29 พฤศจิกายน 2564

BESTBEEF เบสท์บีฟสุขุมวิท

วันนี้ Wefiethailand  ชวนสาวกคนรักเนื้อเกรดพรีเมี่ยใ มากินอิ่มพุงกางกินจุใจกันกว่า 50 เมนู เลือกให้ฟิน..กินให้อร่อย เอาจริงสายเนื้อไม่ควรพลาด วันนี้เราอยู่ที่ ร้าน เบสท์บีฟสุขุมวิท จะมากินแบบไม่อั้น!!
บุฟเฟ่ต์สเต็กเนื้อสุดคุ้มเอาใจทั้งคนรักเนื้อและซีฟู้ด เพราะนอกจากจะได้กิน บุฟเฟ่ต์เนื้อแบบไม่อั้นแล้ว ส่วนใครที่ไม่ถูกปากกับเนื้อวัว เค้าก็มีทั้งเนื้อหมู  คูโรบูตะพอร์คชอปนุ่มๆ ติดมันนิดๆ คือดีและยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้ง อาหารทะเล กุ้ง ปู หอย ด้วยรูปแบบความอร่อย 3 สไตล์ กะทะร้อนและจิ้มจุ่มหม้อไฟ และย่างตะแกรงเตาถ่าย พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดรสจัดจ้าน 3 รูปแบบ เสริฟ 2 ชั่วโมงเต็มๆ แบบไม่อั้น ด้วยราคาที่เป็นมิตร อาหารคุณภาพดีมาก สั่งได้ไม่อั้น เพื่อนๆ สายบุฟเฟ่ต์ต้องเลิฟ สายเนื้อ สายกุ้งแม่น้ำ บอกเลยว่าฟินมาก




นั่งแบบเอาท์เดอร์ด้านนอก 5 โมงเย็น อากาศกำลังดี แดดร่มลมเย็น ใครๆ ก็มานั่งที่นี่ร้านปิ้งย่างบรรยากาศสบายๆ ที่นั่งเยอะ พนักงานบริการถึงโต๊ะ นั่งปิ้ง-ย่างวงบๆ ที่โต๊ะได้เลย อยากได้อะไรสั่งๆๆๆๆๆ ที่นี่มีเมนูเด็ดจากเนื้อวัวและบุฟเฟ่ต์ ในพื้นที่กว้าง โต๊ะใหญ่ เลือกเนื้อและมาดูกันว่าเนื้อส่วนไหนอร่อยที่สุด! และถ้าเลือกกินเนื้อให้อร่อยทั้งที  อย่ารอช้าตามร้าน เบสท์บีฟสุขุมวิท เนื้อเน้นๆ มีทั้งเนื้อริบอาย เนื้อบริสเก็ต เนื้อใบพาย เนื้อสันนอก ลิ้นวัว นำมาย่างบนเตาถ่าน  ทางร้านเลือกให้บริการลูกค้าแบบ Full Service ทางร้านมีพนักงานคอยให้บริการช่วยเสริฟอาหารและเครื่องดื่มให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าไม่ต้องตักอาหารเองเหมือนกับร้าน Buffet ทั่วไป จนทำให้ร้าน เบสท์บีฟ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว








นอกจากนี้ทางร้านยังได้คัดเลือกเนื้อคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยมจากต่างประเทศ ย่างตามความสุกที่เราต้องการ  เรียกว่าประสบการณ์ปิ้งย่างเนื้อระดับพรีเมี่ยม ซึ่งรับรองได้ว่า อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจ และอุ่นใจในเรื่องราคา ได้ที่ร้าน เบสท์บีฟ ทุกสาขา #ฟินเว่อร์ถ่ายแทบไม่ทัน กินรัวๆ ตามมาชมด้วยกันเลยเมื่อมาถึงร้าน ต้องลองนื้อวัวมากมายหลายส่วน  แต่อยากให้มาดูกันว่าเนื้อวัวส่วนไหนบ้างอร่อยฟินเว่อร์ที่สุด! เลือกทานเนื้อให้อร่อยควรเลือกกินส่วนไหน เลือกเนื้อส่วนที่ใช่ เลือกอร่อยกับเนื้อส่วนที่ชอบรู้แล้วลุย รออะไรสั่งเลย





เนื้อเสือร้องไห้ (Brisket) 

เป็นเนื้อที่อยู่ส่วนอกของวัว ติดมันเยอะเป็นส่วนที่นุ่มน้อยแต่อร่อย เหมาะสำหรับย่าง หรือสไลด์บางย่างกับเนยหอม ๆ เพิ่มรสชาติให้ดียิ่งขึ้น


เนื้อลูกมะพร้าว (Knuckle) 

