16 กันยายน 2568

เปิดสัมมนา Agri Plus Intelligence พร้อมจัดเวิร์คชอปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

คต. ลุยต่อยอดวิจัยเกษตรนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์ เปิดสัมมนา Agri Plus Intelligence พร้อมจัดเวิร์คชอปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สแกนธุรกิจ ยกระดับผลิตภัณฑ์สู่สากล 





คต. ติวเข้มผู้ประกอบการสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย เปิดเวทีสัมมนา “Agri Plus Intelligence ถอดรหัสอัจฉริยะสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย จากงานวิจัยสู่ตลาดโลก” พร้อมจับมือ บพข. จัด One-on-One Exclusive Workshop : SCAN ธุรกิจ สำรวจนวัตกรรมองค์กร ยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ตลาดสากล มุ่งเป้า SMEs และนักวิจัย ใช้นวัตกรรมต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร และขยายโอกาสทางการค้า 





นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการต่อยอดงานวิจัยและสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนักวิจัยและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการค้า โดยเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 กรมฯ ได้จัดสัมมนา “Agri Plus Intelligence ถอดรหัสอัจฉริยะสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย จากงานวิจัยสู่ตลาดโลก” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งภาครัฐและเอกชน นักการตลาดชั้นนำ รวมถึงนักวิจัย ที่มาร่วมผสานพลังเติมเต็มองค์ความรู้ที่จะช่วยปลดล็อคศักยภาพสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยให้พร้อมเข้าสู่ตลาดสากล โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ การเสวนาหัวข้อ “Agri Plus Intelligence: ถอดรหัสเทรนด์โลกและโอกาส ของสินค้า เกษตรนวัตกรรมไทย” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์การตลาดและองค์กรภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และรศ. ดร.จินตวัฒน์ ไชยชนะวงศ์ อาจารย์ประจำหลักสูตร วศ.ม. เทคโนโลยีวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น การเสวนา “From Lab to a Billion” ที่ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และตัวแทน ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการต่อยอดงานวิจัย มาร่วมแบ่งปันความรู้ ชี้แนะ Roadmap เส้นทางสู่ธุรกิจเกษตรมูลค่าสูง ได้แก่ คุณสุทธิวรรณ อมาตยกุล ผู้อํานวยการฝ่ายเพิ่มมูลค่าผลผลิต และออกแบบผลิตภัณฑ์ SMEs (ISMED) และคุณอนันต์ มูดอ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพอร์ทัล จํากัด การบรรยายในหัวข้อ “Branding for Tomorrow” โดยคุณดลชัย บุณยะรัตเวช แบรนด์กูรูชั้นนำของประเทศ และในหัวข้อ “Digital Harvest” พลิกเกมการตลาดด้วย Social Commerce และ AI” โดยคุณธัญญ์นิธิ อภิชัยโชติรัตน์ นักการตลาดดิจิทัลมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Business Networking เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจ และการจัดแสดง “Agri Plus Showcase” โชว์ผลิตภัณฑ์เกษตรนวัตกรรมจากการต่อยอดงานวิจัยอีกด้วย

นอกจากการสัมมนาที่มีผู้สนใจเข้าร่วมอย่างล้นหลามแล้ว กรมฯ ได้ผนึกกำลังกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ บพข. จัด One-on-One Exclusive Workshop: Scan ธุรกิจ สำรวจนวัตกรรมองค์กร ยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ตลาดสากล ระหว่างวันที่ 17 - 19 กันยายน 2568 โดยนำทัพผู้เชี่ยวชาญมาช่วยประเมินความพร้อมในการประกอบธุรกิจแบบ Exclusive พร้อมให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการแบบครบวงจร โดยผู้เข้าร่วมได้รับแนวทางการพัฒนาธุรกิจ รวมถึงการต่อยอดธุรกิจแบบ Insight เพื่อการขยายธุรกิจเกษตรนวัตกรรมสู่สากลได้อย่างเป็นรูปธรรม

รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมฯ ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความสำเร็จบนเวทีการค้าโลก ผลักดันมูลค่าการค้าของไทยให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ มีความมุ่งมั่นในการผลักดัน ผู้ประกอบการเกษตรนวัตกรรมไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถแข่งขันในตลาดการค้าได้อย่างมีศักยภาพ ควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้เกษตรกร ผ่านกลไกการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยนวัตกรรมเพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ตามนโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดสัมมน าและ Exclusive Workshop ในครั้งนี้จะเป็นแรงส่งเสริมผู้ประกอบการ และนักวิจัยในการต่อยอดสินค้าเกษตรไทย ไปสู่ตลาดสากลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของกรมการค้าต่างประเทศในการส่งเสริม ผลักดัน เพื่อยกระดับขีดความสามารถทาง การแข่งขัน และขยายโอกาสทางการค้าสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยได้อย่างยั่งยืน

#wefiethailand

13 กันยายน 2568

พม. ยินดี 304 อพม.กรุงเทพมหานคร ผ่านอบรมพัฒนาศักยภาพกลไกและเสริมพลัง

 พม. ยินดี 304 อพม.กรุงเทพมหานคร ผ่านอบรมพัฒนาศักยภาพกลไกและเสริมพลัง เชี่ยวชาญด้านครอบครัว  พร้อมจัดงานแด่แม่และจิตอาสาอาสาผู้เสริมพลังครอบครัวเสริมพลังชุมชน 

วันที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 14.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงานแด่แม่และจิตอาสาผู้เสริมพลังครอบครัวเสริมพลังชุมชน  พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชี่ยวชาญด้านครอบครัว กรุงเทพมหานคร จำนวน 304 คน โดยมี นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวร่วมมอบเกียรติบัตรแก่อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชี่ยวชาญด้านครอบครัว กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ มีคณะผู้บริหารกระทรวง พม. พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) กรุงเทพมหานคร กทม. เข้าร่วม ณ ห้องปรินซ์บอลรูม 1 ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพมหานคร 



นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้ดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์ครอบครัวกับบริบทพื้นที่/ชุมชน รวมถึงได้มีการพัฒนาศักยภาพกลไกและเสริมพลังอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร เชี่ยวชาญด้านครอบครัว ซึ่งเป็นกลไกการดำเนินงานด้านครอบครัวในพื้นที่ให้มีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการขับเคลื่อนงานด้านครอบครัวแบบบูรณาการ สามารถส่งเสริมพัฒนาสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว และการทำบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกครอบครัวทุกช่วงวัยในพื้นที่ของตนเอง เพื่อสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชนในพื้นที่ต่อไป

นายอนุกูล กล่าวว่า งานแด่แม่และจิตอาสาผู้เสริมพลังครอบครัวเสริมพลังชุมชน ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้เข้มแข็ง โดยการถ่ายทอดเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจจากแม่ผู้ได้รับรางวัลครอบครัวร่มเย็น (ผู้มีชื่อเสียง) ประจำปี 2568 คือ ครอบครัวของคุณแม่มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งเป็นครอบครัวที่เป็นแบบอย่างครอบครัวเข้มแข็ง และเพื่อเสริมพลังให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร หรือ อพม.กทม. เชี่ยวชาญด้านครอบครัว ซึ่งเป็นกลไกในการสร้างความสัมพันธ์ของครอบครัวและชุมชน ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ สค. ได้จัดการอบรมพัฒนาศักยภาพกลไกและเสริมพลังอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร เชี่ยวชาญด้านครอบครัว หรือ อพม. เชี่ยวชาญด้านครอบครัว พร้อมมอบประกาศเกียรติบัตรให้แก่ อพม.กทม. ที่ผ่านการอบรมฯ จำนวน 304 คน





นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ในงานยังมีการจัดกิจกรรมเสริมพลังครอบครัวเสริมพลังชุมชน เพื่อให้ อพม.กทม. มีความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองภายในครอบครัว ตระหนักรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัย และสามารถนำความรู้ ทักษะที่ได้รับไปปรับใช้ในการส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์ของครอบครัวทุกรูปแบบ นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในพื้นที่ชุมชนที่รับผิดชอบอย่างยั่งยืน รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อาทิ บูธกิจกรรม “Pink Together : Knowledge Learn & Work” พลังความร่วมมือ แทนความห่วงใย เสริมพลังใจเพื่อสตรีและครอบครัวไทยมั่นคง ด้วยการพัฒนาการดำเนินงานผ่านกระบวนการเรียนรู้ในการจัดการ ความเสี่ยงจากภัยพิบัติอย่างมีมุมมองมิติเพศภาวะ เพื่อรองรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับกลุ่มเปราะบาง 



“สุดท้ายนี้ ตนในนามกระทรวง พม. ขอแสดงความยินดีกับ อพม.กทม. ทุกท่านที่ผ่านการอบรมพัฒนาศักยภาพกลไกและเสริมพลังอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร เชี่ยวชาญด้านครอบครัว และได้รับเกียรติบัตรในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จะได้ร่วมมือกับ อพม. เชี่ยวชาญด้านครอบครัว ในการสร้างครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็งอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายอนุกูล กล่าวตอนท้าย

พบแล้วดาวดวงเด่น! ผู้ชนะเลิศเวที “Street to Star” ต้นแบบผู้แสดงความสามารถรุ่นใหม่

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 18.00 น. ที่ ลาน Eden ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (centralwOrld) นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลแก่ผู้แสดงความสามารถที่เข้าร่วมประกวดแข่งขันในรายการ “Street to Star” ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้แสดงความสามารถ...เส้นทางจากถนนสู่ดวงดาว ซึ่งเป็นโครงการที่ กระทรวง พม. โดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถจากทั่วประเทศก้าวออกมาแสดงศักยภาพ พร้อมเฟ้นหาดาวดวงเด่น เพื่อต่อยอดช่องทางประกอบอาชีพให้กับผู้แสดงความสามารถมากขึ้น ตลอดจนสามารถเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับผู้แสดงความสามารถในการพัฒนาตัวเอง โดยมี คุณสัมฤทธิ์ อนุภักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการพัฒนาชุมชน ความเสมอภาคและกิจการเพื่อสังคม กลุ่มเซ็นทรัล และ คุณธันยลักษณ์ พรหมมณี ประธานกรรมการ บริษัท พรหมมณีฟาร์มาซูติคอล จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. คณะกรรมการตัดสิน และประชาชนมากมาย ร่วมแสดงความยินดี

นายกันตพงศ์ กล่าวว่า กระทรวง พม. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้แสดงความสามารถมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการฝึกอบรมทักษะ Smart on Street การจัดมหกรรมร่วมกับภาคีเครือข่าย และการขยายพื้นที่แสดงกว่า 2,141 จุดทั่วประเทศ รวมถึงนโยบาย “1 จังหวัด 1 พื้นที่สร้างสรรค์” และ “การเปิดพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติ” เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้แสดงมีรายได้และความภาคภูมิใจ โดยปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา ผู้แสดงความสามารถมีรายได้รวมกว่า 3.5 ล้านบาท และยังคงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดันภารกิจสำคัญตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ซึ่งไม่เพียงแต่จัดระเบียบสังคมเพื่อไม่ให้เกิดการขอทานซ้ำ แต่ยังมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ด้วยการแยก “ผู้แสดงความสามารถ” ออกจาก “ผู้ทำการขอทาน” สู่การเป็นผู้สร้างสรรค์ศิลปะและความสุขให้แก่สังคม ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้จดแจ้งขอมีบัตรประจำตัวผู้แสดงความสามารถแล้วกว่า 15,250 ราย โดยส่วนใหญ่มีความสามารถด้านดนตรี ศิลปะ และนาฏศิลป์ สิ่งเหล่านี้คือ “พลังสร้างสรรค์” ที่สะท้อนให้เห็นว่า “ผู้แสดงความสามารถ” ไม่ได้เป็นเพียงผู้แสวงหาความอยู่รอด แต่คือผู้สร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจให้แก่ตนเองและผู้อื่น

