใช้ปรับสภาพดินและรักษาโรคพืช ทำให้การเปลี่ยนแปลงสู่การทำเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินการโดย ศาสตราจารย์ ดร.เกษม สร้อยทอง

ความร่วมมือดังกล่าวยังถือเป็นการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาด้วยประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพ ในการทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำระดับประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นบุคลากรรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

สายวิ่งรักษ์โลกห้ามพลาด เสื้อวิ่ง “ทีทีบี | ธนชาตประกันภัย พาร์ครัน 2025”

ตอบโจทย์นักวิ่งทั้งมิติการสวมใส่และความยั่งยืน

การกลับมาของงานเดิน-วิ่งมินิมาราธอนการกุศลแห่งปี “ทีทีบี | ธนชาตประกันภัย พาร์ครัน 2025” ภายใต้แนวคิด “Run for Change เส้นชัยแห่งการให้...ไม่มีสิ้นสุด” เพื่อส่งต่อโอกาสให้น้อง ๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ยังคงยึดมั่นและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการพัฒนาและออกแบบเสื้อวิ่งรักษ์โลกให้สวมใส่สบายทั้งตอนวิ่ง และใช้ในชีวิตจริง โดยใช้เนื้อผ้าที่เบา แห้งเร็ว ผลิตจากขวดพลาสติกรีไซเคิล 100% เทียบเท่ากับการรีไซเคิลพลาสติก 7 ขวด ใช้นวัตกรรมการย้อมสีที่ไม่ใช้ความร้อนและลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต 25 ลิตรต่อตัว อีกทั้งยังใช้สีย้อมผ้าที่ดีต่อสุขภาพนักวิ่ง ปราศจากสารเคมี ไม่มีสารตกค้าง เป็นที่ยอมรับมาตรฐานสากล โดยเสื้อวิ่งพาร์ครันรักษ์โลกนี้ ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นของสะสมสุดพิเศษที่นักวิ่งหลายคนภาคภูมิใจในการครอบครองอีกด้วย


นายเดวิด เหย่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิสเซส (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตเสื้อวิ่ง “ทีทีบี | ธนชาตประกันภัย พาร์ครัน 2025” เปิดเผยว่า ความท้าทายในการผลิตเสื้อของงานวิ่งพาร์ครันในแต่ละปี คือการพัฒนาและออกแบบชิ้นงานที่ผสมผสานความร่วมสมัยเข้ากับอัตลักษณ์ของแบรนด์อย่างลงตัว โดยยึดหลัก “ความเรียบง่ายที่มีดีเทล” สะท้อนความเป็นมืออาชีพ ใส่ใจในคุณภาพ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสมกับกิจกรรมการวิ่งจริง รวมทั้งสามารถสวมใส่ได้อย่างสวยงามในชีวิตประจำวันด้วย ซึ่งการผลิตเสื้อวิ่งของพาร์ครันใช้มาตรฐานเดียวกับที่ผลิตให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ทั้งวัสดุ ฟังก์ชันการใช้งาน และความประณีตในการตัดเย็บ

“เสื้อวิ่งรักษ์โลก ทีทีบี | ธนชาตประกันภัย พาร์ครัน โดดเด่นด้วยเนื้อผ้าที่พัฒนาขึ้นเองโดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี และออกแบบแพตเทิร์นที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ ตอบโจทย์ได้จริงทั้งในและนอกสนามวิ่ง พร้อมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้สวมใส่ในแง่ของคุณค่าทางจิตใจ จากการมีส่วนร่วมในการลดขยะพลาสติก และช่วยอนุรักษ์โลกใบนี้ เพราะนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมารีไซเคิล ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ผ้ารีไซเคิลไม่ต่างจากเส้นใยทั่วไป ทั้งในเรื่องของสัมผัสและประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังใช้นวัตกรรมการย้อมสีที่ไม่ใช้ความร้อน และลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต 25 ลิตรต่อตัว โดยลงทุนเทคโนโลยีใหม่และพัฒนากระบวนการภายใน เพื่อให้ผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

