“การค้าภายใน”ประชุมร่วมพาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์ราคาหมูอย่างใกล้ชิด พร้อมตรวจสอบที่มาที่ไปราคาสุกรเป็น-ชำแหละ ย้ำแผงขายต้องปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน
วันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่ห้องประชุมกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธานการประชุมร่วมกับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเพื่อหารือติดตามสถานการณ์ราคาสุกรในประเทศ หลังราคาสุกรลดลงอย่างต่อเนื่อง
นายอุดมเปิดเผยภายหลังการประชุมว่าผลจากสถานการณ์ราคาสุกรลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ทั้งสุกรเป็นและสุกรชำแหละ จึงได้มีการร่วมประชุมหารือกับพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีฟาร์มเลี้ยงสุกรและจังหวัดใกล้เคียงเพื่อติดตามสถานการณ์ด้านราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบของประชาชนผู้บริโภค
ทั้งนี้เนื่องจากบางจังหวัดขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวด้านราคา โดยเฉพาะสุกรชำแหละราคายังสูง ขณะภาพรวมทั้งประเทศขณะนี้ราคาสุกรได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะบางจังหวัดยังไม่มีปรับลดราคา จึงขอให้ทางพาณิชย์จังหวัดเข้าไปติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดทั้งราคาสุกรเป็นและสุกรชำแหละ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือไปยังพ่อค้าแม่ค้าเขียงสุกรชำแหละ แผงค้าสุกรต่าง ๆ ขอให้ปิดป้ายราคาจำหน่ายอย่างชัดเจนในและสอดคล้องกับข้อเท็จจริง
“ช่วงนี้ขอให้พาณิชย์จังหวัดไปติดตามตรวจสอบในทุกที่ทุกจุดทั้งฟาร์มและห้องเย็นและรายงานให้ทราบขอให้ยึดตามประกาศของคณะกรรมการกลางด้วยสินค้าและบริการ ใครไม่รายงานขอให้ตักเตือนหรือดำเนินคดีด้วย”รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว
นายอุดมย้ำด้วยว่าในส่วนของมีบางพื้นที่ไม่ว่าราคาสูงหรือต่ำหากพบความผิดปกติเรื่องราคาขอให้ทางพาณิชย์จังหวัดเข้าไปตรวจสอบแหล่งที่มาโดยทันที พร้อมสอบถามเหตุผลการกำหนดราคาว่าใช้ปัจจัยอะไร หากพบว่าราคาสูงก็ให้ไปตรวจสอบว่าสุกรเป็นว่าได้มาจากแหล่งใด มีหลักฐานการซื้อขายหรือไม่ และที่สำคัญการกำหนดราคาสอดคล้องกับข้อเท็จจริงหรือไม่ อย่างไร เช่นเดียวกับราคาต่ำหากพบความผิดปกติก็ต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดเช่นกัน
“หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”นายอุดมกล่าวทิ้งท้าย