ายกันตพงศ์ กล่าวต่อไปว่า เวทีประกวด “Street to Star” จึงเป็นเวทีสำคัญที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ต้องการสร้างโอกาสแก่ผู้แสดงความสามารถ ได้ดึงความสามารถของตนเองออกมาให้สังคมได้เห็นศักยภาพได้อย่างเต็มที่ โดยแบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท คือ 1) การร้องเพลงเดี่ยว (Backing Track) และ 2) การร้องเพลงวงดนตรีสด (Live Band) ซึ่งมีผู้แสดงความสามารถเข้าร่วมคัดเลือกจากทั่วประเทศ และผ่านการคัดเลือกสุดเข้มข้น เข้ามารอบชิงชนะเลิศ ประกอบด้วย ประเภทเดี่ยว 11 คน ประเภทวงดนตรี 11 ทีม รวม 46 คน และในการประกวดรอบชิงชนะเลิศ “Street to Star” ในวันนี้ ได้รับเกียรติจากนายประกาศิต โบสุวรรณ (เดอะปั๋ง) นายพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (พี่ปุ้ม วงตาวัน) และนางสาวกันยารัตน์ ติยะพรไชย (ลุลา) มาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน

ทั้งนี้ ขอแสดงความยินดีกับ ประเภทเดี่ยว

ชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาวทัตพิชา กิตติพนังกุล 

รองชนะเลิศอันดับ 1 : นางสาววัลภา ลครพล 

รองชนะเลิศอันดับ 2 : ด.ญ.ศุภสุตา รอดคุ้ม

ประเภททีม

ชนะเลิศอันดับ 1: PK. Fusion Band 

รองชนะเลิศอันดับ 1 : ทโมน 

รองชนะเลิศอันดับ 2 : Red Ribbon 

นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ “รางวัลเชิดชูศิลปวัฒนธรรม” คือ วงรองแง็งสวนกวีพื้นบ้าน จ.กระบี่ 

ทั้งนี้ ผู้ชนะทุกรางวัลที่กล่าวมานี้ จะได้รับถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติจากพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 360,000 บาท 

นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ที่ให้ความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่การจัดงาน พร้อมสนับสนุนเงินรางวัล กรมศิลปากร ร่วมออกแบบถ้วยรางวัลอันประณีต ค่ายเพลงชั้นนำ อาทิ บริษัทสไปร์ซซี่ ดิสก์ จำกัด บริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด (RS) บริษัทสมอลล์รูม จำกัด บริษัทเทโรเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทวอท เดอะ ดัก จำกัด อนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์เพลงในสังกัด ตลอดจนมีผู้ใหญ่ใจดีร่วมสนับสนุนเงินรางวัล อาทิ บริษัทกันต์กนิษฐ์ ก่อสร้าง จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัดศิลาไพบูลย์ บริษัทศิลาชัยเจริญ จำกัด คุณอิทธิ พงศ์อุสรา และอีกมากมาย ฯลฯ นายกันตพงศ์ กล่าวในตอนท้าย

กสอ. จัดกิจกรรมส่งท้ายหนุนผู้ประกอบการ “DIPROM: NextAgriX 2025 : เครือข่ายธุรกิจ เพื่ออนาคต

กสอ. จัดกิจกรรมส่งท้ายหนุนผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ด้วย “DIPROM: NextAgriX 2025 : เครือข่ายธุรกิจ เพื่ออนาคต >> เริ่มต้นที่นี่” เพื่อเกษตรอุตสาหกรรมไทยเข้มแข็ง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ


กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) โดยกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม เดินหน้าจัดกิจกรรม “พัฒนาเครือข่ายธุรกิจเกษตรแปรรูป” ภายใต้โครงการ ยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และการศึกษาดูงานเต็มรูปแบบ ระหว่างวันที่ 7–9 กันยายน 2568 รวม 3 วันเต็ม เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรของไทยให้มีมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร ต่อยอดโอกาสสู่ตลาดใหม่ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งในภาคธุรกิจเกษตรแปรรูป  

กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจเกษตรแปรรูป สร้างความร่วมมือในการสนับสนุนและแบ่งปันทรัพยากรภายในกลุ่ม เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ และขยายช่องทางการตลาดให้กว้างไกล ตลอดจนยกระดับการแปรรูปสินค้าเกษตรให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด เสริมสร้างรายได้และความมั่นคงแก่เกษตรกรไทย พร้อมทั้งสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ชุมชนและเศรษฐกิจในระดับประเทศ ตลอดโครงการ มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมจำนวน 57 ราย และคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าร่วมจริง 20 กิจการ ครอบคลุมทั้ง SMEs วิสาหกิจชุมชน อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อาหารแปรรูป เครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง โดยทุกกิจการจะได้เข้าร่วมกิจกรรมเนื้อหาเข้มข้น อาทิ

1. Networking for Success : “จับคู่แข่งให้เป็นมิตร จับคู่ธุรกิจให้เป็นพาร์ทเนอร์”

2. ปั้นธุรกิจให้ปัง : สร้างแบรนด์ให้ดัง ติดตลาดในยุคดิจิทัล

3. การวางแผนพัฒนาเครือข่ายในอนาคต

4. Business Bonding : “สร้างสายสัมพันธ์ สร้างพลังธุรกิจ”

5. ศึกษาดูงาน การบริหารธุรกิจและการตลาดสินค้าเกษตร ณ บริษัท ไทยโคโคนัท จำกัด (มหาชน) จ.ราชบุรี ตัวอย่างความสำเร็จของการผลักดันมะพร้าวไทยสู่ตลาดต่างประเทศ



กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) เชื่อมั่นว่า “DIPROM: NextAgriX 2025” จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการไทยก้าวทันเกษตรยุคใหม่ ตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับผลผลิตให้มีคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม ขยายสู่ตลาดศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนเกษตรอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 

บริษัท ไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน)

สนับสนุนกองทุนช่วยเหลือชุมชนและสังคม แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด


บริษัท ไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายซามูเอล ลิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 75,000 บาท แก่กองทุนช่วยเหลือชุมชนและสังคมของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการศึกษา การพัฒนาชุมชน และการช่วยเหลือสังคมในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายพัฒชัย วิเศษสมบัติ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด เป็นผู้แทนรับมอบ

โดยจัดพิธีมอบเงินสนับสนุนขึ้น ณ ห้องประชุมคอนเฟอเร้นซ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวรุ่งกานต์ สืบสุทธา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 ผู้แทนของ นายสุรชาติ การสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานฯ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วยคณะกรรมการและสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของบริษัท ไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) ที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน (Creating Shared Value) โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพการศึกษาสนับสนุนการพัฒนาท้องถิ่น และการดูแลสังคมให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน

นายซามูเอล ลิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) บริษัท ไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเจตนารมณ์ของบริษัทว่า “เราเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนต้องเดินควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการคืนประโยชน์สู่ชุมชน โดยเฉพาะการสนับสนุนทางการศึกษา ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคมในระยะยาว”

ด้าน นายพัฒชัย วิเศษสมบัติ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมในน้ำใจของ บริษัทไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ให้ความสำคัญต่อชุมชนท้องถิ่น พร้อมยืนยันว่าจะนำเงินสนับสนุนดังกล่าวไปใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดในการช่วยเหลือสมาชิกและการพัฒนาสังคมการมอบเงินสนับสนุนครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนและสมาชิกสหกรณ์ แต่ยังเป็นการตอกย้ำบทบาทของบริษัท ไรเดอร์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) ในการเป็นองค์กรที่ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ธุรกิจเพื่อสังคม และการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้แก่ทุกภาคส่วน

