30 ตุลาคม 2564

บ้านพักกลางเขา แดงเบญจรงค์ ณ เขาค้อ

หลังจากที่รัฐบาลเริ่มประกาศผ่อนคลายให้เราๆได้เริ่มเดินทางภายในประเทศกันได้ จากสถานการณ์วิกฤติโควิด – 19 เหล่าสหายที่ชื่นชอบธรรมชาติก็เริ่มเฟ้นหาสถานที่ที่จะไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ เราเองก็เช่นกัน “เขาค้อ” น่าจะเป็นหนึ่งในแหล่งเที่ยวที่หลายคนชื่นชอบและหมายมั่นปั้นมือที่จะเข้าไปเยือน ด้วยเพราะสภาพภูมิประเทศ ที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเนินเขาใหญ่น้อย แถมบางแห่งสูงชัน รวมทั้งสภาพอากาศ
ที่หนาวเกือบตลอดทั้งปี โดยจากข้อมูลบอกไว้ว่า ฤดูหนาวอากาศหนาวจัด ลดต่ำสุดโดยเฉลี่ย 3 องศาเซลเซียส ว้าววววว!!!

นี่ยังไม่รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นและที่มีมาดั้งเดิม รวมถึงประวัติความเป็นมาของ

 “เขาค้อ” นั่นทำให้ ทีมงาน Btripnews พร้อมกับน้องๆ จาก www.toptotravelvariety.com และ www.meetthinks.com ตกปากรับคำกับการเดินทางแทบจะในทันทีเราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ
เกือบบ่ายสามโมงด้วยภารกิจที่ยังรัดตัว มาถึงเขาค้อก็ราวๆ สองทุ่มกว่า โดยรีสอร์ทบ้านแรกที่เราพัก
คือที่ แดงเบญจรงค์ เขาค้อ ที่นี่ไม่ได้ใหญ่โต มีบ้านอยู่ 20 กว่าหลัง มีหลายรูปแบบ บริเวณพื้นที่ส่วนกลางเป็นแหล่งน้ำ โอบล้อมด้วยบ้านพักกระจายต่างมุม เชื่อมต่อกันด้วยสะพานข้ามแหล่งน้ำ สวยงาม สบายๆ

แดงเบญจรงค์ เขาค้อ รีสอร์ท



ที่ชื่อแดงเบญจรงค์ เขาค้อ รีสอร์ท เพราะเจ้าของเป็นชาวสมุทรสาคร เปิดร้านเบญจรงค์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านเบญจรงค์ ที่มี คุณอุไร แตงเอี่ยม แห่งบ้านอุไรเบญจรงค์ เป็นประธานหมู่บ้าน หากใครอยากจะขับรถเที่ยวแบบใกล้กรุงฯ ที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็น่าสนใจ เพราะนอกเหนือจากจะได้พบกับงานหัตถศิลป์สุดยอดแล้ว บริการบ้านพักหลายสไตล์ตกแต่งผสมผสานได้แบบลงตัว พร้อมลานกางเต็นท์ แคมป์ปิ้ง รีสอร์ทตั้งอยู่ กลางธรรมชาติล้อมรอบอากาศเย็นสบายทั้งปี และสามารถชมวิวทะเลหมอก

ยามเช้าได้แบบสวยงาม สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด บรรยากาศเงียบ เป็นส่วนตัว ยังได้พบกับเจ้าของพื้นถิ่นที่มากด้วยอัธยาศัยอีกด้วย “แดงเบญจรงค์ เขาค้อ” ตั้งอยู่ที่บ้านนายาว บ้านทุ่งสมอ อาจจะไม่ใช่รีสอร์ท่ใหญ่โต แต่ถือเป็นอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจ สภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงกลางดึกของปลายเดือนตุลาคม ยิ่งส่งให้ความเพลิดเพลินลืมเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปได้เช่นกัน


บริเวณโดยรอบ

อาหารเช้าอร่อยมาก ชอบๆ



.... ค่ำคืนแรกที่เขาค้อผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังอาหารเช้า.. เราเก็บสัมภาระเพื่อออกเดินทางไปถ่ายรูปกัน ณ ที่เที่ยวแห่งแรก หลังจากที่คุยกันเมื่อค่ำวาน “ไปเก็บภาพที่ทุ่งมากาเร็ต หรือทุ่งดอกไฮเดนเยียมั๊ยพี่ ตอนนี้เริ่มเปิดแล้ว” น้องนักเขียนที่ร่วมทางเสนอ “โอเค ... ไปไหนไปกัน “ เราพยักเพยิดแบบเห็นด้วยโดยไม่มีข้อท้วงติง ออกจากที่พัก ไม่นานกลิ่นอายของแหล่งท่องเที่ยวก็เริ่มโชย ....อะไรน่ะเหรอ รถเริ่มติดนั่นเอง นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ต่างทยอยกันเข้ามา