เป็นเนื้อที่อยู่ตรงช่วงโคนขาหลังบริเวณสะโพก ซึ่งมีก้อนใหญ่คล้ายกับลูกมะพร้าว และที่สำคัญเนื้อในส่วนนี้ยังมีความนุ่มพอสมควร และมีมันน้อยมาก เหมาะกับคนที่เน้นโปรตีนทานแบบเนื้อล้วน ๆ


เนื้อน่องลาย (Shank) 

เนื้อท่อนขาซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีความหนึบของเอ็น ผสมผสานเข้ากันได้ดีกับเนื้อและไขมัน อยู่ภายในตัวเอง ทำให้เคี้ยวมัน จนหยุดไม่อยู่


เนื้อหนอก (Hamp)

เนื้อส่วนที่นูนออกมาจากหลังของวัว เป็นเนื้อส่วนที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว เนื้อจึงนุ่มมาก มีไขมันค่อนข้างมากมีสีอ่อนกว่าส่วนอื่น

เนื้อสันคอ (Chuck)

เป็นเนื้อส่วนที่มีไขมันเเทรกสวย มีคอลลาเจนที่หลอมละลายเร็วเมื่อโดนความร้อน มีรสชาติเข้มข้น เเต่ก็เป็นเนื้อที่มีเนื้อเยื่อพังผืด ไม่ควรย่างจนสุกเกินไป


เนื้อใบพาย (Chuck eye)

เนื้อส่วนกลางระหว่างสันคอกับท้องเนื้อส่วนนี้ค่อนข้างนุ่ม เพราะมีไขมันแทรก เป็นชิ้นส่วนยอดนิยม และหายากในวัว 1 ตัว มีไม่เกิน10กก. เมื่อแล่ออกมาแล้วเหมือนกับใบพาย มีเอ็นตรงกลางรสชาติอร่อยมาก


ลิ้นเนื้อ (Ox’s Tongue) 

เนื้อส่วนของไขมันทำให้มีความนุ่มอร่อย การทานแบบย่าง พอย่างเสร็จก็บีบมะนาวลงไปแล้วทาน ยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อย





เพราะทุกส่วนของเนื้อวัวก็มีความอร่อยที่แตกต่างกันไปตามกรรมวิธี และการหมักปรุงรสให้อร่อยเลย สำคัญสุด!! อยู่ตรงที่สายพันธ์ เกรดดีรสชาติดีตาม เช่นเดียวกับ BEST BEEF ที่คัดสรรเนื้อวัวเกรดพรีเมียม ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ลุยต่อกับนอกจากนี้ยังมี ข้าวหน้าเนื้อ เมนูกินเล่น ซุป สลัด เฟรน์ฟราย์  นักเก็ต  

ราคาเลือกตามแบบที่คุณต้องการกันเลย

- บุฟเฟต์ราคา 299 บาท (ยังไม่รวมเครื่องดื่ม)

- บุฟเฟต์ราคา 369 บาท (น้ำเปล่า+น้ำแข็ง+น้ำอัดลม+ชามะนาว)

- บุฟเฟต์ราคา 499 บาท (บุฟเฟต์อาหาร+เครื่องดื่ม)

* เด็กต่ำกว่า 100 ซม. ทานฟรี

* ถ้าเกิน 100 ซม.อายุต่ำกว่ลา 120 ซม. ราคา 159 บาท(แบบไม่รวมเครื่องดื่ม) และราคา 179 บาท(แบบรวมเครื่องดื่ม) 

* ถ้าเกิน 120 ซม. เป็นราคาปกติ

* บุฟเฟต์แบบรวมเบียร์ อนุญาติให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และสตรีที่มีครรภ์ สามารถเลือกทานแบบราคา 369 บาท 

* ในส่วนของบุฟเฟต์ให้เวลาในการสั่งอาหารและเครื่องดื่มภายใน 2 ชม.  เมื่อครบเวลาแล้วสามารถนั่งทานต่อได้จนกว่าอาหารจะหมด

เราอยู่ที่ สาขาสุขุมวิท ระหว่างปากซอย 48/2 และ 48/3 อยู่ก่อนถึงสะพานพระโขนง ใกล้ๆ แยกไฟแดงอ่อนนุช ห่างจาก BTS สถานีอ่อนนุช เพียง 300 เมตร  Tel: 091-626-9894
Parking: มีที่จอดรถ 60 คัน 

Map: https://goo.gl/maps/WwvKr9qx5kcQAnkK6

สาขาศรีนครินทร์ Tel: 097-245-1818

Parking: มีที่จอดรถ 100 คัน 

Map: https://goo.gl/maps/XmYsc6GCdvqNRqbU8


สาขาบางแค Tel: 097-245-8051

Parking: มีที่จอดรถ 200 คัน 

Map: https://goo.gl/maps/8TM3r6SSBURrfevQ9


สาขาเกษตรนวมินทร์ Tel: 062-296-6262

Parking: มีที่จอดรถ 200 คัน 

Map: https://goo.gl/maps/DgLb4okNWFKFcu8K9


ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่น
BESTBEEF :  เบสท์บีฟสุขุมวิท 

LINE : https://lin.ee/juv4Dix

Instagram : https://www.instagram.com/bestbeef_sukhumvit

Website : https://bestbeefrestaurant.com

#BestBeef #Sukhumvit #Srinakarin #BangKhae #KasetNawamin
#BarBQinBangkok #บุฟเฟ่ต์ #ร้านเนื้อย่างโคขุน #สวรรค์ของคนรักเนื้อ #เบสท์บีฟ 

DGA เตรียมจัดงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 64 “DG Awards 2021”

 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านรัฐบาลดิจิทัลของประเทศ

สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (DGA) เตรียมจัดงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2564 “DG Awards 2021” โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล แก่หน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย เพื่อสร้างกำลังใจและแรงสนับสนุนให้กับหน่วยงานในการดำเนินงานด้านรัฐบาลดิจิทัลให้เกิดบริการภาครัฐหลากหลายรูปแบบ ช่วยให้เกิดการปฏิรูประบบข้อมูลภาครัฐมุ่งเข้าสู่การเป็นรัฐบาลเปิดและเชื่อมต่อกัน (Open and Connected Government) ต่อยอดไปสู่การสร้างบริการดิจิทัลภาครัฐแบบครบวงจรและเบ็ดเสร็จ และเป็นต้นแบบที่ดีให้กับหน่วยงานภาครัฐในวันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม 2564 เวลา 09.00 – 12.00น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก วิภาวดี กรุงเทพฯ

สามารถดูรายชื่อเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dga.or.th


โลตัสส์ผนึกกำลัง SMART SME EXPO ช่วยคนตัวเล็ก ดันSMEขึ้นห้าง จัดใหญ่ส่งท้ายปีเพื่อผู้ประกอบการไทยวันที่ 2–5 ธันวาคม 2564 ฮอลล์6อิมแพ็คเมืองทองธานี


“โลตัสส์”ประกาศจับมือ“บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด”ผู้จัดงาน Smart SME Expo 2021 พร้อมนำ “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส”(Platform of Opportunities) มาสนับสนุน ผู้ประกอบการไทยให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในงาน Smart SME EXPO 2021

ดร. นริศ ธรรมเกื้อกูล ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิกยกเว้นประเทศจีนกล่าวว่าการจับมือครั้งในนี้ เป็นไปตามนโยบายการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากการเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้แก่ SME ผ่านสาขากว่า 2,100 แห่งทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์แล้ว โลตัสส์ยังมีแผนงานที่ชัดเจน ในการเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้า SME อย่างน้อย 10% ทุกปี เป็นระยะเวลา 5 ปี อีกทั้งยังได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน


ขณะเดียวกันภายหลังการเปิดประเทศ บรรยากาศของการซื้อขายสินค้าภายให้ห้างก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับ ผู้ประกอบการ SME โลตัสส์จึงได้นำ“แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” (Platform of Opportunities) มาช่วยสนับสนุน SMEที่ บูท E7 ภายในงาน Smart SME EXPO 2021ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่


1. กิจกรรมเปิดพื้นที่ศูนย์การค้าให้โอกาสผู้ประกอบการรายย่อย

สนับสนุน SME ให้พื้นที่ราคาพิเศษใน119 สาขา ทั่วประเทศสำหรับ SME ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ และมองหาพื้นที่เพื่อทดลองจำหน่ายสินค้า หรือ SME ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรวมถึงการสนับสนุนSME       ที่ต้องการสร้างยอดขายให้แก่สินค้า และ เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆซึ่งมีให้เลือกในหลายรูปแบบ อาทิ พื้นที่ขนาดเล็ก, ร้านป้อปอัพสโตร์,ไปจนถึงพื้นที่เปิดท้ายขายของเป็นต้น

2. กิจกรรมเจรจาธุรกิจ เพื่อการจำหน่าย สำหรับSMEที่มีสินค้าคุณภาพ โดดเด่น ได้มาตรฐาน มีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันและ ต้องการเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายสินค้ากว่า2,100 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์

3. กิจกรรม เจรจาธุรกิจ เพื่อการผลิตสำหรับ SME ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความพร้อมด้านการผลิตสินค้าก็สามารถมาเป็นคู่ค้า เพื่อผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์โลตัสส์ ได้ในหลากหลายกลุ่มสินค้า อาทิ กลุ่มสินค้าในครัวเรือน กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ กลุ่มสินค้าเครื่องปรุงอาหาร กลุ่มอาหารพร้อมทาน กลุ่มอาหารแห้งและอาหารแปรรูป เป็นต้น

