18 สิงหาคม 2562

แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวแพล็ตฟอร์มการท่องเที่ยวแบบใหม่ All-Inclusive

ผนวกความยิ่งใหญ่ ครอบคลุมทุกแบรนด์
ในเครือเพื่อยกระดับการบริการที่ทั่วโลกไว้วางใจ



ตั้งเป้าเติบโตในตลาดการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย all-inclusive โดยใช้ โปรแกรม “แมริออท บอนวอย” และ แบรนด์ขึ้นหิ้งอย่าง เดอะ ริตซ์-คาร์ลตัน และเวสทิน โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท  แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เตรียมเข้าบริหารรีสอร์ทแบบ all inclusive  5 แห่ง ที่มีห้องพักรวมกันกว่า 2,000 ห้อง
เป็นเม็ดเงินลงทุนกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (NASDAQ: MAR) ประกาศเปิดตัวแพล็ตฟอร์การท่องเที่ยวแบบ
เหมาจ่าย (all-inclusive) เพื่อตอบรับกระแสความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคทั่วโลกที่กำลังมองหาการท่องเที่ยวและที่พักระดับพรีเมี่ยมในรูปแบบการจ่ายครั้งเดียวจบ (all-inclusive) เพื่อความสบายใจ ไร้กังวล ซึ่งตลาดการท่องเที่ยวในแนวนี้ นับวันยิ่งได้รับความนิยมและเติบโตมากขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ประกาศการลงนามในสัญญาบริหารร่วมกับนักพัฒนาโรงแรมที่มีแผนจะสร้างรีสอร์ทใหม่ถึง 5 แห่งเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในแบบ all-inclusive ด้วยเงินลงทุนกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) เป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ โปรแกรมลอยัลตี้ และความยิ่งใหญ่ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล โดยรีสอร์ทเหล่านี้จะทยอยเปิดให้บริการในระหว่าง พ.ศ. 2565 ถึง พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป


“ที่พักแบบ all-inclusive ใหม่ของเราเป็นอีกหนึ่งก้าวเพื่อการตอบโจทย์ที่ลงตัวของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล” นายโทนี่ คาปูอาโน่ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาระดับสากลของ
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “มันจะช่วยให้กลุ่มผู้ลงทุนสามารถสร้างมูลค่าให้กับรีสอร์ทหรูระดับพรีเมี่ยมของพวกเขาได้ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน  ในขณะเดียวกัน แขกก็จะมีทางเลือกใหม่ๆ ในการท่องเที่ยวและพักแรมกับแบรนด์ที่พวกเขาวางใจ”

ทั้งนี้ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ยังมีแผนที่จะขยายแนวคิด all-inclusive นี้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ทั้งกับสถานที่ที่จะสร้างขึ้นใหม่และปรับใช้กับรีสอร์ทเดิมที่มีอยู่แล้ว รวมถึงที่พักต่างๆ ที่อยู่ภายใต้พอร์ตโฟลิโอของ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในปัจจุบันด้วย แพล็ตฟอร์มใหม่นี้จะช่วยให้สมาชิกแมริออท บอนวอย (Marriott Bonvoy) จำนวน 133 ล้านคนมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการสะสมและใช้แต้มที่มีภายใต้แนวคิดแบบจ่ายครั้งเดียวจบที่สุดแสนสะดวกนี้ทันที



กว่า 2,000 ห้องพักเตรียมเปิดให้บริการ ไม่นานเกินรอ
สัญญาบริหารฉบับล่าสุดที่ทางแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลได้ลงนามนี้ระบุไว้ว่าจะมีการส่งมอบที่พักในแบบ all-inclusive ห้าแห่งในแถบลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งเมื่อนับรวมทั้งหมดแล้วจะมีขนาดจำนวนห้องพักกว่า 2,000 ห้อง

