08 ธันวาคม 2568

โรงพยาบาลซีจีเอช พหลโยธิน ร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำดี ด้วยหัวใจ”

พิธีทำบุญถวายพระราชกุศล ธันวาคม 2568

วันที่ ธันวาคม 2568 โรงพยาบาลซีจีเอช พหลโยธิน ได้เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำดี ด้วยหัวใจ” และพิธีทำบุญถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาติ ได้แก่ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดมิได้

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมจิตสาธารณะ ความสามัคคีในชุมชน และการมีส่วนร่วมในการดูแลสังคมให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง






ภายในงานมีพิธีทำบุญถวายพระราชกุศลเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ซึ่งทรงอุทิศพระองค์เพื่อพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทยตลอดพระชนม์ชีพ ผู้บริหารและบุคลากรโรงพยาบาลซีจีเอช พหลโยธิน ร่วมกับจิตอาสาจำนวนมากได้เข้าร่วมพิธีด้วยความสงบ สำรวม และเปี่ยมด้วยความภักดี

กิจกรรมรณรงค์เพื่อชุมชน : หยอดทรายอะเบทกำจัดลูกน้ำยุงลาย

หลังจากพิธีทำบุญ กิจกรรมจิตอาสาได้ดำเนินต่อด้วยการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยหยอดทรายอะเบทในแหล่งน้ำขัง ซึ่งเป็นจุดที่มักพบบ่อย เช่น

• โอ่งน้ำ
• จานรองกระถาง
• ภาชนะหรือพื้นผิวที่มีน้ำขังในบริเวณวัด

การดำเนินงานดังกล่าวเป็นมาตรการป้องกันที่ช่วยลดปริมาณลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก กิจกรรมนี้ดำเนินการโดยอาสาสมัครและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติในครัวเรือนของตนได้อย่างเหมาะสม

การทำงานร่วมกันเพื่อสังคมที่ดีขึ้น การมีส่วนร่วมของโรงพยาบาลซีจีเอช พหลโยธิน ในกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนงานด้านสาธารณะ ประสานความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ และการให้ความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องแก่ประชาชน โดยไม่มุ่งประโยชน์เชิงพาณิชย์ การทำงานในรูปแบบนี้ช่วยเสริมสร้างสังคมที่เข้มแข็ง และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชนอย่างยั่งยืน

กิจกรรมจิตอาสา “เราทำดี ด้วยหัวใจ” ในวันที่ ธันวาคม 2568 นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมืออันงดงามระหว่างโรงพยาบาล หน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ พร้อมทั้งร่วมกันดูแลสุขภาพชุมชนผ่านการรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง

05 ธันวาคม 2568

ท่องเที่ยว “ชิลี” ผ่านอาหารและไวน์ — ProChile จับมือแม็คโคร จัดโปรโมชั่นเชอร์รี่ แซลมอน เทราต์ หอยแมลงภู่ และไวน์ชั้นเลิศ ร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

กระทรวงการต่างประเทศชิลี โดย ProChile ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการค้า การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน ร่วมมือกับแม็คโคร นำเข้าสินค้าอาหารคุณภาพส่งตรงจากประเทศชิลีให้คนไทยได้ลิ้มลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและ    ปีใหม่ ในงาน ‘A Journey Through Chile - เสน่ห์รสชาติอาหารจากชิลี’ จัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมบูธจัดชิมอาหารและกิจกรรม Celebrity Chef Cooking Show โดยเชฟ Paope ระหว่างวันนี้ถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2568

ความร่วมมือนี้ยังนับเป็น กิจกรรมต่อเนื่องจากงาน Chile-ASEAN Business Summit 2025 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานครเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ ProChile ในการขยายการรับรู้ของผู้บริโภค และผู้ประกอบการ ในภูมิภาคอาเซียน และเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจไทยอย่างต่อเนื่อง

การเปิดตัวแคมเปญได้จัดขึ้นอย่างคึกคัก โดยมีเชฟ Jessica ‘Paope’ Wang มาร่วมงานในวันเปิดตัว พร้อมด้วยกิจกรรมบูธชิมผลิตภัณฑ์จากชิลีที่สาขาศรีนครินทร์ในช่วงเปิดตัวของแคมเปญ โดยที่โปรโมชั่นจัดต่อเนื่อง ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2568


ในปีที่ผ่านมา ProChile ได้ขยายความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ Gourmet Market (เดอะมอลล์กรุ๊ป), GO Wholesale และ Tops (เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น) และล่าสุดกับแม็คโคร ภายใต้เครือ CP Group สะท้อนถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของประเทศไทยในฐานะตลาดศูนย์กลางสำหรับสินค้าอาหารจากชิลี และเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคในวงกว้าง

ด้วยความหลากหลายทางภูมิประเทศของชิลีตั้งแต่เหนือจรดใต้ จากเทือกเขาสู่ชายฝั่ง และด้วยสภาพภูมิอากาศ ระดับความสูง และลักษณะดินที่แตกต่างกัน ประกอบกับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เข้มแข็ง ทำให้ชิลีสามารถผลิต สินค้าเกษตรที่มีมาตรฐานระดับโลก มีความยั่งยืน และมีคุณภาพสูง สินค้าจากชิลีได้รับการรับรองมาตรฐานนานาชาติด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอาหาร

จากข้อมูลของ ProChile ปัจจุบันชิลีเป็นผู้ส่งออกสินค้าภาคเกษตรอันดับ 1 ของโลกในหลายรายการ เช่น เชอร์รี่ พลัม และพรุน ภาคการเกษตรยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ คิดเป็นประมาณ 4.7% ของ GDP ของประเทศ โดยเฉพาะช่วงปลายปีถึงต้นปีซึ่งเป็นฤดูกาลเชอร์รี่ของชิลี ทำให้เชอร์รี่สดใหม่เข้าสู่ไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน เหมาะอย่างยิ่งแก่การมอบเป็นของขวัญที่มีคุณค่า

สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ชิลีเป็นแหล่งผลิตสำคัญของปลาแซลมอน ปลาทูม้า หอยแมลงภู่ และปลาเฮคใต้ โดยปลาแซลมอนชิลีถูกส่งออกไปยังกว่า 100 ตลาดทั่วโลก และกว่า 70% ของบริษัทเพาะเลี้ยงแซลมอนผ่านมาตรฐาน Best Aquaculture Practices (BAP) และ ISO 9001, 14001, 22000 ส่วนหอยแมลงภู่จากชิลียังได้รับการยอมรับด้านคุณภาพและความสดใหม่  โดยมาจากเขตปาตาโกเนียซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก หอยทุกตัว เติบโต ตามธรรมชาติด้วยสาหร่ายทะเล และผ่านมาตรฐาน HACCP อย่างครบถ้วน

ส่วนไวน์ชิลีเป็นผลผลิตจากความหลากหลายของหุบเขายาวกว่า 1,500 กิโลเมตร ซึ่งแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อุตสาหกรรมไวน์ของชิลีมีโรงบ่มเพื่อการส่งออกกว่า 356 แห่ง และปัจจุบันชิลีเป็นผู้ส่งออกไวน์อันดับ 1 ของทวีปอเมริกา และอันดับ 4 ของโลก รองจากฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน


คุณสมนึก ยอดดำเนิน Director Commercial Fresh Food, CP AXTRA กล่าวว่า แม็คโครมีความเชื่อมั่นต่อซัพพลายเออร์จากชิลีทั้งด้านคุณภาพและปริมาณสินค้า โดยปีนี้ตั้งเป้านำเข้าเชอร์รี่ชิลีมากกว่า 100 ตัน ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าปีที่    ผ่านมา 5-8% เนื่องจากผลผลิตชิลีเพิ่มขึ้น ทำให้เชอร์รี่มีขนาดใหญ่ ราคาดี และมีคุณภาพสูง โดยต้นฤดูกาลเริ่มต้นที่ขนาด 28 มม. และผลิตผลขนาด 30 มม. จะออกสู่ตลาดในเดือนธันวาคม

คุณ Eduardo Piccolo, Market Manager บริษัท St. Andrews S.A. ผู้ผลิตหอยแมลงภู่แช่แข็งรายใหญ่ของโลก กล่าวว่า บริษัทเริ่มส่งออกหอยแมลงภู่มายังไทยจากศูนย์ตู้คอนเทนเนอร์เมื่อปี 2558 ก่อนเติบโตเป็นกว่า 1,000 ตันต่อปี   ในปัจจุบัน โดยไทยเป็นหนึ่งใน 5 ตลาดหลักของหอยแมลงภู่ชิลี และในปีหน้าเตรียมร่วมสำรวจสินค้าประเภทพร้อมรับประทานและประเภทเพิ่มมูลค่า ร่วมกับทีมจัดซื้อของแม็คโคร

คุณจริยา เรืองคำพัฒน์ Sales Manager Asia, Caleta Bay ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าแซลมอนรมควันคุณภาพจากชิลีประมาณ 6 ตู้ต่อปี หรือกว่า 100 ตัน ไม่รวมแซลมอนสดที่นำเข้าราว 3 ตู้ต่อเดือน ผลิตภัณฑ์แซลมอนรมควัน เกิดจากนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและให้ผู้บริโภคเข้าถึงคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ โดยวางจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโครและโลตัส

เชิญร่วมกิจกรรมและรับโปรโมชั่นในเทศกาล ‘A Journey Through Chile – เสน่ห์รสชาติอาหารจากชิลี’ ที่นำเสนอสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาพิเศษ พร้อมไวน์ชิลีหลากหลายแบรนด์ ณ แม็คโครทุกสาขา และแอปพลิเคชันแม็คโครโปร ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 ธันวาคม 2568

03 ธันวาคม 2568

CP LAND คว้า Top 10 Developers ด้านงานดีไซน์จากเวทีระดับนานาชาติ สะท้อนบทบาทผู้นำอสังหาฯ

บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND หนึ่งในผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย ได้รับรางวัล Top 10 Developers 2025 จากงาน Hubexo Asia Awards 2025 (เดิมคือ BCI Asia Awards) เวทีระดับภูมิภาคที่ยกย่องบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลงานโดดเด่นโดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากมูลค่าโครงการ ความคืบหน้าในปีแข่งขัน และมาตรฐานด้านคุณภาพที่สอดคล้องกับเกณฑ์อาคารสีเขียว

สำหรับปีนี้ CP LAND ได้รับการพิจารณาจากผลงานโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ SŌLVANI Nakhon Sawan (โซลวานี นครสวรรค์), SŌLVANI Phitsanulok (โซลวานี พิษณุโลก), SŌLVANI Ramintra (โซลวานี รามอินทรา กรุงเทพฯ), RI-NÉ Khon Kaen (รีเน่ ขอนแก่น) , SOū& Khon Kaen (โซแอนด์ ขอนแก่น) และ LUXRIVA RESIDENCES Nakhon Si Thammarat (ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส นครศรีธรรมราช) ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมในภาคเหนือ กลาง อีสาน และใต้เวที Hubexo ระบุว่า รางวัล Top 10 Developers สะท้อนบทบาทของผู้พัฒนาที่มีผลงานก้าวหน้าในปีแข่งขัน โดยพิจารณาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีความคืบหน้าที่ตรวจสอบได้จริงทำให้รางวัลนี้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดด้านคุณภาพและความสามารถในการบริหารโครงการของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศทั่วเอเชีย