แดงเบญจรงค์ รีสอร์ท
ที่อยู่: 119 หมู่.2 ตำบล ทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์ 67270
โทรศัพท์: 084 142 3769






ที่ ทุ่งมากาเร็ต จุดนี้เก็บค่าเข้าคันละ 60 บาท จ่ายเงิน ตั้งแต่ก่อนนำรถขึ้นบนเนิน ซึ่งด้านบนจะมีร้านกาแฟที่ตกแต่งเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ซึ่งสามารถนำคูปองค่าเข้านี้ไปลดหย่อนราคาเครื่องดื่มได้ด้วย

ที่ต้องชื่นชมเห็นจะเป็นบรรดาเจ้าหน้าที่ที่จัดการเรื่องการขึ้นลงทุ่งมากาเร็ต ด้วยเพราะนักท่องเที่ยวขับรถขึ้นไปมากพอสมควร ทางด้านล่างจะวิทยุสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ด้านบนกันตลอดเวลาเพื่อความสะดวกของผู้เข้าชม และเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ว่าที่จริง ในช่วงสภาวะการระบาดตอนนี้หลายคนก็เกรงๆ แม้จะใส่หน้ากากอนามัย แต่ส่วนใหญ่ ที่เห็นจะชุลมุนก็ตอนขับรถขึ้นลง และภายในบริเวณเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่เหลือก็กระจายกันไปตามเนินเขา ที่ปลูกดอกไฮเดนเยียกระจายตามเนินกว้างขวาง ไม่แออัดยัดเยียดจนน่ากลัวทุ่งมากาเร็ตนี้ เหมาะมากสำหรับคนที่ชื่นชอบดอกไม้ แม้แดดจะจ้า แต่ลมเย็นของฤดูกลับไม่ได้ทำให้เสียอารมณ์



ทุ่งมากาเร็ตเขาค้อ สวนดอกไฮเดรนเยียเขาค้อ มาแรงสุดในเขาค้อ
ที่ตั้ง ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 67270
ร้านเปิด : 8.00-17.00น.
ติดต่อสอบถาม : 082 395 5502
เส้นทาง Google map  https://goo.gl/maps/v4cdvjM4GrxU2DeW8


29 ตุลาคม 2564

สังสรรค์วันคล้ายวันเกิด เอิร์ธ สายสว่าง


เอิร์ธ สายสว่าง จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด โดยมีศิลปินดารานักแสดงและเซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ ดร. จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา, วิโรจน์ ควันธรรม, เพื่อนจากสถาบันวิทยาการธรรมศาสตร์เพื่อสังคม และเพื่อนผู้เข้าร่วมการอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงธรรมศาสตร์เพื่อสังคม ....

พร้อมทั้ง ดารานักร้องนักแสดงชื่อดัง ชรัส เฟื่องอารมย์, ชมพู ฟรุตตี้, แมน-วทัญญู มุ่งหมาย, บดินทร์ ดุ๊ก,  โจแอน บุญสูงเนิน มาสร้างสีสันให้ความบันเทิงอย่างสนุกสนาน และร่วมแสดงความยินดี ที่สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ (ส.น.อ.)





พร้อมทั้ง ดารานักร้องนักแสดงชื่อดัง ชรัส เฟื่องอารมย์, ชมพู ฟรุตตี้, แมน-วทัญญู มุ่งหมาย, บดินทร์ ดุ๊ก,  โจแอน บุญสูงเนิน มาสร้างสีสันให้ความบันเทิงอย่างสนุกสนาน และร่วมแสดงความยินดี ที่สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ (ส.น.อ.)




28 ตุลาคม 2564

รฟฟท. จัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจลาดตระเวนเส้นทางเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง


รฟฟท. จัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจลาดตระเวนเส้นทางเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ป้องกันการลักลอบตัดสายอาณัติสัญญาณในระบบรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบาย และข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ และเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในระบบรถไฟฟ้า บริษัทจึงจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจลาดตระเวนเส้นทางเดินรถไฟฟ้า ในบริเวณด้านนอกรั้วทางคู่ขนานแนวเส้นทางเดินรถ และบนรางรถไฟฟ้า ทั้งช่วงบางซื่อ-รังสิต
และบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพื่อตรวจสอบ และป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาลักลอบตัดสายอาณัติสัญญาณในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยบริษัทได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย และข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการออกมาตรการกำกับ ควบคุม และดูแล ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักลอบตัดสายอาณัติสัญญาณขึ้น โดยระดมเจ้าหน้า
ที่ออกลาดตระเวน ทั้งช่วงกลางวัน และช่วงกลางคืน

รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตคนชานเมือง Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

27 ตุลาคม 2564

GIT เร่งต่อยอดการพัฒนาศักยภาพนักออกแบบอัญมณีและเครื่องประดับไทยสู่สากลอย่างยั่งยืน

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติหรือ
GIT เปิดเผยว่า GIT เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ผ่านการพัฒนาศักยภาพนักออกแบบเครื่องประดับไทยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ให้ความสำคัญ และยกระดับนักออกแบบไทยผ่านงานประกวดการออกแบบเครื่องประดับ และเชิญชวนผู้ประกอบการและนักออกแบบเข้าชมงานประกวดการออกแบบเครื่องประดับนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้น ณ ลานไลฟ์-สไตล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอนในวันที่ 27 ตุลาคม 2564  เพื่อเป็นเวทีให้นักออกแบบเครื่องประดับไทยได้แสดงความสามารถสู่นานาชาติ พร้อมมองอนาคตหนุนนักออกแบบไทยให้ก้าวไปยืนบนเวทีโลก

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ

การประกวดออกแบบเครื่องประดับครั้งที่ 15 ภายใต้แนวคิด "Intergeneration Jewelry" - jewelry for every generationซึ่งตรงกับแนวคิดในการออกแบบเครื่องประดับเพื่อทุกคน (Design for all) ที่เครื่องประดับนี้ได้หล่อหลอมและรังสรรค์ก้าวข้ามข้อจำกัดคนในแต่ละเจเนอเรชั่น และสวมใส่ได้ทุกช่วงวัย ในการจัดงานครั้งนี้สถาบันได้ดึงผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการออกแบบเครื่องประดับจาก สถาบันที่มีชื่อเสียงจากอิตาลี เกาหลีและอิหร่าน มาร่วมเป็นกรรมการในการตัดสินการประกวดออกแบบเครื่องประดับครั้งที่ 15 นี้และมีแนวทางในการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการออกแบบทั้งในยุโรปและเอเชีย เพื่อต่อยอดนำนักออกแบบไทยเข้าร่วมงานในระดับโลกต่อไป

สำหรับการประกวดในครั้งนี้ นักออกแบบที่ชนะเลิศและเข้ารอบสุดท้ายของการประกวดออกแบบเครื่องประดับครั้งที่ 15 นี้ มีนักออกแบบไทยถึง 3 คน จากผู้ส่งแบบเข้าประกวดจากทั่วโลกกว่า 402ชิ้นงาน จาก 27ประเทศโดยผลงาน 30 ชิ้นที่เข้ารอบจะได้ถูกแสดงแบบวาดในงานประกาศผลชนะเลิศโล่รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระ-ศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารีและผลงานสี่ชุดที่โดดเด่น เป็นของนักออกแบบไทยถึงสามคน โดยได้ผลิตเป็นชิ้นงานจริงพร้อมสวมบนนางแบบและดาราในงานพิธีในครั้งนี้ด้วยโดยรับเกียรติจาก นางนันทวัลย์ ศกุนตนาคประธานกรรมการสถาบันเป็นประธานในพิธี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของไทยในเวทีนานาชาติ


โดยปีนี้สถาบันได้รับสนับสนุนการจัดการประกวดออกแบบเครื่องประดับครั้งนี้ เป็นจำนวนมาก อาทิ บริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด บริษัท บิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด บริษัท มาร์เวลจิวเวลรี่ จำกัดบริษัท คาเล็ทต้าจิวเวล-รี่จำกัดบริษัท เทวิกา จิวเวลรี่ จำกัดบริษัท แพนดอร่า โพรดักชั่นจำกัดL.S. Jewelry Group (ห้างเพชรหลีเสง) บริษัทเทรเชอร์ โปรดัก มาร์เก็ตติ้งจำกัด พรีเมียร่า - เอ็กซ์ควิซิทจิวเวลรี่และ บริษัท พญาจิวเวลรี่ จำกัด

นอกจากนี้ สถาบันก็ยังได้นำผลงานที่ผ่านเข้ารอบมาจัดแสดงในรูปแบบของ Art  GalleryOnline ที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์และมุมมอง และสร้างแรงบันดาลใจผ่านการออกแบบให้นักออกแบบรุ่นใหม่
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชมผลงานที่ผ่านเข้ารอบได้ที่ www.facebook.com/gitwjda

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายฝึกอบรม
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) 




ผู้ที่ได้รับรางวัลต่างๆ มีดังนี้ 

1.รางวัลชนะเลิศ นาย สุรศักดิ์ มณีเสถียรรัตนา  จากประเทศไทย 
ผลงาน ความเชื่อในตรีโกณมิติ (Trigonolism) ได้รับเงินสด 4,000 เหรียญสหรัฐ และ โล่พระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้า  จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