โนเบิล ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิสเซส (ไทย) มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งด้านดีไซน์ คุณภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การเติบโตของเสื้อวิ่งแบบรักษ์โลก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยบริษัทวางแผนลงทุนในเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งผลักดันตลาดเสื้อรีไซเคิลในประเทศให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านการสื่อสารที่ชัดเจนกับลูกค้า เพื่อสร้างความเข้าใจในเส้นใยรีไซเคิลที่มีคุณภาพไม่แพ้เส้นใยทั่วไป ซึ่งมีเสียงสะท้อนที่ดีจากลูกค้า ทั้งเรื่องของคุณภาพและความภาคภูมิใจในแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเคยได้รับสิทธิ์สนับสนุนเสื้อกีฬาให้กับทีมฟุตบอลในระดับพรีเมียร์ลีก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนในการยกระดับมาตรฐานการทำงาน ทั้งระบบควบคุมคุณภาพ การบริหารจัดการ และการรักษามาตรฐานระดับโลก ทำให้ได้รับโอกาสใหม่ ๆ จากแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ตามมา

นายเดวิด กล่าวสรุปว่า “เราทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส จริงใจ และรับผิดชอบ มุ่งเน้นการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า เพราะเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวคือ รากฐานของความยั่งยืน เราไม่ใช่เพียงผู้ผลิต แต่เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สามารถให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจร อีกทั้งมีทีมวิจัยและพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ทำให้สามารถนำเสนอสินค้าที่แตกต่างและตอบโจทย์ได้จริงในเชิงการใช้งาน ซึ่งนอกจากเรื่องดีไซน์และผ้าแล้ว แพตเทิร์นคือหัวใจสำคัญในการผลิตชุดกีฬา รวมถึงขั้นตอนการตัดเย็บที่ประณีตในทุกรายละเอียด เรามองอนาคตของเสื้อวิ่งว่าจะต้องตอบโจทย์ ทั้งประสิทธิภาพ และความยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยผู้บริโภคจะไม่ยอมลดคุณภาพเพื่อแลกกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งฟังก์ชันที่ดีเยี่ยม ดีไซน์ทันสมัย และเป็นมิตรต่อโลก เพราะมั่นใจว่านี่คือทิศทางที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง”


เสื้อวิ่งพาร์ครันเป็นเสื้อวิ่งรักษ์โลกที่ดีต่อนักวิ่ง และก็ดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลอด 11 ครั้งที่ผ่านมา งานวิ่ง Parkrun ได้ช่วยโลกลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปมาก จากการรีไซเคิลขวดพลาสติก มาใช้เป็นเส้นใยผลิตเสื้อไปแล้วเกือบ 1.4 ล้านขวด และประหยัดน้ำในการผลิตเสื้อไปแล้วกว่า 2,275,000 ลิตร สำหรับคนที่สนใจเสื้อวิ่งคุณภาพดีของงาน “ทีทีบี | ธนชาตประกันภัย พาร์ครัน 2025” อยากเชิญชวนร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลแห่งปี ที่ทุกคนจะได้ Run for Change วิ่งเพื่อ…เปลี่ยนให้ทุกก้าววิ่งไม่ได้จบที่เส้นชัย แต่ช่วยส่งต่อโอกาสให้น้อง ๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยค่าบัตรวิ่งและเงินบริจาค ไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กของโรงพยาบาลท้องถิ่น 6 แห่ง และน้อง ๆ ภายใต้มูลนิธิ ทีทีบี ผ่านโครงการไฟ-ฟ้า สามารถซื้อบัตรวิ่งแบบ Parkrun วิ่งจริงใน 4 สวนสวยใจกลางกรุงเทพฯ วันที่ 14 ธันวาคม 2568 และวิ่งสะสมระยะแบบ Virtual Parkrun สะสมระยะวิ่งได้ถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2568 ซื้อบัตรวิ่งได้ตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤศจิกายน 2568 ได้ที่ https://parkrun.ttbfoundation.org

08 กันยายน 2568

TQM คว้า 2 รางวัลเกียรติยศ Prime Minister’s Insurance Awards 2025

TQM ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจนายหน้าประกัน คว้า 2 รางวัล จากเวทีประกันภัยดีเด่นครบวงจร        ประจำปี 2568 (Prime Minister’s Insurance Awards 2025) ได้แก่ รางวัลนายหน้าประกันชีวิตนิติบุคคลคุณภาพดีเด่น และรางวัลนายหน้านิติบุคคลที่มีการส่งเสริมกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อประชาชน
โดยมี ดร.อัญชลิน  พรรณนิภา ประธานบริษัททีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด และ ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เข้ารับรางวัล โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการมอบรางวัล

รางวัลอันทรงเกียรตินี้มอบโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)    ที่มอบให้แก่บริษัทในธุรกิจประกัน เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ และแบบอย่างที่ดีในการประกอบธุรกิจประกัน ที่มีผลงานดีเด่นในการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านการประกัน

เบเยอร์ คว้าประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอน ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมสีรักษ์โลก ควบคู่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม


บริษัท เบเยอร์ จำกัด เดินหน้ายกระดับมาตรฐานธุรกิจสีรักษ์โลก ล่าสุด ดร.จารุรัตน์ ชัยยศบูรณะ ผู้บริหารกลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ เข้ารับมอบ ประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอน ประเภทคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product : CFP) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ในพิธีมอบประกาศนียบัตรฯ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 ณ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ถนนแจ้งวัฒนะการได้รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทางเบเยอร์ในการพัฒนานวัตกรรมสีที่ไม่เพียงตอบโจทย์คุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งาน แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ของประเทศ


งานพิธีดังกล่าว จัดโดย อบก. เพื่อมอบประกาศนียบัตรให้แก่องค์กรที่ผ่านเกณฑ์การประเมินในหลากหลายประเภท อาทิ การชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset & Carbon Neutral), การลดก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ (CFR), คาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจหมุนเวียน (CE-CFP), คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO)

โดยเบเยอร์ได้เข้ารับมอบ ประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอน ประเภทคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product : CFP) ทั้งนี้ เบเยอร์ ยึดหลักการดำเนินธุรกิจที่ผสานนวัตกรรมควบคู่ความ
รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนทั้งต่อผู้บริโภค สังคม และโลกใบนี้ “เราไม่ได้มุ่งพัฒนาเฉพาะผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง ‘เบเยอร์คูล’ เท่านั้น แต่ตั้งใจให้ทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อเบเยอร์ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด” — ดร.จารุรัตน์ ชัยยศบูรณะ เบเยอร์ดำเนินธุรกิจปีที่ 65 ภายใต้ปณิธาน Eco-Wellness Innovation – สีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ


โดยเป็นรายแรกในไทยที่พัฒนาสีสะท้อนความร้อนอย่างจริงจัง พร้อมลงทุนในเทคโนโลยี AVID, ระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และขนส่งอัจฉริยะ เพื่อขับเคลื่อนทุกกระบวนการสู่ Net Zero เบเยอร์ยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้าน “สีรักษ์โลก” อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การลดคาร์บอนในตัวเลข แต่คือการสร้าง ผลกระทบเชิงบวกต่อโลก ผู้คน และอนาคตของประเทศ อย่างเป็นรูปธรรม

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สีเขียวและโครงการความร่วมมือต่างๆ
สามารถติดตามได้ที่: https://www.beger.co.th/th/

DITP จัดงาน “NEA Open House 2025”

พัฒนาและเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก


8 กันยายน 2568 – สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน “NEA Open House 2025” ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก ในบรรยากาศสุดอบอุ่น ตอกย้ำความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยตลอดปี 2568 พร้อมพัฒนาหลักสูตรในระยะต่อไป ให้เจาะลึกและเข้มข้น สอดรับบริบทการค้าโลกยุคใหม่ เน้นรุกตลาดส่งออกที่มีศักยภาพ

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาได้ยกระดับการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่การค้าระหว่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบผ่าน “สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่” หรือ“สถาบัน NEA” โดยปรับหลักสูตรและรูปแบบการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับบริบทการค้าโลก ทั้งการอบรมในรูปแบบ Onsite Online และ Hybrid รวมถึงการพัฒนาระบบ E-Academy ที่ช่วยวางแผนการเรียนรู้เฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม” 

ในปีงบประมาณ 2568 สถาบัน NEA ได้จัดโครงการฝึกอบรมมากกว่า 123 หลักสูตร มีผู้เข้าร่วมกว่า 22,000 ราย จากทั่วประเทศ  สำหรับปีงบประมาณ 2569 สถาบัน NEA ตั้งเป้าหมายยกระดับผู้ประกอบการไทยมากกว่า 25,000 ราย เน้นการฝึกปฏิบัติจริง (Workshop) การขยายองค์ความรู้ไปยังส่วนภูมิภาค สร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อผลักดันให้เกิดผู้ส่งออกรายใหม่ สร้างรายได้จากการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม

“NEA ยังคงมุ่งมั่นยกระดับการอบรมให้เข้มข้นและเจาะลึกมากขึ้น ผ่านการอบรมเชิงลึก หรือ Deep-Dive Training ในตลาดเป้าหมายที่เป็น Special Task Force (STF) ของกรม เช่น ลาตินอเมริกา เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพใหม่ที่กำลังเติบโต ทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับองค์ความรู้เชิงลึกทั้งด้านกลยุทธ์การเจรจา ความเข้าใจวัฒนธรรมผู้บริโภค และการวิเคราะห์พลวัตตลาด เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และผู้นำเข้าได้อย่างแท้จริง  ที่สำคัญ NEA ได้พัฒนาหลักสูตรที่มีการจำลองสถานการณ์ และเสริมการ Coaching โดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ เพื่อเสริมทักษะเชิงปฏิบัติที่ใช้ได้จริง ในการสร้าง “นักรบการค้ารุ่นใหม่” ที่มีความพร้อมรอบด้าน สามารถลงสนามแข่งขันได้อย่างแท้จริง และดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” นางสาวสุนันทากล่าวทิ้งท้าย




ผู้ประกอบการที่สนใจพัฒนาศักยภาพ ผ่านหลักสูตรอบรมของ NEA สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทร: 1169 กด 1 กด 1  

รพ. พญาไท พหลโยธิน เปิดตัวทิศทางการดูแลสุขภาพ ‘Value Personalized Care’

ราคาเข้าถึงได้ บริการเข้าใจคุณ

กรุงเทพฯ – ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง พฤติกรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายคนระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็น ความสำคัญอันดับต้น ๆ ของทุกคนคือสุขภาพ ผู้คนยังคงมองหาการรักษาที่มีคุณภาพและคุ้มค่า แม้อาจมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและการเข้าถึงบริการที่ได้มาตรฐาน

โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน จึงตอบโจทย์ความต้องการยุคใหม่ด้วยการเปิดตัวแนวคิดการดูแลสุขภาพ “Value Personalized Care” ที่ผสาน มาตรฐานทางการแพทย์ระดับพรีเมียมของพญาไท เข้ากับ ราคาที่เหมาะสมและเข้าถึงได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่า


‘Value Personalized Care’ ถูกออกแบบมาโดยยึดจุดแข็งด้านคุณภาพการรักษา ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และการบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดเฉพาะบุคคล เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Care) ที่ทั้งทันสมัยครบวงจร และที่สำคัญคือ อยู่ในราคาที่เข้าถึงได้จริง

แนวคิดนี้สะท้อน 2 แก่นสำคัญของการดูแลสุขภาพยุคใหม่ Personalized Care: ดูแลเฉพาะบุคคล เข้าใจในความแตกต่างของผู้ป่วยแต่ละราย Value: ราคาเข้าถึงได้ + คุณภาพการรักษาด้วยมาตรฐานพญาไท

โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ได้พัฒนาโปรแกรมสุขภาพหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ทั้ง “ความคุ้มค่าและมาตรฐานการรักษา” ล่าสุดได้นำเสนอแพ็กเกจผ่าตัดราคาเบาใจ อาทิ ผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็กช่องท้อง ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ผ่าตัดต้อกระจก ส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ (CAG) เป็นต้น 


การเปิดตัว “Value Personalized Care” ถือเป็นจุดเริ่มต้นของทิศทางใหม่ที่โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินกำลังเดินหน้า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความเป็นเลิศทางการแพทย์ แต่ยังเน้นย้ำถึง ความคุ้มค่า ความมั่นใจ และความอุ่นใจ ที่ผู้ป่วยและครอบครัวจะได้รับ ภายใต้มาตรฐานพญาไท ที่คนไทยไว้วางใจ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดช่องว่างด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพ ทำให้ประชาชนสามารถได้รับการดูแลที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกกลุ่มอย่างแท้จริง 

สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
ที่ โทร. 1772 หรือ Facebook: Phyathai Phaholyothin Hospital
ติด BTS สะพานควาย – “Value Personalized Care ราคาเข้าถึงได้ บริการเข้าใจคุณ”