คุณดนุนาถ บูรณะเจริญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาและออกแบบโครงการ CP LAND กล่าวว่า รางวัลนี้สะท้อนความสำเร็จของ CP LAND ในการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองการใช้งานจริงและความต้องการของผู้อยู่อาศัยในแต่ละพื้นที่ โดยบริษัทใช้แนวคิด Accessible Community for Life – คุณภาพเพื่อทุกชีวิต เป็นกรอบหลักในการพัฒนาโครงการ เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทและวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ต่าง ๆ แนวคิดดังกล่าวแบ่งออกเป็นสามองค์ประกอบ ได้แก่ CPL Design Standard ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบบนฐานข้อมูลการใช้งานจริงและบริบทท้องถิ่น CPL Well-being Standard ที่คำนึงถึงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย เช่น การเลือกใช้สีระบบ Low-VOC และ CPL Sustainability Standard ที่เน้นประสิทธิภาพด้านพลังงาน การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน และการรองรับพลังงานสะอาด เช่น ระบบโซลาร์ (Solar System) ทั้งสามมาตรฐานเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาโครงการของบริษัท ควบคู่กับการดูแลหลังการส่งมอบ รวมถึงการรับประกันโครงสร้าง 10 ปี* เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพในระยะยาว คุณดนุนาถ กล่าวเสริม
ด้าน คุณเสาร์วะภา เนาวะอาจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮับเบคโซ ประเทศไทย (Hubexo Thailand) กล่าวว่า CP LAND ได้นำเสนอศักยภาพด้านการพัฒนาโครงการได้อย่างโดดเด่น ทั้งด้านคุณภาพการออกแบบความสอดคล้องกับเกณฑ์อาคารสีเขียวและการตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนในหลายภูมิภาคซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองที่สุดของเอเชียในปีนี้
ปัจจุบัน CP LAND มีโครงการกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุมที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรมและ พื้นที่บริการในจังหวัดเศรษฐกิจสำคัญสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเมืองรองที่มีบทบาทเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยทำให้บริษัทมีส่วนผลักดันโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนดและขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า

ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ เปิดตัวแคมเปญ “UFM ยืนหนึ่ง กรอบนานสะท้านไทย”

พร้อมกิจกรรมโรดโชว์ทั่วประเทศ กับผลิตภัณฑ์แป้งทอดกรอบ ตรา ยูเอฟเอ็ม คุณวันทนา ทองไทย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ UFM ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งสาลีรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯ เปิดตัวแคมเปญ “UFM ยืนหนึ่ง กรอบนานสะท้านไทย” จัดกิจกรรมโรดโชว์สาธิตเมนูอาหารที่ใช้ผลิตภัณฑ์แป้งทอดกรอบ ตรา ยูเอฟเอ็ม ให้ได้ทดลองใช้และสัมผัสประสบการณ์จริง เพื่อสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพให้ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า อาหารทอด และผู้บริโภคในกลุ่มสตรีทฟู้ดทั่วประเทศ รวมถึงเป็นการขยายฐานผู้ใช้งานจริง

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แป้งทอดกรอบ ตรา ยูเอฟเอ็ม ไม่ว่าจะชุบทอดผัก หรือเนื้อสัตว์จะคงความกรอบได้นาน ได้เนื้อสัมผัสกรอบ เบา ไม่เลี่ยน ผสมได้ปริมาณมาก สามารถดูดซึมน้ำได้ดี ทำให้ได้ปริมาณแป้งสำหรับชุบทอดเพิ่มขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ของผู้ประกอบการด้านอาหารในเรื่องของต้นทุนสินค้า รวมถึงยังได้รับเครื่องหมายฮาลาล โดยผลิตภัณฑ์แป้งทอดกรอบ ตรา ยูเอฟเอ็ม มีวางจำหน่ายที่ร้านค้าปลีกและค้าส่งทั่วประเทศ

สำหรับแคมเปญ “UFM ยืนหนึ่ง กรอบนานสะท้านไทย” บริษัทฯ ได้จัดเตรียมฟู้ดทรัค และทีมงาน มืออาชีพเพื่อประกอบอาหารให้ทดลองชิม และยังมีเกมต่างๆให้ร่วมสนุก พร้อมรับแป้งทอดกรอบ ตรา ยูเอฟเอ็ม ฟรี เพียงลงทะเบียนผ่าน LINE Official : @ufmflour นอกจากนี้ลูกค้าที่เข้าร่วมระบบสมาชิก ยังสามารถร่วมรับสิทธิ์แลกของรางวัล รวมถึงลุ้นทองคำกับแคมเปญ “ยูเอฟเอ็ม ครบรอบ 60 ปี ทั้งลุ้นทั้งแลก” อีกด้วย โดยแคมเปญ “UFM ยืนหนึ่ง กรอบนานสะท้านไทย” จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 ในพื้นที่ตลาดภาคกลาง และจะขยายกิจกรรมไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป

ผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์แป้งทอดกรอบ ตรา ยูเอฟเอ็ม คุณภาพ มาตรฐาน
สามารถพบกิจกรรมโรดโชว์ “UFM ยืนหนึ่ง กรอบนานสะท้านไทย” ได้ที่

·      วันที่ 6-7 ธ.ค. 68 ตลาดสดเทศบาล (ตลาดร่มหุบ) จ.สมุทรสงคราม

·      วันที่ 10-11 ธ.ค. 68 ตลาดท่ารถทัวร์ จ.เพชรบุรี

·      วันที่ 12 ธ.ค. 68 ตลาดสดเทศบาลชะอำ จ.เพชรบุรี

·      วันที่ 13-14 ธ.ค. 68 ถนนคนเดินหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Facebook : เข้าครัวกับยูเอฟเอ็ม

คริสต์มาสนี้มีมิวสิคัลไทยภาษาอังกฤษเรื่องแรกของประเทศมาเสิร์ฟแล้วนะ !

Dream ! (ดรีม !) หนังเพลงที่กวาดรางวัลระดับโลกก่อนฉาย 18 ธันวาคม นี้

Dream ! ดรีม ! ไม่ได้เป็นแค่หนังเพลงธรรมดา แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผู้สร้างกล้าฉีกกรอบเดิม ๆ ด้วยการเลือกใช้ ภาษาอังกฤษ เป็นสื่อหลักในการเล่าเรื่อง ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่ต้องการเปิดประตูสู่ตลาดโลก และนำเสนอเรื่องราวที่มีความเป็นสากลแต่ยังคงจิตวิญญาณแบบไทยไว้ได้อย่างลงตัว

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกัภาพอย่าง The Forest และ Eullenia การันตีได้เลยว่าลายเซ็นต์ของผู้กำกับคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนสิ่งที่ตอกย้ำความน่าสนใจของ Dream ! คือรางวัลที่กวาดมาได้ ซึ่งไม่ใช่รางวัลธรรมดา แต่เป็นเวทีที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ  Thai Panorama จากงาน Bangkok International Film Festival 2025 (BKKIFF 2025) : รางวัลนี้พิสูจน์ถึงคุณภาพในบ้านเรา FIRST PRIZE จาก Rhode Island Film Festival 2025 (Oscar-qualifying) : รางวัลนี้โคตรสำคัญ ! เพราะเทศกาลนี้เป็นหนึ่งในเทศกาลที่หนังที่ได้รับรางวัลมีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย ! แปลว่าคุณภาพไม่ได้อยู่ในไทยเท่านั้น แต่ทัดเทียมสากลเลยทีเดียว


Best Foreign Feature จาก New York's NYLIFF : การันตีความเป็นหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีที่ New York การคว้ารางวัลเหล่านี้มาได้ เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Dream ! มีศักยภาพในการก้าวข้ามขีดจำกัดทางภาษาและวัฒนธรรม พร้อมที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกอย่างแท้จริง เรื่องย่อ Dream ! ดรีม !บของ Paul Spurrier (พอล สปาเรีย) ผู้กำกับชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงในแวดวงหนังอิสระของไทย เจ้าของผลงานคุณพล็อตเรื่องของ Dream ! นั้นเรียบง่ายแต่กินใจ เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อเธอกลายเป็นเด็กกำพร้าอย่างน่าสลด เธอจึงต้องออกเดินทางตัวคนเดียวเพื่อค้นหาบ้านและครอบครัวใหม่ การเดินทางของเธอจะพาผู้ชมท่องไปทั่วประเทศไทย ผ่านการผจญภัยมากมายที่เต็มไปด้วยความหวัง ความฝัน และเสียงเพลงที่ไพเราะ นี่คือเรื่องราวที่จับใจและอบอุ่นหัวใจ เหมาะกับการดูในช่วงเทศกาลปลายปีแบบนี้เลย

Dream ! มาพร้อมกับทีมนักแสดงที่แน่นมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น อมตา มาศมาลัย, มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล, วิทยา ปานศรีงาม, วิชญาณี เปียกลิ่น, ลุค อิชิคาว่า พลาวเดน, สมเถา สุจริตกุล ศิลปินและนักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังระดับโลก และที่พลาดไม่ได้คือ น้องมะนาว นักแสดงหน้าใหม่ดาวรุ่งที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติมาก ๆ การแสดงของเธอเต็มไปด้วยพลังและความจริงใจ คาดว่าหลังจากนี้เธอจะกลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่น่าจับตามองของวงการแน่นอน



Dream ! ดรีม ! ไม่ได้เป็นแค่หนังไทยธรรมดา แต่เป็นผลงานที่สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการภาพยนตร์ไทย ด้วยการใช้ภาษาอังกฤษตลอดทั้งเรื่อง การบรรเลงดนตรีออร์เคสตร้าสด และทีมงานระดับโลก ทั้งหมดนี้ถูกนำมาผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเล่าเรื่องราวสุดซึ้งของเด็กกำพร้าที่ออกเดินทางหาความฝันและบ้านใหม่

คริสต์มาสนี้ห้ามพลาด ! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยกับ Dream !
เข้าฉายพร้อมกันทั่วประเทศ 18 ธันวาคม 2568

“ผ้าห่มผืนเขียว” สัญลักษณ์แห่งความอบอุ่น และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม


ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา โครงการ “ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว” ได้ส่งมอบความอบอุ่นและโอกาส เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่หนาวเย็นกว่า 15 จังหวัดทั่วภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้การส่งต่อไออุ่น โครงการยังมุ่งเน้นการสร้างโอกาสในการเรียนรู้การดูแลสุขภาพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนในพื้นที่


กิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากน้อง ๆ นักเรียนเป็นพิเศษ คือ การเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก ผ่านบูทนิทรรศการที่ถ่ายทอดขั้นตอนการแปลงขวด PET เป็นผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก ตั้งแต่การเก็บรวบรวม คัดแยก ล้าง บด และผลิตเป็นเม็ดพลาสติก ก่อนนำไปปั่นเป็นเส้นใย rPET และเข้าสู่กระบวนการทอเป็นผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลกที่ยังคงคุณภาพให้มีความนุ่มและอบอุ่น ด้วยนวัตกรรม Eco Friendly Blanket โครงการไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ได้ส่งมอบผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลกปีละ 200,000 ผืน ซึ่งผลิตจากการ รีไซเคิลขวด PET ได้ถึงปีละ 7.6 ล้านขวด จนปัจจุบันได้เพิ่มมูลค่าให้ขวด PET และส่งต่อประโยชน์ต่อสังคม แล้วกว่า 45.6 ล้านขวด ส่งมอบเป็นผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก 1,200,000 ผืน ซึ่งผ้าห่มหนึ่งผืนเทียบเท่าการ รีไซเคิลขวด PET 38 ขวดอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ คือ “แยกทันที ดีต่อโลก” โดยมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด (TBR) บริษัทในเครือของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้จัดการบรรจุภัณฑ์ หลังการบริโภค มาถ่ายทอดความรู้ให้กับน้อง ๆ นักเรียน ที่ให้ความสนใจเรื่องการคัดแยกขยะมาร่วมทำกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง 

ด้าน นางสาวสุกัญญา ต๊ะนาม นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านรักแผ่นดิน จังหวัดเชียงรายเล่าว่า “ที่โรงเรียนมีการแยกขยะ เป็นขวดพลาสติก ขวดแก้ว เศษอาหาร โดยมีครูมาสอนแยกค่ะ ขยะที่แยกสำหรับ   รีไซเคิลและนำกลับมาใช้ประโยชน์ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกกล่อง และขวดพลาสติก โดยจะเอามาทำงานประดิษฐ์ เช่น กล่องนมโรงเรียนเอามาทำหมวก สานกระเป๋า สานเป็นเสื่อสำหรับนั่ง โดยแยกกล่องนมโรงเรียนที่กินแล้ว นำไปล้างให้สะอาด และพับเก็บให้สะอาดเพื่อนำไปประดิษฐ์ในคาบเรียนค่ะ” 




นอกจากการมอบผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลกแล้ว โครงการยังได้มอบโอกาสความช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุขและกีฬา โดยมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สานต่อปณิธานแห่งการ “ให้” ด้วยการผสานความร่วมมือกับ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมด้วยเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วนดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยหนาวมาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำแนวคิด “BEYOND THE GREEN BLANKET… A SUSTAINABLE COMMUNITY OF GIVING” หรือ “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน”  โดยมุ่งหวังให้เกิดพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการร่วมกันสร้างสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืนต่อไป

02 ธันวาคม 2568

“คิปโชเก้”ร่วมกิจกรรมไนกี้ย้ำวิ่งให้สนุกแล้วความสำเร็จจะตามมา

กรุงเทพฯ: ๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ ความเคลื่อนไหวของ เอเลียด คิปโชเก้ ตำนานนักวิ่งมาราธอนชาวเคนยา เจ้าของ ๒ เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ แชมป์ ๑๑ เมเจอร์ ได้ร่วมทำกิจกรรม “ไนกี้ รีคัฟเวอรี่ รัน” (Nike Recovery Run With Kipchoge) ที่สวนสาธารณะ 100 ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อฟื้นฟูร่างกายหลังได้ร่วมลงวิ่งระยะฮาล์ฟมาราธอน ๒๑.๑ กม. ในมหกรรมการแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับโลก “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก พรีเซ็นต์บาย โตโยต้า ครั้งที่ ๘” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา

สำหรับกิจกรรม “ไนกี้ รีคอฟเวอรี่ รัน” ครั้งนี้เปิดโอกาสให้แฟนคลับที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับ ไนกี้ และนักวิ่งสมาชิกของไนกี้และพัทธมิตรธุรกิจเข้าร่วมพบปะพูดคุยกับ เอเลียด คิปโชเก้ แบบใกล้ชิดและเป็นกันเอง
ทั้งนี้ เอเลียด คิปโชเก้ ยังได้แนะนำเทคนิคในการวิ่งมาราธอนให้ประสบความสำเร็จว่า “นอกจากการเตรียมร่างกายให้พร้อม ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอแล้ว เมื่อเจอข้อผิดพลาดจาการวิ่ง อย่าเสียใจ ให้นับมาปรับปรุงแก้ไจ เราต้องสนุกกับการวิ่งและมีความสุขในทุกๆ ครั้งด้วย” เมื่อแฟนคลับนักวิ่งถามว่าอะไรคือสิ่งที่ชอบเป็นที่สองรองจากการวิ่ง และจากความสำเร็จที่ผ่านมาทำอย่างไรเขาถึงเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้ เขาตอบว่า “สำหรับผมๆ ให้ความสำคัญกับความสุขที่ได้วิ่งเข้าเส้นชัย และสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือการใช้ชีวิตให้อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับวันนี้ ไม่ใช่อยู่กับเมื่อวาน ถึงมีเงินคุณก็ไม่สามารถซื้ออดีตกลับมาได้ อย่ากังวัลหรือเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และผมได้ข้อคิดเพิ่มจากการได้เจอ บัวขาว นักมวยไทยที่แม้มีชื่อเสียงโด่งดังก็ยังใช้ชีวิตแบบมีความสุขเช่นคนทั่วไป”
สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (World Capital Marathon Series) ครั้งที่ ๘ ประจำปี ๒๕๖๘ รายการ AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2025 Presented by TOYOTA วัตถุประสงค์เพื่อผลักดันและยกระดับให้เป็น ๑ ใน ๑๐ รายการวิ่งมาราธอนระดับโลกซึ่งจัดขึ้นในเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าภาพร่วมกับกรุงเทพมหานคร, สมาคมกรีฑาโลก และไทยแลนด์ไตรลีก (ในฐานะคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ)



วัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อผลักดันและยกระดับให้เป็น ๑ ใน ๑๐ รายการวิ่งมาราธอนระดับโลกซึ่งจัดขึ้นในเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของสมาคมกรีฑาโลก (THE OFFICIAL WORLD CAPITAL MARATHON SERIES) เทียบเท่ามาราธอนระดับเมเจอร์โลก เพื่อส่งเสริมให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงด้านการท่องเที่ยวและกีฬา (SPORTS TOURISM CAPITAL CITY) และมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ จำนวน ๔๘,๐๐ คน ผู้ร่วมเดินทาง เจ้าหน้าที่ และประชาชน จำนวนไม่น้อยกว่า ๘๐,๐๐๐ คน ก่อให้เกิดรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจท่องเที่ยวของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่น้อยกว่า ๑,๔๐๐ ล้านบาท

ทีเส็บ เปิดตัวแคมเปญ “ไมซ์อวดดิ๊ … ไมซ์ไทย ภูมิใจที่ได้อวด”


ทีเส็บ เปิดตัวแคมเปญ “ไมซ์อวดดิ๊ … ไมซ์ไทย ภูมิใจที่ได้อวด” ชวนชาวไมซ์โชว์ศักยภาพไปกับแพลตฟอร์มเรื่องราวดี ๆ “ไมซ์มงคล” ยกระดับห่วงโซ่ไมซ์ไทยโชว์โลก

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดตัว Digital Showcase Campaign “ไมซ์อวดดิ๊ … ไมซ์ไทย ภูมิใจที่ได้อวด” ดึงชาวไมซ์ร่วมแบ่งปันเรื่องราวหรือผลงานไมซ์แห่งความภาคภูมิใจใน 3 มิติ “งาน เมือง คน” ผ่านกิจกรรมออนไลน์ที่สนุก แชร์ง่าย และสร้างภาพจำ นำไปสู่การสร้าง Country Storytelling รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่มากขึ้น โดยมีแพลตฟอร์ม “ไมซ์มงคล” หนึ่งในโปรดักต์สำคัญของทีเส็บที่ชวนคนไมซ์มาสร้างสรรค์เรื่องราวดี ๆ ครบทั้ง Ecosystem ตอกย้ำการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่แข็งแรงปั้นดาวรุ่งไมซ์ ส่งต่อ สร้างแรงบันดาลใจ ขับเคลื่อนพลังสร้างสรรค์อุตสาหกรรมไมซ์ไทยให้มีฐานต่อยอดสู่ระดับโลก




ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า “ประเทศไทยมีความพร้อมด้านไมซ์ที่โดดเด่นใน 3 มิติ ได้แก่ Business, Destination และ People ทั้ง 3 มิติยังมีศักยภาพสำหรับพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมไมซ์ไทย และหนึ่งในแนวทางขับเคลื่อนศักยภาพดังกล่าว คือ การส่งต่อพลังระหว่างชาวไมซ์ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ชาวไมซ์ได้ “อวดเรื่องไมซ์ดี ๆ ของตัวเอง” ผ่านกิจกรรมออนไลน์ นอกจากนี้ ทีเส็บยังปั้นแพลตฟอร์มดิจิทัล “ไมซ์มงคล” ช่องทางยกระดับ ecosystem ไมซ์ไทยด้วยกิจกรรม 3 แกนหลัก “งานรุ่ง ธุรกิจปัง และมิตรมั่งมี” สนับสนุนคนรุ่นใหม่เข้าสู่ภาคธุรกิจไมซ์ สร้างแพลตฟอร์มคนหางาน งานหาคน สร้างศูนย์รวมงานอีเวนต์ภาครัฐ และชวนมืออาชีพมาแลกเปลี่ยนเพื่อต่อยอดธุรกิจให้ปัง


แคมเปญ “ไมซ์อวดดิ๊…ไมซ์ไทย ภูมิใจที่ได้อวด” เน้นการถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรมไมซ์ โดยมีแพลตฟอร์ม “ไมซ์มงคล” เป็นช่องทางสร้างเรื่องราวดี ๆ ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมไมซ์ได้นำเรื่องราวดี ๆ ไปต่อยอดแบ่งปันบอกเล่าให้คนทั้งในและต่างประเทศได้รับรู้ถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ซึ่งประกอบด้วย 3 แพลตฟอร์มย่อย ได้แก่

งานรุ่ง : คนหาไมซ์ (แพลตฟอร์มจ้างงานฟรีแลนซ์สายไมซ์ โดยเป็นการร่วมมือกับ FASTWORK)

ธุรกิจปัง : ไมซ์หาคน (รวบรวมงานไมซ์ภาครัฐ เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงโอกาสของการได้งาน)

มิตรมั่งมี : วงแชร์ไมซ์ (พื้นที่รวมประสบการณ์และแบ่งปันมุมมองเชิงลึกของอุตสาหกรรมแบบมืออาชีพ)

นายซีเค เจิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Fastwork.co แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ เปิดเผยถึงการเสริมโอกาสให้กับผู้ประกอบการและฟรีแลนซ์ไทยว่า “Fastwork จับมือกับทีเส็บ เปิดตัว Category ใหม่ FastExpo ภายใต้ “ไมซ์มงคล” จุดประสงค์คือการทำให้คนที่จัดงาน จัดอีเวนต์ และสัมมนา สามารถเข้าถึงบริการที่สะดวก และรวดเร็วขึ้นด้วยราคาที่สมเหตุสมผล การขยายโอกาสฟรีแลนซ์ในอุตสาหกรรมไมซ์เช่นนี้ จะยิ่งช่วยสนับสนุนให้ไมซ์และอีเวนต์ไทยใช้คนในท้องถิ่น เพิ่มโอกาสการจ้างงาน กระจายรายได้ และสร้างระบบนิเวศฟรีแลนซ์ที่เข้มแข็งขึ้น”

ในด้านการสร้างความแข็งแกร่งของชุมชนไมซ์ไทย ดร. โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทโร ดิจิทัล จำกัด ได้ย้ำถึงความสำคัญของพลังชุมชนว่า “Community Driven, made the sustain growth เราจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง หากกลุ่มชุมชนเราแข็งแรง ในฐานะเป็นพลเมืองเล็ก ๆ ในสังคมการจัดคอนเสิร์ต การจัดงาน ขอขอบคุณทางทีเส็บที่สร้างไอเดียพร้อมสร้างจุดเริ่มต้นให้เกิดชุมชนของคนสร้างงานไมซ์ในประเทศไทย เป็นที่สร้างโปรไฟล์ของมืออาชีพ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เราจะช่วยกันให้โอกาส และส่งต่อให้อุตสาหกรรม Meetings, Incentives, Conventions, Events และ Exhibitions เป็นพื้นที่อวดของดี ให้งานไมซ์ในแคมเปญ ไมซ์อวดดิ๊ … ไมซ์ไทย ภูมิใจที่ได้อวด”

ดร. จารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้ทรงคุณวุฒิของทีเส็บให้รายละเอียดในการเปิดตัวแคมเปญ “ไมซ์อวดดิ๊ … ไมซ์ไทย ภูมิใจที่ได้อวด” ว่า “การเสวนา ไมซ์มงคล ที่รวบรวมพันธมิตรไมซ์ ประกอบด้วย นายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด นายประสาน อิงคนันท์ ผู้ก่อตั้งเพจมนุษย์ต่างวัย และ นายสานิท การุณยวนิช ที่ปรึกษาอาวุโส ประจำประเทศไทย บริษัท DMG Events จำกัด เป็นช่องทางหามิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจไมซ์และจะเป็นเวทีที่ทีเส็บจะจัดขึ้นตลอดทั้งปี เพื่อสรรหาเรื่องราวดี ๆ ให้ชาวไมซ์ได้แลกเปลี่ยนและแสดงศักยภาพ”

“ทีเส็บเชื่อมั่นว่าแคมเปญ ‘ไมซ์อวดดิ๊ … ไมซ์ไทย ภูมิใจที่ได้อวด’ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นไมซ์ฮับระดับภูมิภาคและระดับโลกในอนาคต ช่วยยกระดับการรับรู้ของสังคมต่อบทบาทและพลังของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเสริมความภาคภูมิใจของคนในอุตสาหกรรมไมซ์บนฐานข้อมูลและแพลตฟอร์มดิจิทัลที่แข็งแรงของ ‘ไมซ์มงคล’ ซึ่งเป็นศูนย์กลางข้อมูล เครือข่าย และโอกาสทางธุรกิจสำหรับทุกคนในอุตสาหกรรมไมซ์ ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://micemongkol.tceb.or.th/” ดร. ศุภวรรณ กล่าวปิดท้าย

TQMalpha คว้า 3 รางวัล งาน SET Awards 2025

บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQMalpha คว้า 3 รางวัลสำคัญจากเวที SET Awards 2025 ในกลุ่ม Business Excellence สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 10,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ได้แก่ รางวัล Best Company Performance Awards, รางวัล Outstanding Company Performance Awards และรางวัล Outstanding CEO Awards ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร เพื่อเชิดชูองค์กรที่มีผลประกอบการโดดเด่น การบริหารจัดการเป็นเลิศ และผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์โดดเด่น

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รางวัลทั้ง 3 รางวัล เป็นความภาคภูมิใจของ TQMalpha และสะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรในการพัฒนามาตรฐานการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคุณภาพบริการ และการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าพัฒนาองค์กร ให้มีความคล่องตัว ทันต่อความเปลี่ยนแปลง และรักษาความแข็งแกร่งในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ท้าทาย ความสำเร็จ ครั้งนี้จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้บุคลากรทุกคนก้าวไปสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

SRTA จับมือ UNISUS เดินหน้าศึกษาพัฒนา Central Utility Plant

พลิกโฉมบางซื่อสู่ “เมืองอัจฉริยะต้นแบบ” บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่


บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) และบริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด (UNISUS) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utility Plant: CUP) ในพื้นที่บางซื่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯ ในอนาคต

การลงนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะบางซื่อ (Bang Sue Smart City)” โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันศึกษาแนวทางการพัฒนา CUP จำนวน 3 แห่ง ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่บริเวณบางซื่อของ SRTA ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อเมืองอัจฉริยะยุคใหม่ ทั้งระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling Plant) ระบบกักเก็บพลังงานความเย็น (TES) ระบบน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสียและผลิตน้ำรีไซเคิล ระบบไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ระบบจัดการขยะ ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบเตือนภัยพิบัติ รวมถึงศูนย์จัดการพลังงานอัจฉริยะ (SEMC)


นายกษพล บวรศรีการ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการลงนาม แต่เป็นการจับมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างรัฐวิสาหกิจกับภาคเอกชนชั้นนำ เพื่อผลักดันพื้นที่บางซื่อซึ่งเป็นเมกะโปรเจ็กต์ขนาด 1,200 ไร่ ให้เติบโตเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเดินทางของประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ โดยต่อจากนี้ทั้งสององค์กรจะลงพื้นที่เพื่อศึกษาร่วมกันและผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะบางซื่อของ SRTA”
นายกมล ตันพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า “UNISUS ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ SRTA ในการวางรากฐานระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางรูปแบบใหม่ เรามีประสบการณ์ด้านการออกแบบ พัฒนา และบริหารจัดการ CUP ในโครงการขนาดใหญ่หลายแห่ง ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับประสิทธิภาพพลังงานของโครงการ โดยการนำระบบ District Cooling Plant และพลังงานสะอาดเข้ามาใช้ จะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันบางซื่อให้กลายเป็น Low-Carbon District ที่โดดเด่นของประเทศไทย”

ความร่วมมือของ SRTA และ UNISUS ครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้เกิดรูปแบบการลงทุนใหม่ ๆ เช่น การร่วมลงทุน (Joint Venture) ที่ SRTA สามารถนำมูลค่าที่ดินมาร่วมเป็นทุน เพื่อวางระบบสาธารณูปโภคที่มีความคุ้มค่าและรองรับการใช้งานระยะยาว มุ่งสร้างพื้นที่บางซื่อให้เป็น Community คุณภาพ ที่อยู่อาศัยและทำงานอย่างสะดวก ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน สร้างประโยชน์ให้ทั้งนักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชน ด้วยศักยภาพของทั้งสององค์กร ความร่วมมือครั้งนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญของพื้นที่บางซื่อ ที่กำลังจะก้าวสู่การเป็น “Smart City แห่งใหม่ของประเทศไทย”

#SRTASSET #SRTA #UNISUS #MOU #การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง

“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” ภูมิคุ้มกันดี ผิวสวยสดใส!

พิเศษรับลมหนาว แบบซอง เพียง 39 บาท ที่เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขา!  ลมหนาวมาเยือน...อย่าปล่อยให้สุขภาพอ่อนแอ! ช่วงนี้เป็นเวลาที่ร่างกายต้องการการดูแลเป็นพิเศษ วิตามินซีไม่เพียงแต่ช่วย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแล ผิวพรรณให้สวยสดใส ไม่หมองคล้ำแม้ต้องเผชิญกับสภาพอากาศแห้งและเย็น

โปรโมชั่นพิเศษ รับลมหนาว บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด จัดโปรโมชั่นต้อนรับลมหนาวด้วย “บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” วิตามินซีธรรมชาติ 100% แบบซองพกพาสะดวก ขนาด 6 เม็ด ราคาพิเศษ เพื่อช่วยดูแลทุกคนให้สุขภาพดีและแข็งแรง เพียงซองละ 39 บาท (จากปกติ 49 บาท) และพิเศษยิ่งขึ้นสำหรับสมาชิก ALL member รับส่วนลดเพิ่มอีก 1 บาท ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ - 3 มกราคม 2569 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ

2 คุณประโยชน์ครบถ้วน: สุขภาพแข็งแรงและผิวสวยกระจ่างใส
“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” (B Shine NaturC) วิตามินซีจากธรรมชาติ 100% โดดเด่นด้วยอะเซโรลา เชอร์รี่สกัดมากถึง 1000 มก.ต่อเม็ด มาจากผลสด 4000 มก. เข้มข้น 4 เท่า และที่พิเศษกว่าเดิมคือการ เพิ่มปริมาณสารสกัดจากทับทิมมากถึง 70 มก. ซึ่งสารสกัดจากทับทิมนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยเรื่อง ปกป้องผิวจากแสงแดด ลดความหมองคล้ำ และทำให้ผิวสว่างใส เนียนนุ่มชุ่มชื้น

