26 พฤษภาคม 2567

“เอ็มเจ็ท” ประกาศลงทุน “วิงส์โอเวอร์เอเชีย”

ตั้งเป้าขยายธุรกิจขึ้นแท่นผู้นำการให้บริการเครื่องบินส่วนตัว รับตลาดเอเชียโต


กรุงเทพฯ 21 พฤษภาคม 2567 – บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด (MJets) ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวและการบินส่วนบุคคลครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศไทย ประกาศเข้าลงทุนใน บริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย จำกัด (WingsOverAsia) บริษัทผู้ให้บริการเครื่องบินส่วนตัวสัญชาติสิงคโปร์ โดยการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้เอ็มเจ็ทสามารถขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศในเอเชียได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น สอดรับปัจจัยบวกจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องบินส่วนตัวในภูมิภาคดังกล่าวที่พบว่ามีความต้องการสูงขึ้นต่อเนื่อง
|




นายกิริต ชาห์ เจ้าของร่วมและกรรมการบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า “เอ็มเจ็ท เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี พ.ศ 2550 ต่อมาในปีพ.ศ. 2553 บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพและช่องว่างการเติบโตของธุรกิจการบินส่วนบุคคลในประเทศไทย จึงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการสร้างศูนย์บริการอากาศยานส่วนบุคคลครบวงจร (FBO) แห่งแรกในประเทศไทยซึ่งได้รับการโหวตให้เป็น FBO ที่ดีที่สุดในเอเชียต่อเนื่องกันถึง 9 ปีโดย Aviation International News (AIN) ปัจจุบันเอ็มเจ็ทให้บริการใน 7 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำ ได้แก่เครื่องบินรุ่น Cessna Citation Bravo จำนวน 2 ลำ Cessna Citation X 1 ลำ Gulfstream GV 1 ลำ และเครื่องบินลำล่าสุด Gulfstream G550 1 ลำ 2. บริการเครื่องบินพยาบาล 3. การบริหารเครื่องบิน 4. บริการอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคลพร้อมห้องรับรองพิเศษ 5. บริการซ่อมบำรุงเครื่องบิน 6. บริหารธุรกิจการบินส่วนบุคคลและการบริการภาคพื้นแบบครบวงจร และ 7. บริการให้คำปรึกษาและดำเนินการซื้อขายเครื่องบิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังได้ขยายกิจการธุรกิจการบินส่วนบุคคลไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ทั้งประเทศอินเดีย เมียนมาร์ และกัมพูชา” 

นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค เจ้าของร่วมและกรรมการบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวเสริมว่า “จากการที่แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเครื่องบินเจ็ทและการบินส่วนบุคคลในเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ้างอิงจากการคาดการณ์ขององค์กรวิจัยการตลาด Mordor Intelligence ที่วิเคราะห์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ของอุตสาหกรรมดังกล่าวที่ 14.36% ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นจาก 463.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2567 สู่ 906.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2572 จากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มของลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงและสูงพิเศษ (High & Ultra-High Net Worth Individuals) ที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางธุรกิจอย่างการประชุม มหกรรม หรือการพูดคุยระหว่างองค์กรในภูมิภาคดังกล่าวมากขึ้น ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ทำให้เอ็มเจ็ทตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนและขยายเครือข่ายการบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งในปีนี้และในอนาคต เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการบินส่วนบุคคล พร้อมผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านเครื่องบินส่วนตัวครบวงจรระดับเวิลด์คลาส อันดับ 1 ของเอเชียได้สำเร็จ”

ด้าน นายณัฏฐภัทร สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า “ด้วยผลการดำเนินงานที่มั่นคง ประกอบกับเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมการบินส่วนตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอ็มเจ็ท จึงลงทุนใน “วิงส์โอเวอร์เอเชีย” บริษัทผู้ให้บริการด้านการบินส่วนตัวชั้นนำ ที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในอาเซียน ตลอดจนอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการที่ครบครันในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นรากฐานให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจทั่วภูมิภาคดังกล่าว โดยการลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นแผนการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้เอ็มเจ็ทสามารถพัฒนาธุรกิจสู่ตำแหน่งผู้นำในระดับโลก ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นก้าวที่ทำให้เอ็มเจ็ทสามารถบรรลุเป้าหมายที่คาดหวังได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ เอ็มเจ็ทได้ตั้งเป้าหมายขยายการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2569”

นายกิริต ชาห์ เจ้าของร่วมและกรรมการบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า “เอ็มเจ็ท เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี พ.ศ 2550 ต่อมาในปีพ.ศ. 2553 บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพและช่องว่างการเติบโตของธุรกิจการบินส่วนบุคคลในประเทศไทย จึงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการสร้างศูนย์บริการอากาศยานส่วนบุคคลครบวงจร (FBO) แห่งแรกในประเทศไทยซึ่งได้รับการโหวตให้เป็น FBO ที่ดีที่สุดในเอเชียต่อเนื่องกันถึง 9 ปีโดย Aviation International News (AIN) ปัจจุบันเอ็มเจ็ทให้บริการใน 7 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำ ได้แก่เครื่องบินรุ่น Cessna Citation Bravo จำนวน 2 ลำ Cessna Citation X 1 ลำ Gulfstream GV 1 ลำ และเครื่องบินลำล่าสุด Gulfstream G550 1 ลำ 2. บริการเครื่องบินพยาบาล 3. การบริหารเครื่องบิน 4. บริการอาคารผู้โดยสารส่วนบุคคลพร้อมห้องรับรองพิเศษ 5. บริการซ่อมบำรุงเครื่องบิน 6. บริหารธุรกิจการบินส่วนบุคคลและการบริการภาคพื้นแบบครบวงจร และ 7. บริการให้คำปรึกษาและดำเนินการซื้อขายเครื่องบิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังได้ขยายกิจการธุรกิจการบินส่วนบุคคลไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ทั้งประเทศอินเดีย เมียนมาร์ และกัมพูชา” 

นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค เจ้าของร่วมและกรรมการบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวเสริมว่า “จากการที่แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเครื่องบินเจ็ทและการบินส่วนบุคคลในเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ้างอิงจากการคาดการณ์ขององค์กรวิจัยการตลาด Mordor Intelligence ที่วิเคราะห์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ของอุตสาหกรรมดังกล่าวที่ 14.36% ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นจาก 463.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2567 สู่ 906.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2572 จากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มของลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงและสูงพิเศษ (High & Ultra-High Net Worth Individuals) ที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางธุรกิจอย่างการประชุม มหกรรม หรือการพูดคุยระหว่างองค์กรในภูมิภาคดังกล่าวมากขึ้น ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ทำให้เอ็มเจ็ทตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนและขยายเครือข่ายการบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งในปีนี้และในอนาคต เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการบินส่วนบุคคล พร้อมผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านเครื่องบินส่วนตัวครบวงจรระดับเวิลด์คลาส อันดับ 1 ของเอเชียได้สำเร็จ”

ด้าน นายณัฏฐภัทร สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า “ด้วยผลการดำเนินงานที่มั่นคง ประกอบกับเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมการบินส่วนตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอ็มเจ็ท จึงลงทุนใน “วิงส์โอเวอร์เอเชีย” บริษัทผู้ให้บริการด้านการบินส่วนตัวชั้นนำ ที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในอาเซียน ตลอดจนอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการที่ครบครันในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นรากฐานให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจทั่วภูมิภาคดังกล่าว โดยการลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นแผนการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้เอ็มเจ็ทสามารถพัฒนาธุรกิจสู่ตำแหน่งผู้นำในระดับโลก ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นก้าวที่ทำให้เอ็มเจ็ทสามารถบรรลุเป้าหมายที่คาดหวังได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ เอ็มเจ็ทได้ตั้งเป้าหมายขยายการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2569”

ขณะที่ นายอึ้ง โหย่ว เหมง ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิงส์โอเวอร์เอเชีย จำกัด กล่าวว่า วิงส์โอเวอร์เอเชีย ก่อตั้งขึ้นในพ.ศ. 2552 โดยพัฒนาจากการเป็นผู้บุกเบิกเครือข่ายการบินและบริการต้อนรับผู้โดยสารแห่งแรกของเอเชีย ไปสู่การออกแบบและสร้างศูนย์บริการเครื่องบินส่วนตัวครั้งแรกของภูมิภาค ณ สนามบินนานาชาติเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ที่โรงเก็บอากาศยานของเรา ได้มีการให้บริการต่าง ๆ ทั้งการขาย การบำรุงรักษา และการบริหารจัดการเครื่องบิน การฝึกอบรบการบิน การสนับสนุนการบิน บริการอาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงกิจกรรมไลฟ์สไตล์และการดูแลลูกค้าสมาชิกอย่างเหนือระดับ ด้วยการเติบโตของธุรกิจการบินส่วนตัวแบบครบวงจร ประกอบกับศักยภาพในการเจาะตลาด FBO และตลาดการซื้อขายอากาศยานเพื่อการฝึกบินในภูมิภาค ตลอดจนความเชี่ยวชาญในการบริการลูกค้าทั่วอาเซียน จึงมีความมั่นใจว่าวิงส์โอเวอร์เอเชีย จะเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมสำหรับเอ็มเจ็ทที่ต้องการต่อยอดธุรกิจการบินส่วนตัวในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียได้อย่างแน่นอน

“ในอนาคต นอกจากการสนับสนุนเอ็มเจ็ทให้บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวและการบินส่วนบุคคลอันดับหนึ่งในเอเชียแล้ว วิงส์โอเวอร์เอเชียมีแผนที่จะพัฒนาการดำเนินงานและการบริการให้เข้าถึงลูกค้าทุกภาคส่วนในระดับสากล ตลอดจนขยายขอบเขตการดำเนินงานและพื้นที่ในการบริการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการบินที่สามารถรองรับเครื่องบินส่วนตัวรุ่นใหม่และมาพร้อมการบริการแบบครบวงจร นอกจากนี้จะร่วมมือกับบริษัทการผลิต (Original Equipment Manufacturer) ที่มีเทคโนโลยีการบินขั้นสูง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ทันสมัย และหรูหรา ที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงสุด สอดรับวิสัยทัศน์การพัฒนาบริการที่เหนือระดับสำหรับเจ้าของเครื่องบินส่วนตัว และผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องบินทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายโหย่ว เหมง กล่าวทิ้งท้าย