สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี เดินหน้าจัดงาน “มหกรรมบ้านดี นนทบุรี” ตั้งเป้ายอดขาย 300 ล้านบาท มั่นใจจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้นนทบุรีเป็นที่อยู่อาศัยชั้นดี ใกล้กรุงเทพฯ
นายปรีชา กุลไพศาลธรรม นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 กระทบกับธุรกิจอสังหาฯใน จ.นนทบุรี โดยประเมินว่ายอดรับรู้รายได้ทั้งปีจะลดลงราว 20% เมื่อดูข้อมูลจาก TerraByte พบว่า ตลาด คอนโดฯใน จ.นนทบุรี ม Supply ลดลงเฉลี่ย 20% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2558 ที่มี Supply เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยผู้พัฒนาฯส่วนใหญ่ ปักหมุดคอนโดฯ โครงการใหม่ที่อำเภอเมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนตลาดแนวราบ ตั้งแต่ปี 2559 ได้มี Supply ใหม่ เขาสู่ตลาดต่อเนื่อง เพราะเป็นปีที่รถไฟฟ้าสายสีม่วง และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ เปิดให้บริการ โดยกว่า 60% เป็นตลาดทาวน์โฮม โซน บางบัวทอง-บางใหญ่ ส่งผลต่อราคาเปิดตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 3% ต่อปี
โดยคอนโดฯใน จ.นนทบุรี มากกวา 80% อยู่ในระดับราคาเฉลี่ย 40,000 – 60,000 บาทต่อ ตารางเมตร และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ราคามีการปรับตัวสูงขึ้น ราว 9% ต่อปี ขณะที่แนวราบส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์โฮม ราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดมี ระดับราคา 3-5 ล้านบาทมากที่สุด ซึ่งบ้านเดี่ยวยังมีการปรับลดลงเฉลี่ย 8% ต่อปี ส่วนบ้านแฝดราคาเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี ปัจจุบันใน จ. นนทบุรีมี Supply เหลือขายรวมราว 15,795 ยูนิต เป็นคอนโดฯ 7,080 ยูนิต และแนวราบ 8,715 ยูนิต แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 5,778 ยูนิต, บ้านเดี่ยว 1,978 ยูนิต และบ้านแฝด 959 ยูนิต
ด้วยสถานการณ์ที่ยังไม่แน่นอน สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี จึงได้ร่วมกับ บริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด จัดงาน มหกรรม “บ้านดี นนทบุรี” ขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเปิดพื้นที่ให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯในจ.นนทบุรี มีช่องทางการขายสินค้าได้มากขึ้น กระตุ้น ยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดที่ต้องการส่งเสริมให้ จ.นนทบุรี เป็นที่อยู่อาศัยชั้นดี ดึงดูด ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเข้ามาอยู่อาศัย โดยสมาคมฯ ได้ทำแผนขับเคลื่อนอสังหาฯ จ.นนทบุรี ร่วมกับภาครัฐฯ และ เอกชน อาทิ การผลักดันให้ จ.นนทบุรี เป็น Smart city, ผลักดันการขอแก้ไขผังเมืองนนทบุรี(ฉบับใหม่) บางข้อ ที่มีผลกับการพัฒนาเมือง ได้จำกัด
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ อุปนายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี และประธานการจัดงานมหกรรม “บ้านดี นนทบุรี” กล่าวว่า งาน “มหกรรมบ้านดี นนทบุรี” เป็นหนึ่งในแผนการขับเคลื่อนของสมาคมฯ ที่ตั้งใจจะจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง เพื่อ สนับสนุนช่องทางการขายให้กับสมาชิก และช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี ให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการอยู่อาศัยใกล้กรุงเทพฯ ด้วยที่ อยู่อาศัยในทุกระดับราคาตั้งแต่ 2-100 ล้านบาท และยังครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
สำหรับงาน “มหกรรมบ้านดี นนทบุรี” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2563 ณ ลานโปรโมชั่น C ชั้น 1 เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต ในแนวคิด “นนทบุรี แหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดีของกรุงเทพฯ และปริมณฑล” โดยรวมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และ คอนโดมิเนียม กว่า 100 โครงการ จาก 30 บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯชั้นนำ ในทำเลกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และทำเลจ.นนทบุรี ราคาเริ่มต้น 2-20 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะในงาน อาทิ ราคา-โปรโมชั่นดีที่สุดแห่งปี, การรับประกันความพอใจ คืนเงินจองภายใน 14 วัน, บริการสินเชื่อ-เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านครบวงจร
ภายในงานยังมีโซนของสถาบันการเงินชั้นนำ อาทิ ธ.อาคารสงเคราะห์, ธ.ยูโอบี, ธ.เกียรตินาคินภัทร พร้อมให้สิทธิอัตรา ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ และโซน Life style ที่ให้บริการ ครบจบในที่เดียว ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของตกแต่งบ้าน และมีโซนบริการ เพื่อคนซื้อบ้าน เช่น นิทรรศการโครงข่ายคมนาคม และข้อมูลอสังหาฯสำคัญที่ผู้บริโภคสามารถมาอัพเดทประกอบการตัดสินใจซื้อ
ทั้งนี้ คาดว่าตลอดการจัดงาน “มหกรรมบ้านดี นนทบุรี” ทั้ง 7 วัน จะสามารถสร้างยอดขายภายในงานและจองต่อเนื่องหลังงาน ได้ 200 – 300 ล้านบาท
นายบริสุทธิ์ กาสินพิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯ หลังโควิด 19 นับตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงสิงหาคม อสังหาฯแนวราบทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น สวนหนึ่งเกิด จากผลทางจิตวิทยาจากความต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เพิ่มขึ้นของผู้อยู่อาศัย ส่วนคอนโดฯ ยังเผชิญภาวะ Over Supply ใน หลายพื้นที่ ผู้พัฒนาลดการเปิดตัวโครงการใหม่กว่า 50%
ทั้งนี้ ยังคงมองว่า ภาพรวมการเติบโตยังขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยกลุ่มบ้านระดับกลาง-กลางบน ยังคงเติบโตได้ดี เพราะเป็นลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อ มีเงินเก็บ และได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโควิดน้อย ส่วนบ้านระดับกลางล่าง-ล่าง มองว่า ยังคงชะลอตัว จากผลกระทบของปัญหาการจ้างงาน และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง
สำหรับ จ.นนทบุรี เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจ ด้วยทำเลที่อยู่ใกล้กับกทม.-ปริมณฑล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบใน 5 โซนสำคัญ อาทิ วงศ์สว่าง-ติวานนท์, ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด, ราชพฤกษ์-นครอินทร์, กาญจนาฯ-บางใหญ่, กาญจนาฯ-บางบัว ทอง และมีหลายระดับราคาที่พร้อมรองรับลูกค้าทุกกลุ่ม
อีกทั้งเป็นโซนที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูง มีแหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าครบครัน
และยังเดินทางเข้าเมืองได้ อย่างสะดวกสบาย ด้วยทางรถยนต์, รถไฟฟ้าสายสีม่วง, ทางด่วน, และทางเรือ เหล่านี้ล้วนเป็นจุดเด่นสำคัญ ที่เอื้อให้จังหวัดนนทบุรี เป็นย่านที่อยู่อาศัยชั้นดี