#ไรเดอร์โบรกเกอร์
#ขายความจริงอิงความซื่อสัตย์
#โบรกเกอร์สีขาว
#ไรเดอร์อินชัว

ไทยประกาศความพร้อมเจ้าภาพจัดงาน Gastech 2026


ทีมไทยแลนด์ โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ร่วมกับ กระทรวงพลังงาน และพันธมิตรในอุตสาหกรรมพลังงานของไทย เข้าร่วมงาน Gastech 2025 ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี เพื่อประกาศความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพงานแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก Gastech 2026 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2569 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค โดยมี นายคริสโตเฟอร์ ฮัดสัน ประธานบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ (ที่ 2 จากซ้าย) ในฐานะผู้จัดงานให้การต้อนรับ ดร. พสุ โลหารชุน

11 กันยายน 2568

T&B Media Global เปิดบ้านต้อนรับ ผู้บริหารหลักสูตรและผู้เข้าอบรม

หลักสูตร  “THE CREATORS : Craft your future”

บริษัท T&B Media Global (ประเทศไทย) จำกัด เปิดบ้านต้อนรับ ผู้บริหารหลักสูตร และ ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “THE CREATORS : Craft your future” ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ผลิตและสร้างบุคคลกรด้านภาพยนตร์ สารคดี ละคร ซีรีส์ และ แอนิเมชัน  ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน ซึ่งคณะผู้บริหารโครงการได้เห็นศักยภาพของ T&B ที่เป็นผู้ผลิตแอนิเมชันแถวหน้าของเมืองไทย โดย ดร.ณัฐวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คุณภาคภูมิ ตันตนันตา Group Deputy  CEO, คุณวุฒิกร เส้า Group Chief Business Development and Contents Officer, คุณรัชต์ จิราธรศิริ Chief Operation Officer , คุณกฤษ เงาศรี  Director of Production, คุณพรวิรุณ แก้วทอง  Project Director and Producer  ร่วมแนะนำผลงานของบริษัท พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เข้าอบรมโดยมี คุณวรวรรณ ติณสูลานนท์  Corporate Communication & PR Advisor ร่วมงาน




“THE CREATORS : Craft your future”   เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง   สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร่วมกับ สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) สมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) และ ผู้ประกอบการสมาชิกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สนับสนุนโดย  กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีผู้ประกอบการระดับท็อปของวงการด้านวิชาชีพที่มาให้ความรู้ และแนวคิดให้กับผู้เข้าอบรมได้ความรู้และนำไปต่อยอดกับการผลิตผลงานในวิชาชีพต่อไป


นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายยังได้มีการนำเสนอผลงานของผู้เข้าอบรม เพื่อรับทุนในการผลิตผลงานผ่านกรรมการตัวจริงเสียงจริง  นำโดย  คุณเขมทัตต์ พลเดช    นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุ และโทรทัศน์ดร.โชคชัย  เอี่ยมฤทธิไกร   CEO TERO DIGITAL COMPANY LIMITED, คุณคริสโตเฟอร์ วอชิงตัน,  ดร.ธราภุช จารุวัฒนะ   CEOบริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด และ คุณสุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์ ที่ปรึกษาสมาพันธ์  ซึ่งทุกทีมได้ถูกผ่านการปรับเปลี่ยนเนื้อหา และให้คำปรึกษาโดยทีมพี่เลี้ยง  ทั้งนี้เพื่อให้พร้อมต่อการนำเสนอโดย บริษัท T&B Media Global(ประเทศไทย) จำกัด  ได้ส่งตัวแทนของบริษัทเข้าร่วมในการอบรมครั้งนี้ด้วย

10 กันยายน 2568

การประชุมสุดยอดทางธุรกิจ Chile-ASEAN Business Summit 2025

เปิดศักราชใหม่แห่งการค้า นวัตกรรม และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม       

กรุงเทพฯ, 10 กันยายน 2568  การประชุม Chile-ASEAN Business Summit 2025 เปิดฉากอย่างเป็นทางการวันนี้ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี โดยตลอด 3 วันของการประชุม มุ่งเน้นการเสวนาระดับสูง การจับคู่เจรจาธุรกิจ การเยี่ยมชมกิจการต่างๆ ตลอดจนกิจกรรมทางวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างชิลีกับภูมิภาคอาเซียน



