wefiethailand

Wefiethailand

08 มิถุนายน 2568

ไทยสร้างสถิติใหม่ไต่อันดับโลกจุดหมายจัดประชุมนานาชาติ

กรุงเทพฯ ขึ้นแท่นอันดับ 7 รวม 13 เมืองทำผลงานติดตารางจัดอันดับ

ประเทศไทยทำผลงานเด่นขึ้นแท่นจุดหมายการจัดประชุมนานาชาติอันดับหนึ่งของภูมิภาคอาเซียน ตามรายงานการจัดอันดับประเทศและเมืองของ ICCA ในรอบปี 2567 กรุงเทพฯ ทำสถิติใหม่ผงาดสู่อันดับ 7 ของโลก ก้าวกระโดดครั้งสำคัญจากอันดับที่ 15 ในปี 2566 ในภาพรวมประเทศไทยมีเมืองติดอันดับรวมทั้งสิ้น 13 เมือง ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่ไทยเคยทำได้

สมาคมการจัดประชุมนานาชาติ (International Congress and Convention Association: ICCA) ได้เปิดเผยรายงาน GlobeWatch Business Analytics – Country & City Rankings ล่าสุดประจำปี 2567 ในงาน IMEX Frankfurt 2025 ที่ประเทศเยอรมนี รายงานฉบับนี้ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการจัดประชุมกว่า 11,000 รายการที่จัดขึ้นทั่วโลกในปี 2567 จากการวิเคราะห์ชี้ว่าภูมิภาคเอเชียมีความโดดเด่นได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 สำหรับการจัดประชุมนานาชาติ รองจากทวีปยุโรปในส่วนของประเทศไทยพบว่า ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติรวม 158 งาน เพิ่มขึ้นจาก 143 งานในปี 2566 ทำให้ประเทศไทยขยับจากอันดับที่ 26 ของโลกในปี 2566 ขึ้นสู่อันดับที่ 25 ในปี 2567 พร้อมทั้งครองอันดับ 5 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียนผลงานที่โดดเด่นสุดในระดับเมืองคือ กรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติรวม 115 งาน ก้าวขึ้นสู่อันดับ 7 ของโลก ในฐานะเมืองจุดหมายปลายทางการประชุมนานาชาติระดับโลก ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดจากอันดับที่ 15 ในปี 2566 อีกทั้ง กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอันดับที่ 2 ในภูมิภาคอาเซียน



นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังได้รับการยืนยันจาก Cvent ในการประกาศรายชื่อ 2025 Top Meeting Destinations ในงาน IMEX Frankfurt 2025 ว่าเป็นเมืองอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากสิงคโปร์ ผลการจัดอันดับนี้อิงจากกิจกรรมของผู้วางแผนและผู้จัดงานในการจัดหาและการขอข้อเสนอ (RFP) สำหรับการจัดงานจากเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มการจัดหาสถานที่จัดงานจากทั่วโลกของ Cvent ในปี 2567 โดยเฉพาะในการดำเนินการผ่าน Cvent Supplier Network มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับจัดหาสถานที่จัดงานจากทุกมุมโลก
อีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญของประเทศไทยในรอบปี 2567 คือ มีจำนวนเมืองมากถึง 13 เมือง ได้รับการจัดอันดับในรายงานของ ICCA เป็นครั้งแรก นอกจากกรุงเทพฯ อีก 12 เมืองที่ได้รับการจัดอับดับประกอบด้วย เชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 12 งาน พัทยา 10 งาน ภูเก็ต 8 งาน ชลบุรี 3 งาน เชียงราย 2 งาน ปทุมธานี 2 งาน หัวหิน 1 งาน ขอนแก่น 1 งาน สมุย 1 งาน นครราชสีมา 1 งาน นนทบุรี 1 งาน และปัตตานี 1 งาน
นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ และรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลการดำเนินงานโดยรวมของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเทพฯ ที่มีผลงานไต่อันดับโลกได้อย่างโดดเด่น
ในโอกาสนี้ ทีเส็บจึงขอขอบคุณสมาคมวิชาชีพนานาชาติที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งกรุงเทพฯ และอุตสาหกรรมไมซ์โดยรวมของไทยมุ่งมั่นพัฒนามาตรฐานการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

ทีเส็บ ยังภาคภูมิใจที่เมืองทั้ง 13 แห่ง ได้รับการจัดอันดับในตารางสถิติของ ICCA สะท้อนถึงความหลากหลายของเมืองในประเทศไทยที่มีขีดความสามารถรองรับการจัดประชุมนานาชาติในระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา เป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทยในการจัดการประชุมของสมาคมนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศ ประเทศไทยจึงมีทางเลือกสำหรับสถานที่จัดงานที่หลากหลายมากขึ้น แต่ละเมืองมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเฉพาะตัว สามารถสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายและน่าจดจำสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ อีกทั้งการจัดตั้งสำนักงานในแต่ละภูมิภาคของทีเส็บมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เมืองต่าง ๆ ในแต่ละภูมิภาคของไทยเจาะตลาดไมซ์ สร้างแรงกระตุ้นให้เมืองเหล่านี้มีตำแหน่งในแผนที่ไมซ์ระดับโลก เพราะเชื่อว่าผลการจัดอันดับของ ICCA จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้แต่ละเมืองในประเทศไทยยกระดับผลงานเพื่อไต่อันดับต่อไป”