2.รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 / รางวัล Popular Vote
นางสาว พรนภา เด่นจารุกูล และนางสาว ภัสภา โพธิ์อุบล จากประเทศไทย
ผลงาน D-N-A ได้รับเงินสด 3,000 เหรียญสหรัฐ และโล่เกียรติยศ

3. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 นาย จิรวัฒน์ สมเสนาะ จากประเทศไทย
ผลงาน รูปทรง เรขาคณิต (Geometry) ได้รับเงินสด 1,500 เหรียญสหรัฐ และโล่เกียรติยศ

4.รางวัลชมเชยMrs. SoheilaHemmatiจากประเทศอิหร่าน กับผลงาน Pearls for all generations
ได้รับเงินสด 1,000 เหรียญสหรัฐ และโล่เกียรติยศ

 5.รางวัลพิเศษ Popular Voteนางสาว พรนภา เด่นจารุกูล และนางสาว ภัสภา โพธิ์อุบล
จากประเทศไทยกับ ผลงาน D-N-A ได้รับเงินสด 500 เหรียญสหรัฐ และโล่เกียรติยศ



สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือ ETDA และ นิตยสาร B+ จัดงาน “THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION WEEK 2021”

ดันธุรกิจไทย พร้อมทรานสฟอร์มสู่องค์กรดิจิทัล 

กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนิตยสาร Business+ ในเครือ บมจ.เออาร์ไอพี เปิดตัวงาน “THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION WEEK 2021” ภายใต้แนวคิด “Transforming to the Digital Company Now ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัล” อย่างเป็นทางการ ในรูปแบบ Virtual Event เพื่อขับเคลื่อนทั้งภาครัฐธุรกิจ ให้ก้าวผ่าน Digital Disruption สามารถทรานสฟอร์มองค์กรสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบรางวัล“THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION AWARDS 2021”แก่องค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัล





นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “รัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ จึงได้มีการกำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้ดีขึ้น ซึ่งจากการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของ IMD หรือ World Digital Competitiveness Ranking ที่ผ่านมา พบว่า ปี 2563 ไทยอยู่ในอันดับที่ 39 ดีขึ้นจากปี 2562 ที่อยู่ในอันดับที่ 40 สิ่งนี้สะท้อนถึงความสำเร็จที่รัฐบาลได้มุ่งส่งเสริมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมๆ กับสนับสนุนให้กลุ่มผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน สร้างโอกาสใหม่และลดต้นทุนทางธุรกิจ พร้อมๆ กับการยกระดับความรู้เพื่อให้เกิดความตระหนัก และรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs เอง ต่างก็ยังคงเผชิญกับอุปสรรคหลายประการทั้งข้อจำกัดทางความรู้ ความเข้าใจ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงปัญหาเรื่องแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีที่จำเป็นที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง เป็นต้น ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มีแนวทางการดำเนินงานเพื่อช่วย SMEs ในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน สู่การสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ ที่ผสานความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มุ่งกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างโอกาส และเตรียมความพร้อมรับมือกับการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยงาน THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION WEEK 2021 ที่จัดขึ้นครั้งนี้ จึงเป็นอีกโอกาสสำคัญที่ทุกภาคส่วน จะมาร่วมช่วยกันขับเคลื่อน สร้างความตื่นตัวให้แก่ผู้ประกอบการได้เข้าใจถึงบทบาทและความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ผู้ประกอบการมากขึ้น ซึ่งในงานนี้ยังมีพิธีมอบรางวัล THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION AWARDS 2021 ที่จะเชิดชูเกียรติองค์กรที่มีการทรานสฟอร์มเข้าสู่ดิจิทัลได้สำเร็จ เพื่อเป็นต้นแบบองค์กรที่สร้างแรงดาลใจให้กับองค์กรอื่นๆ ในการก้าวสู่องค์กรยุคใหม่ในระยะต่อไปด้วย”

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่มีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ จึงได้ริเริ่มหลายโครงการ เพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไปสู่ยุค 4.0 ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนสมาชิกในการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลไปประยุกต์ในหลายๆ ด้าน จึงได้ร่วมมือกับนิตยสาร BUSINESS+ โดยบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA จัดงานนี้ขึ้น เพื่อขยายผลของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้เพื่อปรับเปลี่ยนองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ SMEs ที่ต้องประสบกับความท้าทายในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจของไทย ร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างแท้จริง”

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า “การยกระดับวิถีชีวิตของคนไทยด้วยดิจิทัล ให้ก้าวผ่านกระแสวิกฤต โดยเฉพาะช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 (COVID-19) คือ อีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ ETDA เร่งขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปลดล็อคข้อจำกัดของการทำงาน การทำธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น การสนับสนุนให้ภาครัฐเกิดการเปลี่ยนผ่านการทำงานไปสู่อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยระบบ e-Saraban หรือระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ ที่ได้เปลี่ยนผ่านงานด้านเอกสารจากกระดาษสู่อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Document เพื่อให้สามารถรับ-ส่งเอกสารทางออนไลน์ และลงนามได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Signature รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดแนวทางสำหรับการประชุมออนไลน์ผ่านระบบ e-Meeting ที่น่าเชื่อถือ มีแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับมาตรฐาน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังร่วมกับพาทเนอร์บริษัทเทคโนโลยี Service provider จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ อย่าง SMEs สตาร์ทอัพ รวมถึงผู้ที่สนใจให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการดำเนินงานในรูปแบบ e-Office แนวทางในการเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อลดข้อจำกัด และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน อีกทั้งในเร็วๆ นี้ ETDA จะมีการจัดกิจกรรม Hackathon ที่เปิดเวทีให้ Service Provider ได้นำโซลูชัน นวัตกรรม ด้าน e-Office มาประลองไอเดีย เพื่อหาสุดยอดโซลูชั่นและนวัตกรรมที่จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ e-Solution ให้กับ SMEs ไทย และ ETDA ยังจะมีการต่อยอด เพื่อผลักดันให้ e-Solution ที่น่าสนใจเข้าสู่สนามทดสอบนวัตกรรม หรือ ETDA Sandbox ได้อีกด้วย ดังนั้น งาน “THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION WEEK 2021” ภายใต้แนวคิด “Transforming to the Digital Company Now ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัล” นี้ จึงเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ ETDA มีความตั้งใจ ให้เป็นโอกาสในการต่อยอดการดำเนินงาน เพื่อช่วยในการยกระดับการดำเนินงานของภาคธุรกิจไทย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐให้มีการดำเนินงานที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้มากขึ้น ซึ่งในงานนี้ ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้เข้าร่วมงาน ไม่เพียงได้รับความรู้จากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในการทรานสฟอร์มองค์กรไปสู่ดิจิทัลทั้งจาก Speaker ของไทยและต่างประเทศที่ได้มาร่วมแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์ผ่านเวทีเสวนาแล้ว ยังจะได้รับข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรทั้งจาก ETDA และหน่วยงานที่มาร่วมแสดงใน Virtual exhibition ตลอดจน Use case นวัตกรรมหรือบริการดิจิทัลจาก Service Provider ที่จะช่วยทำให้เห็นแนวคิดในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคตเพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคตด้วย”

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กระแส Digital Disruption ที่มีมาอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อกระแสดิจิทัลมากระทบกับธุรกิจ องค์กรก็ต้องปรับตัวโดยอาศัย Digital Transformation เพื่อก้าวข้ามกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้ ทางนิตยสาร BUSINESS+ มีโอกาสพบปะกับผู้บริหารองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งทุกท่านมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่องค์กรดิจิทัลให้เร็วที่สุด แต่องค์ความรู้ด้าน Digital Transformation ที่ไม่สมบูรณ์มากพอที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปตามที่มุ่งหวังได้ จึงได้มีแนวคิดจัดงาน THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION WEEK 2021 ขึ้น เพื่อหวังเป็นงานที่สามารถให้ความรู้ความเข้าใจด้าน Digital Transformation พร้อมกับจัดมอบรางวัล THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION AWARDS 2021 ให้แก่องค์กรที่ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่องค์กรสู่ดิจิทัลได้อย่างดีเลิศ เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่องค์กรอื่น ๆ ต่อไป”

งาน “THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION WEEK 2021” ครั้งนี้ภายใต้แนวคิด “Transforming to the Digital Company Now ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัล” ระหว่างวันที่ 11 – 28 ตุลาคม 2564 ทาง www.ThailandDT.com ซึ่งจัดงานในรูปแบบ Virtual Event   ประกอบไปด้วย 

-  กิจกรรม Virtual Conference งานสัมมนาออนไลน์จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ในด้านการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ แชร์มุมมองและประสบการณ์ร่วมกัน

-  กิจกรรม Virtual Exhibition การจัดแสดงนิทรรศการออนไลน์เสมือนจริงที่ไม่เพียงให้ความรู้ แต่ยังให้คำปรึกษา พร้อมกับ Use case ตัวอย่างในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในองค์กร จากหลากหลายหน่วยงานที่สนับสนุน อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ETDA, บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ฯลฯ รวมถึงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีชั้นนำ อาทิ HPE, Dell EMC, Tableau Software, DataOne Asia, Nutanix รวมถึงบริษัทผู้ให้บริการ (Service Provider) ที่สนับสนุนโซลูชั่นด้าน e-Office เป็นต้น 

-  พิธีมอบรางวัล “THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION Awards 2021” แก่หน่วยงานภาครัฐ
และเอกชนที่มีความเป็นเลิศในด้านการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล โดยหน่วยงานหรือองค์กรที่ชนะการพิจารณาจะได้รับถ้วยรางวัลจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  


ติดตามรายละเอียดงาน THAILAND DIGITAL TRANSFORMATION WEEK 2021
เพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Business+ (https://www.facebook.com/businessplusonline)
หรือ ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand)

21 ตุลาคม 2564

“Central Anniversary 2021” ฉลอง 74 ปี ห้างเซ็นทรัล เนรมิตงานดอกไม้หลากสีสัน มอบความสดใสให้ทุกหัวใจคนไทยเบิกบานอีกครั้ง

ห้างเซ็นทรัลร่วมกับ เซ็นทรัลเดอะวันเครดิตการ์ด และมาสเตอร์การ์ด จัดงาน “Central Anniversary 2021 (เซ็นทรัล แอนนิเวอร์ซารี 2021)”มอบความสดใส เคียงข้างกันตลอด 74 ปี มาพร้อมความตั้งใจที่อยากส่งต่อความสุขและรอยยิ้ม 

ผ่านดอกไม้ออริกามิหลากสีสันกว่า 2 แสนดอกที่กำลังผลิบาน เฉกเช่นหัวใจคนไทยที่เบิกบานอีกครั้งพร้อมพบกับไฮไลต์ผลงานศิลปะสุดสร้างสรรค์บนใบไม้ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่โถงชั้น 1และกิจกรรมสร้างสีสันแห่งความสุขทั่วทั้งห้างตลอดวันที่ 21-25 ตุลาคม 2564 ที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม และ 15-31 ตุลาคม 2564 ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซีพบกับงานศิลปะแห่งดอกไม้ในคอนเซ็ปต์ “The Flow at Sun Dawn”ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความยิ่งใหญ่ของสายน้ำเจ้าพระยา

โอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทลเผยว่า “ห้างเซ็นทรัล อยู่เคียงข้าง และอยู่ในทุกโมเมนต์สำคัญของคนไทยมากว่า 7 ทศวรรษ ในปีนี้ห้างเซ็นทรัลได้มีการนำเสนอเรื่องราวดีๆที่จะมาสร้างรอยยิ้ม ผ่านภาพยนตร์โฆษณา “Bloom” ถ่ายทอด 3 เรื่องราวของคนดังจิตอาสา นำโดย คู่รักนักสู้ บอย - อนุวัฒน์ และ เจี๊ยบ - พิจิตตรา สงวนศักดิ์ภักดี,ลิลลี่ - ระริน สถิตธนาสาร นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมและกลุ่มหมอและพยาบาล ผู้ก่อตั้ง “โรงเรียนโควิดวิทยา” ที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจสร้างความสุข ความสดใสให้กลับมาในสังคมไทยอีกครั้ง
สามารถรับชมได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=dYYYfQpuXaw
และทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของห้างเซ็นทรัล”

ความสำเร็จของเซ็นทรัลคงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนอันดีจากทุกคน ในโอกาสครบรอบ 74 ปี เราจึงตั้งใจสร้างสรรค์ดิสเพลย์“มวลดอกไม้ออริกามิ (Origami)” ตกแต่งทั่วห้างเซ็นทรัลชิดลม อันเกิดจากช่วงเวลาพิเศษที่ห้างฯ

จัดกิจกรรมให้ลูกค้าและพนักงานร่วมประดิษฐ์ดอกไม้เหล่านี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทำให้เราได้ดอกไม้ออริกามิที่เบ่งบานกว่า2แสนดอกสื่อถึงช่วงเวลาดอกไม้ผลิบานอันเป็นห้วงเวลาแห่งความสุข ที่จะก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากไปด้วยกัน ‘เพราะห้างเซ็นทรัล อยากเห็นหัวใจคนไทยเบิกบานอีกครั้ง’ประกอบไปด้วย 6 พันธุ์ดอกไม้ ที่เปี่ยมด้วยความหมายดีๆ อย่าง ดอกแอนนีโมนี (Anemone)มีความหมายว่า รักแท้และความคิดถึง, ดอกมงกุฎจักรพรรดิ (Crown Imperial)หมายถึง ความประทับใจ ความสง่างาม และตราตรึงใจ, ดอกแดนดิไลออน(Dandelion)สื่อถึง ความสุข ความร่าเริง และความหวัง, ดอกบิลลี่บัตตัน (Billy Button)แทน ความสุขนิรันดร์, ดอกพีโอนี (Peony) หมายถึง เกียรติยศ ความมั่งคั่ง ความโชคดี และชีวิตรักโรแมนติก ปิดท้ายที่ ดอกไอริส(Iris)แทน รักบริสุทธิ์ และความผูกพันนอกจากนี้ยังนำดอกไม้ออริกามิไปตกแต่งห้างเซ็นทรัลสาขาลาดพร้าวบางนาปิ่นเกล้าและเซ็นทรัลแอทเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยเช่นกัน





สำหรับกิจกรรมมอบความสุขยังจัดเต็มให้ได้เบ่งบานใจทั่วห้างฯภายใต้การรักษาความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19โดยห้างเซ็นทรัลชิดลมจะจัดงานระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม2564 อิ่มเอมใจกับดอกไม้หลากหลายสีสันที่ช่วยสร้างบรรยากาศการช้อปปิ้งให้เพลิดเพลิน

เริ่มต้นที่ชั้น1 พบกับCentral The1 Credit Card Exclusive Lounge ซึ่งได้ร่วมกับ “คอระฆังคาเฟ่” คาเฟ่แสนสวยพร้อมนำเมนูขนมอาลัวร์สร้างสรรค์เป็นรูปดอกไม้ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษพร้อมเครื่องดื่มชื่นใจสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตCentral The1 โดยเฉพาะนอกจากนี้ ลูกค้าสามารถไปรับดอกไม้จากแบรนด์ชั้นนำในแผนก Beauty Galerie หรือเสื้อผ้าและเครื่องประดับจากแผนก Luxe Galerie ที่ร่วมรายการ เพื่อนำมาจัดช่อดอกไม้สวยๆ จากเป็นเลิศเดอเฟลอร์มาต่อกัน

ที่ชั้น2 แผนกแฟชั่นและเครื่องประดับสตรี พบกิจกรรมเวิร์คช้อปการเพ้นต์รูปดอกไม้ลงบนถุงผ้าไม่ซ้ำแบบใคร

มาถึงชั้น3 แผนกวัยรุ่นและยูนิเซ็กส์ห้ามพลาดไว้ที่ป๊อบอัพบาร์ให้ทุกคนเพลิดเพลินกับกิจกรรมความสุขผ่านเสียงเพลงพร้อมอิ่มอร่อยกับโดนัท“Chubby Dough ”ร้านโดนัทดังของวัยรุ่น

ขณะที่ชั้น4 แผนกผู้ชายมาเพิ่มดีกรีความสนุกด้วยหลากกิจกรรมทั้งการโชว์เต้นฮิปฮอปโรลเลอร์แดนซ์แฟลซม็อบและยังมี กาแฟจาก Bonci ร้านกาแฟสุดฮิป ที่รอให้มาลองลิ้มชิมรสกันอีกด้วย

ต่อกันที่ชั้น5 แผนกตกแต่งบ้านได้เตรียมกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับคนรักบ้านทั้งการสาธิตทำอาหารจากแบรนด์Tefalนำโดยเชฟบอยปิยะชาติพุทธวงษ์มิชลินเชฟและผู้เข้าแข่งขัน The Next Iron Chef สาธิตการปรุงกาแฟแบบต่างๆจากHarioและBialetti นอกจากนี้ยังมีWine Festivalพบกับการจัดโต๊ะไวน์อย่างไรให้ได้อรรถรสKorean Cooking ThemeโดยLock n’ Lock ในบรรยากาศปิกนิกริมแม่น้ำฮันได้อารมณ์เดียวกับซีรีส์ดังพร้อมป็อปอัพร้านเค้กสุดอร่อยจาก CakeLicious ในส่วนของ

ชั้น6แผนกเด็กที่ขอมอบความเพลิดเพลินให้กับเจ้าตัวเล็กกับการตกแต่งด้วยลูกโป่งหลากสีสันดีไซน์เป็นดอกไม้หลายแบบและยังมีลูกโป่งประดิษฐ์บิดเป็นช่อดอกไม้มอบให้น้องๆด้วย

ปิดท้ายที่ชั้น7พบ“Muji New Concept Store”ที่นอกจากจะได้รู้จักความเป็นมูจิที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นพร้อมสินค้าที่ออกแบบสไตล์น้อยแต่มากยังได้รับสิทธิพิเศษเฉพาะงานCentral Anniversary 2021กับการรับบริการปักผ้าลายดอกไม้ฟรี! เพียงช้อปครบ 3,000บาท


เดินลัดเลาะมาฝั่ง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี พร้อมจัดกิจกรรมระหว่าง วันที่ 15 – 31 ตุลาคม 2564 ที่ ชั้น G พร้อมเซอร์ไพรส์ความสุขครบครัน ในคอนเซ็ปต์ “The Flow at Sun Dawn”ที่สร้างสรรค์เป็น Flower Installation โดยได้แรงบันดาลใจจากความยิ่งใหญ่ของสายน้ำเจ้าพระยา และความสวยงามในรุ่งอรุณยามเช้า ที่มาบรรจบกันจนทำให้เกิดความร่มเย็นและสวยงาม กลายเป็นฉากสีฟ้าของสายน้ำและสีแดงของพระอาทิตย์ขนาด 4 เมตร โดยมีลูกบอลเมทาลิกขนาดใหญ่ สื่อถึงดวงอาทิตย์ รวมถึงเกาะดอกไม้บานสะพรั่ง แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทย เรียกว่าจัดใหญ่อลังการเอาไว้คอยทุกคนมาเก็บภาพประทับใจ รวมทั้งยังเอาใจสายคาเฟ่ กับ “Char Flower Tea” ที่จะมาเปิดคาเฟ่ดอกไม้ให้มาพักผ่อน พร้อมลิ้มรสเครื่องดื่มและขนมแสนอร่อย รวมทั้ง “The1 Flower Shop” ร้านดอกไม้ที่จะมามอบดอกไม้ให้ผู้ที่แสดงบัตรเครดิต Central The1 และยังได้สเปรย์แอลกอฮอล์จาก “Char Flower Tea” (จำนวน 300 สิทธิ์) ฟรี! พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารสุดพิเศษ 7 เซ็ตในราคาสุดว้าว! เพียงเซ็ตละ 74 บาท ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม2564 – 25 ตุลาคม2564 ที่ อีทไทย ชั้น LG ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 พร้อมพบกับโปรโมชั่นคุ้มที่สุดแห่งปี อาทิ ช้อปสินค้าราคาปกติ ลดสูงสุด 30%ใช้คะแนนลดเพิ่มและรับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการสูงสุด30% และรับฟรีคูปองแทนเงินสดหรือE-Coupon และเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตCentral The 1 รวมสูงสุด19% เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข,แลกรับผ้าพันคอผ้าไหมพิมพ์ลายดอกไม้ดีไซน์พิเศษเมื่อช้อปครบ20,000บาทขึ้นไปต่อวัน,สำหรับลูกค้าMastercard รับฟรีSamsung Galaxy Z Flip 3ความจุ 256GB  เมื่อมียอดช้อปสะสมตลอดรายการครบ 350,000บาท (จำนวนจำกัด)และสิทธิพิเศษอีกมากมาย ที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา หรือช้อปผ่านช่องทาง Central Chat & Shop, Central Personal Shopper On Demand โทร.1425 และ Facebook Live ผ่านเฟซบุ๊กเพจ Central Department Store สำหรับ Central App รับส่วนลดสูงสุด 70% พร้อมโค้ดลดเพิ่มสูงสุด 1,200 บาทพบสินค้าFlash Deal ราคาพิเศษเปลี่ยนใหม่ทุกวันดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/CentralDepartmentStore

ในช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ ห้างเซ็นทรัล ร่วมกับ เปี่ยมรัก หัตถกิจโกศล หรือที่รู้จักในชื่อ “Ping Hatta” ศิลปินและนักวาดประกอบ ที่ได้ออกแบบบัตรของขวัญเซ็นทรัลดีไซน์ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีความหมายถึง “ความหวังและการให้พลังใจ ที่จะให้ก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยกัน” นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นบัตรของขวัญเซ็นทรัล เมื่อช้อปบัตรของขวัญเซ็นทรัลครบตามเงื่อนไข รับคูปองแทนเงินสด และเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน รวมสูงสุด 8% ตั้งแต่ 12 ตุลาคม 2564 – 31 มกราคม 2565

ในช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ ห้างเซ็นทรัล ร่วมกับ เปี่ยมรัก หัตถกิจโกศล หรือที่รู้จักในชื่อ “Ping Hatta” ศิลปินและนักวาดประกอบ ที่ได้ออกแบบบัตรของขวัญเซ็นทรัลดีไซน์ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีความหมายถึง “ความหวังและการให้พลังใจ ที่จะให้ก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยกัน” นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นบัตรของขวัญเซ็นทรัล เมื่อช้อปบัตรของขวัญเซ็นทรัลครบตามเงื่อนไข รับคูปองแทนเงินสด และเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน รวมสูงสุด 8% ตั้งแต่ 12 ตุลาคม 2564 – 31 มกราคม 2565