Smart SME EXPO 2021งานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์และ การเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งใหญ่แห่งปี อัดแน่นด้วยผู้ประกอบการกว่า 200 บูท พร้อมแหล่งทุนสำหรับการเริ่มต้น และ ขยายธุรกิจ จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 2-5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6 อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยเป็นการผนึกแนวร่วมหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการเงิน ด้วยความมุ่งหวังที่ต้องการให้เป็นอีกหนึ่งงานที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการซื้อขายของประเทศช่วงปลายปี รวมทั้งยังร่วมสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ พร้อมเสริมแกร่งSME ไทยให้ต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนาธุรกิจอย่างเข้มแข็ง


โดย ผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโอกาส ต้องการขยายธุรกิจ หาคู่ค้าพันธมิตรใหม่รวมถึง ผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจแฟรนไชส์สามารถลงทะเบียนเข้าเยี่ยมชมงาน Smart SME EXPO 2021ล่วงหน้าได้ที่ https://expo.smartsme.co.th/register/


27 พฤศจิกายน 2564

สร้างประสบการณ์สุดล้ำแห่งอนาคต “Blockchain Thailand Genesis 2021”ดินแดนโลกเสมือนจริง หวังเพิ่มโอกาสเปลี่ยนโลกธุรกิจ

ถือเป็นงานบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย กับการสร้างประสบการณ์สุดล้ำทันตามกระแสโลก กับงาน “Blockchain Thailand Genesis 2021 : The Era of Metaverse and Digital Asset บล็อกเชนไทยแลนด์เจเนซิส ปี 2021 กับดินแดนโลกเสมือนจริง” ระหว่างวันที่ 27 - 28 พฤศจิกายน 2564 ผ่านแพลตฟอร์ม Gather Town ที่จะพาเราออกเดินทางสู่โลก Metaverse ในจินตนาการไร้ขอบเขต ตอกย้ำความเป็นกูรูด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน สินทรัพย์ดิจิทัล และนวัตกรรมแห่งอนาคต จัดโดย สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ผนึกกำลังร่วมกับ บริษัท คริปโตมายด์ จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เรามุ่งมั่นในการขับเคลื่อนไทยสู่ยุคใหม่แห่งสินทรัพย์ดิจิทัล กับงาน Blockchain Thailand Genesis ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 คาดหวังกระตุ้นให้ประชาชนไทยสนใจและมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องของเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล 

ซึ่งจะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตในอนาคตของเรา โดยเราจะไม่พลาด และเป็นเหยื่อให้กับมิจฉาชีพมาหลอกลวงได้ และยังเป็นการช่วยส่งเสริม พัฒนา ผลักดันให้คนไทย นักธุรกิจไทย อุตสาหกรรมไทยได้ปรับตัวประยุกต์เข้าสู่ยุคใหม่ของการเงินระดับโลกได้อย่างมั่นคง ซึ่งในปีนี้ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ร่วมกับ บริษัท คริปโตมายด์ จำกัด และพันธมิตรอย่าง Zipmex, 100x, Inspex, Bitazza, KUBIX, Baker Mckenzie, Bitkub Blockchain และบริษัทอื่นๆ ในการจัดงาน Blockchain Thailand Genesis 2021 ภายใต้ธีม The Era of Metaverse and Digital Asset บล็อกเชนไทยแลนด์เจเนซิส ปี 2021 กับดินแดนโลกเสมือนจริง ระหว่างวันที่ 27 - 28 พฤศจิกายน 2564 รูปแบบออนไลน์เสมือนจริง ผ่านแพลตฟอร์ม Gather Town ที่จะพาเราออกเดินทางสู่โลก Metaverse สร้างประสบการณ์สุดพิเศษรูปแบบใหม่ในจินตนาการไร้ขอบเขต พาคุณไปท่องโลกเสมือนจริงแบบ 2D! อย่างตื่นตาตื่นใจที่ออกแบบไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณได้ปลดล็อคขีดจำกัดโลกเทคโนโลยี กับโลกเสมือนจริงให้สอดคล้องไลฟ์สไตล์ของทุกคนแบบไร้รอยต่อ ผ่านวิทยากรมากมาย ภายใต้ 4 หัวใจหลัก ได้แก่ บิทคอยน์ (Bitcoin), สินทรัพย์ ดิจิทัล และเทคโนโลยีบล็อกเชน (Digital Asset and Blockchain), ระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (DeFi) และ สินทรัพย์สิทธิบัตรดิจิทัล และเกมมิ่ง (NFT and Gaming)



นายสัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ จำกัด และที่ปรึกษาสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ผู้จัดงานหลัก Blockchain Thailand Genesis กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นถึง 70% โดยผลสำรวจจากจำนวนประชากร 28,000 คนใน 17 ประเทศทั่วโลก พบว่าคนไทยมีการใช้สื่อออนไลน์ทั้งช้อปปิ้งสินค้า บริการ การศึกษา รวมถึงการเรียนและการทำงานเพิ่มสูงที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 จนถึง 2564 ในปัจจุบัน ผู้บริโภคกว่า 94% ระบุว่าช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางที่ช่วยทำให้เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในสถาการณ์การระบาดของโควิด-19 และด้วยเหตุนี้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องของเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล จึงเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของเราที่ต้องเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ของโลกในยุคปัจจุบัน ทำให้มีผู้ลงทะเบียนร่วมงาน “Blockchain Thailand Genesis 2021 : The Era of Metaverse and Digital Asset บล็อกเชนไทยแลนด์เจเนซิส ปี 2021 กับดินแดนโลกเสมือนจริง” กว่า 4,000 คน





และภายในการจัดงาน “Blockchain Thailand Genesis 2021 : The Era of Metaverse and Digital Asset บล็อกเชนไทยแลนด์เจเนซิส ปี 2021 กับดินแดนโลกเสมือนจริง” ครั้งนี้ เราได้เชิญวิทยากรระดับประเทศจากทั้งในวงการ Blockchain , Cryptocurrency และอื่นๆ เพื่อให้ความรู้ระดับโลก อาทิ

• คุณพิริยะ สัมพันธารักษ์ กรรมการบริหาร บริษัท โฉลกดอทคอม จำกัด

• ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด

• คุณพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ผู้บริหารสูงสุด บริษัท บล็อกเชนรีวิว จำกัด

• คุณกวิน พงษ์พันธ์เดชา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด

• คุณฤทธิ เบญจฤทธิ์ CEO Bitcoin Addict Thailand

• คุณชัชวาลย์ วัฒนะโชติ กรรมการผู้จัดการ KIM Property LIVE

• คุณฉวีวรรณ (ลิขิตวัฒนชัย) เกียรติดุริยกุล กรรมการและทนายความหุ้นส่วน 

บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด


และพิเศษสุดในพิธีเปิดงาน “Blockchain Thailand Genesis 2021 : The Era of Metaverse and Digital Asset บล็อกเชนไทยแลนด์เจเนซิส ปี 2021 กับดินแดนโลกเสมือนจริง” วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เราคาดหวัดให้งานครั้งนี้เป็นโอกาสของทุกคนจากการเติบโตของสินทรัพย์ ดิจิทัลจากทั่วโลก เม็ดเงินและตัวเลขเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยจะสามารถคว้าโอกาสนี้มาไว้ในมือได้หรือไม่ หรือมีหนทางใดบ้างที่ประเทศไทย รวมถึงคนไทยและนักธุรกิจไทยจะสามารถเกาะคลื่นความเปลี่ยนแปลง และสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยมุมมองต่ออนาคตของประเทศไทยในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลใน ประเด็น “โอกาสของประเทศไทยในสังเวียน Digital Asset” จาก 3 บุคคลสำคัญ ในแวดวงการเมืองที่จะมาแชร์มุมมองต่ออนาคตของประเทศไทยในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่

• คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย

• นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า

• นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์


ซึ่งสามารถรับชมงานพิธีเปิดได้ฟรี และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/blockchainthailandevent  นายสัญชัย กล่าวปิดท้าย

26 พฤศจิกายน 2564

กลุ่มมิตรผลขึ้นแท่นผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development)อันดับ3 ของโลก

ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สะท้อนถึงความสำเร็จในการมุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ

กรุงเทพฯ25พฤศจิกายน 2564–กลุ่มมิตรผล ก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน(Sustainable Development)ระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารจากการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กรหรือ Corporate Sustainability Assessment (CSA) โดยS&P Globalโดยขยับขึ้นจากอันดับ 4ในปี 2563ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคมมากว่า 65 ปี ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำและยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานระดับโลกโดยในปีนี้ นับเป็นปีที่ 4ที่กลุ่มมิตรผลได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนระดับสากลและมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในหัวข้อหลักเรื่องเศรษฐกิจ-ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและสังคม ตลอดจนหัวข้ออื่นๆ ที่ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน อาทิการบริหารจัดการนวัตกรรม การบริหารจัดการความเสี่ยงทรัพยากรน้ำ การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน และการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน เป็นต้น

