11 ธันวาคม 2561

ดีป้าเผยตัวเลขตลาดดิจิทัลคอนเทนต์ในไทยปี 60 ทะยาน 25,000 ล้านบาท

อุตสาหกรรมเกมนำโด่งเกือบ 20,000 ล้านบาท 
คาดขยายตัวต่อเนื่อง




วันที่ 11 ธันวาคม 2561, เซ็นทาราแกรนด์แอทแซ็นทรัลเวิล์ด กรุงเทพ ฯ  สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) หรือดีป้า  หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลพื่อเศรฐกิจและสังคม ร่วมมือกับสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) และสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (Bangkok ACM SIGGRAPH) เผยผลสำรวจมูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ของปี 2560 ในประเทศไทย โดยครอบคลุมสามสาขาหลักได้แก่ อุตสาหกรรมแอนิเมชัน อุตสาหกรรมเกม และอุตสาหกรรมคาแรคเตอร์ โดยผลสำรวจระบุทั้งสามอุตสาหกรรมมีมูลค่ารวมกันประมาณ 25,040 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมแอนิเมชันจำนวน 3,799 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ขณะที่อุตสาหกรรมเกมมีมูลค่ารวมที่ 19,281 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าสูงสุดถึง 18 เปอร์เซ็นต์ และอุตสาหกรรมคาแรคเตอร์มีมูลค่ารวม 1,960 ล้านบาทมีอัตราการเติบเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2559



ดร. ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการดีป้า กล่าวว่า การสำรวจมูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ของปี 2560
ได้มีการปรับปรุงกรอบประชากร และเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการเนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมบางรายมีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการทางธุรกิจ อีกทั้งได้มีการให้ศึกษาการวิเคราะห์ระบบนิเวศและห่วงโซ่ค่าของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์เพิ่มเติมรวมถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ระดับโลก และยังได้ให้ริเริ่มการศึกษาและสำรวจพฤตกรรมผู้เล่นเบื้องต้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล ปัจจัยทางตลาด กระแสนิยมต่าง ๆ ซึ่งโครงการสำรวจนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) และสมาคมธุรกิจบางกอก
เอซีเอ็มซิกกราฟ (BKK SIGGRAPH)

ดร. ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการดีป้า 
ทั้งนี้ เนื่องจากดิจิทัลคอนเทนต์เป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทในอุตสาหกรรมหลากหลายแขนง ทั้ง อุตสาหกรรมบันเทิง อุตสาหกรรมภาพยนตร์ โทรทัศน์ การศึกษา สื่อสิ่งพิมพ์ และอื่น ๆ ประกอบกับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยด้านกระแสนิยม ความสนใจ
และพฤติกรรมของผู้บริโภค และการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ผลการสำรวจมูลค่ารวมมีอัตราการเติบโตโดยรวม 14 เปอร์เซนต์ จากปี 2559 และคาดการณ์ว่า
จะมีแนวโน้มในการขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีถัดไปจากตลาดเกมและคาแรคเตอร์




“แนวโน้มการเติบโตในปี 2561 มูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ในไทยคาดว่าจะแตะระดับกว่า 27,005 ล้านบาท และมีมูลค่ากว่า 29,358 ล้านบาทในปี 2562 โดยสาขาอุตสาหกรรมแอนิเมชันถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ และยังคงการเติบโตเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562 ขณะที่สาขาเกมคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 9 เปอร์เซ็นต์และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562 สำหรับสาขาคาแรคเตอร์คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 12 เปอร์เซนต์ในปี 2561 และ 11 เปอร์เซนต์ในปี 2562 ทั้งนี้ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามการประเมินจากปริมาณงานที่ผู้ประกอบการกำลังผลิตรวมทั้งแนวโน้มและปัจจัยบวกต่างๆของตลาดที่คาดว่าจะส่งผลต่อการขายตัวของอุตสาหกรรม” ผอ.ดีป้า กล่าว


ดร.ณัฐพล  กล่าวต่อว่า ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ในไทยได้ ถูกขับเคลื่อนด้วยธุรกิจประเภทการรับจ้างผลิตรับทั้งในและต่างประเทศเป็นหลัง ซึ่งในปี 2560 ตัวเลขผู้รับจ้างผลิตแอนิเมชันมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 54 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าแอนิเมชันทั้งหมด ส่วนผู้จัดจำหน่ายและนำเข้าเกมมีส่วนแบ่งการตลาดมาก
กว่า 96 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดเกมทั้งหมด ขณะที่ผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้าและดูแลสิทธิคาแรคเตอร์มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 92 เปอร์เซ็น




ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจดิจิทัลคอนเทนต์ของปี 2560 ยังรายงานมูลค่าการผลิต  และส่งออกงานแอนิเมชัน เกม และคาแรคเตอร์ด้วยว่า มีมูลค่าถึง 1,851 ล้านบาท เป็นอัตราการเติบโตเทียบกับปีก่อนหน้า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยอุตสาหกรรมแอนิเมชันมีมูลค่าส่งออก 1,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559
เป็น 81 เปอร์เซนต์ซึ่งประเทศที่เป็นว่าจ้างผลิตหลักได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ขณะที่สาขาเกมมีมูลค่าการส่งออกแตะที่ยอด 398 ล้านบาท  ซึ่งมีมูลค่าลดลงกว่าปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า
การส่งออก 435 ล้านบาท สำหรับสาขาคาแรคเตอร์มีมูลค่าการส่งออกรวม 25 ล้านบาท   เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าส่งออก 14 ล้านบาท


“ประเทศไทยยังคงพึ่งพาตลาดต่างประเทศมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าลิขสิทธิ์หรือรับจ้างผลิต ทั้งๆ ที่ผู้ประกอบการไทยมีฝีมือและมีศักยภาพที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การที่ผู้ผลิตไทย
จะมีผลงานที่มีทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของตัวเองมากขึ้น จะช่วยลดปัญหาการถูกกดราคาจากต่างประเทศ ลดอัตราการนำเงินออกไปนอกประเทศ และสามารถเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ดีป้าพร้อมจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย และยกระดับคุณภาพผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันและเติบโตในธุรกิจได้อย่างยั่งยืนอย่างครบวงจร ตั้งแต่การส่งเสริมให้เกิดความสนใจในอุตสาหกรรมแอนิเมชัน เกม และคาแรคเตอร์  การส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ โดยเฉพาะการพัฒนาตลาดเพื่อการส่งออก ผ่านกองทุน depa Fund เพื่อให้ผู้ประกอบการมีแหล่งเงินทุน และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับสากลได้  ส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์หน้าใหม่ ผ่าน Digital Startup Program 
ส่งเสริมและสนับสนุน Internationalization Voucher เพื่อเป็นสถานที่ให้ผู้ประกอบการมาพบปะแลกเปลี่ยน และต่อยอดไอเดีย ให้เกิดร่วมมือขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัลคอน-เทนต์ และสร้างพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยต่อไป” ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย