01 พฤศจิกายน 2568

นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต เข้าพบ นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ เพื่อรับมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน

เนื่องด้วย นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต ได้เข้าพบ นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งประดับบ่าอำนวยการสูงข้าราชการพลเรือน ก่อนเดินทางไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดกำแพงเพชร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเมื่อเร็วๆนี้ ที่ผ่านมา








บรรยากาศงาน Halloween Night @ Narisa Café & Creative Space


เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความสนุก และความคิดสร้างสรรค์ที่อบอวลไปทั่วทั้งร้าน ภายในงาน ทุกคนแต่งกายตามธีม “Color of Halloween with Thai Twist” สะท้อนทั้งความเท่และความขี้เล่นในสไตล์ของ Narisa Café — มีทั้งแม่มดในผ้าไทยสีดำ แวมไพร์ผู้สง่างาม และศิลปินรับเชิญที่ร่วมขับร้องเพลงอย่างอบอุ่นท่ามกลางแสงเทียนและบรรยากาศศิลป์ในบ้านไม้หลังเก่า


เมนูพิเศษที่เสิร์ฟในค่ำคืนนั้น ออกแบบอย่างประณีต เช่น “ข้าวเกรียบหมึกดำยำมะเขือเทศเชอรี่และองุ่น” “แกงฟักทองเนื้อตุ๋นเสิร์ฟในลูกฟักทองญี่ปุ่น” และ “ไอศกรีมกะทิซอสทับทิม” — ทุกจานคือศิลปะที่กินได้ช่วงดนตรีสดเป็นไฮไลต์สำคัญ ศิลปินรับเชิญผลัดกันร้องเพลง ทั้งเพลงคลาสสิกและเพลงสมัยใหม่ บรรเลงโดยวงดนตรีกีตาร์อะคูสติก เสริมด้วยเสียงร้องอบอุ่นและรอยยิ้มของผู้ชม

ปิดท้าย ด้วยกิจกรรมถ่ายภาพหน้าฉาก “Happy Halloween” ที่ตกแต่งด้วยโทนส้มดำ มีโคมฟักทองและใยแมงมุมประดับทั่ว พร้อมเสียงหัวเราะของแขกผู้ร่วมงานที่ต่างถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

คืนฮาโลวีนปีนี้จึงไม่ได้มีเพียงความน่ากลัว แต่ยังเปี่ยมด้วยความรัก ความอบอุ่น และมิตรภาพในบรรยากาศของศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ — สไตล์เฉพาะของ Narisa Café & Creative Space 



ร้าน Narisa Café & Creative Space ตั้งอยู่ในซอย (พหลโยธิน17)

กรุงเทพมหานคร ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว คาเฟ่ที่ซ่อนตัว
(อยู่ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่) และบ้านสไตล์ไทยร่วมสมัยที่อบอุ่นเป็นกันเอง 

review : Narisa Café & Creative Space
https://www.toptotravel.com/2022/02/06/narisa-cafe-creative-space-022556/

30 ตุลาคม 2568

เริ่มวันแรก !! งานมหกรรมชี้ช่องรวย@เซ็นทรัลปิ่นเกล้า

วันนี้- 2 พ.ย.68 พบทัพแฟรนไชส์ลดแรง หนุนคนไทยมีอาชีพ  คาดเงินสะพัด 100 ลบ. 

จัดงานวันนี้วันแรกกับงานมหกรรมชี้ช่องรวยธุรกิจและแฟรนไชส์  ขนขบวนธุรกิจและแฟรนไชส์สัญจรย่านฝั่งธนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง จัดโปรโมชั่นลดใหญ่ส่งท้ายปีรวมกว่า 70 บูธ หวังปูทางเลือกสร้างอาชีพให้คนไทยแบบเคาะประตูบ้าน  อาทิ แฟรนไชส์อาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ธุรกิจสะดวกซัก ตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ  แฟรนไชส์บริการ  ฯลฯ  เสิร์ฟครบจบในงานกับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ต้องการเริ่มต้นและต่อยอดธุรกิจ  และกิจกรรมที่น่าสนใจในงานมากมาย โดยงานจัดระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2568  ณ ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า  คาดเงินสะพัดราว 100 ล้านบาท







สำหรับทัพแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมเสิร์ฟอาชีพในงานมหกรรมชี้ช่องรวยธุรกิจ และแฟรนไชส์  ในครั้งนี้ มีมากกว่า 70 บูธ อาทิ ไก่ว้าว, ชาบัง, หม่าล่า Mr. Bao MALATANG, ช็อกโกแลต Mrbeast, ไอศกรีมขนมปังไม่อร่อยให้ต่อย, ลูกชิ้นแม่ประณาม, เฮงปังปั๊ว หวานเย็นสูตรเด็ดเยาวราช, ชาตันหยง, ขาหมูพระนคร, Senzar เส้นซ่าส์, จงชงดี, โต้ว น้ำเต้าหู้ คู่ใจ, Sukishi, CHAPAKYOON, ยากิโทริ (ไก่โคราช), ซามูไรราเมง, ไผ่ทองไอสครีม, ปัญจะรส ลูกชิ้นปิ้ง, Sweet Bee, อ๊อดกรีนฟิช, ฟาร์มเห็ดดูดี, VERISE นมอัลมอนด์, ธุรกิจสะดวกซัก Washenjoy, Trendywash, CleanChain,Speed Queen by VJ Group ฯลฯ

ส่วนผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจแต่ยังขาดแหล่งเงินทุน  ภายในงานยังมีสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อยจากธนาคารออมสิน  และบริการด้านค้ำประกันสินเชื่อจากทางบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) อีกด้วย  พีเอ็มจีฯ ยังมุ่งมั่นจัดกิจกรรมส่งเสริมให้คนไทยได้มีอาชีพสู้ภาวะวิกฤตอย่างต่อเนื่อง  โดยมุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และพี่น้องคนไทยก้าวเดินได้อย่างมั่นคงแม้ในภาวะวิกฤต  สำหรับการจัดงานมหกรรมชี้ช่องรวยธุรกิจและแฟรนไชส์ในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดได้ราว 100 ล้านบาท” นางสาววิมลณ์เกศกล่าวทิ้งท้าย

เชิญชวนผู้ที่มองหาธุรกิจแฟรนไชส์ ต้องการเติมทุน หรือต่อยอดองค์ความรู้ สามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย งานมหกรรมชี้ช่องรวยธุรกิจและแฟรนไชส์ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า  จัดต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568  ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 

สอบถามรายละเอียด โทร.09-4915-4624 , 062-845-9515

UFM ลงนามความร่วมมือกับมทร.พระนคร

ปั้นนศ.สู่ผู้ประกอบการเบเกอรี่รุ่นใหม่ 

คุณวันทนา ทองไทย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ UFM ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งสาลีรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) พัฒนาและจัดการเรียนการสอนในกลุ่มวิชาชีพเลือก รายวิชา “ผู้ประกอบการเบเกอรี่”ของคณะบริหารธุรกิจ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้นักศึกษาได้เรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเบเกอรี่ ตั้งแต่พื้นฐานการทำขนมไปจนถึงการบริหารจัดการธุรกิจเบเกอรี่แบบครบวงจร สามารถสร้างอาชีพ รายได้ หรือธุรกิจเป็นของตนเองในอนาคต 

สำหรับนักศึกษามทร.พระนคร ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาดังกล่าว จะเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนทำขนมอบและอาหารยูเอฟเอ็ม ภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญของ UFM และอาจารย์จากมทร.พระนคร โดยจะได้เรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการผลิตจริง การคิดต้นทุน การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีมาตรฐาน ไปจนถึงแนวคิดในการบริหารร้านเบเกอรี่ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งในปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่ ให้ความสนใจกับการเป็นเจ้าของธุรกิจ บริษัทฯ เล็งเห็นว่าจากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหาร กว่า 60 ปีของ UFM จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกฝนทักษะอย่างมืออาชีพ และเมื่อเรียนครบตามเกณฑ์จะได้รับประกาศนียบัตรจากโรงเรียนสอนทำขนมอบและอาหารยูเอฟเอ็ม นักศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดสร้างธุรกิจของตนเอง เพื่อก้าวเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเบเกอรี่รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพอย่างแท้จริงหรือทำงานในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเบเกอรี่ได้ 

ด้าน ดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร)กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายให้นักศึกษาที่เรียนจบมทร.พระนคร จะต้องมีงานทำ 100% ดังนั้นทุกคณะ

จึงส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมกับตลาดแรงงาน โดยเฉพาะสาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ คณะบริหารธุรกิจ ต้องสร้างบัณฑิตที่ไม่เพียงเรียนจบและหางานทำ แต่มองไปถึงการสร้างงาน อาชีพ และคุณค่าให้สังคมได้จริง วิชา “ผู้ประกอบการธุรกิจเบเกอรี่” จึงถูกออกแบบขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเบเกอรี่ ผ่านความร่วมมือกับ UFM ซึ่งได้จัดทำหลักสูตรในรูปแบบ Learning by Doing หรือ การเรียนรู้จากการลงมือทำจริง สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของบัณฑิตนักปฏิบัติ ใฝ่รู้ สู้งาน เชี่ยวชาญเทคโนโลยี ที่มทร.พระนครให้ความสำคัญ

ส่วนการเรียนการสอนจะได้ใช้ห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์ เครื่องจักร และวัตถุดิบมาตรฐานเดียวกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้นักศึกษาเข้าใจตั้งแต่ศิลปะของการทำขนม ไปจนถึง ศาสตร์ของการบริหารธุรกิจ 

ทั้งสองสิ่งนี้ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจและเห็นภาพการประกอบการอย่างแท้จริงและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเป็นหลักสูตร 45 ชั่วโมง เมื่อเรียนจบสามารถเทียบหน่วยกิตกับทางมหาวิทยาลัยได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถผลิตบัณทิตที่มีศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบการจริง มีความรู้รอบด้าน ทั้งการทำเบเกอรี่ บริหารจัดการร้าน การตลาด และสามารถสร้างแบรนด์เปิดธุรกิจของตนเองได้ หรือสามารถทำงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้อย่างมั่นใจ รวมถึงเป็นก้าวสำคัญระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคอุตสาหกรรม ที่จะใช้เป็นต้นแบบขอมหาวิทยาลัยพัฒนาการเรียนการสอนและเชื่อมโยงกับโลกธุรกิจที่สามารถต่อยอดไปสู่วิชาอื่น ๆ ได้

รฟฟท.เชิญชวนผู้โดยสาร และประชาชน ร่วมประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำ

รฟฟท.เชิญชวนผู้โดยสาร และประชาชน ร่วมประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำ ถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เชิญชวนผู้โดยสาร และประชาชนทั่วไป ร่วมประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำ ถวายความอาลัย และแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระเมตตา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า รฟฟท. ถือเป็นหน่วยงานที่รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท และน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาอย่างยาวนาน ในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวนผู้โดยสาร และประชาชนทั่วไป ร่วมประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระเมตตาและพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่า ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยสามารถเข้าร่วมประดิษฐ์ริบบิ้นสีดำ ได้ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เริ่มวันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.30 น. ณ บริเวณทางออกประตู 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์



กิจกรรมนี้ จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนได้มีส่วนร่วมในการถวายความอาลัยและแสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยบริษัทฯ ได้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับประดิษฐ์ริบบิ้นและน้ำดื่ม พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน สำหรับริบบิ้นที่ประดิษฐ์เสร็จแล้ว จะถูกนำไปมอบให้แก่ประชาชน และผู้มาใช้บริการ เพื่อใช้ติดบนเครื่องแต่งกาย เป็นสัญลักษณ์แห่งความอาลัย และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง โซเชียลมิเดียทุกแพลตฟอร์ม Facebook Fan Page, Twitter , Instagram, Youtube, Tiktok พิมพ์ชื่อ “RED Line SRTET” หรือส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และ www.srtet.co.th

“มากกว่าการเดินทางคือ ...ความพิเศษ”

รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

27 ตุลาคม 2568

บ้านพักกลางธรรมชาติ ของคนรักธรรมชาติ "บ้านยางนา ณ ขานาง"

ทริปนี้เราอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นทริปที่สนุกมาก แฮปปี้ที่สุดสุด กับการพักผ่อนท่ามกลางขุนเขากาญจนบุรี ทำเราใจฟูสุดๆ ทริปนี้เราพักที่ บ้านยางนา ณ ขานาง Yangna at Khanang ฟาร์มสเตย์ติดริมลำธาร ที่สืบสานงานของ "พ่อ"  ด้วยวิถีกสิกรรม+ท่องเที่ยวตามศาสตร์พระราชา อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเหมือนมาบ้านญาติ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น อยู่ระหว่างเส้นทาง ทองผาภูมิ - บ้านอีต่อง บรรยากาศวันหยุด ที่บ้านไม้เล็ก ๆ  บรรยากาศที่ฮิลใจยามเช้า กับกาแฟร้อนสักแก้วนั่งฟังเสียงน้ำไหลบรรเลงเบาๆ จากธารน้ำหน้าบ้านพัก





บ้านยางนา ณ ขานาง คือที่พักโฮมสเตย์เล็ก ๆ ที่มีเพียง 8 ห้อง สร้างขึ้นโดยไม่กระทบธรรมชาติ บ้านพักแต่ละหลังซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านประจำไม้ ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่นี่ไม่เคยทุ่มงบทำการตลาดเลย แต่กลับมียอดจองเต็มเกือบทุกสัปดาห์  บรรยากาศยามเช้าดี โอบล้อมด้วยภูเขา ธารน้ำ กับสนามหญ้ากว้างๆ มาให้ธรรมชาติฮีลใจ ส่วนใครชอบความเป็นธรรมชาติ นอนฟังเสียงน้ำ แนะนำบ้านมะค่า แล้วคุณจะติดใจ เหมือนเรา

........เรารู้จัก บ้านยางนา ณ ขานาง จากเพจเฟสบุค ครั้งแรกที่เห็นเราปักหมุดว่าต้องไปพักที่บ้านหลังนี้ให้ได้ เพราะสะดุดตากับภาพบรรยากาศ การแต่งห้องสุดเก๋ไม่ซ้ำกัน รวมทั้งเรื่องราวความใส่ใจของ พี่วิ-พี่เจษ
ที่บอกเล่าเรื่องราวของบ้านทั้ง 4 หลัง ผ่านเพจ ‘บ้านยางนา ณ ขานาง’ 





......จำได้ว่าห้องพักของเราออกแบบเป็นแบบญี่ปุ่น ชื่อบ้านมะค่า ติดริมธารน้ำ มีระเบียงพื้นไม้หน้าห้อง  รายล้อมด้วยของตกแต่งสุดน่ารัก ภายนอกมีลำธารไหลผ่านให้ได้เห็นแดดระยับบนคลื่นสีฟ้าใส ยามค่ำคืนมีลมเย็น และเสียงน้ำไหล จนบางคร้ังคิดว่าฝนตก เป็นครั้งแรกที่คนที่เน้นเที่ยวมากกว่าที่พักแบบเรายอมทิ้งตัวขลุกอยู่ที่นี่ได้ตลอดทั้งวัน 







เคล็ดลับอะไรที่ทำให้ บ้านยางนา ณ ขานาง ทำให้ผู้มาเยือนมีความสุขตามไปด้วย ด้วยความพิเศษของ บ้านยางนา ณ ขานาง คือ แต่ละห้องพักมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป โดยไม่กระทบธรรมชาติเลยยกตัวอย่าง บ้านมะค่า แนบชิดลำธารเรียกว่า บ้านน้อยริมลำธาร บ้านแบบชนบทญี่ปุ่น บ้านหลังนี้ติดริมลำธาร อากาศเย็นสบายตลอดวัน มีห้องน้ำในตัว มีระเบียงนั่งเล่นริมลำธาร และไม่มีแอร์ ใช้เพียงพัดลมเพียงพอ อากาศเย็นสบายตลอดคืน แม้ในช่วงฤดูร้อน  ดูแล้วเข้าใจเจ้าของบ้าน ใส่ความละเอียดและจิตวิญญาณนักออกแบบกับการแต่งห้องอย่างเต็มที่ สิ่งที่เราอยากได้ในวันนี้ คือความสุขกับการได้แบ่งปัน ให้คนอื่น



ที่บ้านยางนา ณ ขานาง ไม่มีพนักงาน มีเพียงพี่วิ - พี่เจษ (เจ้าของและผู้ก่อตั้ง ‘บ้านยางนา ณ ขานาง’)
ช่วยกันดูแลบ้านเองทุกขั้นตอน รวมไปถึงการตอบข้อความ ปูที่นอน ทำความสะอาด เสิร์ฟน้ำ  และทำหน้าที่เชฟ เสริฟอาหารเช้าและอาหารค่ำ ด้วยตัวเอง มาตลอด จากรอยยิ้มอย่างมีความสุขพี่เจษ ดูแล้ว
พี่ยังมีความสุข สนุกกับการติดต่อและต้อนรับลูกค้าด้วยตัวเอง ตลอดทริปที่เราพัก ด้วยบรรยากาศที่รายล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ตัวบ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ ที่สำคัญอยู่ติดกับลำธารที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เหมาะกับการมาพักผ่อน อยู่ท่ามกลางธรรมชาติมีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะที่นี่มีที่พักแค่ 4 หลังเท่านั้น บ้านพักที่โฮมสเตย์มีให้เลือก 4 แบบ 4 อารมณ์ ดังนี้


1. บ้านขานาง
บ้านสีขาวนวลตา ชื่อว่า บ้านขานาง อันเป็นต้นไม้ป่าประจำจังหวัดกาญจนบุรี  ที่มีลำต้นสีขาวนวล เป็นส่วนหนึ่งของที่มาของชื่อบ้าน บ้านขานาง ที่บ้านหลังนี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสวนชนบท ที่มีความน่ารัก อบอุ่น ภายในห้องที่นอนนุ่ม มีเครื่องปรับอากาศ มีห้องน้ำในตัว พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น และเพิ่มตวามน่ารักด้วยห้องนอนใต้หลังคา 

2. บ้านยางนา
บ้านเล็กริมลำธาร  ชื่อว่า บ้านยางนา ต้นยางนา เป็นไม้ประจำจังหวัดอุบลราชธานี ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปลูก และพระราชทานให้เมื่อปี 2538 เป็นบ้านหลังแรกที่สร้างขึ้นในบริเวณโฮมสเตย์ บ้านสีขาวหลังน้อย  มีระเบียงด้านหน้าติดลำธาร และระเบียงด้านข้าง หน้าบ้านมีชานบ้านกว้างขวางให้นั่งเล่นนอนเล่น ในบรรยากาศที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงท่ามกลางธรรมชาติ นอนฟังเสียงน้ำตลอดทั้งคืน  บ้านหลังนี้ไม่มีเครื่องปรับอากาศ และไม่มีห้องน้ำในตัว ที่พักไม่มีทีวี และ ตู้เย็นเพราะเจ้าของบ้านตั้งใจให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสกับอากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง มีพัดลมให้บริการ เพราะอากาศที่นี่ตอนกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็นสบาย ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำส่วนกลางอยู่ห่างไปเพียง 20 เมตร มี 4 ห้อง สะอาด แยกชายหญิงฝั่งละ 2 ห้อง ทุกห้องมีเครื่องทำน้ำอุ่น

3. บ้านมะค่า
บ้านน้อยริมลำธาร มีความเป็นบ้านชนบทญี่ปุ่นนิด ๆอากาศเย็นสบาย มีห้องน้ำในตัว ที่พักไม่มีทีวี และ ตู้เย็นมีระเบียงนั่งเล่นริมลำธาร ไม่มีแอร์ ใช้เพียงพัดลมเพียงพอ เพราะอากาศเย็นสบายตลอดคืน แม้ช่วงฤดูร้อน ท่านใดชอบความเป็นธรรมชาติ นอนฟังเสียงน้ำ แนะนำบ้านมะค่า รับรองติดใจอย่างแน่นอน 

4. บ้านพะยูง
บ้านพักที่มีขนาดใหญ่ที่สุด​ มีความโปร่งโล่งสบาย​ด้วยหน้าต่างทั้ง​ 4​ ด้าน​ ที่พักไม่มีทีวี และ ตู้เย็นจึงเป็นบ้านที่ใช้พัดลม​ก็เพียงพอ มีระเบียงทอดยาวตามแนวลำธาร  ให้นอนขนานฟังเสียงน้ำได้ตลอดทั้งคืน​ ไม่มีห้องน้ำ โดยผู้เข้าพักสามารถใช้ห้องน้ำส่วนกลางที่สะอาด สะดวกสบาย มีเครื่องทำน้ำอุ่นทุกห้อง 



บ้านยางนา ณ ขานาง มีบ้านส่วนกลาง เป็นคลับเฮ้าส์ สำหรับให้ทุกท่านมารับประทานอาหาร และใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น พักผ่อน อ่านหนังสือด้วย ที่นี่มี Wifi ให้บริการฟรี สำหรับแชร์ความรู้สึกดี ๆ ทุกช่วงเวลา ที่พักทุกแบบราคารวมอาหารเช้าแล้ว ส่วนถ้าต้องการรับอาหารเย็น ต้องแจ้งล่วงหน้า   

การเดินทางมาที่ บ้านยางนา ณ ขานาง สามารถมาได้หลายรูปแบบ ทั้งเดินทางมาโดยรถส่วนตัว หรือ ใช้บริการรถโดยสาร รถสองแถวจากตลาดทองผาภูมิมาส่งถึงหน้าบ้าน 

การจองที่พัก สามารถ inbox มายังเพจ บ้านยางนา ณ ขานาง Yangna at Khanang  โดยรับเฉพาะลูกค้าจองที่พักล่วงหน้า เท่านั้น ไม่รับลูกค้า walk in 








Facebook : บ้านยางนา ณ ขานาง Yangna at Khanang