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารกลุ่มมิตรผลเปิดเผยถึงผลการประเมินด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์กรในครั้งนี้ว่า“การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่ส่งผลให้ทุกคนต้องปรับตัวอย่างมาก ดังนั้นการสร้างความยั่งยืนขององค์กรจึงไม่ได้เป็นแต่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเท่านั้นแต่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ชาวไร่อ้อยคู่ค้า ลูกค้า ชุมชนสังคมและพนักงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ โดยต้องลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง ตามหลักปรัชญาของกลุ่มมิตรผล“ร่วมอยู่ร่วมเจริญ”ความสำเร็จที่กลุ่มมิตรผลได้รับในปีนี้ สะท้อนถึงความตั้งใจของกลุ่มมิตรผลที่จะยกระดับองค์กรให้มีมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล โดยถึงแม้ว่ากลุ่มมิตรผลจะไม่ได้เป็นองค์กรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้มีความโปร่งใสและมีมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์เราจึงได้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนขององค์กรร่วมกับ S&P Global 

การดำเนินงานเพื่อสร้างการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผล แบ่งออกเป็น 3 มิติ ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมสอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ(United Nations Sustainable Development Goals: SDGs)โดยมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตให้กับทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่ทางธุรกิจ(Value Chain)ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่เริ่มตั้งแต่การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรสู่การเป็น Smart Farmerที่สามารถคิดวิเคราะห์และปรับตัวโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการทำเกษตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างผลผลิตคุณภาพสูงการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน การบริหารจัดการโรงงานให้มีระบบการผลิตมาตรฐานระดับสากล ลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การดูแลและพัฒนาชุมชนรอบข้างในโครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนการจัดตั้งกองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19 เพื่อช่วยเหลือสังคมไทยในด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ตั้งแต่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยและผู้ที่ต้องกักตัว กลุ่มคนเปราะบาง คนไร้บ้าน เด็กและเยาวชน รวมถึงการนำองค์ความรู้ การวิจัย และนวัตกรรม มาปรับใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้อ้อยสู่ธุรกิจต่างๆ ในอุตสาหกรรมBio-baseตลอดจนการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง และมีกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน(Human Rights Due Diligence) 

จากความสำเร็จในการเป็นองค์กรไทยที่อยู่ในอันดับTop 3 ด้านความยั่งยืนของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มมิตรผล ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนองค์กรและทุกภาคส่วนเพื่อสร้างการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องต่อไป


25 พฤศจิกายน 2564

คปภ. ดัน LINE คปภ.รอบรู้ ยกระดับด้วยบริการใหม่ “กรมธรรม์ของฉัน”

คปภ. ดัน LINE คปภ.รอบรู้ ยกระดับด้วยบริการใหม่ “กรมธรรม์ของฉัน” เช็คข้อมูลกรมธรรม์ จากทุกบริษัทประกันภัยได้ในช่องทางเดียว สะดวก ปลอดภัย ให้ผู้บริโภคใช้งานง่าย รับสื่อสารยุค 5G

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านประกันภัยได้อย่างง่ายดาย สะดวก รวดเร็ว รองรับการสื่อสารในยุค 5G ทางสำนักงาน คปภ. จึงได้ดำเนินการพัฒนาโครงการ OIC Gateway ซึ่งเป็น การพัฒนาแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง ธุรกิจประกันภัย สำนักงาน คปภ. และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งต่อประชาชน บริษัทประกันภัย และสำนักงาน คปภ.

ในระยะที่ ๑ ของการพัฒนา มุ่งเน้นที่การให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปเป็นอันดับแรก สำหรับบริการ "กรมธรรม์ของฉัน (Mypolicy)" ถือเป็นบริการรูปแบบใหม่บนแชทบอท “คปภ. รอบรู้ @OICConnect” ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลกรมธรรม์จากทุกบริษัทประกันภัยมาแสดงในรูปแบบบัตรกรมธรรม์ผ่านแอปพลิเคชัน ไลน์ ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ใช้มากกว่า 40 ล้านคน โดยเชื่อว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และจะส่งผลดี มาสู่ทางภาคธุรกิจ บริษัทประกันภัยในอนาคตด้วย”

เลขาธิการ คปภ.ให้รายละเอียดอีกว่าบริการ "กรมธรรม์ของฉัน (Mypolicy)" จะช่วยลดความยุ่งยากของผู้เอาประกันภัยในการเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ที่ตัวเองถือครองทั้งหมด และยังมีบริการเสริมอีกมากมาย  อาทิ บริการตรวจสอบสถานะตัวแทนประกันภัย บริการหาตำแหน่งที่ตั้งสำนักงาน คปภ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งการหาที่ตั้งสำนักงานบริษัทประกันภัย ซึ่งจะช่วยยกระดับ  LINE Official Account @OICConnect ให้เป็น “ซุปเปอร์แอปด้านประกันภัย” ที่สามารถใช้งาน ครบ จบ ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยผู้สนใจสามารถใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงเพิ่มเพื่อนกับ LINE Official Account  "@OICConnect" หรือ ค้นหา “คปภ. รอบรู้” จากนั้นลงทะเบียนตามขั้นตอน และรอการอนุมัติเพียงไม่นานก็สามารถใช้บริการได้ทันที และมั่นใจด้วยมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเข้มงวดภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงาน คปภ. ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชน สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

สามารถเพิ่มเป็นเพื่อนกับ LINE @OICConnect ได้ที่ : https://url.oic.or.th/line

ติดตามชมวิดีทัศน์แนะนำ ซุปเปอร์แอป คปภ. รอบรู้ ได้ที่
Youtube :    https://www.youtube.com/watch?v=IXS1U_WbQxo

Facebook Page : https://fb.watch/9qRWiHhww3/



ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีราชา แซ่บลุคใหม่! ช้อปมันส์อันลิมิต พร้อมให้นักช้อปเช็คอิน 3 ธันวาคม นี้!


เตรียมพบกับการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีราชา ในเครือเซ็นทรัลรีเทล ภายใต้คอนเซ็ปต์
ศรีราชาพานิชตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าให้สนุกกับการช้อปมากกว่าที่เคยที่มาพร้อมดีไซน์การตกแต่งสุดสร้างสรรค์ ด้วยการนำสีสันสดใสและความเผ็ดแซ่บของซอสพริกศรีราชา ซอสพริกที่โด่งดัง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีมาเป็นไอเดียหลักในการออกแบบ พร้อมเพิ่มความสนุกและสร้างเอกลักษณ์การออกแบบในแต่ละแผนกด้วยการนำวัสดุในการทำร้านห้องแถว ซึ่งเป็นเสน่ห์วิถีชีวิตของคนในอำเภอศรีราชารวมถึงการนำวัสดุรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และวัสดุในท้องถิ่นมาใช้เป็นวัสดุหลักของการปรับโฉมครั้งใหญ่นี้ อีกทั้ง ห้างฯ ได้มีการจับมือพันธมิตรแบรนด์สินค้าชั้นนำและแบรนด์ใหม่กว่า 400 แบรนด์อาทิ ESTEE LAUDER, LANCOME, CLINIQUE, GARMIN, SEIKO, LEVI’S, LEE,MC JEANS, ESPRIT,GUESS,GIORDANO, ADIDAS ฯลฯจัดโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมายให้นักช้อปชาวศรีราชา และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งในรูปแบบ แซ่บลุคใหม่!ช้อปมันส์อันลิมิตที่พร้อมเปิดให้ยลโฉมอย่างเป็นทางการในวันที่ ธันวาคม 2564 นี้!



ปักหมุด เดสติเนชั่นแห่งใหม่ของการช้อปปิ้ง “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาอยุธยา 2” ช้อปไฉไล วิถีใหม่ของอยุธยา ยกระดับสินค้า บริการ ครบทุกสิ่งที่ดีที่สุดพร้อมเปิดให้บริการ 30 พฤศจิกายนนี้

ช้อปไฉไล วิถีใหม่ของอยุธยา ยกระดับสินค้า บริการ ครบทุกสิ่งที่ดีที่สุดพร้อมเปิดให้บริการ 30 พฤศจิกายนนี้

ชาวอยุธยาเตรียมพบกับเดสติเนชั่นแห่งใหม่ของการช้อปปิ้ง “ห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาอยุธยา2”  ช้อปไฉไล วิถีใหม่ของอยุธยาซึ่งเป็นสาขาลำดับที่ 2 ในจังหวัดอยุธยา ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอยุธยาสะท้อนผ่านความงามของอิฐจากวัดไทยโบราณมาผสมผสานกับความทันสมัยที่ลงตัวโดยได้มีการออกแบบในแต่ละแผนกให้ช้อปปิ้งได้สนุกมากขึ้น พร้อมสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่แตกต่างและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ กับสินค้าบริการ ครบทุกสิ่งที่ดีที่สุด มากกว่า 300 แบรนด์




พร้อมฉลองเปิดห้างกับโปรโมชั่นพิเศษมากมายพร้อมพบกับกิจกรรม Wonder Troop และ Wonder Happening Show ในบรรยากาศแห่งความสุขกับศิลปิน - ดาราที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสร้างสีสันและความสนุกสนานผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคม 2564เตรียมสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งครั้งใหม่ที่จะทำให้นิยามการช้อปของชาวจังหวัดอยุธยาเปลี่ยนไป! พบกัน 30 พฤศจิกายนนี้!

ก.แรงงานจับมือสสส. ม.บูรพามอบรางวัลสถานประกอบการต้นแบบองค์กรสุขภาวะ


วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.30 น. นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาจัดเวทีถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการบูรณาการเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องยั่งยืน และมอบรางวัลสถานประกอบการต้นแบบ ณ โรงแรมโนโวเทล ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง มารีน่า เบย์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมี นายฐาปบุตร ชมเสวี นายกสมาคมผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาแรงงาน นายอาทิตย์ อิสโม ประธานบริหารโครงการ “สร้างต้นแบบองค์กรสุขภาวะ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน สู่ความยั่งยืน (Healthy and Safety to be Decent Work)”นายพงศ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์ชัย เศรษฐ์อนวัช มหาวิทยาลัยบูรพา เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดยนายสุรชัย กล่าวว่าขอแสดงความยินดีกับผู้บริหารสถานประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสถานประกอบการต้นแบบองค์กรสุขภาวะ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน สู่ความยั่งยืน  Healthy and Safety to be Decent Work ตามชื่อของโครงการที่กระทรวงแรงงานมีเจตจำนงที่จะยกระดับมาตรฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานสู่สากล เพราะเชื่อมั่นว่าการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงานจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพแรงงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจเพื่อให้สังคมมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนกระทรวงแรงงานโดยนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านสุชาติ  ชมกลิ่น ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงานซึ่งรวมถึงนายจ้างและลูกจ้าง โดยเฉพาะในภาวะวิกฤตโควิด - 19 กระทรวงแรงงานได้ระดมสรรพกำลังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐภาค เอกชน ในการดูแลป้องกันช่วยเหลือลูกจ้างให้ปลอดโรคปลอดภัยเพื่อให้สามารถทำงานได้สถานประกอบการดำเนินกิจการต่อไปเพื่อประเทศจะได้พัฒนาเศรษฐกิจต่อไป

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า การที่สถานประกอบการได้ร่วมมือร่วมใจเป็นองค์กรต้นแบบเพื่อพัฒนาเป็นองค์กรสุขภาวะที่ตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ได้ถือเป็นการสร้างนวัตกรรมให้แก่วงการแรงงาน จึงขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ได้ภาคภูมิใจในการทำงานร่วมกันเพื่อประเทศชาติ และใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานอย่างต่อเนื่องต่อ

     “กระทรวงแรงงานขอขอบคุณ สสส. สมาคมผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาแรงงาน มหาวิทยาลัยบูรพา คณะวิทยากร และทีมงานของ นปปร.4 ที่ได้จัดให้มีกิจกรรมการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรจนประสบความสำเร็จเป็นองค์กรต้นแบบ โดยเฉพาะ สสส. ผู้สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมของ นปปร.4 คนรุ่นใหม่ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงาน ถือเป็นภาคีเครือข่ายระดับมันสมองที่จะส่งเสริมการสร้างสุขภาวะในองค์กรให้พัฒนาคุณภาพอย่างยั่งยืนในอนาคต ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการสัมมนาทุกท่านที่มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันสร้างความรู้ความเข้าใจและเป็นนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน ช่วยกันสร้างต้นแบบองค์กรสุขภาวะที่เป็นรูปธรรม และเป็นนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ที่เกิดประโยชน์อย่างยิ่ง นายสุรชัย กล่าวในท้ายสุด






​นายอาทิตย์ อิสโม ประธานบริหารโครงการฯ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วยกิจกรรม 2 ส่วน คือส่วนแรกการถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการสร้างวิถีชีวิตถัดไป หรือ Next Normal โดยมอบหมายให้ ม.บูรพา เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการและสรุปผลเชิงวิจัยนำเสนอคณะกรรมการอำนวยการที่มีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน เพื่อพิจารณาเป็นแนวนโยบายของภาคียุทธศาสตร์ที่มี สสส. เป็นผู้ประสานงานนโยบายด้านองค์กรสุขภาวะต่อไป และส่วนที่สอง การมอบเกียรติบัตรเป็นรางวัลแก่สถานประกอบการจำนวนทั้งสิ้น 35 แห่ง ที่ฝ่าฟันวิกฤติโควิด -19 ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยยึดแนวทางด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยเป็นพื้นฐานให้คนทำงาน ปลอดโรค ปลอดภัย สถานประกอบการอยู่ได้ นายจ้าง ลูกจ้าง มีขวัญกำลังใจในการทำงาน จนเกิดเป็นองค์กรสุขภาวะ มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการสร้างต้นแบบองค์กรสุขภาวะ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน สู่ความยั่งยืนต่อไป