ดังนั้น สูตรใหม่นี้จึงมอบ 2 คุณประโยชน์แบบครบถ้วน ทั้งการ เสริมภูมิคุ้มกันป้องหวัด/ภูมิแพ้ และช่วยให้ ผิวสวยสดใสสุขภาพดี ยิ่งขึ้น บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่ ยังมีสารสกัดที่มีประโยชน์จากผลไม้และผักหลากชนิด ที่อุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์และสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง เช่น ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ 100 มก., เบอร์รี่มิกซ์ 120 มก., สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ และแคโรทีนอยด์ ทานง่าย ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร


ด้วยความเป็นวิตามินซีธรรมชาติ 100% ทำให้ร่างกายสามารถ ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี และคงอยู่ในร่างกายได้นาน ทั้งยังมีซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูงที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และไม่มีสารตกค้างในร่างกาย เพียงรับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร มื้อเช้าหรือเย็น เหมาะสำหรับทั้งวัยหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ

สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและดูข้อมูลเพิ่มเติมของ
“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” ได้ที่ www.bshine.co.th, FB : B Shine และ Line : @Bshine

โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ เปิดเทศกาลแห่งความสุขกับพิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี 2568

เฉลิมฉลองปีแห่งความสำเร็จ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย, One MICHELIN Key 2025 และการเป็นพันธมิตรกับ Small Luxury Hotels of the World

โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ จัดงาน พิธีเปิดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่น ณ โถงล็อบบี้สุดหรู โดยมีแขกผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการ และพันธมิตรสำคัญของโรงแรมเข้าร่วมอย่างคับคั่ง นำโดย คุณนิจพร จรณะจิตต์ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทอิตัลไทย และ คุณวลัยทิพย์ พิริยะวรสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ และกรรมการบริษัท กลุ่มบริษัทอิตัลไทย พร้อมด้วยผู้บริหารจากออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ได้แก่ คุณสรัญญา วัฒนศิริสุข รองประธานอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคลองค์กร และ คุณพรทิพย์ เป้าทอง รองประธานกรรมการแผนกการตลาด คุณจีไฮ คิม รองประธานฝ่ายขาย โดยมี คุณเดนนิส ชอง ผู้จัดการทั่วไปเขต โรงแรมชามา เลควิว อโศก และ คุณยูวิน เทย์เลอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ เข้าร่วมเป็นเกียรติ พร้อมด้วยคณะกรรมการเจ้าของร่วม ได้แก่ คุณซัจจาด ราห์มาน และ คุณโธมัส โบอาดิงเจอร์ รวมถึงแขกรับเชิญพิเศษ คุณอภิสรา ธาดาดลทิพย์ (Miss Thailand International 2024) และ คุณปทิตตา สุนทวิจฉ์ (Miss Charm Thailand 2023) ที่มาร่วมสร้างบรรยากาศสุดอบอุ่นให้ค่ำคืนนี้



ปีนี้โรงแรมได้รับความสำเร็จสำคัญรวม 3 ด้าน ได้แก่
• การคงไว้ซึ่งรางวัล One MICHELIN Key 2025
• รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 15 สาขาความเป็นเลิศด้านโรงแรมหรูหรา
• การเป็นพันธมิตรกับ Small Luxury Hotels of the World (SLH) อย่างต่อเนื่อง
ในงานนี้ คุณ ยูวิน เทย์เลอร์ ผู้จัดการทั่วไป ได้กล่าวอวยพรช่วงเทศกาลว่า:
“เทศกาลคริสต์มาสเตือนให้เรานึกถึงความเมตตา น้ำใจ และความสุขที่เกิดจากการแบ่งปัน แม้ปีนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่เราก็ยังร่วมกันสร้างความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการคงรางวัล Michelin Key อันทรงเกียรติ การคว้ารางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือและได้รับเกียรติให้เป็นสมาชิก Small Luxury Hotels of the World (SLH)
สำหรับต้นคริสต์มาสปีนี้ เราเลือกใช้ ‘ต้นสนฉัตรของไทย’ ซึ่งเป็นต้นไม้ท้องถิ่นและเป็นต้นจริงที่สามารถนำไปปลูกต่อได้หลังจบเทศกาล สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของโรงแรม และสื่อถึงความหวัง การเติบโต และการเริ่มต้นใหม่ความสำเร็จและโครงการดี ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของทุกท่าน ขอให้ต้นคริสต์มาสนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความอบอุ่นและความหวัง ขอให้ทุกท่านมีความสุขในเทศกาลนี้และปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงครับ”
ภายในงานยังมีโซน CSR ของโรงแรม นำเสนอผลิตภัณฑ์พิเศษ ได้แก่ ผ้าพันคอลายลิมิเต็ดของโรงแรม , การ์ดโฮลเดอร์, และ ตุ๊กตา Oriental Bear โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะนำเข้ากองทุน CSR ของโรงแรม เพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมและการพัฒนาชุมชน
โรงแรมขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ พันธมิตร และผู้สนับสนุนทุกท่านตลอดปีที่ผ่านมา และตั้งตารอที่จะได้ต้อนรับทุกท่านในปีใหม่ พุทธศักราช 2569 ที่จะถึงนี้
เกี่ยวกับโรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ
โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ อันเป็นทำเลที่มีชื่อเสียง โดดเด่นด้วยบรรยากาศหรูหราสง่างามในสไตล์ร่วมสมัยผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทย โรงแรมให้บริการห้องสวีทกว้างขวางพร้อมครัวครบครัน ห้องอาหาร Café Claire ที่นำเสนอความอร่อยในบรรยากาศบิสโทรฝรั่งเศส และ Oriental Bar ที่อบอุ่นเป็นกันเอง ในฐานะสมาชิกของ Small Luxury Hotels of the World และผู้ได้รับรางวัล MICHELIN Key 2024 โรงแรมมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์อันล้ำค่าและน่าประทับใจให้แก่ผู้เข้าพักทุกท่าน