สนับสนุนทีม MCATT รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ดูแลสุขภาพจิตผู้อพยพกว่า 1 แสนคน
กรุงเทพฯ, 17 ธันวาคม 2568 – ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการทหารกับกัมพูชา ส่งผลให้มีผู้อพยพหลบหนีจากพื้นที่การสู้รบเข้ามาในศูนย์อพยพจำนวนมากกว่า 100,000 คน วิกฤตด้านสุขภาพจิตของผู้ประสบภัยสงครามกำลังทวีความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน บริษัททองก้อนใหญ่ โฮลดิ้ง ได้เร่งส่งมอบเครื่องมือเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) สำหรับการบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพจิต "NeuroSight" ให้กับทีมเยียวยาจิตใจ MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อช่วยดูแลผู้ที่ประสบความเครียด บาดแผลทางใจ และวิตกกังวลจากสถานการณ์สงคราม
แพทย์หญิงธีรธร ทองก้อนใหญ่ กรรมการบริษัททองก้อนใหญ่ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า "สถานการณ์ความขัดแย้งทางทหารระหว่างไทยและกัมพูชาในขณะนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสียทางกายภาพ แต่ยังทิ้งบาดแผลทางจิตใจที่ลึกซึ้งแก่ประชาชนที่ต้องหลบหนีออกจากพื้นที่สงคราม ผู้อพยพกว่า 100,000 คนที่หลั่งไหลเข้ามาในศูนย์อพยพล้วนประสบกับความบอบช้ำทางจิตใจ บางคนเห็นความรุนแรง สูญเสียคนที่รัก หรือถูกคุกคามต่อชีวิต สภาวะเหล่านี้นำไปสู่ความเครียดเฉียบพลัน (Acute Stress Disorder) อาการบาดเจ็บทางใจจากเหตุการณ์รุนแรง (Trauma) และความวิตกกังวลที่รุนแรง
ปัญหาสุขภาพจิตในสถานการณ์สงครามเป็นวิกฤตเงียบที่มีความรุนแรงไม่แพ้การขาดแคลนอาหารหรือยารักษาโรค หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและทันท่วงที อาจนำไปสู่ปัญหาระยะยาว เช่น โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD) ภาวะซึมเศร้า และการทำร้ายตนเอง เราจึงได้นำเครื่องมือ NeuroSight (นิวโรไซต์) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี VR ที่ได้รับการพัฒนาเฉพาะสำหรับการบำบัด ฟื้นฟู และดูแลผู้ที่ประสบภัยสงครามมาสนับสนุนทีมแพทย์และนักจิตวิทยา เพื่อให้การช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพและทันท่วงทีแก่ผู้อพยพในวิกฤตครั้งนี้"
แพทย์หญิงธีรธร ทองก้อนใหญ่ กล่าวถึง เทคโนโลยี NeuroSight หรือ นวัตกรรมการบำบัดจิตใจด้วย VR ต่อว่า NeuroSight เป็นเครื่องมือที่ผสมผสานเทคโนโลยี Virtual Reality เข้ากับหลักการทางจิตวิทยาและประสาทวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ช่วยในการผ่อนคลาย ลดความเครียด และฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยมีคุณสมบัติสำคัญ ได้แก่:
1) การบำบัดด้วยสภาพแวดล้อมเสมือนจริง: สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและผ่อนคลาย ช่วยลดอาการวิตกกังวลและความเครียดเฉียบพลัน
2) โปรแกรมการฝึกจิตและสติ: ช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้เทคนิคการจัดการอารมณ์และความเครียดด้วยตนเอง
3) การติดตามและประเมินผล: วัดและบันทึกผลการบำบัด เพื่อปรับแต่งแผนการดูแลให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
4) ใช้งานง่ายและรวดเร็ว: สามารถให้บริการได้หลายคนในเวลาจำกัด เหมาะสมกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
แพทย์หญิงธีรธร ทองก้อนใหญ่ ได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนในวิกฤตสงคราม ว่า การสู้รบระหว่างไทยและกัมพูชาได้สร้างวิกฤตด้านมานุษยธรรมครั้งใหญ่ ด้วยจำนวนผู้อพยพที่มากกว่า 100,000 คนซึ่งหลั่งไหลเข้าสู่ศูนย์อพยพ ความต้องการด้านการดูแลสุขภาพจิตมีสูงเป็นประวัติการณ์ ผู้อพยพส่วนใหญ่ประสบกับ:
1) บาดแผลทางจิตใจจากการเห็นความรุนแรง การสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน และคนที่รัก
2) ความกลัวและความไม่มั่นคงต่อชีวิต จากสถานการณ์สงครามที่ยังคงดำเนินอยู่
3) ความเครียดเฉียบพลันและวิตกกังวลรุนแรง จากการต้องอพยพอย่างกะทันหัน
4) ความไม่แน่นอนในอนาคต ไม่ทราบว่าจะสามารถกลับบ้านได้เมื่อไหร่
ขณะที่ทรัพยากรบุคลากรด้านสุขภาพจิตในศูนย์อพยพมีอยู่อย่างจำกัด เทคโนโลยี NeuroSight จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยเสริมประสิทธิภาพของทีมแพทย์ ช่วยให้สามารถเข้าถึงผู้ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะที่การดูแลทางจิตใจต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
นายแพทย์โกศล วราอัศวปติ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี ระบุว่า "ในสถานการณ์สงคราม ผู้อพยพที่เข้ามาต่างประสบกับบาดแผลทางใจที่รุนแรง หลายคนมีอาการหวาดกลัว นอนไม่หลับ หรือมีภาพเหตุการณ์รุนแรงย้อนกลับมาในหัว NeuroSight ช่วยให้เราสามารถให้การบรรเทาและดูแลเบื้องต้นแก่ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีผู้ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวนมากพร้อมกัน เครื่องมือนี้ช่วยลดภาระของทีมแพทย์ในสภาวะที่ทรัพยากรมีจำกัด และทำให้ผู้อพยพได้รับการดูแลที่รวดเร็วและมีคุณภาพ แม้ในสถานการณ์วิกฤต"
แม้ว่า NeuroSight จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่แพทย์หญิงธีรธร ทองก้อนใหญ่ เน้นย้ำอย่างจริงจังว่า "สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวิกฤตสงครามครั้งนี้มีขนาดใหญ่และซับซ้อนเกินกว่าที่เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งจะรับมือได้เพียงลำพัง ความต้องการด้านสุขภาพจิตในศูนย์อพยพมีมากกว่าทรัพยากรที่มีอยู่หลายเท่าตัวยังคงต้องการการสนับสนุนอย่างเร่งด่วนจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น นักจิตวิทยาและนักจิตแพทย์เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่สุขภาพจิตผู้มีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ประสบภัยสงคราม เทคโนโลยีและเครื่องมือทางการแพทย์ ทรัพยากรทางการเงินเพื่อขยายโครงการ และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ การดูแลสุขภาพจิตของผู้อพยพสงครามไม่ใช่เรื่องที่สามารถรอได้ เพราะยิ่งปล่อยให้ล่าช้า บาดแผลทางใจจะยิ่งลึกและยากต่อการรักษา เราต้องการความช่วยเหลือตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพจิตของผู้อพยพทุกคนได้อย่างครอบคลุม มีศักดิ์ศรี และยั่งยืน"