รีสอร์ทที่อยู่ภายใต้แผนงานนี้ได้แก่ ปุนตากานา สาธารณรัฐโดมินิกัน
รีสอร์ท ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น (Autograph Collection) ขนาด 650 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2565)
ไนอา ริเวียร่านายาริต ประเทศเม็กซิโก
รีสอร์ท เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน (The Ritz-Carlton) ขนาด 240 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2566)
รีสอร์ท เวสทิน โฮเท็ลส์ (Westin Hotels) ขนาด 400 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2566)
รีสอร์ท ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น (Autograph Collection) ขนาด 300 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2568)
รีสอร์ท แมริออท โฮเท็ลส์ (Marriott Hotels) ขนาด 500 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2568)


บริษัท อาร์ธา แคปิตัล (Artha Capital) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริษัทเงินทุนเอกชนชั้นนำในกรุงเม็กซิโก
มีแผนที่จะสร้างไนอา (NIA) ให้เป็นหนึ่งในเรือธงแห่งสุดยอดจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวในแบบ all-inclusive ซึ่งจะมีที่พักภายใต้แบรนด์หรูสุดพรีเมี่ยมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลอยู่รวมกันถึงสี่แห่งในบริเวณริเวียร่านายาริตของเม็กซิโก โครงการนี้จะตั้งตระง่านอยู่บนพื้นที่ 220 เอเคอร์ (หรือกว่า 556 ไร่) ในดินแดนทรอปิคอลเลียบแนวชายฝั่งแปซิฟิก

 “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อสร้างสรรค์สุดยอดจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นหนึ่งเดียวไม่ซ้ำใครในเขตริเวียร่านายาริตของเม็กซิโก ที่จะสามารถมอบประสบการณ์
อันแตกต่างจากสี่แบรนด์ดังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” นายเจอราร์โด เฟอร์นานเดซ กรรมการผู้จัดการฝ่ายแพล็ตฟอร์ม  สถานบริการแห่งอาร์ธา แคปิตัล กล่าว “การรวบรวมแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมที่มีความหรูหรามาผสานเข้ากับความงดงามของพื้นที่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรนี้ เปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า ‘all-inclusive vacationing’ ได้อย่างแท้จริง เราเชื่อมั่นในแบรนด์แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และโปรแกรมลอยัลตี้ในเครือ และเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”



“เราตื่นเต้นมากที่จะได้พัฒนารีสอร์ทแบบ all-inclusive ภายใต้ชื่อ ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น ในสาธารณรัฐโดมินิกันร่วมกับทางแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล” นายมิฮาร์อิล โปปอฟ ประธานบริหาร
ของ DIT Hotels ประจำกรุงโซเฟีย สาธารณรัฐบัลแกเรีย กล่าว “การได้ร่วมงานกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล หมายความว่า เราจะได้เข้าถึงความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ การออกแบบและการสร้างแบรนด์
ไปพร้อมๆ กับการพัฒนารีสอร์ทในปุนตากานา และทันทีที่เราเปิดให้บริการ เราก็จะได้รับประโยชน์จากความเป็นเลิศในการบริหารงานของบริษัทฯ และมีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกแมริออท บอนวอยทันที
ซึ่งคนกลุ่มนี้มักมองหารูปแบบของประสบการณ์ที่แปลกใหม่อยู่เสมอ”



แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลยกระดับแบรนด์จับส่วนตลาดการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย
เมื่อความต้องการในส่วนตลาดการท่องเที่ยวและที่พักแบบเหมาจ่ายระดับพรีเมี่ยมเติบโตสูงขึ้น
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จึงมีแผนสร้างแพล็ตฟอร์มนี้ขึ้นมา โดยต่อยอดจากชื่อเสียงอันโด่งดังของแบรนด์ที่พักหรูระดับฟูลเซอร์วิสในเครือ ไม่ว่าจะเป็น เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน (The Ritz-Carlton), ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น (Luxury Collection), แมริออท โฮเท็ลส์ (Marriott Hotels), เวสทิน โฮเท็ลส์ (Westin Hotels), ดับเบิ้ลยู โฮเท็ลส์ (W Hotels) , ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น (Autograph Collection) และเดลต้า บาย แมริออท (Delta by Marriott) แขกที่มาพักจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์การพักผ่อนในรูปแบบจ่ายครั้งเดียวจบ พร้อมไปกับการได้อิ่มเอมกับความงามของการออกแบบตกแต่ง ความอร่อยของอาหารรสเลิศ และความสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกัน ให้เลือกได้ตามต้องการ เช่น รีสอร์ทแบบเหมาจ่ายภายใต้แบรนด์แมริออท โฮเท็ลส์ จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว ในขณะที่ ถ้าเป็นรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ดับเบิ้ลยู โฮเท็ลส์ จะเหมาะ
กับผู้ใหญ่ทั่วๆ ไปมากกว่า

“ความหลากหลายและความเป็นสากลของแบรนด์ของเราช่วยให้แขกมีโอกาสเลือกรับประสบการณ์ได้อย่างที่ต้องการจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบใด หรือที่ใด” ทีน่า เอ็ดมุนด์สัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ระดับสากล ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “การเพิ่มทางเลือกใหม่นี้เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของเรา ช่วยให้เราสามารถมอบโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว ให้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าทึ่งในแบรนด์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในแบบเวสทิน หรือในแบบดับเบิ้ลยู คุณก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย”

รีสอร์ทต่างๆ บนแพล็ตฟอร์มเหมาจ่ายของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย อาหารมากมายให้เลือกลิ้มลอง และตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกวัยในรูปแบบจำเพาะของแต่ละแบรนด์ สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป โปรแกรมเหมาจ่ายอาจจะรวมถึงฟิตเนสและสปา สิทธิ์ในการเข้ารับประทานอาหารในภัตตาคารหรูโดยไม่ต้องมีการจองล่วงหน้า สระว่ายน้ำและบาร์สำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ รูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ไนต์คลับในที่พัก และโปรแกรมเครื่องดื่มพรีเมี่ยมแบบไม่จำกัด สำหรับรีสอร์ทที่เน้นครอบครัว โปรแกรมเหมาจ่ายอาจจะรวมกีฬาทางน้ำหรือกิจกรรมกีฬาอื่นๆ คลับนวัตกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน และสถานที่เพื่อความบันเทิงและสันทนาการอื่นๆ อีกมากมาย

แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดรับประสบการณ์อันทรงคุณค่าของส่วนตลาดการท่องเที่ยวในแบบ
เหมาจ่ายหลังจากการเข้าซื้อธุรกิจของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทสตาร์วูดในปี 2559 และเข้าบริหารงานที่พักที่มีแนวคิดแบบ all-inclusive เป็นครั้งแรกซึ่งก็คือที่ เวสทิน กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา ด้วย
ขนาด 406 ห้องพัก ในปลายาคอนชัล ประเทศคอสตาริกา

แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (NASDAQ: MAR) ตั้งอยู่ที่เบเธสดา รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา บริษัทฯ มีโรงแรมในเครือกว่า 7,000 แห่งภายใต้แบรนด์ชั้นนำ 30 แบรนด์ ครอบคลุมถึง 132 ประเทศ แมริออทบริหารและจัดการแฟรนไชส์โรงแรม ตลอดจนการจดทะเบียนรีสอร์ทเพื่อการพักผ่อนทั่วโลก ปัจจุบัน แมริออทสามารถมอบโปรแกรมสิทธิประโยชน์แห่งการท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งเดียว นั่นคือ แมริออท บอนวอย (Marriott Bonvoy™) ซึ่งจะมาแทนที่โปรแกรมแมริออท รีวอร์ดส (Marriott Rewards®) เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน รีวอร์ดส (The Ritz-Carlton Rewards®) และสตาร์วูด พรีเฟอร์ เกสต์ (Starwood Preferred Guest® หรือSPG) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.marriott.com และสามารถดูข่าวสารล่าสุดของบริษัทฯ ได้ที่ www.marriottnewscenter.com นอกจากนี้ ยังสื่อสารกับเราได้ทาง Facebook และ @MarriottIntl ทาง Twitter และInstagram