07 กรกฎาคม 2568

สหฟาร์ม เดินหน้ายกระดับสู่ความยั่งยืน ขับเคลื่อนโครงการ GO Green อย่างเป็นรูปธรรม


สหฟาร์ม เดินหน้ายกระดับสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ติดตั้งโซลาร์เซลล์ร่วม WHAUP พร้อมทดสอบระบบ EV หนุนองค์กรก้าวสู่อนาคตพลังงานสะอาด โชว์แผนลดต้นทุนพลังงานจาก 260 ล้านบาทต่อเดือน เผยแนวคิดสอดคล้องวิสัยทัศน์ผู้นำ “เติบโตเคียงคู่สิ่งแวดล้อม”

บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ผู้นำการผลิตและส่งออกไก่ครบวงจรอันดับ 1 ของประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “การเติบโตที่ยั่งยืนควบคู่สิ่งแวดล้อมและชุมชน” ด้วยการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ GO Green อย่างเป็นรูปธรรม โดยร่วมมือกับ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) – WHAUP ผู้นำด้านโซลูชันพลังงานครบวงจร ในการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์จำนวน 14 โครงการทั่วทั้งเครือข่ายโรงงานและฟาร์มของสหฟาร์ม

ดร. จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ ประธานสายบัญชีและการเงิน และเลขานุการคณะกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า “การติดตั้งโซลาร์เซลล์ร่วมกับ WHAUP ไม่ใช่เพียงการลดต้นทุนพลังงาน แต่เป็นก้าวยุทธศาสตร์ขององค์กร ในการปักหมุดสู่อนาคตที่ยั่งยืน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อชุมชน โครงการนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของผู้นำรุ่นใหม่ ที่มองว่าองค์กรในวันนี้ต้องไม่เพียงแค่สร้างกำไร แต่ต้องสร้างคุณค่าให้กับโลกใบนี้ในระยะยาว”

“การจับมือ WHAUP เป็นพันธมิตรในโครงการ GO Green ครั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของสหฟาร์มในมาตรฐานระดับสากลขององค์กรพันธมิตร โดยทั้งสองบริษัทต่างมีเป้าหมายร่วมกันในการผลักดันพลังงานสะอาดให้เป็นกลไกสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง” ดร.จารุวรรณ กล่าว

โครงการโซลาร์พลังงานสะอาดเฟสแรกของสหฟาร์ม ได้ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 9 โครงการจากทั้งหมด 14 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมกว่า 46,473.59 กิโลวัตต์พีก (kWp) ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์กว่า 67,000 แผง คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้กว่า 46.8 ล้านหน่วยต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงกว่า 35,089 ตัน/ปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ถึง 1.9 ล้านต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเฟส 2 ขนาด 6 เมกะวัตต์ พร้อมแผนการขยายเฟส 3 ต่อเนื่อง



ปัจจุบัน สหฟาร์มมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสูงถึง 260 ล้านบาทต่อเดือน โครงการนี้ช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ราว 30% คิดเป็นเงินประหยัดมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าจะประหยัดรวมได้ถึง 1,600 ล้านบาทภายใน 14 ปี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจด้านพลังงานสะอาดในอนาคต

ในขณะเดียวกัน สหฟาร์มและบริษัทในเครือ โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด (GLB) ยังได้ขยายขอบเขตของโครงการ GO Green ไปยังมิติอื่น ๆ อย่างครอบคลุม เช่น การวางระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัยบนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เพื่อให้น้ำที่ปล่อยกลับสู่ธรรมชาติไม่มีผลกระทบต่อแหล่งน้ำในชุมชน การปลูกต้นไม้เป็นแนวกันชนรอบโรงงานกว่า 1 ล้านต้น เพื่อเพิ่มออกซิเจนในอากาศ ลดเสียง ฝุ่น และความร้อน รวมถึงการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ

ในด้านพลังงานทดแทนอื่นๆ สหฟาร์มยังศึกษาการใช้ พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานชีวมวล (Biomass) มาทดแทนเชื้อเพลิงถ่านหินในระบบ Hot Oil Boiler ของโรงงานแปรรูป พร้อมทั้งริเริ่มทดลองใช้ รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV) แทนรถดีเซล โดยหากผลการทดลองประสบความสำเร็จ องค์กรมีแผนทยอยเปลี่ยนรถในระบบโลจิสติกส์กว่า 50 คันให้เป็น EV ภายในปี 2569

“โครงการ GO Green คือหัวใจของการเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืนของสหฟาร์ม เราไม่ได้เพียงมุ่งเน้นผลประกอบการ แต่ต้องการเป็นองค์กรต้นแบบที่สามารถส่งมอบคุณค่าทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน” ดร. จารุวรรณ กล่าวทิ้งท้าย




ทั้งนี้ พิธีส่งมอบพลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นทางการจากโครงการโซลาร์เซลล์ จะจัดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ณ โรงงานแปรรูปของสหฟาร์ม จ.เพชรบูรณ์ และ จ.ลพบุรี โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสหฟาร์มและ WHAUP เข้าร่วม เพื่อร่วมประกาศจุดยืนครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารไทย ในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และเป็นต้นแบบของธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับการดูแลโลกใบนี้อย่างแท้จริง