เอกอัครราชทูตชิลีประจำประเทศไทย นายปาตริซิโอ พาวเวลล์ เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีนางเกลาเดีย ซานอูเอซา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศฝ่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สาธารณรัฐชิลี ดร. นลินี ทวีสิน อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย และนายอิกนาซิโอ เฟอร์นันเดซ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (ProChile) ร่วมกล่าวต้อนรับ ซึ่งทุกฝ่ายล้วนย้ำถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของชิลีในฐานะพันธมิตรสำคัญของอาเซียน หนึ่งในภูมิภาค เศรษฐกิจที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก

ผู้ส่งออกจากชิลีกว่า 20 รายในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เกษตรและอาหารทะเล ไวน์ ไม้ป่าไม้ บริการ และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เดินทางมาร่วมงานที่กรุงเทพฯ และจาการ์ตา โดยมีกำหนดเข้าร่วมการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 200 รอบกับผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายกว่า 70 รายจากทั่วอาเซียน อาทิ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังมีการสัมมนา เวิร์กช็อปไวน์ และเทศกาลสินค้าสำหรับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อแนะนำสินค้าต่างๆ จากชิลีสู่ผู้บริโภคในไทยและภูมิภาค





“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างชิลีกับอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของความตกลงการค้าเสรีชิลี–ไทย” นางซานอูเอซา กล่าว “แม้เราจะอยู่ห่างไกลกันคนละทวีป แต่เรายังคงเชื่อมโยงถึงกันด้วยค่านิยมร่วม ซึ่งได้แก่ การเปิดกว้างทางการค้า ความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และความเชื่อมั่นว่าการร่วมมือระดับภูมิภาคคือกุญแจสำคัญสู่ความรุ่งเรืองในอนาคต”

ด้วยจำนวนประชากรกว่า 680 ล้านคน และชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อาเซียนนับเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ สำหรับชิลีในการกระจายการค้าและการลงทุน ในขณะเดียวกัน อาเซียนก็สามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย และยั่งยืนจากชิลี รวมถึงระบบนิเวศของนวัตกรรมที่เต็มไปด้วยพลังของชิลีซึ่งจะเป็นประตูไปสู่ต่อภูมิภาคลาตินอเมริกา





นายอิกนาซิโอ เฟร์นานเดซ อธิบดี ProChile กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการสร้างโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการ SMEs  “เราไม่ได้มุ่งหวังแค่ตัวเลขทางการค้า แต่เราอยากเปิดโอกาสให้ SME ของชิลี ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของภาคส่งออก ได้พบปะโดยตรงกับคู่ค้าจากอาเซียน เพื่อขยายเครือข่ายและสร้างความร่วมมือระยะยาว งานที่จัดครั้งนี้ผสมผสานระหว่างการเจรจาธุรกิจกับกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น การสาธิตการทำอาหารชิลี และกิจกรรมโปรโมชันร่วมกับห้างค้าปลีกอย่าง Gourmet Market ที่เอ็มควอเทียร์ และ GO! Wholesale รังสิต แสดงให้เห็นถึงมิติต่างๆ ในด้านความคิดสร้างสรรค์และการร่วมมือของชิลี”

ดร. นลินี ทวีสิน อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า “การเดินทางของคณะผู้แทนการค้าชิลีมายังประเทศไทยครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ชิลีคือมิตรประเทศของไทย จากอีกฝั่ง ของมหาสมุทรแปซิฟิก  และเราก็หวังว่าชิลีจะถือว่าเราคือ ประตูสู่อาเซียนเช่นเดียวกับที่เรายึดถือชิลีเป็นประตูสู่ละตินอเมริกา”

Chile-ASEAN Business Summit 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วยการหารือด้านการค้า การเจรจาระดับรัฐบาล และกิจกรรมทางวัฒนธรรม เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของชิลี ที่จะเป็นพันธมิตร ระยะยาวของอาเซียน ในด้านความมั่นคงทางอาหาร นวัตกรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน